รีวิวหนัง : Snap ภาพถ่าย บทเพลง และ หนังสือรุ่น



ความทรงจำร่วมของคน Gen Y (พ.ศ. 2523 – 2537) ในไทย นอกจากเราจะเกิดทันมองเห็นสิ่งต่างๆเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยอาทิ โทรศัพท์บ้าน เป็น มือถือ , โทรเลข เป็น อีเมล์ , เทป เป็น ซีดี , วีดีโอ เป็น ดีวีดี ได้เล่นของเล่นอย่าง ดีดลูกแก้ว โดดหนังยาง เขี่ยไพ่ เรียนแบบเรียน มานะมานี สิ่งหนึ่งที่พวกเราได้ผ่านมาด้วยกันโดยอาจรู้หรือไม่รู้ตัวก็คือ การรัฐประหารถึง3ครั้งในช่วงชีวิตของเรา (ไม่แน่ว่าจะมีเพิ่มไหม)

รัฐประหาร 2534 อาจไม่มีผลกับชีวิตคนรุ่นเราเท่าไหร่ หลายคนยังเป็นเด็กน้อย แต่ รัฐประหาร 2549 กับ 2557 กระทบกับวิถีชีวิตทุกคน มากบ้างน้อยบ้าง ในปี2549 ส่วนใหญ่คน Gen Y ยังอยู่ในวัยเรียน ขณะที่ 2557 หลายคนอยู่ในวัยทำงานแล้ว ตอนนั้นคุณกำลังทำอะไร อยู่ที่ไหน กับใคร Snap หรือชื่อไทย แค่ ได้คิดถึง ภาพยนตร์รักของ คงเดช จาตุรันต์รัศมี นำสิ่งเหล่านี้มาบอกเล่าผ่านตัวละครกลุ่มหนึ่งซึ่งกลับมารวมตัวกันที่โรงเรียนในจังหวัดจันทบุรีอันเงียบสงบกับงานแต่งงานของเพื่อนร่วมรุ่น โดยเป็นวันเดียวกับการทำรัฐประหารครั้งล่าสุด

ผึ้ง สาวสวยลูกคุณหนู ได้กลับมาพบกับเพื่อนเก่า บอย ช่างภาพหนุ่มสุดติสต์ อีกครั้ง หลังเวลาผ่านไปนาน8ปี เธอกับเขาเป็น2คนที่ไม่มีภาพในหนังสือรุ่น บรรยากาศเก่าๆทำให้ทั้งคู่คิดถึงความหลังสมัยเรียน ทั้ง ผึ้ง และ บอย จึงถือโอกาสสะสางความสัมพันธ์ซึ่งตกค้างอยู่ในใจพวกเขามาเนิ่นนาน

บทหนังมีอารมณ์โรแมนติกปนถวิลหาอดีต ดำเนินเรื่องโดยมีการเมืองเป็นฉากหลังบางๆ ด้วยสัญลักษณ์อย่าง รูปทหารยศสูงๆในกรอบ รถทหาร หรือ ตัวละครแฟนของผึ้งที่เป็นทหาร นอกจากนั้นยังเสียดสีการใช้สื่อโซเชี่ยลมีเดียของผู้คนในสังคมปัจจุบัน ทั้งการพฤติกรรมการโพสต์อินสตาแกรมของ ผึ้ง การติดมือถือของตัวละครบางคน และ การทะเลาะของเพื่อนในเฟซบุ้คเพราะอยู่คนละสี ขณะเดียวกันหนังก็ยังมีความร่วมสมัยในแง่ของการพูดถึงไอเท็มตกยุคที่กลับมาฮิตอีกรอบคือ กล้องฟิล์ม กับ จักรยาน

ส่วนตัวชอบที่หนังไม่ได้จับประเด็นสำนึกรักบ้านเกิดแบบจริงจัง แค่นำเสนอให้เห็นถึงคุณค่าของสิ่งต่างๆในสถานที่แห่งความทรงจำ และชื่นชมการใช้คำว่า นักการ แทน ภารโรง แต่เลือกที่จะใช้คำว่า บ้านนอก ที่บางคนเอาไว้เหยียดคนอื่น โดยสื่อความหมายของคำนี้ออกมาในทางอบอุ่นแทน สำหรับพาร์ทดราม่ารองเรื่องความไม่ลงรอยของคน2รุ่น(บอยกับพ่อ)ก็น่าสนใจมาก

อีกสิ่งที่โดดเด่นคือบทสนทนาในหนัง มันดูลื่นไหลมาก ตัวละครเพื่อนๆสร้างสีสันและทำให้คนดูเชื่อว่าพวกเขาเป็นเพื่อนกันจริงๆ ปีที่ผ่านมาน่าจะเป็นปีทองของ โทนี่ รากแก่น หนังทั้งสองเรื่องของเขา พี่ชาย My Hero กับ Snap เป็นผลงานภาพยนตร์ชั้นดีกับการแสดงอันยอดเยี่ยม หลังจากที่หนังเรื่องก่อนๆของเขาไม่ค่อยได้รับความนิยมเอาเสียเลย วรันธร เปานิล เน็ตไอดอลสาวดูเหมาะกับบท ผึ้ง สุดๆ เธอสะท้อนภาพสาวเจน Y ที่ชอบเพ้อฝันถึงชีวิตรักแบบในนิยายได้ใกล้เคียงกับผู้หญิงจำนวนมากในสังคมไทย

หนังเปรียบเทียบการลั่นชัตเตอร์ถ่ายภาพ กับ จังหวะชีวิต รวมถึงยังใช้ ภาพถ่าย มาเป็นเครื่องมือเตือนความจำ หรือ ยืนยันการมีตัวตนอยู่ของใครบางคน มุมกล้องแปลกใหม่ ภาพในหนังสีสวยด้วยโทนวินเทจ แนวคิดเพลงประจำตัวคู่รักลึกซึ้งมาก สอดคล้องกับบทเพลงประกอบเก่าๆในยุค90จากศิลปินอย่าง Armchair , Project H , POP , ญารินดา ที่ติดอยู่ในใจเราขนาดแค่ดนตรีขึ้น ความทรงจำในอดีตก็ผุดพรายเข้ามาในหัวไม่ขาดสาย ห้วงรอยต่อของเหตุการณ์ปฏิวัติ 2549 - 2557 หลายคน สูญเสียชีวิต สูญเสียทรัพย์สิน สูญเสียอิสรภาพ ทว่าตัวละครในหนังสูญเสียความรักไป

Snap คือผลงานที่ป็อปมากของ คงเดช มันเป็นภาพยนตร์รำลึกความหลังวัยเรียน ชีวิตม.ปลาย รักครั้งแรก อันงดงามแต่พร่าเลือน แม้ว่าเราจะไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงอะไรได้เลย กระนั้นบางความทรงจำ #แค่ได้คิดถึง ก็เป็นสุขใจ

คะแนน 8/10

โดย นกไซเบอร์

เครดิต https://www.facebook.com/cyberbirdmovie/

ตัวอย่างหนัง http://movie.bugaboo.tv/watch/215374/?link=4
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่