สวัสดีค่ะ หลังจากอ่านรีวิว บ้านป้าเกล็นมาเยอะ และได้โอกาสมาเที่ยวสักที บวกกับที่พักว่างพอดีด้วย เลยต้องจัดสักหน่อยค่ะ
วันที่ 1 มกราคม 2559
เริ่มเดินทางจากเขื่อนเขาแหลม เวลาประมาณ 9 โมงเช้า ถึงสภ.ปิล็อก ประมาณ 11โมง
นี่รูปทางขึ้น เลี้ยวคดโค้งมาก ใครเมารถ ก็กินยาไปก่อนโลด ระหว่างทางขึ้น มีจุดชมวิว 2 จุด เขาบอกว่ามีสัญญาณโทรศัพท์ด้วยนะ แต่ของเราไม่มี หรือโทรศัพท์เราคงไม่ดีเอง 555



พอถึง สภอ.ปิล็อก ก็จอดรถ ลงไปลงชื่อฝากรถ บนสถานีตำรวจ ตำรวจบริการดีมาก น่ารักค่ะ มีไวไฟฟรี ที่เสาหน้าสถานีตำรวจด้วยนะ


Package ที่เรามาเป็น 1600 ต่อวันต่อคน พัก 3 วัน 2 คืน
มาถึง ก็โทรหาคุณชาลี (ผู้จัดการของที่นี่มั้ง) พอดีเรามา วันที่ 1 มกราคม คนเลยเยอะ คุณชาลีเลยบอกให้กินข้าวข้างบนก่อนเข้าไป(อันนี้ฟรี) ถึงจะเป็นข้าวกล่อง แต่ก็อร่อยใช้ได้ค่ะ แล้วก็แถวนี้มีร้านกาแฟด้วยนะ


กินเสร็จ ก็เริ่มเดินทางเลยค่ะ ที่นี่จะมีรถบริการ 3 คัน เป็นรถที่มีหลังคา 1 คัน เป็นคันนี้ ส่วนอีก2คัน ไม่ได้ถ่ายค่ะ เพราะไม่เห็น 555 ทางก็สนุกอย่างที่เห็นค่ะ เด้งไปเด้งมาบนรถ สนุกดี แต่คนมีอายุก็ไม่ค่อยสนุก 555 ไปนั่งข้างคนขับได้ค่ะ

ในที่สุดก็มาถึงค่ะ คุณชาลีบอกว่า 5 กิโลเมตร แต่ใช้เวลาประมาณ 45 นาที แล้วแต่ว่าจะมีรถสวนเยอะไม๊ ถ้าสวนเยอะ ก็ช้า เพราะทางแคบมว๊าก ขรุขระมว๊าก นี่เป็นภาพแรกที่เห็นนะ มันก็เป็นแบบรีวิวอื่นๆค่ะ เลยไม่ได้ถ่ายไรมาก ส่วนทางบริเวณนี้ก็ขรุขระใช้ได้อ่ะ แต่ถ้าจะเดินเข้ามาสะดวกอยู่ค่ะ



พอดีตอนเรามา คุณชาลีไม่ได้เข้ามาด้วย แล้วคนขับก็ไม่รุว่าเราจะพักที่ไหน เราเลยได้ไปรออยู่ที่บ้านริมน้ำ ชื่อนี้เราตั้งเองนะ ก็มันอยู่ริมน้ำอ่ะ สรุปเราไม่ได้อยู่บ้านนี้ค่ะ เพราะมีคนจองไปแล้ววว ระหว่างรอก็มีนักท่องเที่ยว ที่ไม่ได้พักที่นี่ แวะเข้ามาดูบ้าน เข้าห้องน้ำด้วยนะ แต่คนที่เข้ามา ถ้าจะกินเค้ก ป้าเกล็นบอกว่า คนละ 100 บาทคะ ได้เค้ก บวก กาแฟ โอวันติน

อ่ะ ในที่สุดก็ได้ที่อยู่สักทีค่ะ เป็นบ้านที่อยู่ตรงข้ามโต๊ะอาหารอ่าแหละ จองไว้ 3 ห้องค่ะ นอนได้ห้องละ 4 คนแหนะ แถมเอาเต๊นท์มาอีก (เต๊นท์นี้เอามาเองนะ เขาบอกว่าไม่มีให้ครัช) จะได้นอนกินบรรยากาศอันหนาวเหน็บ หนาวโคตรค่ะ 5555 คือมันหนาวตั้งแต่เข้ามาอ่ะ แล้วยิ่งเย็น ก็ยิ่งหนาว เอารูปที่พักมาฝากค่ะ ส่วนใครห่วงเรื่องน้ำอุ่น มีนะคะ บางห้องเป็นน้ำร้อนจากแก๊ส ก็อาบได้ทั้งวัน แต่บางห้องเป็นเป็นน้ำอุ่นไฟฟ้า ก็ต้องรอให้ปั่นไฟก่อน
อ่อ อีกอย่าง ถ้าช่วงคนมาเยอะ ให้เตรียมผ้าขนหนูมาเองนะคะ เพราะบางที อาจจะซักไม่ทัน ตอนเราไป ไม่มีให้ซักผืนเลยค่ะ
สำหรับผ้าห่ม ถ้านอนเต๊นท์ก็เอาเผื่อไปหน่อยนะคะ ถุงนอนไรแบบนี้



ที่นี่ไม่มีไวไฟ ไม่มีสัญญาณอะไรทั้งสิ้นนะ แต่เขาบอกมีจุดหนึ่ง หลังวัดบริเวณกางเต๊นท์อีกจุดหนึ่ง AIS มีสัญญาณคะ แต่เราใช้ true ไม่มีอ่ะ หรือโทรศัพท์เราไม่ดี (อีกละ) ลองถามพนักงานดูได้คะ ว่าไปทางไหน


จริงๆมันมีทางไปต่ออีกนะคะ แต่เราขี้เกียจเดินแล้ว เห็นเขาบอกว่ามีน้ำตกอีก แล้วคนที่ไป ก็บอกว่ามีสัญญาณโทรศัพท์ 2 ขีด โทรได้ด้วย ดี๊ดีอ่ะ 5555 (แต่เด่วไปพรุ่งนี้แทนคะ เดี๋ยวค่อยเล่าเนอะ)
หลังจากนั้น เราก็กลับมานั่งเล่นที่บ้านป้าเกล็นค่ะ ตอนเรามา เตาอบป้าเสีย จะร้องอ่ะ T T แต่ก็มีเค้กที่ภรรยาคุณชาลีทำให้คะ คือถ่ายรูปไม่ทัน เพราะเห็นเค้กปุป ก็หันแบ่งกินเลย เสียดายอ่ะ อดกินเค้กป้าเกล็น
อาหารเย็น ป้าเกล็นจะเป็นคนจัดจาน ชาม ช้อนให้ตั้งแต่ 6 โมงเย็นเลยคะ แต่เสริฟอาหาร ประมาณ 1 ทุ่มค่ะ หิวมว๊ากกก
และก็เป็นเหมือนเดิมค่ะ ถ่ายรูปไม่ทัน 5555 อาหารวันนี้ก็มี
ปลาทับทิมทอด แต่มันทอดนานจนเหนียวละอ่ะ T T ผัดผัก อร่อยใช้ได้ ไข่เจียว และแกงจืดฟักแบบ refill
ที่สำคัญเลยค่ะ !! บาบิคิววววว เป็นซี่โครงหมู กับปีกไก่บนเล็กคะ อร่อยเยี่ยมไปเลย ไม่เสียแรงที่รอคอย 555
รอบแรก ถ่ายไม่ทันค่ะ เพราะมันหมดแล้ว 555 แต่รอบ 2 ทันค่ะ! ได้กินคนละ 2 ไม้ถ้วน
ระหว่างทาน ป้าเกล็นก็จะมาคอยคุยด้วยค่ะ จะถามว่าพรุ่งนี้จะทานอาหารเช้ากันกี่โมง ป้าจะได้ตื่นมาเตรียมให้ค่ะ

ไฟจะเริ่มมาตอน 6 โมงเย็น ถึง 3 ทุ่มค่ะ หลังจากนั้นจะปั่นไฟพลังงานน้ำถึงเช้าเลย แต่ถ้าชาทกันเยอะ ไฟก็จะตกคะ
วันที่ 2 มกราคม 2559
ตอนเช้าวันนี้ มีข้าวต้มไก่ฉีก ไข่ลวก ขนมปัง แยมต่างๆ เนย และไส้กรอกค่ะ แล้วที่สำคัญ!! มีเค้กค่ะ >< ในที่สุดก็ได้กิน!! มีเค้กแครอท เค้กชอกโกแลต และเค้กกล้วยน้ำว้า ถ่ายรูปตอนป้าเกล็นเทชอกโกแลตลงบนเค้กทันด้วย





ตอนทานอาหารเช้า ป้าเกล็นบอกว่า กินให้อิ่มๆนะ เพราะเดี๋ยวนั่งรถออกไป แล้วจะย่อยหมด ตอนนั้นเราก็ขำคะ คิดว่า แหมทางเข้า-ออก ก็ทางเดียวกัน ไม่มีปัญหาหรอก แต่ว่า....มันไม่เป็นอย่างงั้นอ่าดิ คือทางกลับออกไป มันเป็นทางขึ้น แล้วจะกระเด้งมากกก จนจะตกรถอ่ะ ใครคิดไม่ออก ต้องมาเองแล้วหละ 555
ขอชี้แจงรายละเอียดการนั่งค่ะ เป็น นั่งขวา 3 ซ้าย 3 คน มันก็สนุกนะ แต่มันก็ไม่ค่อยปลอดภัย ถ้าเป็นผู้ใหญ่ แนะนำให้นั่งข้าง หรือ cab หลังคนขับดีกว่า
พอผ่านทางสุดโหดขึ้นมาถึง เราก็มาเริ่มเที่ยวที่แรก ที่เนินช้างศึก ถนนลาดยาง แต่เลี้ยวคดโค้งอีกแล้ว ก็อดทนกันไปค่ะ แล้วก็มีรูปเนินช้างศึกมาโชว์



ที่เที่ยวที่ 2 คือ ช่องทางมิตรภาพค่ะ เจ้าหน้าที่บอกว่า เป็นทางผ่านท่อส่งแก๊สของ ptt จากพม่า มันจะมีทางลงไปชมวิวด้วย แต่ตอนเราไป มีคนเป็นลม เพราะเดินขึ้นมาไม่ไหว เจ้าหน้าที่ เลยบอกว่า “จะเดินลง คิดถึงตอนเดินขึ้นด้วยนะครับ” เราก็เลยตัดสินใจ ไม่เดินลง ฮี่ฮี่


ตอนกลางวันก็ไปทานที่ร้าน ครัวสุดแดน ตาม package แต่ถ้าเราจะทานเพิ่ม ก็สั่งเอง จ่ายตังเพิ่มเอง บริเวณร้านอาหารก็มี ร้านอื่นๆ มีที่พักอื่นๆ มีตลาด ของขายด้วย เล็กๆนะค่ะ ไม่ใหญ่อะไรมาก

ข้างหน้ามีร้านขายกาแฟค่ะ มีขาย มอคค่าเงาะ แปลกดีค่ะ เลยลอง หน้าตาเป็นแบบนี้

พอกินอิ่มก็เที่ยวต่อที่สุดท้าย ไปน้ำตกกัน!! ถ้าไปกับรถของเหมืองจะไม่เสียค่าบริการค่ารถ!นะคะ แต่ถ้าเอารถไปเอง ก็เสียค่าใช้จ่ายตามนี้เลยคะ ส่วนค่าเข้า ยังไงก็ต้องเสียอ่ะ

เดินเข้าไปจากที่จ่ายเงินไม่เกิน 10 นาที ก็เจอน้ำตกคร่า ถ่ายทางเดินกับระหว่างทางมาให้ดู ที่นีผู้สูงอายุเดินได้สบายๆจ่ะ น้ำใส เย็น เห็นตัวปลามาก แล้วตรงที่จอดรถ ก้มีห้องน้ำ ไว้เปลี่ยนเสื้อผ้าได้


ปล.ที่เที่ยวของเรา จะเป็นตาม package 3 วัน 2 คืน ก็เที่ยวตามนี้นะคะ แต่ละที่ก็ห่างกันนิดเดียว
เราไม่ได้เล่นน้ำค่ะ เพราะวางแผนว่าจะไปเดินเที่ยวแถวบ้านป้าเกล็นก่อนมืด มีคนบอกว่าแถวนี้มีน้ำตกอีกที่ค่ะ เดินไป-กลับประมาณ 2-3 ชั่วโมง ก็เลยว่าจะจัดสักหน่อย คนที่มาด้วย ก็มีแต่สายเดินเที่ยว สบายเลย
เราก็เริ่มเดินจากบ้านป้าเกล็นไปทางวัดนั้นแหละค่ะ แล้วก็เดินขึ้นเขาไปเรื่อยๆ พอดีป้าชวนคนแถวนี้ไปเป็นคนนำทาง เลยไม่กลัวหลง แต่จริงๆถ้าไปเองก็ได้ ก็เดินไปตามทางขึ้นเขาแหละ แล้วก็เดินไปเรื่อยๆๆๆๆๆๆๆ (จนถามตัวเองว่า นี่มันทางจริงไม๊ เราจะเดินต่อจริงหรอ เรามาทำอะไรที่นี่!) ไม่มีทางแยก พอถึงก็จะเห็นน้ำตกค่ะ เขาบอกว่าเป็นน้ำตกที่ประดิษฐ์ครึ่งนึง คือ เขาสร้างกำแพงกั้นน้ำไว้ เพื่อฉีดน้ำไปสกัดแร่ อะไรประมาณเนี้ย ถ้าใครขี้เกียจเดิน มีรูปมาโชว์ค่ะ แต่ถ้าไม่มีไรทำก็เดินเล่นเนอะ สนุกคะ อากาศดี เดินไปเม้าท์ไป อ้อ อย่าลืมถือน้ำไปสักขวด และใส่รองเท้าไม่แตะไปนะคะ เพราะตรงนี้เขาเรียก “ขาแปร” คือขาปกติ แปรเปลี่ยนไปเป็นขาที่ปวดสุดขีดค่ะ




หลังจากเดินอย่างเหน็ดเหนื่อย ก็กลับมาอาบน้ำ รอทานอาหารเย็น ตอน 6 โมงครึ่งค่ะ วันนี้มีปลาทับทิมทอด ไข่เจียว ผัดผัก และซุปแครอทแบบ refill  แน่นอนว่าไม่ได้ถ่าย มันไม่ทันจริงๆ 555
3 มกราคม 2559
วันนี้ต้องเดินทางกลับบ้านละ ทริปนี้สนุกสุดเหวี่ยง ทั้งได้นั่งรถพาดโผน ได้กินเค้ก นอนเต็นท์ อากาศเย็นฝุดๆ
เราเลือกที่จะออกเดินทางประมาณ 9 โมงเช้าค่ะ เพราะกลัวว่าจะมีรถสวนมาเยอะเกินไปตอนขึ้นไปที่สภอ. แล้วนี่ก็วันกลับกรุงเทพฯ ของทุกผู้คนด้วย รถคงติดมากๆๆๆ
สำหรับเช้านี้ได้ทานข้าวต้มหมู ไข่ดาว ขนมปัง และไส้กรอก เหมือนเดิม หลังจากนั้นก็จัดเค้กแครอทไปเล็กน้อย แล้วก็ขึ้นรถกลับขึ้นมา รถจะไปส่งที่สภอ.ปิล็อกที่เดิม พร้อมช่วยเอาของลง
ตอนขึ้นมา แอบได้ยินชาว big bike ถามเรื่องราคารถลงไปเหมืองสมศักดิ์สำหรับคนที่ไม่พัก และไม่อยากขับรถลงไปเอง รอบละ 1200 บาทคะ
สำหรับเรา ถือว่าเป็นทริปที่สนุกใช้ได้ เพราะอากาศดี ได้นั่งรถเด้งๆ แต่เรื่องเค้ก หรืออาหารที่หวังไว้ว่าจะอร่อยสุดยอด อันนี้แอบผิดหวังค่ะ เพราะมันธรรมดาอ่ะ ยกเว้นไส้กรอกที่อร่อยจริง
แต่ถามว่าจะมาอีกไม๊ คงมาเที่ยวแบบ 2 วัน 1 คืนมากกว่า เพราะว่าเป็นการเที่ยวก่อน แล้วค่อยลงไปพักในเหมือง จะได้ขึ้นรถแค่ 2 รอบ(ไป-กลับ) แล้วก็คงจะมากับเพื่อนๆ มากกว่าญาติผู้ใหญ่ เพราะที่เที่ยวส่วนใหญ่ต้องเดินเยอะ ทางขรุขระ ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่
ตอนกลับเจอร้านขายโรตีมะพร้าวอ่อน หน้า 7-11 ตรงข้ามน้ำตกไทรโยคน้อยคะ ซื้อโรตี เอาขวดเปล่าไปกินน้ำมะพร้าวฟรีนะคะ มันอร่อยมาก ดี๊ดี

รีวิวครั้งแรก รบกวนขอคำแนะนำด้วยค่ะ