ยืมกระทู้แฟนมาตั้งคะ ของตัวเองพอกดโพสละบอกว่า ยังไม่ยืนยันบัตรประชาชน แต่เรายืนยันไปเป็นเดือนละ T_T
แท็กห้องผิดพลาดประการใดบอกด้วยนะคะ
คือ เรื่องมันมีอยู่ว่า เรานั่งรถไฟ ครั้งนี้ เป็นครั้งที่3คะ 2ครั้งแรกไม่มีเหตุการณ์อะไรน่าจดจำ วันนั้นกำหนดกลับจากเชียงใหม่ วันที่4 มกราคม ขบวนที่ 4 ตอน6.30 เราไปจองรอบกลับตั้งวันที่1 บอกกับพนักงานรถไฟว่า ขอตั๊วกลับ แบบนั่งติดหน้าต่าง ทั้ง2คน พนักงานก็บอกครับๆ แต่พอมาวันจริง แม่มนั่งหันหลังให้กัน แถมติดทางเดินอีกต่างหาก ( พนักงานไม่รู้หรือกวนติงคะ)
รอบไปวันที่30 ก็ได้เจอน้องคนนึง เรียนอยู่ม.รังสิต (น้องเค้าบอกมานะ) ขากลับก็ได้เจอกันอีก โลกกลม ก็คุยกันตามปกติ ว่าไปเที่ยวไหนมา แหกโค้งที่ไหนมาบ้าง โดนปรับไปเท่าไหร่
ระหว่างที่คุยก็มีเด็กผช.กับเด็กผญ. ร่วมแจมด้วยตลอด ขอตั้งชื่อเด็กผช.ว่า A ละกัน ส่วนน้องผญ.ชื่อน้องมั่น ส่วนน้องที่เรียนม.รังสิต ชื่อน้องซี และบี คือเรา
ก็อย่างที่บอก พนักงานตั๊วรถไฟออกตั๊วให้บีกะแฟนนั่งหันหลังชนกัน เลข68กะ64 แต่ตอนนั้นบีง่วงไม่มีที่ซบเจ้าของที่ฝั่งตรงข้ามยังไม่มา บีเลยเรียกให้แฟนบีมานั่งก่อน ส่วนที่ของแฟน ให้น้องมั่นนั่งไป พอถึงสถานีเด่นชัย เจ้าของที่มา บีก็เลยกลับไปนั่งหมายเลข64 ส่วนแฟนบียืน น้องมั่นก็ยังคงนั่งต่อไปแบบไม่รู้ไม่ชี้ บีก็เลยบอกให้แฟนมานั่งที่บีแล้วเอาตั๊วมา ละบีก็ไปสะกิดน้องมั่น ว่าขอที่นั่งคืน น้องมั่นก็ทำหน้าเหวี่ยงนิดนึง น้องซีก็พูดขึ้นมาว่า เจ้าของที่เค้ามาแล้ว ลุกสิ น้องมั่นก็ลุกแบบไม่เต็มใจ
บีก็นั่งของบีไปซักพักหลับได้สักงีบ ถึงสถานีอะไรไม่รู้ เจ้าของที่ฝัางตรงข้ามบีมา ซึ่งน้องซีต้องลุก แต่น้องที่นั่งที่ของน้องซี ก็ไม่มีท่าทีว่าจะลุกคืนที่นั่ง แล้วบีก็หลับต่อไปได้สักพัก น้องมั่นเดินกลับมา แล้วก็มาแว้ดๆๆๆๆข้ามหัวบี ด่าน้องเอ ที่นั่งอยู่ข้างๆบีว่า "ไม่ต้องมาแกล้งหลับเลยนะ กูรู้นะ ว่า
อยากนั่งใกล้สาว ไม่ต้องมาแกล้งหลับเลยนะ"
ตอนนั้นบีเริ่มตื่นละ เริ่มหงุดหงิด น้องมั่นก็ยังใส่แฟนต่อไป น้องก็เลยพูดห้ามว่า"ให้หยุด อย่างง้องแง้งว่ะ ตัวเองไม่ได้ขอตั๊วมา ตัวเองมากับครัวรถไฟ แล้วจะมางอแงทำไม " น้องเอก็บอกว่าเออใช่ๆ จะมาเสียงดังทำไม (คิดในใจละทำไม
ไม่ลุกที่คืนให้น้องซีว้ะ) น้องมั่นเริ่มหน้าเสีย เริ่มด่าหยาบๆคายๆขึ้น น้องซีทนไม่ไหว ด่ารัวกว่า ที่บีจำได้ก็มีประมาณว่า เรียนจบอะไรมา เรียนไม่จบม.3ใช่มั้ย เดวส่งต่อให้เรียนต่อมั้ย จะได้ฉลาดขึ้น แล้วน้องมั่นก็ต้อบกลับไปว่า ไม่เอา ไม่เรียน ขี้เกียจ น้องซีเลยตอกกลับว่า อ๋อ เพราะแบบนี้สินะรอยหยักในสมองถึงไม่ค่อยมี ละไม่เรียนแบบนี้ จะไปเป็น
หรอ อยากเป็นมั้ย เดวพาไป สนามหลวง เดวพาไปยืนขายhee - ถามจริงผ่านมากี่ผัวละ
บีก็หันไปมองน้องมั่นพอดี กับที่น้องมั่นพูดว่า เออกูอยากเป็น
พากูไปสิ ละก็ทำท่าจะถอดเสื้อ ซึ่งมันเห็นเสื้อในละหน้าอกพอดี บีก็เลยรีบหันกลับมามองที่พื้นต่อ รู้สึกรับไม่ได้ รู้สึกไม่ฟรุ้งฟริ้ง เมิงเอาอะไรมาให้กูดู-_-/// คนที่นั่งอยู่รอบๆข้างก็มองหน้าบีแบบว่า จะไปร่วมแจมกับเค้ามั้ย จะทนได้หรือป่าว อะไรประมาณนี้
บีก็เริ่มจะทนไม่ไหว จะให้แฟนมานั่งตรงนี้ ก็คิดว่าแฟนบีต้องด่าเละแน่นอน เลยต้องนั่งทนต่อ
ตัดมาที่น้องมั่น กะน้องซีต่อ น้องมั่นเปิดประเด็นใหม่ ประมาณว่า อย่าคิดว่ากูไม่รู้นะ ว่า2คนทำไรกันมาอะ อยากได้ก็เอาไปเลย กูยกให้ บีหันไปมองน้องเอ ซึ่งแกล้งตายอยู่ โห่ว หล่อวัวตายควายล้มเลยนะเมิง ควรจะถ่ายวิดีโอคลิปไว้นะ ว่ามีผญ.2คนทะเลาะกันเพราะเมิงอะ อนาคตคงไม่มีอีกแล้วละ น้องซีก็ทำหน้าเหวอนิดนึง ประมาณว่าน้องมั่นคิดเรื่องแบบนี้ได้ไง น้องซีก็บอกว่าเออ กูไปซั่มกันมาละ ได้ไป3น้ำ ทีนี้พอใจยัง กลับไปครัวรถไฟได้ละ น้องมั่นก็บอกว่า เออเอาไปเลย อยากได้กูยกให้
น้องซีก็เลยพูดมา ไม่ไปกูไปเอง ละก็เดินไปขบวนหน้า น้องมั่นก็เงียบ สักพักน้องเอก็ตัดสินใจออกไปตู้หน้า เพื่อไปดูน้องซี อีน้องมั่นก็ตามไปอีก น้องซีก็เดินร้องไห้กลับมา (ร้องทำไมว้ะ) ขนข้าวของ น้องเอก็เดินตามมาติดๆ น้องซีก็รัวตามๆมา น้องเอกลับมานั่งที่เดิม ตอนนั้นบีใส่หูฟังละ น้องมั่นยืนห่างออกไป ดึงยางมัดผมออก ปาลงพื้น แล้วก็พูดอะไรไม่รู้ หลับตาพูด เห็นแต่ตาขาว กลั่นน้ำตาออกมา ได้ประมาณสัก5นาที ยัง... ยังคงมั่นหน้าต่อไป บีนั่งติดทางเดิน น้องเอนั่งติดหน้าต่าง น้องมั่นเดินผ่านหน้าบีไป พยายามจะเหยียบเท้าบี แต่ขอโทษ ไม่ได้-กูหรอก ละก็ผ่านบีไป เข้าไปนั่งตักแฟนมัน
คนรอบๆที่ลุ้นเหตุการณ์อยู่ สตั๊น ทำหน้าเหวอๆ ปนงงนิดๆ เมื่อกี้เมิงยังจะฆ่ากันอยู่ไม่ใช่หรอ มันก็กอดคุยงุ้งงิ้งแต่เสียงดัง ทั้งน้องเอ และน้องมั่น ทำเหมือนมันอยู่กันแค่2คนบนโลก ขบวนรถไฟขบวนนี้ีมีแต่เราสองคน ถุ้ย !
สักเวลา5 โมงเย็น น้องทั้ง2คนก็หายไป เราก็เขยิบๆ ไปนั่งริมหน้าต่าง ละก็มีประพิการ มานั่งข้างๆเรา ซึ่งดูแล้วไม่ได้พิการจริง เกือบๆ6โมงเย็น น้องซีขนข้าวขนของกลับมา ละบอกให้ป้าลุก (เราใส่หูฟังข้างเดียวละตอนนี้) ป้าก็ถามว่าที่นั่งน้องซีอยู่ตรงไหน น้องซีบอกริมหน้าต่าง ป้าก็ชี้มาทางเรา ว่าเราไม่ยอมลุก แต่ตอนนั้นน้องซี เดินไปตามตำรวจรถไฟพอดี ตำรวจรถไฟ ก็บอกให้เราลุก เราก็บอกอ๋อ ที่นั่งหนูอยู่ตรงป้าเค้าอะคะ
ตำรวจรถไฟบอกให้ป้าลุก ป้าบอกลุกแล้วจะไปนั่งไหน พิการนะ (ซึ่งทุกคนเห็นหมดว่าป้าเดินตัวปลิว ยกขาข้ามเด็กข้ามของได้สบาย แค่มีไม้ค้ำขาก็พิการได้ละ) เหมาะกับที่พี่ผช.ลุกไปเข้าห้องน้ำพอดี ป้าก็เลยไปนั่ง ละก็คุยกับน้องซี เรื่องตั๊ว ซึ่งบีไม่ได้ฟังอะไรมากแต่ได้ยินประโยคท้ายๆว่า ที่น้องซีพูดนะคะ ประมาณว่า อ๋อหนูไม่โง่ หนูรับผิดชอบตัวเองได้ หนูไม่โง่
ป้าสตั๊น ละก็หัวเราะ ละก็เปลี่ยนไปเรื่องอื่น พี่ผช.กลับมาก็บอกว่าไม่เป็นรัย เดวก็ถึงแล้ว ลงรังสิตซึ่งอีกไกลอะ น้องซีก็ถามว่าพี่ไม่เข้ามานั่งละที่พี่นิ เข้ามาๆ ป้านั่งได้ประมาณครึ่ง.ชม. คงทนแรกกดดันไม่ไหว ไม่มีใครคุยด้วย เลยลุก ละพี่ผช.ก็กลับมานั่งที่เดิม
แล้วพี่ผช.ก็ถามน้องซีว่า ไปรู้จักกับ2คนนั้นได้ยังไง น้องซีบอกว่า เห็นน้องเอมันยืนขอตั๊วตัวสั่นอยู่ เลยเอาผ้าห่มไปให้ ละมันก็เดินตามน้องซีมา แล้วก็สลับกันนั่ง เพราะน้องเอได้ตั๊วยืน (แต่ที่เห็นน้องเอไม่เคยลุกให้น้องซีนั่งเลยนะ)
ละน้องซีก็หันมาบอกว่า เออพี่ หนูลืมบอกพี่ไป ว่าเด็กนั่น มีเหาด้วยนะ
เชี้ยแล้วไง แล้วที่มันสะบัดผม ปายางมัดผม ละเบียดๆมานั่งตักแฟนมัน ตูจะติดป้ะเนี่ย
แล้วเราก็ถึงรังสิต มุมดีๆก็มี แฟนเราคุยเก่ง ก็คุยแม่มตั้งแต่เชียงใหม่ยันรังสิต คนเชียงใหม่ก็ให้เบอร์มา เดวจะส่งพวกเครื่องปรุงสำหรับทำลาบแบบเหนือมาให้ ตอนลงรถไฟก็สวัสดี อวยพงอวยพรกัน
เป็นการนั่งรถไฟที่สนุกจริงๆ ถ้าคนในตู้ที่4 นั่งแถวๆนั้นได้มาอ่าน แล้วมีอะไรที่เราลืมเติมไปเพราะจำได้ไม่หมด ก็อธิบายเพิ่มด้วยก็ดีคะ
แต่ได้กลับมาใช้บริการรฟท.อีกแน่คะ แต่คราวนี้ลงใต้ อาจจะเพิ่มเงินซื้อตั๊วเอา เพราะไม่อยากเจออะไรแบบนี้อีก กลัวตัวเองไปร่วมแจมกับเค้า ●0● ใครมีประสบการณ์อะไรบนรถไฟ ก็มาเล่าได้นะคะ แต่เพิ่งเจออะไรแบบนี้ครั้งแรกจริงๆ
แล้วก็อยากฝากคุณพ่อคุณแม่ เวลามีลูก ต้องอบรมสั่งสองให้ดีกว่านี้ ไม่มีใครดีทุกอย่าง แต่เรื่องมารยาทสังคมส่วนรวม เรื้องพื้นฐาน มันควรจะซึมซับตั้งแต่เด็กว่าอะไรควร อะไรไม่ควร
เห็นมาเยอะคะ เวลาไปฟาสฟูดส์ แล้วเห็นพ่อแม่นั่งกดมือถือปล่อยให้เด็กวิ่ง กรี๊ดๆๆ บนรถไฟก็เช่นกัน พ่อแม่แบบนี้คิดอะไรอยู่
นั่งรถไฟฟรี ครั้งนี้ สนุกดีนะ ทำให้รู้ว่าเด็กแบบนี้็มีด้วย
แท็กห้องผิดพลาดประการใดบอกด้วยนะคะ
คือ เรื่องมันมีอยู่ว่า เรานั่งรถไฟ ครั้งนี้ เป็นครั้งที่3คะ 2ครั้งแรกไม่มีเหตุการณ์อะไรน่าจดจำ วันนั้นกำหนดกลับจากเชียงใหม่ วันที่4 มกราคม ขบวนที่ 4 ตอน6.30 เราไปจองรอบกลับตั้งวันที่1 บอกกับพนักงานรถไฟว่า ขอตั๊วกลับ แบบนั่งติดหน้าต่าง ทั้ง2คน พนักงานก็บอกครับๆ แต่พอมาวันจริง แม่มนั่งหันหลังให้กัน แถมติดทางเดินอีกต่างหาก ( พนักงานไม่รู้หรือกวนติงคะ)
รอบไปวันที่30 ก็ได้เจอน้องคนนึง เรียนอยู่ม.รังสิต (น้องเค้าบอกมานะ) ขากลับก็ได้เจอกันอีก โลกกลม ก็คุยกันตามปกติ ว่าไปเที่ยวไหนมา แหกโค้งที่ไหนมาบ้าง โดนปรับไปเท่าไหร่
ระหว่างที่คุยก็มีเด็กผช.กับเด็กผญ. ร่วมแจมด้วยตลอด ขอตั้งชื่อเด็กผช.ว่า A ละกัน ส่วนน้องผญ.ชื่อน้องมั่น ส่วนน้องที่เรียนม.รังสิต ชื่อน้องซี และบี คือเรา
ก็อย่างที่บอก พนักงานตั๊วรถไฟออกตั๊วให้บีกะแฟนนั่งหันหลังชนกัน เลข68กะ64 แต่ตอนนั้นบีง่วงไม่มีที่ซบเจ้าของที่ฝั่งตรงข้ามยังไม่มา บีเลยเรียกให้แฟนบีมานั่งก่อน ส่วนที่ของแฟน ให้น้องมั่นนั่งไป พอถึงสถานีเด่นชัย เจ้าของที่มา บีก็เลยกลับไปนั่งหมายเลข64 ส่วนแฟนบียืน น้องมั่นก็ยังคงนั่งต่อไปแบบไม่รู้ไม่ชี้ บีก็เลยบอกให้แฟนมานั่งที่บีแล้วเอาตั๊วมา ละบีก็ไปสะกิดน้องมั่น ว่าขอที่นั่งคืน น้องมั่นก็ทำหน้าเหวี่ยงนิดนึง น้องซีก็พูดขึ้นมาว่า เจ้าของที่เค้ามาแล้ว ลุกสิ น้องมั่นก็ลุกแบบไม่เต็มใจ
บีก็นั่งของบีไปซักพักหลับได้สักงีบ ถึงสถานีอะไรไม่รู้ เจ้าของที่ฝัางตรงข้ามบีมา ซึ่งน้องซีต้องลุก แต่น้องที่นั่งที่ของน้องซี ก็ไม่มีท่าทีว่าจะลุกคืนที่นั่ง แล้วบีก็หลับต่อไปได้สักพัก น้องมั่นเดินกลับมา แล้วก็มาแว้ดๆๆๆๆข้ามหัวบี ด่าน้องเอ ที่นั่งอยู่ข้างๆบีว่า "ไม่ต้องมาแกล้งหลับเลยนะ กูรู้นะ ว่าอยากนั่งใกล้สาว ไม่ต้องมาแกล้งหลับเลยนะ"
ตอนนั้นบีเริ่มตื่นละ เริ่มหงุดหงิด น้องมั่นก็ยังใส่แฟนต่อไป น้องก็เลยพูดห้ามว่า"ให้หยุด อย่างง้องแง้งว่ะ ตัวเองไม่ได้ขอตั๊วมา ตัวเองมากับครัวรถไฟ แล้วจะมางอแงทำไม " น้องเอก็บอกว่าเออใช่ๆ จะมาเสียงดังทำไม (คิดในใจละทำไมไม่ลุกที่คืนให้น้องซีว้ะ) น้องมั่นเริ่มหน้าเสีย เริ่มด่าหยาบๆคายๆขึ้น น้องซีทนไม่ไหว ด่ารัวกว่า ที่บีจำได้ก็มีประมาณว่า เรียนจบอะไรมา เรียนไม่จบม.3ใช่มั้ย เดวส่งต่อให้เรียนต่อมั้ย จะได้ฉลาดขึ้น แล้วน้องมั่นก็ต้อบกลับไปว่า ไม่เอา ไม่เรียน ขี้เกียจ น้องซีเลยตอกกลับว่า อ๋อ เพราะแบบนี้สินะรอยหยักในสมองถึงไม่ค่อยมี ละไม่เรียนแบบนี้ จะไปเป็นหรอ อยากเป็นมั้ย เดวพาไป สนามหลวง เดวพาไปยืนขายhee - ถามจริงผ่านมากี่ผัวละ
บีก็หันไปมองน้องมั่นพอดี กับที่น้องมั่นพูดว่า เออกูอยากเป็น พากูไปสิ ละก็ทำท่าจะถอดเสื้อ ซึ่งมันเห็นเสื้อในละหน้าอกพอดี บีก็เลยรีบหันกลับมามองที่พื้นต่อ รู้สึกรับไม่ได้ รู้สึกไม่ฟรุ้งฟริ้ง เมิงเอาอะไรมาให้กูดู-_-/// คนที่นั่งอยู่รอบๆข้างก็มองหน้าบีแบบว่า จะไปร่วมแจมกับเค้ามั้ย จะทนได้หรือป่าว อะไรประมาณนี้
บีก็เริ่มจะทนไม่ไหว จะให้แฟนมานั่งตรงนี้ ก็คิดว่าแฟนบีต้องด่าเละแน่นอน เลยต้องนั่งทนต่อ
ตัดมาที่น้องมั่น กะน้องซีต่อ น้องมั่นเปิดประเด็นใหม่ ประมาณว่า อย่าคิดว่ากูไม่รู้นะ ว่า2คนทำไรกันมาอะ อยากได้ก็เอาไปเลย กูยกให้ บีหันไปมองน้องเอ ซึ่งแกล้งตายอยู่ โห่ว หล่อวัวตายควายล้มเลยนะเมิง ควรจะถ่ายวิดีโอคลิปไว้นะ ว่ามีผญ.2คนทะเลาะกันเพราะเมิงอะ อนาคตคงไม่มีอีกแล้วละ น้องซีก็ทำหน้าเหวอนิดนึง ประมาณว่าน้องมั่นคิดเรื่องแบบนี้ได้ไง น้องซีก็บอกว่าเออ กูไปซั่มกันมาละ ได้ไป3น้ำ ทีนี้พอใจยัง กลับไปครัวรถไฟได้ละ น้องมั่นก็บอกว่า เออเอาไปเลย อยากได้กูยกให้
น้องซีก็เลยพูดมา ไม่ไปกูไปเอง ละก็เดินไปขบวนหน้า น้องมั่นก็เงียบ สักพักน้องเอก็ตัดสินใจออกไปตู้หน้า เพื่อไปดูน้องซี อีน้องมั่นก็ตามไปอีก น้องซีก็เดินร้องไห้กลับมา (ร้องทำไมว้ะ) ขนข้าวของ น้องเอก็เดินตามมาติดๆ น้องซีก็รัวตามๆมา น้องเอกลับมานั่งที่เดิม ตอนนั้นบีใส่หูฟังละ น้องมั่นยืนห่างออกไป ดึงยางมัดผมออก ปาลงพื้น แล้วก็พูดอะไรไม่รู้ หลับตาพูด เห็นแต่ตาขาว กลั่นน้ำตาออกมา ได้ประมาณสัก5นาที ยัง... ยังคงมั่นหน้าต่อไป บีนั่งติดทางเดิน น้องเอนั่งติดหน้าต่าง น้องมั่นเดินผ่านหน้าบีไป พยายามจะเหยียบเท้าบี แต่ขอโทษ ไม่ได้-กูหรอก ละก็ผ่านบีไป เข้าไปนั่งตักแฟนมัน
คนรอบๆที่ลุ้นเหตุการณ์อยู่ สตั๊น ทำหน้าเหวอๆ ปนงงนิดๆ เมื่อกี้เมิงยังจะฆ่ากันอยู่ไม่ใช่หรอ มันก็กอดคุยงุ้งงิ้งแต่เสียงดัง ทั้งน้องเอ และน้องมั่น ทำเหมือนมันอยู่กันแค่2คนบนโลก ขบวนรถไฟขบวนนี้ีมีแต่เราสองคน ถุ้ย !
สักเวลา5 โมงเย็น น้องทั้ง2คนก็หายไป เราก็เขยิบๆ ไปนั่งริมหน้าต่าง ละก็มีประพิการ มานั่งข้างๆเรา ซึ่งดูแล้วไม่ได้พิการจริง เกือบๆ6โมงเย็น น้องซีขนข้าวขนของกลับมา ละบอกให้ป้าลุก (เราใส่หูฟังข้างเดียวละตอนนี้) ป้าก็ถามว่าที่นั่งน้องซีอยู่ตรงไหน น้องซีบอกริมหน้าต่าง ป้าก็ชี้มาทางเรา ว่าเราไม่ยอมลุก แต่ตอนนั้นน้องซี เดินไปตามตำรวจรถไฟพอดี ตำรวจรถไฟ ก็บอกให้เราลุก เราก็บอกอ๋อ ที่นั่งหนูอยู่ตรงป้าเค้าอะคะ
ตำรวจรถไฟบอกให้ป้าลุก ป้าบอกลุกแล้วจะไปนั่งไหน พิการนะ (ซึ่งทุกคนเห็นหมดว่าป้าเดินตัวปลิว ยกขาข้ามเด็กข้ามของได้สบาย แค่มีไม้ค้ำขาก็พิการได้ละ) เหมาะกับที่พี่ผช.ลุกไปเข้าห้องน้ำพอดี ป้าก็เลยไปนั่ง ละก็คุยกับน้องซี เรื่องตั๊ว ซึ่งบีไม่ได้ฟังอะไรมากแต่ได้ยินประโยคท้ายๆว่า ที่น้องซีพูดนะคะ ประมาณว่า อ๋อหนูไม่โง่ หนูรับผิดชอบตัวเองได้ หนูไม่โง่
ป้าสตั๊น ละก็หัวเราะ ละก็เปลี่ยนไปเรื่องอื่น พี่ผช.กลับมาก็บอกว่าไม่เป็นรัย เดวก็ถึงแล้ว ลงรังสิตซึ่งอีกไกลอะ น้องซีก็ถามว่าพี่ไม่เข้ามานั่งละที่พี่นิ เข้ามาๆ ป้านั่งได้ประมาณครึ่ง.ชม. คงทนแรกกดดันไม่ไหว ไม่มีใครคุยด้วย เลยลุก ละพี่ผช.ก็กลับมานั่งที่เดิม
แล้วพี่ผช.ก็ถามน้องซีว่า ไปรู้จักกับ2คนนั้นได้ยังไง น้องซีบอกว่า เห็นน้องเอมันยืนขอตั๊วตัวสั่นอยู่ เลยเอาผ้าห่มไปให้ ละมันก็เดินตามน้องซีมา แล้วก็สลับกันนั่ง เพราะน้องเอได้ตั๊วยืน (แต่ที่เห็นน้องเอไม่เคยลุกให้น้องซีนั่งเลยนะ)
ละน้องซีก็หันมาบอกว่า เออพี่ หนูลืมบอกพี่ไป ว่าเด็กนั่น มีเหาด้วยนะ
เชี้ยแล้วไง แล้วที่มันสะบัดผม ปายางมัดผม ละเบียดๆมานั่งตักแฟนมัน ตูจะติดป้ะเนี่ย
แล้วเราก็ถึงรังสิต มุมดีๆก็มี แฟนเราคุยเก่ง ก็คุยแม่มตั้งแต่เชียงใหม่ยันรังสิต คนเชียงใหม่ก็ให้เบอร์มา เดวจะส่งพวกเครื่องปรุงสำหรับทำลาบแบบเหนือมาให้ ตอนลงรถไฟก็สวัสดี อวยพงอวยพรกัน
เป็นการนั่งรถไฟที่สนุกจริงๆ ถ้าคนในตู้ที่4 นั่งแถวๆนั้นได้มาอ่าน แล้วมีอะไรที่เราลืมเติมไปเพราะจำได้ไม่หมด ก็อธิบายเพิ่มด้วยก็ดีคะ
แต่ได้กลับมาใช้บริการรฟท.อีกแน่คะ แต่คราวนี้ลงใต้ อาจจะเพิ่มเงินซื้อตั๊วเอา เพราะไม่อยากเจออะไรแบบนี้อีก กลัวตัวเองไปร่วมแจมกับเค้า ●0● ใครมีประสบการณ์อะไรบนรถไฟ ก็มาเล่าได้นะคะ แต่เพิ่งเจออะไรแบบนี้ครั้งแรกจริงๆ
แล้วก็อยากฝากคุณพ่อคุณแม่ เวลามีลูก ต้องอบรมสั่งสองให้ดีกว่านี้ ไม่มีใครดีทุกอย่าง แต่เรื่องมารยาทสังคมส่วนรวม เรื้องพื้นฐาน มันควรจะซึมซับตั้งแต่เด็กว่าอะไรควร อะไรไม่ควร
เห็นมาเยอะคะ เวลาไปฟาสฟูดส์ แล้วเห็นพ่อแม่นั่งกดมือถือปล่อยให้เด็กวิ่ง กรี๊ดๆๆ บนรถไฟก็เช่นกัน พ่อแม่แบบนี้คิดอะไรอยู่