ปัญหาการขุดสระน้ำทำนา คือ ค่าขุดสระสูงเกินไป
ภาคอีสานถ้าขุดตื้นกว่า 3 เมตร จะเก็บน้ำฝนไม่อยู่ และไม่มีน้ำผิวดินมาเติมด้วยเพราะระดับน้ำผิวดินอยู่ลึกกว่านั้น ถ้าขุดสระน้ำลึก 6 เมตร จะเก็บน้ำได้ช่วง 3 เมตรก้นสระ ขุดไร่นึงเสียค่าจ้างขุดประมาณ 40,000-50,000 บาท/ไร่/เมตร ขุดลึก 6 เมตร 240,000-300,000 บาท/ไร่ เก็บน้ำได้ประมาณ 4,800 คิว ถ้าเอาไปใช้ทำนา ปริมาณน้ำที่เสียไปจากการระเหยอย่างน้อย 5 มม./วัน น้ำจากสระ 1 ไร่ จะใช้ปลูกข้าวได้ประมาณ 6 ไร่ แต่ทำนา 6 ไร่ เหลือกำไรไม่เกิน 20,000 บาท เท่ากับ 12-15 ปีจึงจะคืนทุน ถามคนเก่งในกรุงเทพว่าเป็นคุณจะลงทุนกันไหม?

ถ้าจะช่วยกันต้องใช้นโยบายเสมอภาค เฉลี่ยทุกข์เฉลี่ยสุข คนในเมืองต้องไม่เอาเปรียบชาวนา
ทุกปีที่เกิดภัยแล้ง รัฐบาลจะห้ามไม่ให้ชาวนาทำนา ถามว่าชาวนาไม่ใช่คนหรือจึงห้ามไม่ให้เขาทำมาหากิน ทำไมไม่ห้ามคนในเมืองอาบน้ำแทนล่ะ นี่คือการไม่เฉลี่ยทุกข์เฉลี่ยสุข ชาวนาเดือดร้อนหรืออดตายช่างมัน ขอให้คนในเมืองอยู่ได้
ทุกครั้งที่เกิดภัยน้ำท่วม รัฐบาลจะพยายามกั้นน้ำไว้ไม่ให้เข้าเมือง ไร่นาน้ำท่วมเสียหายช่างมัน ชาวนาไม่ใช่คนหรือถึงยอมให้เขาจมน้ำอยู่ 2-3 เดือน ทรัพย์สินเสียหายไปมากมาย ได้รับความช่วยเหลือเพียงแค่เศษอาหารและเศษเงินที่ส่งไปช่วย นี่ก็เป็นการไม่เฉลี่ยสุขเฉลี่ยทุกข์เมือนกัน

ทุกครั้งที่เกิดภัยแล้ง ทุกครั้งที่เกิดน้ำท่วม ชาวนาเสียหาย คนในเมือง 10 ล้านคนยังอยู่สบาย
ทุกครั้งที่เกิดภัยแล้ง ทุกครั้งที่เกิดน้ำท่วม ตีเสียว่าเสียหายไป 1 ล้านไร่ ชาวนาเสียหายเฉพาะต้นทุนที่ลงไปไร่ละ 5,000 บาท ขาดกำไรไป 3,000 บาท รวมเป็นความเสียหาย 8,000 บาท/ไร่ หรือ 8,000 ล้านบาท/พท.ล้านไร่
ขณะที่คนในเมืองไม่ได้เสียอะไร ได้ประโยชน์ไป 10 ล้านคน รัฐบาลควรให้ 10 ล้านคนนี้เฉลี่ยทุกข์จากชาวนาด้วยโดยรับผิดชอบความเสียหาย 8,000 ล้านบาทนั้นไว้ ตกคนละ 800 บาทเท่านั้น

วิธีการคือ เฉลี่ยคนเมืองใช้น้ำประปาเดือนละ 10 คิว/คน ปีละ 120 คิว เอา 800 บาทนี้บวกเข้าไปในค่าน้ำประปา เฉลี่ยคิวละ 800/120 = 7 บาท เสียค่าน้ำเพิ่มคิวละ 7 บาทเพื่อสำรองไว้ช่วยชาวนาจึงน่าจะเป็นหนทางที่ยุติธรรมในการเฉลี่ยทุกข์เฉลี่ยสุข
แต่... อย่าคิดเชียวว่านี่คือกำไรของการประปาแล้วเอาไปจ่ายเป็นโบนัสเสียหมด