-- ตามปกติ ทริปปีใหม่สำหรับผมนั้น จะต้องจองที่พักกัน ตั้งแต่สักกันยายน ครับ แต่ปีนี้ ด้วยเหตุการณ์หลายๆอย่าง เลยทำให้จองที่พักค่อนข้างช้า เป็นที่มาของการขับรถโหดๆในวันกลับนี่แหละ
-- เหมือนเดิมครับ concept เดิมคือ ขอ เงียบๆ สงบๆ คนน้อยๆ จะไปไหนบ้างตามมาเลยครับ
31 ธันวาคม 2015 … ล้อหมุน พาเที่ยวแพร่กัน
-- อันที่จริง ลาได้ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม แล้วล่ะ เพราะมาทำงาน ก็เหมือนมานั่งเฝ้าโต๊ะเก้าอี้ล่ะครับ แต่ผมจองที่พักไว้หมดแล้ว ถ้าจะเพิ่มวันที่ 30 ก็วุ่นวายในการหาที่พักอีก รวมถึง ไม่แน่ใจว่า รถจะติดไหม ? ดังนั้น ตาม Plan เดิมนั่นแหละดีแล้ว
-- ตอนหัวค่ำ มีลุ้นเล็กน้อย เพราะใน FB สวพ.91 แจ้งว่า รถติด รถมาก แต่เปิดดูกล้องตามจุดต่างๆบนถนนเส้นนี้ ก็ไม่ติดแฮะ
-- ล้อหมุนจริงๆ ประมาณเที่ยงคืน เข้าเช้าวันที่ 31 แหละ จาก นิคม 304 เข้าตัวเมืองปราจีน – นครนายก วิ่งตามถนนหลวงหมายเลข 33 ออกพหลโยธิน (หมายเลข 1) สักราวๆตี 2 รถฝั่งขาออกเยอะมากครับ ติดยาวเลยล่ะ แต่ผมสบายๆเพราะย้อนทางชาวบ้าน มุ่งหน้าต่างระดับบางปะอินครับ
-- การวิ่งเข้าสู่ถนนหมายเลข 117 นครสวรรค์ – พิจิตร – พิษณุโลก รอบนี้สบายหน่อย เพราะบายพาสเสร็จเรียบร้อยครับ เส้นทางไม่มีอะไรมาก ก็ออกบายพาสเดิมตามปกติแหละ (หมายเลข 122) เดี๋ยวมีป้าย พิจิตร – พิษณุโลก ให้ชิดขวาขึ้นสะพานไปครับ วิ่งโล่งโปร่งสบายครับ
-- รวมถึง ถนนหมายเลข 117 สภาพค่อนข้างดี ระดับ 80% เลยล่ะ ขับสบาย จะมีช่วงแถวพิจิตร ใกล้พิษณุโลก ที่มีเสียบ้าง แต่ถ้าวิ่งขวาตลอด ก็ไม่มีอะไรครับ
-- ระหว่างทาง เจอ Accord ใหม่เอี่ยม คันนึง วิ่งขวา ด้วยอาการแปลกๆ ขับๆเดี๋ยวก็เซซ้าย เดี๋ยวก็เซขวา อยู่ๆก็เบรค มองข้างหน้าแล้ว โล่งเลย … เข้าใจว่า น่าจะหลับใน หรือ เมา นะครับ … เจอแบบนี้ไม่ต้องคิดมากครับ แซงยาวๆ แซงหายไปเลย ครับ ไม่งั้นเดี๋ยวมีลูกหลง
-- ผมถึง ขนส่ง อุตรดิตถ์ ตอน 6.30 น.พอดี ส่งผู้โดยสาร 2 คนเรียบร้อย ก็วกออกมาที่ปั๊ม ปตท. แล้วก็ดับเครื่อง / เปิดกันขโมย / ปรับเบาะนอน แล้วก็ยาวครับ ฟื้นอีกที ตอน 8.00 น. ตอนที่มีแสงมาแยงตานั่นแหละ ... อุณหภูมิ ณ ตอนนั้น 21 องศาครับ เย็นใช้ได้เลย
-- หามื้อเช้าใน 7-11 นี่แหละ จัดการเรียบร้อย ก็ไปเที่ยวกันเลยครับ …
วัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรี (วัดที่หนึ่ง)
-- เส้นทางมาไม่ยากครับ ถึงสามแยกเด่นชัยแล้วก็เลี้ยวซ้ายมาทางลำปางครับ ขับรถมาสัก 5 – 6 กม. จะเห็นพระนอนองค์ใหญ่เลย เลี้ยวเข้าไปจอดได้ครับ ที่จอดรถกว้างขวางสะดวกสบาย
จากนั้น ออกจากวัดมา ก็เลี้ยวขวา เข้าไปเที่ยวตัวเมืองแพร่ กันครับ
วัดพระบาทมิ่งเมือง (วัดที่สอง)
-- เส้นทางไม่ยากเลยครับ ขับตามถนนหมายเลข 101 (ออกจากวัดพระธาตุสุโทนแล้ว เลี้ยวขวา) พอเข้าเขตตัวเมือง มีป้ายบอกชัดเจนครับ (เป็นอีกจังหวัด ที่ป้ายบอกแหล่งท่องเที่ยว ชัดเจนดีมาก ไม่ต้องกลัวหลง)
-- ที่จอดรถ จะจอดไปรษณีย์ฝั่งตรงข้ามก็ได้ หรือ เลี้ยวซ้ายไป ก็สามารถจอดริมถนนได้ครับ เพราะภายในตัววัดคับแคบสักหน่อย
คุ้มเจ้าหลวง
-- จากวัดพระบาทมิ่งเมือง เลี้ยวซ้ายไปครับ หรือจะจอดรถไว้แถววัดพระบาทมิ่งเมือง แล้วเดินก็ได้ครับ นิดเดียว ไม่กี่ร้อยเมตรครับ
-- คุ้มเจ้าหลวง สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 เพื่อเป็นที่พำนักของท่านผู้ครองเมืองแพร่ ครับ อีกทั้งด้านล่างยังเป็นคุกเพื่อควบคุมผู้กระทำผิดอีกด้วยครับ
-- แค่เดินเข้าเขตพื้นที่ของคุ้มเจ้าหลวง ก็จะเริ่มรู้สึก มีลมเอื่อยๆ เย็นยะเยือก ตามด้วยความวังเวง ยังไงชอบกล ยิ่งเดินเข้าไปในตัวอาคารด้วยแล้ว บอกไม่ถูกแฮะ
-- ชมด้านบนแล้ว มาชมด้านล่างกันต่อ ด้านล่างเป็นคุก ที่ใช้คุมขัง ทรมาน เหล่านักโทษที่กระทำผิดนะครับ
-- ยิ่งลงมาด้านล่าง ยิ่งไปกันใหญ่ เดินได้แป้บเดียว บ๊ายบาย ดีกว่าครับ
[CR] ***New Year Trip … แพร่ / พะเยา / เชียงราย / ดอยช้าง เอ๊ะ มีอะไรดี ? ***
-- เหมือนเดิมครับ concept เดิมคือ ขอ เงียบๆ สงบๆ คนน้อยๆ จะไปไหนบ้างตามมาเลยครับ
31 ธันวาคม 2015 … ล้อหมุน พาเที่ยวแพร่กัน
-- อันที่จริง ลาได้ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม แล้วล่ะ เพราะมาทำงาน ก็เหมือนมานั่งเฝ้าโต๊ะเก้าอี้ล่ะครับ แต่ผมจองที่พักไว้หมดแล้ว ถ้าจะเพิ่มวันที่ 30 ก็วุ่นวายในการหาที่พักอีก รวมถึง ไม่แน่ใจว่า รถจะติดไหม ? ดังนั้น ตาม Plan เดิมนั่นแหละดีแล้ว
-- ตอนหัวค่ำ มีลุ้นเล็กน้อย เพราะใน FB สวพ.91 แจ้งว่า รถติด รถมาก แต่เปิดดูกล้องตามจุดต่างๆบนถนนเส้นนี้ ก็ไม่ติดแฮะ
-- ล้อหมุนจริงๆ ประมาณเที่ยงคืน เข้าเช้าวันที่ 31 แหละ จาก นิคม 304 เข้าตัวเมืองปราจีน – นครนายก วิ่งตามถนนหลวงหมายเลข 33 ออกพหลโยธิน (หมายเลข 1) สักราวๆตี 2 รถฝั่งขาออกเยอะมากครับ ติดยาวเลยล่ะ แต่ผมสบายๆเพราะย้อนทางชาวบ้าน มุ่งหน้าต่างระดับบางปะอินครับ
-- การวิ่งเข้าสู่ถนนหมายเลข 117 นครสวรรค์ – พิจิตร – พิษณุโลก รอบนี้สบายหน่อย เพราะบายพาสเสร็จเรียบร้อยครับ เส้นทางไม่มีอะไรมาก ก็ออกบายพาสเดิมตามปกติแหละ (หมายเลข 122) เดี๋ยวมีป้าย พิจิตร – พิษณุโลก ให้ชิดขวาขึ้นสะพานไปครับ วิ่งโล่งโปร่งสบายครับ
-- รวมถึง ถนนหมายเลข 117 สภาพค่อนข้างดี ระดับ 80% เลยล่ะ ขับสบาย จะมีช่วงแถวพิจิตร ใกล้พิษณุโลก ที่มีเสียบ้าง แต่ถ้าวิ่งขวาตลอด ก็ไม่มีอะไรครับ
-- ระหว่างทาง เจอ Accord ใหม่เอี่ยม คันนึง วิ่งขวา ด้วยอาการแปลกๆ ขับๆเดี๋ยวก็เซซ้าย เดี๋ยวก็เซขวา อยู่ๆก็เบรค มองข้างหน้าแล้ว โล่งเลย … เข้าใจว่า น่าจะหลับใน หรือ เมา นะครับ … เจอแบบนี้ไม่ต้องคิดมากครับ แซงยาวๆ แซงหายไปเลย ครับ ไม่งั้นเดี๋ยวมีลูกหลง
-- ผมถึง ขนส่ง อุตรดิตถ์ ตอน 6.30 น.พอดี ส่งผู้โดยสาร 2 คนเรียบร้อย ก็วกออกมาที่ปั๊ม ปตท. แล้วก็ดับเครื่อง / เปิดกันขโมย / ปรับเบาะนอน แล้วก็ยาวครับ ฟื้นอีกที ตอน 8.00 น. ตอนที่มีแสงมาแยงตานั่นแหละ ... อุณหภูมิ ณ ตอนนั้น 21 องศาครับ เย็นใช้ได้เลย
-- หามื้อเช้าใน 7-11 นี่แหละ จัดการเรียบร้อย ก็ไปเที่ยวกันเลยครับ …
วัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรี (วัดที่หนึ่ง)
-- เส้นทางมาไม่ยากครับ ถึงสามแยกเด่นชัยแล้วก็เลี้ยวซ้ายมาทางลำปางครับ ขับรถมาสัก 5 – 6 กม. จะเห็นพระนอนองค์ใหญ่เลย เลี้ยวเข้าไปจอดได้ครับ ที่จอดรถกว้างขวางสะดวกสบาย
จากนั้น ออกจากวัดมา ก็เลี้ยวขวา เข้าไปเที่ยวตัวเมืองแพร่ กันครับ
วัดพระบาทมิ่งเมือง (วัดที่สอง)
-- เส้นทางไม่ยากเลยครับ ขับตามถนนหมายเลข 101 (ออกจากวัดพระธาตุสุโทนแล้ว เลี้ยวขวา) พอเข้าเขตตัวเมือง มีป้ายบอกชัดเจนครับ (เป็นอีกจังหวัด ที่ป้ายบอกแหล่งท่องเที่ยว ชัดเจนดีมาก ไม่ต้องกลัวหลง)
-- ที่จอดรถ จะจอดไปรษณีย์ฝั่งตรงข้ามก็ได้ หรือ เลี้ยวซ้ายไป ก็สามารถจอดริมถนนได้ครับ เพราะภายในตัววัดคับแคบสักหน่อย
คุ้มเจ้าหลวง
-- จากวัดพระบาทมิ่งเมือง เลี้ยวซ้ายไปครับ หรือจะจอดรถไว้แถววัดพระบาทมิ่งเมือง แล้วเดินก็ได้ครับ นิดเดียว ไม่กี่ร้อยเมตรครับ
-- คุ้มเจ้าหลวง สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 เพื่อเป็นที่พำนักของท่านผู้ครองเมืองแพร่ ครับ อีกทั้งด้านล่างยังเป็นคุกเพื่อควบคุมผู้กระทำผิดอีกด้วยครับ
-- แค่เดินเข้าเขตพื้นที่ของคุ้มเจ้าหลวง ก็จะเริ่มรู้สึก มีลมเอื่อยๆ เย็นยะเยือก ตามด้วยความวังเวง ยังไงชอบกล ยิ่งเดินเข้าไปในตัวอาคารด้วยแล้ว บอกไม่ถูกแฮะ
-- ชมด้านบนแล้ว มาชมด้านล่างกันต่อ ด้านล่างเป็นคุก ที่ใช้คุมขัง ทรมาน เหล่านักโทษที่กระทำผิดนะครับ
-- ยิ่งลงมาด้านล่าง ยิ่งไปกันใหญ่ เดินได้แป้บเดียว บ๊ายบาย ดีกว่าครับ