เป็นคำถามแบบขี้เกียจเสิร์ชศึกษาหาข้อมูลก่อน แต่ถามเลย ต้องขออภัยนะคะ
ถ้าให้เดาก็เช่น
- อากาศร้อนอบอ้าวเกินไป คนเข้าไปทำงานข้างในลำบาก
- พืชสูญเสียน้ำออกทางปากใบเร็วขึ้น ทำให้ใบสลด (เอ๊ะ! หรือจะโตไวขึ้น เพราะมีแรงดูดจากการคายน้ำ)
- อากาศ ต้องมีพัดลมช่วยหมุนเวียนไหมคะ ถ้าปิดไว้พืชจะหายใจออกไหม จะแคระแกร็นไหม เพราะคิดว่าพืชที่อยู่ข้างนอกโล่ง ๆ จะดูดคาร์บอน ดูดไนโตรเจน และธาตุอื่น ๆ ที่มีอยู่ในอากาศ มาผลิตเป็นชิ้นส่วนของตัวเองได้ง่ายกว่า
- ขาดแคลนผึ้ง แมลง ลม น้ำ ที่จะช่วยในการผสมเกสรตามธรรมชาติ ต้องมีคนช่วยด้วยระบบอัตโนมือ (เมืองนอกเขามีการผสมเกสรด้วยเครื่อง หรือใช้เครื่องฉีดพ่นในโรงเรือนแทนไหมคะ)
- ถ้าเป็นเรือนกระจกใหญ่ ระบบนิเวศภายนอกจะเปลี่ยนไปจากเดิมมากไหมคะ นก แมลง งู หนู ปู ปลา และสัตว์อื่น ๆ เข้าไปหากินตามปกติไม่ได้ (ข้อนี้ถามดูเฉย ๆ คงไม่ถือว่าเป็นข้อจำกัดของเรือนกระจกค่ะ)
สรุปคำถามคือ มีอะไรแตกต่างจากการปลูกในที่โล่งแจ้งบ้างคะ
การปลูกพืชด้วยเรือนกระจก และโดยเฉพาะในเมืองร้อนอย่างประเทศไทย มีข้อจำกัดอะไรบ้างคะ
ถ้าให้เดาก็เช่น
- อากาศร้อนอบอ้าวเกินไป คนเข้าไปทำงานข้างในลำบาก
- พืชสูญเสียน้ำออกทางปากใบเร็วขึ้น ทำให้ใบสลด (เอ๊ะ! หรือจะโตไวขึ้น เพราะมีแรงดูดจากการคายน้ำ)
- อากาศ ต้องมีพัดลมช่วยหมุนเวียนไหมคะ ถ้าปิดไว้พืชจะหายใจออกไหม จะแคระแกร็นไหม เพราะคิดว่าพืชที่อยู่ข้างนอกโล่ง ๆ จะดูดคาร์บอน ดูดไนโตรเจน และธาตุอื่น ๆ ที่มีอยู่ในอากาศ มาผลิตเป็นชิ้นส่วนของตัวเองได้ง่ายกว่า
- ขาดแคลนผึ้ง แมลง ลม น้ำ ที่จะช่วยในการผสมเกสรตามธรรมชาติ ต้องมีคนช่วยด้วยระบบอัตโนมือ (เมืองนอกเขามีการผสมเกสรด้วยเครื่อง หรือใช้เครื่องฉีดพ่นในโรงเรือนแทนไหมคะ)
- ถ้าเป็นเรือนกระจกใหญ่ ระบบนิเวศภายนอกจะเปลี่ยนไปจากเดิมมากไหมคะ นก แมลง งู หนู ปู ปลา และสัตว์อื่น ๆ เข้าไปหากินตามปกติไม่ได้ (ข้อนี้ถามดูเฉย ๆ คงไม่ถือว่าเป็นข้อจำกัดของเรือนกระจกค่ะ)
สรุปคำถามคือ มีอะไรแตกต่างจากการปลูกในที่โล่งแจ้งบ้างคะ