สวัสดีค่ะ

     รบกวนขอคำปรึกษาด้วยนะคะ  เครียดค่ะ สงสารแม่มาก ยาวหน่อยนะคะ

     พ่อกับแม่แต่งงานกันโดยจดทะเบียนกัน  แต่ตอนหลังพ่อมีเมียน้อยค่ะ ไปสืบมาค่ะเมียน้อยพ่อไม่ทำงานค่ะ เกาะพ่อเรากิน แถมยุให้พ่อเราไปกู้หนี้นอกระบบและหนี้บัตรเครดิตให้มาปล่อยดอกค่ะ  พ่อเราก้อเชื่อสิคะ กู้หมด ตอนนี้ก้อยังกู้อยู่ แม่กับเราขอให้พ่อเลิกเมียน้อยและปิดหนี้ให้หมด พ่อก้อไม่ทำค่ะ  แม่เลยจะขออย่ากับพ่อ  พ่อเราก้อไม่หย่าอีก พ่อบอกว่าหนี้พวกนี้แม่กับเราไม่ต้องร่วมรับผิดชอบ  แต่เราไม่ชัวร์ค่ะ เลยอยากปรึกษา
     ตอนนี้เท่าที่สืบมาอาจมี 3หนี้ใหญ่ๆ  ส่วนอีก1 หนี้ เดาเผื่อไว้ก่อนค่ะ

1. หนี้บ้านที่กู้จากธนาคาร ซื้อหลังจากแต่งงานค่ะ  กู้รอบแรก พ่อแม่รับรู้ทั้งคู่ค่ะ เพราะไปดูบ้านด้วยกัน แต่พ่อเป็นคนส่งคนเดียว  ผ่อนจนจะหมดแล้ว ปรากฎว่าพ่อเอาไปเข้าไฟแนนซ์เองคนเดียว ไม่ยอมบอกครอบครัวเรา(สืบทราบมาทีหลังว่าเอาไปเข้าอีก3 แสน เพื่อให้เมียน้อยพ่อปล่อยดอก)  แม่เสียใจมากค่ะ  เพราะตั้งใจจะเก็บบ้านหลังนี้ไว้อยู่ตอนแก่  
2. กู้หนี้บัตรเครดิต ที่พ่อกู้มาให้เมียน้อยปล่อยเอาดอกอีกเหมือน   พยายามเค้นพ่อว่ายอดเท่าไหร่ที่ไปกู้มา  แต่พ่อไม่ยอมบอกท่าเดียวเลยค่ะ
3. กู้หนี้นอกระบบ  เคสเดียวกับข้อ2 เลยค่ะ
4. กู้หนี้ธนาคาร เพื่อมาปล่อยเอาดอก (เคสนี้เดาเผื่อไว้ค่ะ  ไม่รู้จะทำได้มั๊ย )

      เหอๆ พิมไปยังจุกอกเลยค่ะ  ต้องมาเป็นคนไกล่เกลี่ยพ่อกับแม่หย่าหรือไม่หย่ากัน  แม่เราไม่อยากมารับผิดชอบร่วมด้วยกับหนี้ที่แม่ไม่ได้ก่อ ไม่ได้มีส่วนรับรู้ ทั้งๆที่ควรจะเป็นอิเมียน้อยสิ เพราะมันเอาเงินไปใช้  เราเองก้อเสียใจ แต่มันเกิดเรื่องแล้วก้อต้องสู้ต่ออ่ะค่ะ  เราหาข้อมูลในเนตมาเรื่องหนี้สินสมรส มีตามนี้ค่ะ
หนี้ที่สามีภริยาเป็นลูกหนี้ร่วมกันนั้นให้รวมถึงหนี้ที่สามีหรือภริยาก่อให้เกิดขึ้นในระหว่างสมรสดังต่อไปนี้
(1)หนี้เกี่ยวแก่การจัดการบ้านเรือนและจัดหาสิ่งจำเป็นสำหรับครอบครัว การอุปการะเลี้ยงดูตลอดถึงการรักษาพยาบาลบุคคลในครอบครัวและการศึกษาของบุตรตามสมควรแก่อัตภาพ
(2) หนี้ที่เกี่ยวข้องกับสินสมรส
(3) หนี้ที่เกิดขึ้นเนื่องจากการงานซึ่งสามีภริยาทำด้วยกัน
(4) หนี้ที่สามีหรือภริยาก่อขึ้นเพื่อประโยชน์ตนฝ่ายเดียวแต่อีกฝ่ายหนึ่งได้ให้สัตยาบัน

ตัวอย่างและคำถามเรามีดังนี้ค่ะ
           1. ทรัพย์สินที่คู่สมรสได้มาระหว่างสมรส  ย่อมเป็นสินสมรสระหว่างสามีภริยา  ตาม ป.พ.พ.มาตรา 1474(1)  บ้านหลังนี้ จึงย่อมเป็นสินสมรสระหว่างท่านกับสามี  แม้สามีจะไม่เคยออกเงินช่วยซื้อหามาเลยก็ตาม  แต่ถือเป็นทรัพย์สินที่คู่สมรสได้มาระหว่างสมรส  ย่อมเป็นสินสมรสท่านและสามีต่างย่อมมีส่วนในบ้านนี้ด้วยกันกึ่งหนึ่ง  ดังนั้นเมื่อหย่ากันแล้วกฎหมายได้กำหนดให้ต้องแบ่งสินสมรสให้ชายและหญิงได้ส่วนเท่ากัน  ตามป.พ.พ.มาตรา 1533  .....บ้านที่พ่อแม่ซื้อมาถ้าหย่าก้อต้องแบ่งทรัพย์สินกันคนละครึ่ง ถูกต้องมั๊ยคะ  แต่มันมีหนี้รอบสองที่พ่อแอบเอาไปรีไฟแนนซ์นี่ล่ะค่ะ ที่แม่เรามาทราบทีหลัง แม่เราต้องร่วมรับผิดชอบตรงนี้ด้วยมั๊ยคะ

           2.เมื่อท่านได้กู้เงินจากอีซี่บายมาซื้อบ้านซึ่งเป็นสินสมรส  ย่อมเป็นหนี้ที่เกี่ยวข้องกับสินสมรส จึงเป็นหนี้ร่วมระหว่างท่านกับสามีซึ่งเป็นลูกหนี้ร่วมกัน  ตาม ป.พ.พ.มาตรา 1490  ดังนั้นสามีของท่านจึงต้องรับผิดในหนี้ร่วมกับท่านด้วย   ...แต่ในกรณีเคสเราเป็นกู้หนี้บัตรเครดิตกดเงินสด เพื่อมากู้ไปปล่อยเอาดอกโดยที่แม่ไม่รู้เรื่อง   อย่างนี้ แม่เราต้องร่วมรับผิดชอบด้วยมั๊ยคะ

           3.ส่วนหนี้เงินกู้นอกระบบที่สามีของท่านได้ก่อให้เกิดขึ้น  เป็นหนี้ส่วนตัวก่อขึ้นเพื่อประโยชน์ตนฝ่ายเดียว  โดยท่านไม่ได้ให้สัตยาบันรับรองหนี้ดังกล่าวนั้นด้วย  จึงเป็นหนี้ส่วนตัวของสามีเท่านั้น ตามป.พ.พ.มาตรา 1488  สามีต้องรับผิดเป็นส่วนตัวเพื่อชำระหนี้ที่ก่อไว้ในระหว่างสมรส  โดยชำระหนี้นั้นด้วยสินส่วนตัวของสามีก่อน  เมื่อไม่พอจึงให้ชำระด้วยสินสมรสที่เป็นส่วนของสามีนั้น  โดยท่านไม่ต้องร่วมรับผิดในหนี้นี้ร่วมกับสามี  ... ... เคสนี้เหมือนของแม่เรา  เพราะฉะนั้น แม่เราก้อไม่ต้องร่วมรับผิดชอบใช่หรือไม่คะ  เผื่อเราเข้าใจไม่ตรงประเด็น

        4.อันนี้ข้อสมมุติฐานค่ะ..ในกรณีพ่อกู้ธนาคารเพื่อเอามาปล่อยดอก โดยที่แม่ก้อไม่ทราบเรื่องอีกเหมือนกัน  แม่เราต้องร่วมรับผิดชอบด้วยหรือไม่คะ

           5. ถ้าพ่อเราไม่ยอมหย่า ซึ่งมีโอกาสสูงมาก  แม่กับเราจะฟ้องหรือทำอย่างไรได้บ้างคะ  เพราะรู้ว่าพ่อต้องกู้หนี้อย่างนี้ไปเรื่อยๆแน่ค่ะ  และพ่อไม่ยอมเลิกเมียน้อยด้วย  
           6. เราจะฟ้องเมียน้อยได้อย่างไรบ้างคะ  แม่เรารับราชการค่ะ  ตอนแม่เรารู้เรื่องนี้ แม่ถึงกับเข้ารพ.บ้าเพื่อรับยาระงับประสาทเลยค่ะ  เราเสียใจมาก เราจะไม่ยอมเจ็บฝ่ายเดียวแน่ค่ะ  
             รบกวนขอคำแนะนำทุกท่านด้วยนะคะ  ขอบคุณมากๆค่ะ