- นี่เป็นเรื่องที่เขียนเพิ่มเติมแทรกในช่วงสมัยเรียนของx-men ศิษย์หลวงพี่ชาร์ล รุ่น1 ที่มีกันอยู่แค่5คนนั่นน่ะ
- เนี้อเรื่องแสดงให้เห็นว่าในช่วงวัยรุ่นสมาชิกทีมแต่ละคนระหว่างที่ไม่ได้ออกปราบเหล่าร้ายวันๆนึงจะทำอะไรกันบ้าง อ่านจนจบสองเล่มจะเหมือนเป็นการสรุปเรื่องสมัยเรียนของศิษย์รุ่นแรกให้นักอ่านรุ่นหลังๆที่เกิดไม่ทันเข้าใจ เรื่องจะจบลงก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายกันไปมีงานทำ มีชีวิตของตัวเอง ไปเข้าอเวนเจอร์ ไปเป็นตัวโกง ออกอวกาศจนโดนฟีนิกส์สิง หรือห้อยติดอยู่ในโรงเรียนต่อไปแบบถึงไล่ยังไงก็ไม่ไปแล้วล่ะนะ
- บรรยากาศของเรื่องมันควรจะอยู่ในยุค60ตามยุคที่ทีมx-menเปิดตัวมาครั้งแรก แต่แค่ตอนแรกนักเขียนดันพลาดเล่นมุขx-box ภาวะโลกร้อนและอีเมลล์ไปแล้ว เลยต้ัองแถทีหลังว่าสำหรับจักรวาลคอมิคเรื่องทุกยุคเกิดในยุค"ปัจจุบัน" ไม่มียุคสมัยแน่นอนอยู่แร้ววว อ่านๆไปแล้วสะดุดก็ช่วยทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กันหน่อยก็แล้วกัน
- ...เนี้อหาในเรื่องไม่เกี่ยวอะไรกับจักรวาลหนังจ้ะ
ตอนที่2
http://ppantip.com/topic/34712319
ตอนที่3
http://ppantip.com/topic/34753056
ตอนที่4
http://ppantip.com/topic/34764916
ตอนที่5
http://ppantip.com/topic/34884146
ตอนที่6
http://ppantip.com/topic/35123159
___________________________________
วิวัฒนาการขั้นต่อไปของมนุษย์ปรากฏขึ้นแล้ว นั่นคือเผ่าพันธุ์homo superior เหล่ามนุษย์สายพันธุ์ดั้งเดิมเริ่มไม่แน่ใจว่านี่คือความหวังใหม่ในการดำรงเผ่าพันธุ์หรือจะเป็นจุดจบของเผ่าพันธุ์มนุษย์กันแน่
ขณะเดียวกันในโรงเรียนแถบชานเมืองของนิวยอร์คก็มีมิวแทนต์ที่ฉลาดหลักแหลมมากผู้หนึ่งกำลังสอนเด็กผู้มีพรสวรรค์พิเศษ5คนเกี่ยวกับสิ่งที่จำเป็นสำหรับการอยู่รอดในโลกใบใหม่นี้ นี่คือเรื่องราวที่ไม่เคยเปิดเผยมาก่อนของนักเรียนรุ่นแรกของโปรเฟสเซอร์เซเวียร์
โปรเฟสเซอร์X: อะไรบางอย่างกำลังอาละวาดอยู่ใกล้ๆนี่เอง กันผู้ไม่เกี่ยวข้องออกไปให้หมดก่อนที่พวกเธอจะลงมือด้วยนะ
ไซคลอปส์: รับทราบ
ไอซ์แมน: เรียนคุณนายเดรค กรุณาเพิ่มเงินค่าขนมให้บ็อบบี้ลูกชายคุณด้วย เขาจะได้มีเงินพอจะไปร่วมทริปทัศนศึกษาที่ยุโรป – ชัค เซเวียร์
แฮ่ ล้อเล่นน่า แม่ ขอโทษทีที่ผมไม่ได้เขียนจดหมายมาหาซะนานเลย พอดีว่าที่โรงเรียนเซเวียร์สำหรับผู้มีพรสวรรค์พิเศษแห่งนี้มีอะไรให้ผมทำเยอะแยะไปหมด ในเมื่อนานๆจะได้เขียนทีแบบนี้ก็ขอเขียนยาวๆหน่อยนะแม่นะ วันนี้พวกเราไปทัศนศึกษาที่สวนพฤกษศาสตร์มาด้วยล่ะ ที่นั่นมีอะไรน่าตื่นเต้นกว่าที่ผมคิดไว้เยอะเลย
ไอซ์แมน: ที่จริงแล้วผมก็ไม่ค่อยถนัดเรื่องเขียนจดหมายด้วยมือตัวเองเหมือนคนยุคเดียวกับแม่เท่าไหร่ แต่บังเอิญว่าโปรเฟสเซอร์แกไม่ยอมให้พวกเรามีอีเมลล์เป็นของตัวเองคราวนี้ก็เลยต้องทำน่ะ โปรเฟสเซอร์แกชอบทำอะไรตลกๆแบบนี้ประจำแหละ
ตัวประกอบ1: ช่วยด้วย
ตัวประกอบ2: ไอ้นี่มันจะกินฉันแล้ว
ตัวประกอบ3: นี่มันตัวประหลาดแบบไหนกันเนี่ย
บีสต์: ไม่ต้องห่วงครับ นี่เป็นแค่ต้นอเซเลียธรรมดาๆเท่านั้น
แองเจิ้ล: เออ นายปลอบซะเขาหายกลัวเป็นปลิดทิ้งเลยล่ะ บีสต์
มาร์เวล เกิร์ล: จับไม่ค่อยอยู่เลย เถาวัลย์แต่ละเส้นเคลื่อนไหวไปคนละทางกันหมด
ไซคลอปส์: พอช่วยคุณผู้หญิงคนนั้นออกมาได้แล้วถอยไปหลบกันให้หมดนะ
ไอซ์แมน: พอดีว่าวันนี้โปรเฟสเซอร์แกจับคลื่นสมองประหลาดๆได้จากในเมือง ซึ่งก็แปลกมากที่มันดันมาโผล่อยู่ใกล้โรงเรียนขนาดนี้ เราเลยต้องออกไปดูกันหน่อย
(ไซคลอปส์ยิง)
แม่ยังจำได้ใช่ไหมว่าผมเกลียดพุ่มกุหลาบในสวนหลังบ้านที่ชอบยื่นหนามมาเกี่ยวขาผมแค่ไหน ขอบอกว่าตอนนี้ผมก็ยังเกลียดมันเหมือนเดิมนั่นแหละ
(ต้นไม้ระเบิด ทั้งดอกทั้งใบปลิวกระจายทั่วสวนอย่างงดงาม)
แองเจิ้ล: ทำอะไรของนายน่ะ สก็อต แบบนี้พวกเราก็มองไม่เห็นกันหมดพอดีสิ
ไซคลอปส์: ใครจะไปรู้ล่ะว่ามันจะระเบิด ฉันไม่เคยสู้กับไม้ดอกไม้ประดับแบบนี้มาก่อนนี่
มาร์เวล เกิร์ล: ช่างเถอะ แบบนี้มันก็สวยดีเหมือนกันนะ แต่เดี๋ยวฉันเคลียร์พี้นที่ให้เอง
เอ้า
แองเจิ้ล: เอ่อ คิดอีกทีเอาทั้งดอกทั้งใบมาปิดไว้อย่างเดิมดีกว่าแฮะ
(ต้นไม้ร้องกรี๊ดๆ)
ไอซ์แมน: ระวังนะ คราวนี้มันมีหนามด้วย
บีสต์: ก็ต้องมีแน่อยู่แล้วล่ะ นี่มันฟลอร่า โรซ่า ชื่อสามัญคือต้นกุหลาบ... แอร๊ยยยยย
ไซคลอปส์: ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ
บีสต์: ขอบใจนะ
ไอซ์แมน: ดูนี่สิ ต่อไปฉันจะใช้ท่าแบบนี้เป็นท่าประจำตัวล่ะนะ เท่มั้ยล่ะ
(ไอซ์แมนกางเล็บน้ำแข็งออกมาฟันต้นไม้ดี้อๆเลยค่ะ ดูคุ้นๆชอบก๊ล~)
มาร์เวล เกิร์ล: ไม่เอาน่า ท่าแบบนั้นมันเห่ยจะตายชัก
แองเจิ้ล: ไอ้ตัวนั้นมันไปไล่บีสต์อีกแล้ว
บีสต์: จ๊ากกก
แองเจิ้ล: เฮ้ยยย ปล่อยน้า
ไซคลอปส์: แองเจิ้ล หลบไป
มาร์เวล เกิร์ล: ฉันทำให้มันคายบีสต์ออกมาไม่ได้ จิตของเจ้านี่แข็งแกร่งมาก
ไซคลอปส์: ไอซ์แมน แช่แข็งต้นไม้พวกนั้นเลย
ไอซ์แมน: จะดีเรอะ เดี๋ยวโดนบีสต์ไปด้วยนะ
ไซคลอปส์: อย่างน้อยที่สุดบีสต์ก็จะไม่โดนมันฉีกเป็นชิ้นๆล่ะ ลงมือเถอะน่า
ไอซ์แมน: เอาล่ะ มันเคลื่อนไหวช้าลงแล้ว
แต่บีสต์คงใกล้จะหนาวตายแล้วล่ะนะ
ไซคลอปส์: ไม่ต้องห่วง บีสต์อึดกว่าพวกเราเยอะ เขารอดแน่ถ้าเรารีบเอาออกมาให้ทัน
บีสต์: นะ....หนาว
แองเจิ้ล: ไม่เป็นไร แผลเยอะหน่อยแต่เป็นแค่รอยถลอกทั้งนั้น น่าเสียดายที่ฉันไม่ใช่เทวดาจริงๆจะได้ฮีลให้ได้ แต่นายเองก็รักษาตัวเองได้ไวอยู่แล้วไม่ใช่เรอะ
บีสต์: มะ...ไม่ใช่ ไอ้...ไอ้ตัวนั้นมันส่งอะไรก็ไม่รู้เข้ามาในหัวฉันด้วย
แองเจิ้ล: เป็นไรมากป่าวน่ะ แฮงค์
บีสต์: ทั้งเสียง ทั้งภาพอะไรก็ไม่รู้ที่มันส่งเข้ามาในหัวฉันมันแย่กว่าโดนหนามเกี่ยวเยอะเลย
มาร์เวล เกิร์ล: ไม่มีต้นไม้สวยๆต้นไหนเข้ามาโจมตีเราอีก ฉันว่ามันคงจบแค่นี้แล้วล่ะ
ไอซ์แมน: ตกลงว่านี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย
ไซคลอปส์: ที่ฉันสงสัยที่สุดก็คือโปรเฟสเซอร์จะเป็นอะไรไปหรือเปล่านะ
เขาขาดการติดต่อกับพวกเราไปตั้งแต่ตอนที่เจ้านี่มันเริ่มโจมตีแล้ว...
โปรเฟสเซอร์x: ฉันยังอยู่ สก็อต
ไซคลอปส์: อ้อ ครับ
โปรเฟสเซอร์x: ฉันพยายามเชื่อมต่อกับจิตของเจ้าตัวเมื่อกี้นี้
ไอซ์แมน: ตัวไหนอ่ะ?
โปรเฟสเซอร์x: เมื่อกี้เป็นการเคลื่อนไหวที่สั่งการมาจากจิตเดียวกันทั้งหมด เป็นจิตที่แปลกประหลาดมาก
น่าเสียดายที่สิ่งที่ฉันเห็นมีแต่ภาพที่มองจากสายตาของมันเท่านั้น แปลกจริงๆ
พวกเธอทุกคนทำได้ดีมาก
ไอซ์แมน: วันนี้ผมสนุกมากเลย แต่แฮงค์คงไม่สนุกด้วยเท่าไหรล่ะนะ
ไอซ์แมน: แฮงค์ แม็คคอยคือคนที่เป็นเพื่อนกับผมทันทีที่ผมเข้ามาอยู่ที่นี่
บีสต์: ก่อนจะถึงเวลาเรียนฉันคงต้องเอาชุดขาดๆนี่ไปใส่ในx-box ให้เรียบร้อยก่อน
ไอซ์แมน: หือ? ที่นี่มีเครื่องเกมx-boxด้วยเหรอ ยอดไปเลย
อ่าว นี่มันแค่กล่องธรรมดานี่นา
บีสต์: อ้าว นี่ฉันยังไม่ได้บอกนายเรอะว่าถ้ามีชุดที่ต้องการเอาไปซ่อมล่ะก็ให้เอามาใส่ในนี้ได้เลย เดี๋ยวจะมีทีมงานซ่อมให้เอง
มาแล้วจ้า
แองเจิ้ล: ระวังหน่อยสิเจ้ากอริลล่า
ไอซ์แมน: แฮงค์ไม่เหมือนเจเรมี่เพื่อนผมที่แม่ไม่ชอบหรอกนะ (ผมรู้นะว่าแม่ไม่ชอบหมอนั่น) แฮงค์เรียนเก่งและเป็นนักกีฬาด้วย ผมไม่เคยเห็นใครเก่งไปหมดทุกด้านเหมือนเขามาก่อนเลย
ตอนแรกผมนึกว่าเขาจะเป็นคนโปรดของอาจารย์ เพราะเห็นเขายกมือตอบโปรเฟสเซอร์ที่ถามคำถามยากๆอยู่คนเดียวตลอดคาบเรียน แต่ผมก็นึกขึ้นมาได้...
โปรเฟสเซอร์x: มีใครตอบได้ไหม? เฮนรี่?
บีสต์: ครับ ตำนานของนักรบชาวอมาซอนนั่นก็คือเรื่องที่เขียนขึ้นโดยอิงจากเรื่องของมิวแทนต์ยุคดึกดำบรรพ์นั่นเอง
ไอซ์แมน: ...ว่าแฮงค์เองก็คงลำบากเหมือนกันที่ฉลาดขนาดนี้ ไม่มีใครในห้องที่คุยกับเขารู้เรื่องเลย หนังหรือหนังสือที่เขาแนะนำให้เราก็ดูแล้วไม่เข้าใจเลยซักนิด เหมือนกับว่าเขารอมาทั้งชีวิตเพื่อจะได้คุยกับโปรเฟสเซอร์เพื่อปล่อยของเสียที
แม่ต้องดีใจมากแน่ๆที่รู้ว่าผมไม่ได้เป็นที่โหล่ในห้อง คนที่น่าจะได้ที่โหล่จริงๆน่ะคงเป็นวอร์เรนมากกว่า
ไอซ์แมน: บางทีอาจเป็นเพราะเขาเกิดในตระกูลที่ร่ำรวย เลยไม่จำเป็นต้องฟังเรื่องที่คนอื่นพูดมาตลอด เขานิสัยดี แต่ดูเหมือนจะตั้งใจทำเรื่องอะไรนานๆไม่ได้เลย
โปรเฟสเซอร์x: คุณเวอร์ทิงตัน ต้องให้บอกไหมว่าผมอยู่ทางนี้ ไม่ใช่นอกหน้าต่าง
แองเจิ้ล: ครับๆ การกลายพันธุ์จะแสดงลักษณะเต็มที่เมื่อเข้าสู่วัยรุ่นสินะครับ
โปรเฟสเซอร์x: เราพูดเรื่องนั้นกันไปเมื่อยี่สิบนาทีก่อน ตอนนี้เรากำลังพูดถึงผู้มีความสามารถโดดเด่นในประวัติศาสตร์ และชื่อเสียงที่พวกเขาสร้างไว้จะส่งผลต่อเราอย่างไรบ้าง
แองเจิ้ล: วิชาป้องกันตัวหรือวางแผนการรบมันใช้ประโยชน์ได้ แต่วิชาแบบนี้มันไม่มีประโยชน์เลยซักนิด
เรื่องของไอ้บ้าที่ตายไปเป็นพันปีแล้วมันไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกับผมเลยนี่
ไอซ์แมน: เดี๋ยวหมอนั่นต้องพุ่งออกไปนอกหน้าต่างอีกแหงๆเลย
มาร์เวล เกิร์ล: ทำไมถึงไม่มีใครล็อกหน้าต่างนั่นซักทีก็ไม่รู้
ไอซ์แมน: นั่นไง อย่างที่บอกมั้ยล่ะ
มาร์เวล เกิร์ล: คราวนี้ฉันจะไม่ทำการบ้านแทนตานั่นแล้วนะ
ไซคลอปส์: โปรเฟสเซอร์ครับ เขาไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนั้นหรอก เขาก็แค่…
บีสต์: นายไม่จำเป็นต้องแก้ตัวแทนเขาให้เปลืองพลังงานหรอกน่า สก็อต
บีสต์: ลืมไปแล้วเหรอว่าไม่มีใครโดดเรียนในคาบที่โปรเฟสเซอร์เซเวียร์สอนเองได้หรอก
โปรเฟสเซอร์x: เอาล่ะ ต่อไปเราจะมาพูดถึงผู้มีความสามารถพิเศษที่ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์กันล่ะนะ
แองเจิ้ล: ขอโทษนะครับ อาจารย์ ผมไม่ได้ตั้งใจจะเสียมารยาท
แต่บางครั้ง....ถ้าผมไม่ได้บินล่ะก็ผมจะรู้สึกเหมือน...
โปรเฟสเซอร์x: ตัวจะระเบิดให้ได้เลยใช่ไหม?
แองเจิ้ล: ครับ
โปรเฟสเซอร์x: เธอต้องรู้สึกแบบนั้นอยู่แล้ว วอร์เรน นั่นเป็นสิ่งที่นกในกรงทุกตัวก็รู้สึกอยู่เช่นกัน
เธอเกิดมาเพื่อบิน ฉันเองก็รู้สึกผิดอยู่เหมือนกันที่การเรียนการสอนของฉันทำให้เธอต้องอยู่บนพี้นนานๆ
แต่ฉันก็เชื่อว่าบทเรียนในวันนี้เป็นสิ่งจำเป็นที่เธอต้องเรียนรู้เช่นกัน ฉันขอส่งภาพในจินตนาการเข้าไปในสมองของเธอสักพักได้ไหม?
แองเจิ้ล: ได้ครับ
โปรเฟสเซอร์x: ถ้าสมมุติว่ามีมิวแทนต์ที่มีพลังแบบเดียวกับเธอปรากฎตัวขึ้นเมื่อสี่พันปีก่อน...
ถึงจะมีแค่คนเดียว แต่ลองนึกดูสิว่าคนธรรมดาที่เห็นคนบินได้เข้าจะตกตะสึงขนาดไหน เขาจะเป็นที่ร่ำลือกันในหมู่ผู้คนขนาดไหน เขาจะโดนจับตามองขนาดไหน
[Marvel Comic] X-Men First Class v.1 (1/8) วันว่างๆสมัยเรียนของเด็กๆ X-Men รุ่นแรก
- เนี้อเรื่องแสดงให้เห็นว่าในช่วงวัยรุ่นสมาชิกทีมแต่ละคนระหว่างที่ไม่ได้ออกปราบเหล่าร้ายวันๆนึงจะทำอะไรกันบ้าง อ่านจนจบสองเล่มจะเหมือนเป็นการสรุปเรื่องสมัยเรียนของศิษย์รุ่นแรกให้นักอ่านรุ่นหลังๆที่เกิดไม่ทันเข้าใจ เรื่องจะจบลงก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายกันไปมีงานทำ มีชีวิตของตัวเอง ไปเข้าอเวนเจอร์ ไปเป็นตัวโกง ออกอวกาศจนโดนฟีนิกส์สิง หรือห้อยติดอยู่ในโรงเรียนต่อไปแบบถึงไล่ยังไงก็ไม่ไปแล้วล่ะนะ
- บรรยากาศของเรื่องมันควรจะอยู่ในยุค60ตามยุคที่ทีมx-menเปิดตัวมาครั้งแรก แต่แค่ตอนแรกนักเขียนดันพลาดเล่นมุขx-box ภาวะโลกร้อนและอีเมลล์ไปแล้ว เลยต้ัองแถทีหลังว่าสำหรับจักรวาลคอมิคเรื่องทุกยุคเกิดในยุค"ปัจจุบัน" ไม่มียุคสมัยแน่นอนอยู่แร้ววว อ่านๆไปแล้วสะดุดก็ช่วยทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กันหน่อยก็แล้วกัน
- ...เนี้อหาในเรื่องไม่เกี่ยวอะไรกับจักรวาลหนังจ้ะ
ตอนที่2
http://ppantip.com/topic/34712319
ตอนที่3
http://ppantip.com/topic/34753056
ตอนที่4
http://ppantip.com/topic/34764916
ตอนที่5
http://ppantip.com/topic/34884146
ตอนที่6
http://ppantip.com/topic/35123159
___________________________________
วิวัฒนาการขั้นต่อไปของมนุษย์ปรากฏขึ้นแล้ว นั่นคือเผ่าพันธุ์homo superior เหล่ามนุษย์สายพันธุ์ดั้งเดิมเริ่มไม่แน่ใจว่านี่คือความหวังใหม่ในการดำรงเผ่าพันธุ์หรือจะเป็นจุดจบของเผ่าพันธุ์มนุษย์กันแน่
ขณะเดียวกันในโรงเรียนแถบชานเมืองของนิวยอร์คก็มีมิวแทนต์ที่ฉลาดหลักแหลมมากผู้หนึ่งกำลังสอนเด็กผู้มีพรสวรรค์พิเศษ5คนเกี่ยวกับสิ่งที่จำเป็นสำหรับการอยู่รอดในโลกใบใหม่นี้ นี่คือเรื่องราวที่ไม่เคยเปิดเผยมาก่อนของนักเรียนรุ่นแรกของโปรเฟสเซอร์เซเวียร์
โปรเฟสเซอร์X: อะไรบางอย่างกำลังอาละวาดอยู่ใกล้ๆนี่เอง กันผู้ไม่เกี่ยวข้องออกไปให้หมดก่อนที่พวกเธอจะลงมือด้วยนะ
ไซคลอปส์: รับทราบ
ไอซ์แมน: เรียนคุณนายเดรค กรุณาเพิ่มเงินค่าขนมให้บ็อบบี้ลูกชายคุณด้วย เขาจะได้มีเงินพอจะไปร่วมทริปทัศนศึกษาที่ยุโรป – ชัค เซเวียร์
แฮ่ ล้อเล่นน่า แม่ ขอโทษทีที่ผมไม่ได้เขียนจดหมายมาหาซะนานเลย พอดีว่าที่โรงเรียนเซเวียร์สำหรับผู้มีพรสวรรค์พิเศษแห่งนี้มีอะไรให้ผมทำเยอะแยะไปหมด ในเมื่อนานๆจะได้เขียนทีแบบนี้ก็ขอเขียนยาวๆหน่อยนะแม่นะ วันนี้พวกเราไปทัศนศึกษาที่สวนพฤกษศาสตร์มาด้วยล่ะ ที่นั่นมีอะไรน่าตื่นเต้นกว่าที่ผมคิดไว้เยอะเลย
ไอซ์แมน: ที่จริงแล้วผมก็ไม่ค่อยถนัดเรื่องเขียนจดหมายด้วยมือตัวเองเหมือนคนยุคเดียวกับแม่เท่าไหร่ แต่บังเอิญว่าโปรเฟสเซอร์แกไม่ยอมให้พวกเรามีอีเมลล์เป็นของตัวเองคราวนี้ก็เลยต้องทำน่ะ โปรเฟสเซอร์แกชอบทำอะไรตลกๆแบบนี้ประจำแหละ
ตัวประกอบ1: ช่วยด้วย
ตัวประกอบ2: ไอ้นี่มันจะกินฉันแล้ว
ตัวประกอบ3: นี่มันตัวประหลาดแบบไหนกันเนี่ย
บีสต์: ไม่ต้องห่วงครับ นี่เป็นแค่ต้นอเซเลียธรรมดาๆเท่านั้น
แองเจิ้ล: เออ นายปลอบซะเขาหายกลัวเป็นปลิดทิ้งเลยล่ะ บีสต์
มาร์เวล เกิร์ล: จับไม่ค่อยอยู่เลย เถาวัลย์แต่ละเส้นเคลื่อนไหวไปคนละทางกันหมด
ไซคลอปส์: พอช่วยคุณผู้หญิงคนนั้นออกมาได้แล้วถอยไปหลบกันให้หมดนะ
ไอซ์แมน: พอดีว่าวันนี้โปรเฟสเซอร์แกจับคลื่นสมองประหลาดๆได้จากในเมือง ซึ่งก็แปลกมากที่มันดันมาโผล่อยู่ใกล้โรงเรียนขนาดนี้ เราเลยต้องออกไปดูกันหน่อย
(ไซคลอปส์ยิง)
แม่ยังจำได้ใช่ไหมว่าผมเกลียดพุ่มกุหลาบในสวนหลังบ้านที่ชอบยื่นหนามมาเกี่ยวขาผมแค่ไหน ขอบอกว่าตอนนี้ผมก็ยังเกลียดมันเหมือนเดิมนั่นแหละ
(ต้นไม้ระเบิด ทั้งดอกทั้งใบปลิวกระจายทั่วสวนอย่างงดงาม)
แองเจิ้ล: ทำอะไรของนายน่ะ สก็อต แบบนี้พวกเราก็มองไม่เห็นกันหมดพอดีสิ
ไซคลอปส์: ใครจะไปรู้ล่ะว่ามันจะระเบิด ฉันไม่เคยสู้กับไม้ดอกไม้ประดับแบบนี้มาก่อนนี่
มาร์เวล เกิร์ล: ช่างเถอะ แบบนี้มันก็สวยดีเหมือนกันนะ แต่เดี๋ยวฉันเคลียร์พี้นที่ให้เอง
เอ้า
แองเจิ้ล: เอ่อ คิดอีกทีเอาทั้งดอกทั้งใบมาปิดไว้อย่างเดิมดีกว่าแฮะ
(ต้นไม้ร้องกรี๊ดๆ)
ไอซ์แมน: ระวังนะ คราวนี้มันมีหนามด้วย
บีสต์: ก็ต้องมีแน่อยู่แล้วล่ะ นี่มันฟลอร่า โรซ่า ชื่อสามัญคือต้นกุหลาบ... แอร๊ยยยยย
ไซคลอปส์: ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ
บีสต์: ขอบใจนะ
ไอซ์แมน: ดูนี่สิ ต่อไปฉันจะใช้ท่าแบบนี้เป็นท่าประจำตัวล่ะนะ เท่มั้ยล่ะ
(ไอซ์แมนกางเล็บน้ำแข็งออกมาฟันต้นไม้ดี้อๆเลยค่ะ ดูคุ้นๆชอบก๊ล~)
มาร์เวล เกิร์ล: ไม่เอาน่า ท่าแบบนั้นมันเห่ยจะตายชัก
แองเจิ้ล: ไอ้ตัวนั้นมันไปไล่บีสต์อีกแล้ว
บีสต์: จ๊ากกก
แองเจิ้ล: เฮ้ยยย ปล่อยน้า
ไซคลอปส์: แองเจิ้ล หลบไป
มาร์เวล เกิร์ล: ฉันทำให้มันคายบีสต์ออกมาไม่ได้ จิตของเจ้านี่แข็งแกร่งมาก
ไซคลอปส์: ไอซ์แมน แช่แข็งต้นไม้พวกนั้นเลย
ไอซ์แมน: จะดีเรอะ เดี๋ยวโดนบีสต์ไปด้วยนะ
ไซคลอปส์: อย่างน้อยที่สุดบีสต์ก็จะไม่โดนมันฉีกเป็นชิ้นๆล่ะ ลงมือเถอะน่า
ไอซ์แมน: เอาล่ะ มันเคลื่อนไหวช้าลงแล้ว
แต่บีสต์คงใกล้จะหนาวตายแล้วล่ะนะ
ไซคลอปส์: ไม่ต้องห่วง บีสต์อึดกว่าพวกเราเยอะ เขารอดแน่ถ้าเรารีบเอาออกมาให้ทัน
บีสต์: นะ....หนาว
แองเจิ้ล: ไม่เป็นไร แผลเยอะหน่อยแต่เป็นแค่รอยถลอกทั้งนั้น น่าเสียดายที่ฉันไม่ใช่เทวดาจริงๆจะได้ฮีลให้ได้ แต่นายเองก็รักษาตัวเองได้ไวอยู่แล้วไม่ใช่เรอะ
บีสต์: มะ...ไม่ใช่ ไอ้...ไอ้ตัวนั้นมันส่งอะไรก็ไม่รู้เข้ามาในหัวฉันด้วย
แองเจิ้ล: เป็นไรมากป่าวน่ะ แฮงค์
บีสต์: ทั้งเสียง ทั้งภาพอะไรก็ไม่รู้ที่มันส่งเข้ามาในหัวฉันมันแย่กว่าโดนหนามเกี่ยวเยอะเลย
มาร์เวล เกิร์ล: ไม่มีต้นไม้สวยๆต้นไหนเข้ามาโจมตีเราอีก ฉันว่ามันคงจบแค่นี้แล้วล่ะ
ไอซ์แมน: ตกลงว่านี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย
ไซคลอปส์: ที่ฉันสงสัยที่สุดก็คือโปรเฟสเซอร์จะเป็นอะไรไปหรือเปล่านะ
เขาขาดการติดต่อกับพวกเราไปตั้งแต่ตอนที่เจ้านี่มันเริ่มโจมตีแล้ว...
โปรเฟสเซอร์x: ฉันยังอยู่ สก็อต
ไซคลอปส์: อ้อ ครับ
โปรเฟสเซอร์x: ฉันพยายามเชื่อมต่อกับจิตของเจ้าตัวเมื่อกี้นี้
ไอซ์แมน: ตัวไหนอ่ะ?
โปรเฟสเซอร์x: เมื่อกี้เป็นการเคลื่อนไหวที่สั่งการมาจากจิตเดียวกันทั้งหมด เป็นจิตที่แปลกประหลาดมาก
น่าเสียดายที่สิ่งที่ฉันเห็นมีแต่ภาพที่มองจากสายตาของมันเท่านั้น แปลกจริงๆ
พวกเธอทุกคนทำได้ดีมาก
ไอซ์แมน: วันนี้ผมสนุกมากเลย แต่แฮงค์คงไม่สนุกด้วยเท่าไหรล่ะนะ
ไอซ์แมน: แฮงค์ แม็คคอยคือคนที่เป็นเพื่อนกับผมทันทีที่ผมเข้ามาอยู่ที่นี่
บีสต์: ก่อนจะถึงเวลาเรียนฉันคงต้องเอาชุดขาดๆนี่ไปใส่ในx-box ให้เรียบร้อยก่อน
ไอซ์แมน: หือ? ที่นี่มีเครื่องเกมx-boxด้วยเหรอ ยอดไปเลย
อ่าว นี่มันแค่กล่องธรรมดานี่นา
บีสต์: อ้าว นี่ฉันยังไม่ได้บอกนายเรอะว่าถ้ามีชุดที่ต้องการเอาไปซ่อมล่ะก็ให้เอามาใส่ในนี้ได้เลย เดี๋ยวจะมีทีมงานซ่อมให้เอง
มาแล้วจ้า
แองเจิ้ล: ระวังหน่อยสิเจ้ากอริลล่า
ไอซ์แมน: แฮงค์ไม่เหมือนเจเรมี่เพื่อนผมที่แม่ไม่ชอบหรอกนะ (ผมรู้นะว่าแม่ไม่ชอบหมอนั่น) แฮงค์เรียนเก่งและเป็นนักกีฬาด้วย ผมไม่เคยเห็นใครเก่งไปหมดทุกด้านเหมือนเขามาก่อนเลย
ตอนแรกผมนึกว่าเขาจะเป็นคนโปรดของอาจารย์ เพราะเห็นเขายกมือตอบโปรเฟสเซอร์ที่ถามคำถามยากๆอยู่คนเดียวตลอดคาบเรียน แต่ผมก็นึกขึ้นมาได้...
โปรเฟสเซอร์x: มีใครตอบได้ไหม? เฮนรี่?
บีสต์: ครับ ตำนานของนักรบชาวอมาซอนนั่นก็คือเรื่องที่เขียนขึ้นโดยอิงจากเรื่องของมิวแทนต์ยุคดึกดำบรรพ์นั่นเอง
ไอซ์แมน: ...ว่าแฮงค์เองก็คงลำบากเหมือนกันที่ฉลาดขนาดนี้ ไม่มีใครในห้องที่คุยกับเขารู้เรื่องเลย หนังหรือหนังสือที่เขาแนะนำให้เราก็ดูแล้วไม่เข้าใจเลยซักนิด เหมือนกับว่าเขารอมาทั้งชีวิตเพื่อจะได้คุยกับโปรเฟสเซอร์เพื่อปล่อยของเสียที
แม่ต้องดีใจมากแน่ๆที่รู้ว่าผมไม่ได้เป็นที่โหล่ในห้อง คนที่น่าจะได้ที่โหล่จริงๆน่ะคงเป็นวอร์เรนมากกว่า
ไอซ์แมน: บางทีอาจเป็นเพราะเขาเกิดในตระกูลที่ร่ำรวย เลยไม่จำเป็นต้องฟังเรื่องที่คนอื่นพูดมาตลอด เขานิสัยดี แต่ดูเหมือนจะตั้งใจทำเรื่องอะไรนานๆไม่ได้เลย
โปรเฟสเซอร์x: คุณเวอร์ทิงตัน ต้องให้บอกไหมว่าผมอยู่ทางนี้ ไม่ใช่นอกหน้าต่าง
แองเจิ้ล: ครับๆ การกลายพันธุ์จะแสดงลักษณะเต็มที่เมื่อเข้าสู่วัยรุ่นสินะครับ
โปรเฟสเซอร์x: เราพูดเรื่องนั้นกันไปเมื่อยี่สิบนาทีก่อน ตอนนี้เรากำลังพูดถึงผู้มีความสามารถโดดเด่นในประวัติศาสตร์ และชื่อเสียงที่พวกเขาสร้างไว้จะส่งผลต่อเราอย่างไรบ้าง
แองเจิ้ล: วิชาป้องกันตัวหรือวางแผนการรบมันใช้ประโยชน์ได้ แต่วิชาแบบนี้มันไม่มีประโยชน์เลยซักนิด
เรื่องของไอ้บ้าที่ตายไปเป็นพันปีแล้วมันไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกับผมเลยนี่
ไอซ์แมน: เดี๋ยวหมอนั่นต้องพุ่งออกไปนอกหน้าต่างอีกแหงๆเลย
มาร์เวล เกิร์ล: ทำไมถึงไม่มีใครล็อกหน้าต่างนั่นซักทีก็ไม่รู้
ไอซ์แมน: นั่นไง อย่างที่บอกมั้ยล่ะ
มาร์เวล เกิร์ล: คราวนี้ฉันจะไม่ทำการบ้านแทนตานั่นแล้วนะ
ไซคลอปส์: โปรเฟสเซอร์ครับ เขาไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนั้นหรอก เขาก็แค่…
บีสต์: นายไม่จำเป็นต้องแก้ตัวแทนเขาให้เปลืองพลังงานหรอกน่า สก็อต
บีสต์: ลืมไปแล้วเหรอว่าไม่มีใครโดดเรียนในคาบที่โปรเฟสเซอร์เซเวียร์สอนเองได้หรอก
โปรเฟสเซอร์x: เอาล่ะ ต่อไปเราจะมาพูดถึงผู้มีความสามารถพิเศษที่ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์กันล่ะนะ
แองเจิ้ล: ขอโทษนะครับ อาจารย์ ผมไม่ได้ตั้งใจจะเสียมารยาท
แต่บางครั้ง....ถ้าผมไม่ได้บินล่ะก็ผมจะรู้สึกเหมือน...
โปรเฟสเซอร์x: ตัวจะระเบิดให้ได้เลยใช่ไหม?
แองเจิ้ล: ครับ
โปรเฟสเซอร์x: เธอต้องรู้สึกแบบนั้นอยู่แล้ว วอร์เรน นั่นเป็นสิ่งที่นกในกรงทุกตัวก็รู้สึกอยู่เช่นกัน
เธอเกิดมาเพื่อบิน ฉันเองก็รู้สึกผิดอยู่เหมือนกันที่การเรียนการสอนของฉันทำให้เธอต้องอยู่บนพี้นนานๆ
แต่ฉันก็เชื่อว่าบทเรียนในวันนี้เป็นสิ่งจำเป็นที่เธอต้องเรียนรู้เช่นกัน ฉันขอส่งภาพในจินตนาการเข้าไปในสมองของเธอสักพักได้ไหม?
แองเจิ้ล: ได้ครับ
โปรเฟสเซอร์x: ถ้าสมมุติว่ามีมิวแทนต์ที่มีพลังแบบเดียวกับเธอปรากฎตัวขึ้นเมื่อสี่พันปีก่อน...
ถึงจะมีแค่คนเดียว แต่ลองนึกดูสิว่าคนธรรมดาที่เห็นคนบินได้เข้าจะตกตะสึงขนาดไหน เขาจะเป็นที่ร่ำลือกันในหมู่ผู้คนขนาดไหน เขาจะโดนจับตามองขนาดไหน