สวัสดีค่า หลังจากที่พาไปชมดอกลูพิน ที่ Lake Tekapo กันมาแล้ว
ตอน Flowering of Lupins in Lake Tekapo
http://ppantip.com/topic/34619136 คราวนี้พาไปเที่ยวที่อื่นกันบ้างนะคะ
การกลับมาอีกครั้งทีเมืองควีนทาวส์ครั้งนี้กับครอบครัว ทําให้คิดถึงสมัยก่อนตอนเรียน เมื่อ 13ปีที่แล้ว ตอนมาเที่ยวที่นี่ครั้งแรกกับเพื่อน คิดแล้วรู้สึกแก่ยังไงก็ไม่รู้
นึกย้อนเหุตการณ์กลับไป วิ้ง วิ้ง วิ้ง
ทุกๆวันศุกร์แรกของเดือนโรงเรียนจะหยุดครึ่งวัน เพื่อให้นักเรียนได้พักผ่อนและเผื่อใครอยากจะไปเที่ยว จะได้มีเวลาหลายวันหน่อย ปลากับเพื่อนๆอีก7คน ก็วางแผนไว้ว่าจะไปเที่ยวต่างเมืองกัน จุดหมายปลายทางครั้งนี้ของพวกเราคือ เมือง Queenstown
ก่อนอื่นจะต้องไปเช่ารถกันก่อน คนที่จะเช่ารถได้จะต้องมีใบขับขี่สากล หรือใบขับขี่ของนิวซีแลนด์ ค่าเช่าตกประมาณวันละ$55-$150
ขึ้นอยู่กับขนาดของรถ รถที่พวกเราเช่าเป็นรถตู้ ราคา$90ต่อวัน เวลาเอารถมาคืนก็จะต้องเติมนํ้ามันให้เต็มถังเหมือนเดิม
พอโรงเรียนเลิก ทุกคนก็รีบเก็บของ แล้วมาที่รถกันอย่างรวดเร็ว ได้เวลาออกเดินทางแล้ว yeah!!!
จาก Timaru ไป Queenstown ใช้เวลาเดินทางประมาณ4ชั่วโมง นั่งเม้าไป กินขนมไป ดูวิวไป จอดแวะกินกาแฟระหว่างทางไป
ไม่นานเราก็มาถึง แวบแรกที่เห็นเลย คือ อึ้ง และ ตะลึงในความสวย
Queenstown เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากๆ ใครไม่มาที่นี่ ถือว่ามาไม่ถึงเกาะใต้ ที่ควีนทาวน์มีกิจกรรมมากมายหลายอย่างให้ทำ เช่น bungy jump สำหรับคนที่ไม่กลัวความสูง ค่ากระโดด ตกประมาณ$150 เวลากระโดด จะต้องเดินไปบนสะพานแขวนสูง สูงมาก แค่เดินไปใกล้ริมสะพาน ใจก็เต้นตุ๊บๆ หน้ามืดขึ้นมาทันที
ช้านจะเป้นลม ข้างล่างก็จะเป็นแม่น้ำสีฟ้าอมเขียว สวยมากๆ
แต่แนะนำว่า ไม่มองจะดีกว่า
เดี๋ยวจะไม่ได้โดดเอา หลังจากที่ผูกข้อเท้าจนแน่นแล้ว เจ้าหน้าที่เค้าก็จะนับ 3 2 1แล้วก็พุ่งลงไปเลย มีหลายคนพอไปยืนตรงนั้นจริงๆ ขาสั่น พั่บๆ หมดแรง เปลี่ยนใจไม่โดดก็มี
แล้วตอนที่กระโดด ทางเจ้าหน้าที่จะถ่ายวีดีโอให้ไว้เป็นที่ละลึก พร้อมกับเสื้อยืดอีกด้วย นอกจาก bungy jumpแล้วก็ยังมีกิจกรรมยอดฮิตอีกอย่างนึงก็คือ shotover jet คล้ายๆกับการล่องแก่งบ้านเรานั่นแหละใช้เวลาประมาณ15นาที คนขับจะขับเร็ว และจะขับแบบฉวัดเฉวียน วนไปวนมา เฉี่ยวหน้าผาบ้างให้คนนั่งได้ร้อง กรี๊ดๆๆ บางคนเล่นเสร็จก็อวกซะหมดไส้หมดพุง
แต่ถ้าใครไม่ชอบความหวาดเสียว ก็สามารถไปชมวิวได้ที่ Gondola (กระเช้าลอยฟ้า) กระเช้าจะเคลื่อนขึ้นลงไปตามสายเคเบิ้ล เป็นจุดชมวิวที่สวยมากๆ ถ้ามองลงมาจะเห็นเมืองควีนทาวน์ทั้งเมืองและทะเลสาบวาคาทิปุ(lake wakatipu)ชัดมากๆ สวยสุดๆ แถมข้างบนยังมีร้านอาหารอีกด้วย กินไปดูวิวไป เจริญอาหารน่าดู แต่ว่าราคาอาหารนี่อย่างแพงอะค่ะ
พอพวกเรามาถึงก็หาที่พักกันก่อน แล้วเราก็ได้พักที่ backpackerแห่งหนึ่งราคาไม่แพงมากนัก เปิดห้อง2ห้อง ในแต่ละห้องจะมีเตียงเดี่ยว4 เตียง มีกระจก มีชั้นวางของให้ ส่วนห้องน้ำนั้นจะอยู่ด้านนอก ต้องใช้รวมกับคนอื่น ราคาตกอยู่ที่ประมาณคนละ $19ต่อวัน หลังจากเก็บของเรียบร้อย ก็เริ่มจะหิว เราก็ออกไปซื้อของมาทำกินกัน ซึ่งจะประหยัดมากกว่าการออกไปกินที่ร้าน
ครัวที่ backpacker ค่อนข้างจะใหญ่โต แล้วมีอุปกรณ์การทำอาหารครบครัน มื้อนั้นพวกเราจึงได้กินอาหารจากหลายๆชาติ ก๋วยเตี๋ยวผัดจากใต้หวัน ซูชิจากญี่ปุน หมูผัดซีอี้วจากเกาหลี และต้มยำส่งเข้าประกวดโดยคนไทย
ขอบอกว่ามื้อนั้น อร่อยมากๆๆ แหม๊ เสียดายว่าไม่มีครก ไม่งั้นก็จะตำส้มตำ ให้ได้ซี๊ด ซ๊าดกัน
หลังจากอิ่มหนำสำราญแล้ว ก็ต้องเก็บกวาดให้เรียบร้อย ทำทุกอย่างให้เข้าที่เหมือนเดิม ถ้าใครกินแล้วไม่เก็บถือว่าหยาบคายมาก พอเก็บเสร็จเราก็มานั่งรวมกันในห้อง คิดแผนว่าเราจะเอายังไงกันดีถึงจะเที่ยวได้อย่างประหยัด ก็สรุปว่าคืนนี้เราจะออกเดินเที่ยวกัน เพราะที่พักที่พวกเราอยู่นั้นไม่ไกลจากตัวเมืองเท่าไหร่ เป็นการออกกำลังและประหยัดน้ำมันไปในตัว
พวกเราเดินไปเรื่อยๆจนถึงตัวเมือง มีร้านขายของที่ระลึกมากมาย มีร้านอาหาร ผับ บาร์ ตลอดสองข้างทาง บรรยากาศดีมากๆ เหมือนกับในละครที่เคยดู ขาดก็แต่พระเอก เฮ้อ
พอเดินเลยไปอีกนิดก็จะถึงทะเลสาบ เสียงคลื่นกระทบฝั่ง บวกกับ แสงไฟในเมือง และผู้คนที่ดูมีความสุข ทำให้พวกเราพลอยมีความสุขไปด้วย พวกเรานั่งอยู่ซักพักก็ชวนกันกลับที่พัก
วันนี้เหนื่อยกันมามากแล้ว นอนเอาแรงไว้พรุ่งนี้ดีกว่า วันรุ่งขึ้นพวกเราตรงไปที่information centerเพื่อหาข้อมูลในการเที่ยว แล้วก็สรุปลงตัวที่การขับรถไปดูที่ๆเค้ามีกิจกรรมให้ทำ bungy jump, jetover,gondola,speed boat แล้วใครจะเล่นอะไรก็ตามสบาย ตบท้ายด้วยการแวะซื้อของที่ระลึก ของที่ระลึกก็จะมีหลายอย่าง เช่น ตุ๊กตาแกะ, พวงกุญแจ, ครีมทาผิวทำมากจากรกแกะ( อันนี้แหละที่เค้าว่าใช้แล้วหน้าจะเด้ง ดึ๋ง ดั๋ง) สบู่ผลไม้ , เสื้อผ้าขนแกะ และ กีวี เป็นต้น พอกลับถึงที่พักก็แยกย้ายกันไปทำธุระส่วนตัว แล้วกลับมาเจอกันอีกทีตอนกินข้าว วันนี้เรากินกันแบบง่ายๆ นั่นก็คือ ม่าม่า ง่าย สะดวก และอร่อยเพียงแค่ใส่ไข่ ใส่ผัก จบ ไม่อยากกินเยอะ เดี๋ยวไม่มีแรงแด๊น คริคริ
พอตกดึกพวกคนแก่ทั้งหลาย ที่อายุเกิน18ก็ออกไปdrinkกันที่ผับ ราคาของเครื่องดื่มแอลกฮอล์ที่นิวซีแลนด์ ก็ใกล้เคียงกับที่ไทย แพงกว่านิดหน่อย ผับที่นู่นก็เหมือนกับบ้านเรานั่นแหละ มีร้องเพลงเต้นรำ มองไปตรงไหนก็มีแต่คนเมา แต่ก็อย่าซ่ามากนัก จงสำนึกไว้เสมอว่าฝรั่งที่ชอบคนเอเชียมีเยอะ แต่ส่วนที่ไม่ชอบก็มีเหมือนกัน ถ้าซ่ามากๆก็อาจจะโดนเหยีบบเอาได้
พอพูดถึงฝรั่งที่ไม่ชอบคนเอเชีย ขอเล่านิดนึง ตอนมาถึงแรกๆแล้วจะต้องเดินบนถนนคนเดียวที่มีฝรั่งขับรถผ่านไปผ่านมาก็เกรงจะแย่อยู่แล้ว หันหน้าหันหลัง ระแวงไปหมด
แล้วต้องมาเจอไอ้พวกฝรั่งวัยรุ่นที่มันจะขับรถผ่านไปเฉยๆไม่ได้ ต้องขอบีบแตร์ดังๆให้เราหันไปมองมัน พอหันไปก็ได้นิ้วกลางมาเต็มๆ บางทีมีเสียงมาด้วย f_ck you asia,stupid asia ,go away etc.
ไอ้เฟี้ยเอ๊ย
เป็นคนเอเชียแล้วมันเสียหายตรงไหนฟะ ฉลาดกว่าพวกแกตั้งเยอะ อย่างน้อยฉันก็พูดได้สองภาษา ถึงแม้ว่าภาษาอังกฤษจะไม่ค่อยแข็งแรงก็เหอะ พอโดนหลายๆครั้งเข้าก็ทนไม่ไหว หันไปด่าสวนมันบ้าง แต่เป็นภาษาไทย ฮ่าๆๆเป็นไงหละเมิง ฟังไม่รู้เรื่องอะดิ๊ พวกเมิงด่ากรูพอจะเข้าใจ แต่เวลากรูด่า พวกมิงไม่เข้าใจ ใครกันแน่ฟะที่โง่
สบายใจแระ เล่าต่อ
... วันรุ่งขึ้นต้องกลับบ้านแล้ว พวกเราออกกันแต่เช้าเพราะว่าจะไปแวะเมืองอื่นด้วย ขับไปไม่นานก็มาถึง Arrow town แอร์โร่ทาวน์ เป็นเหมืองทองเก่า สมัยก่อนมีนักขุดทองพากันมาเสี่ยงโชคมากมาย แม้กระทั่งสมัยนี้ก็ยังมีให้เห็นอยู่ มาเป็นกลุ่มบ้าง คนเดียวบ้าง นั่งร่อนหินอยู่ ในใจหวังว่าจะโชคดีบ้าง เมืองแอร์โร่ เป็นเมืองขนาดเล็ก ใจกลางเมืองส่วนใหญ่จะเป็นร้านขายของที่ระลึก พวกเราก็เดินไปดูทุกร้านแบบ window shopping ก็คือ ดูแต่ตา ไม่ควักตังค์ซื้อนั่นเอง วะ ฮ่ะ ฮ่า
ของที่ระลึกที่คนส่วนมากซื้อ คือ gold nugget เป็นก้อนทองธรรมชาติที่ยังไม่ได้ถลุง คนขายบอกว่าราคาแค่ร้อยกว่าๆเอง ซื้อไปซักสองสามอัน ร้อยกว่าดอลเนี่ยนะ ไม่แพง ตลกแระลุง หนูเก็บไว้กินข้าวดีกว่ามั้งคะ อิ่มด้วย
ถ้าใครมีงบน้อยแต่อยากจะซื้ออะไรติดไม้ติดมือกลับบ้าน ก็เปลี่ยนมาซื้อ jade หินหยกแทนก็ได้ ราคาไม่แพงมาก ตกประมาณ $30-$120
หลังจากที่พวกเรากินข้าวกลางวันที่ แอร์โร่ ทาวน์แล้วก็มุ่งหน้ากลับทิมารู กว่าจะถึงทิมารูก็เย็นมากแล้วยังต้องเอารถไปคืนอีก สภาพแต่ละคนก็ดูไม่จืดด้วยกันทั้งนั้น พอเสร็จเรียบร้อยแล้วก็แยกย้ายกันกลับบ้าน เฮ้อ ถึงบ้านซักที แต่ว่า การบ้านยังไม่ได้ทำเลย ฮือๆๆๆ คืนนี้เก๊าจะได้นอนไหมเนี่ย
วิ้ง วิ้ง วิ้งงงง
......กลับมาสู่เหตุการณ์ปัจจุบัน พอคราวนี้ได้กลับไปเที่ยวอีกพร้อมครอบครัว ก็รู้สึกดีไปอีกแบบนึง
ว่าแล้วก็ไปดูรูปกันดีกว่าเนอะ
ถนนเส้นที่จะไปควีนทวาน์ ก็จะมีหลายแบบหลายอารมณ์ มีทั้งแบบแห้งๆ ดูโล่งๆ
แล้วก้จะมีแบบสีสันสดใส สวยมากมาย
วันที่ไปฝนตกๆ หยุดๆ ตลอดทาง พอไปถึงควีนทาวน์ฝนก็หยุดตกพอดี ได้เห็นสายรุ้งค่อยๆพาดบนภูเขา คือว่า สวยอะ ยืนมองอยู่ อึ้งอยู่พักนึง นึกขึ้นได้ ถ่ายรูปสิคะ
หลังจากนั้นก็พาเด็กๆ ไปดูรอบๆ ถ่ายรูปเล่นไปเรื่อย
แล้วก็มีบรรยากาศที่เหลือรอบๆเมือง
จบแล้วค่า....
ปล. ถ้าใครสนใจอยากดูภาพบรรยากาศต่างๆจากนิวซีแลนด์ ก็ลองเข้าไปชมกันได้ในเพจ Pla Gallery นะคะ จุ๊บๆ
https://www.facebook.com/plaifahgallery/
แล้วถ้าเกิดใครสนใจประสบการณ์ ตอนที่ปลามาเรียนภาษาครั้งแรกที่นิวซีแลนด์ ก็ลองไปอ่านดูกันได้นะคะ
ตอนนี้ มี 3 ภาค ทั้งหมด 18 ตอน
ภาคแรก
http://ppantip.com/topic/33658503
ภาคสอง
http://ppantip.com/topic/34445386
Bring back memories in Queenstwon , New Zealand (วันวานยังหวานอยู่ ณ ควีนทาวส์ นิวซีแลนด์ )
ตอน Flowering of Lupins in Lake Tekapo http://ppantip.com/topic/34619136 คราวนี้พาไปเที่ยวที่อื่นกันบ้างนะคะ
การกลับมาอีกครั้งทีเมืองควีนทาวส์ครั้งนี้กับครอบครัว ทําให้คิดถึงสมัยก่อนตอนเรียน เมื่อ 13ปีที่แล้ว ตอนมาเที่ยวที่นี่ครั้งแรกกับเพื่อน คิดแล้วรู้สึกแก่ยังไงก็ไม่รู้ นึกย้อนเหุตการณ์กลับไป วิ้ง วิ้ง วิ้ง
ทุกๆวันศุกร์แรกของเดือนโรงเรียนจะหยุดครึ่งวัน เพื่อให้นักเรียนได้พักผ่อนและเผื่อใครอยากจะไปเที่ยว จะได้มีเวลาหลายวันหน่อย ปลากับเพื่อนๆอีก7คน ก็วางแผนไว้ว่าจะไปเที่ยวต่างเมืองกัน จุดหมายปลายทางครั้งนี้ของพวกเราคือ เมือง Queenstown
ก่อนอื่นจะต้องไปเช่ารถกันก่อน คนที่จะเช่ารถได้จะต้องมีใบขับขี่สากล หรือใบขับขี่ของนิวซีแลนด์ ค่าเช่าตกประมาณวันละ$55-$150
ขึ้นอยู่กับขนาดของรถ รถที่พวกเราเช่าเป็นรถตู้ ราคา$90ต่อวัน เวลาเอารถมาคืนก็จะต้องเติมนํ้ามันให้เต็มถังเหมือนเดิม
พอโรงเรียนเลิก ทุกคนก็รีบเก็บของ แล้วมาที่รถกันอย่างรวดเร็ว ได้เวลาออกเดินทางแล้ว yeah!!!
จาก Timaru ไป Queenstown ใช้เวลาเดินทางประมาณ4ชั่วโมง นั่งเม้าไป กินขนมไป ดูวิวไป จอดแวะกินกาแฟระหว่างทางไป
ไม่นานเราก็มาถึง แวบแรกที่เห็นเลย คือ อึ้ง และ ตะลึงในความสวย
Queenstown เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากๆ ใครไม่มาที่นี่ ถือว่ามาไม่ถึงเกาะใต้ ที่ควีนทาวน์มีกิจกรรมมากมายหลายอย่างให้ทำ เช่น bungy jump สำหรับคนที่ไม่กลัวความสูง ค่ากระโดด ตกประมาณ$150 เวลากระโดด จะต้องเดินไปบนสะพานแขวนสูง สูงมาก แค่เดินไปใกล้ริมสะพาน ใจก็เต้นตุ๊บๆ หน้ามืดขึ้นมาทันที ช้านจะเป้นลม ข้างล่างก็จะเป็นแม่น้ำสีฟ้าอมเขียว สวยมากๆ
แต่แนะนำว่า ไม่มองจะดีกว่า เดี๋ยวจะไม่ได้โดดเอา หลังจากที่ผูกข้อเท้าจนแน่นแล้ว เจ้าหน้าที่เค้าก็จะนับ 3 2 1แล้วก็พุ่งลงไปเลย มีหลายคนพอไปยืนตรงนั้นจริงๆ ขาสั่น พั่บๆ หมดแรง เปลี่ยนใจไม่โดดก็มี
แล้วตอนที่กระโดด ทางเจ้าหน้าที่จะถ่ายวีดีโอให้ไว้เป็นที่ละลึก พร้อมกับเสื้อยืดอีกด้วย นอกจาก bungy jumpแล้วก็ยังมีกิจกรรมยอดฮิตอีกอย่างนึงก็คือ shotover jet คล้ายๆกับการล่องแก่งบ้านเรานั่นแหละใช้เวลาประมาณ15นาที คนขับจะขับเร็ว และจะขับแบบฉวัดเฉวียน วนไปวนมา เฉี่ยวหน้าผาบ้างให้คนนั่งได้ร้อง กรี๊ดๆๆ บางคนเล่นเสร็จก็อวกซะหมดไส้หมดพุง
แต่ถ้าใครไม่ชอบความหวาดเสียว ก็สามารถไปชมวิวได้ที่ Gondola (กระเช้าลอยฟ้า) กระเช้าจะเคลื่อนขึ้นลงไปตามสายเคเบิ้ล เป็นจุดชมวิวที่สวยมากๆ ถ้ามองลงมาจะเห็นเมืองควีนทาวน์ทั้งเมืองและทะเลสาบวาคาทิปุ(lake wakatipu)ชัดมากๆ สวยสุดๆ แถมข้างบนยังมีร้านอาหารอีกด้วย กินไปดูวิวไป เจริญอาหารน่าดู แต่ว่าราคาอาหารนี่อย่างแพงอะค่ะ
พอพวกเรามาถึงก็หาที่พักกันก่อน แล้วเราก็ได้พักที่ backpackerแห่งหนึ่งราคาไม่แพงมากนัก เปิดห้อง2ห้อง ในแต่ละห้องจะมีเตียงเดี่ยว4 เตียง มีกระจก มีชั้นวางของให้ ส่วนห้องน้ำนั้นจะอยู่ด้านนอก ต้องใช้รวมกับคนอื่น ราคาตกอยู่ที่ประมาณคนละ $19ต่อวัน หลังจากเก็บของเรียบร้อย ก็เริ่มจะหิว เราก็ออกไปซื้อของมาทำกินกัน ซึ่งจะประหยัดมากกว่าการออกไปกินที่ร้าน
ครัวที่ backpacker ค่อนข้างจะใหญ่โต แล้วมีอุปกรณ์การทำอาหารครบครัน มื้อนั้นพวกเราจึงได้กินอาหารจากหลายๆชาติ ก๋วยเตี๋ยวผัดจากใต้หวัน ซูชิจากญี่ปุน หมูผัดซีอี้วจากเกาหลี และต้มยำส่งเข้าประกวดโดยคนไทย ขอบอกว่ามื้อนั้น อร่อยมากๆๆ แหม๊ เสียดายว่าไม่มีครก ไม่งั้นก็จะตำส้มตำ ให้ได้ซี๊ด ซ๊าดกัน
หลังจากอิ่มหนำสำราญแล้ว ก็ต้องเก็บกวาดให้เรียบร้อย ทำทุกอย่างให้เข้าที่เหมือนเดิม ถ้าใครกินแล้วไม่เก็บถือว่าหยาบคายมาก พอเก็บเสร็จเราก็มานั่งรวมกันในห้อง คิดแผนว่าเราจะเอายังไงกันดีถึงจะเที่ยวได้อย่างประหยัด ก็สรุปว่าคืนนี้เราจะออกเดินเที่ยวกัน เพราะที่พักที่พวกเราอยู่นั้นไม่ไกลจากตัวเมืองเท่าไหร่ เป็นการออกกำลังและประหยัดน้ำมันไปในตัว
พวกเราเดินไปเรื่อยๆจนถึงตัวเมือง มีร้านขายของที่ระลึกมากมาย มีร้านอาหาร ผับ บาร์ ตลอดสองข้างทาง บรรยากาศดีมากๆ เหมือนกับในละครที่เคยดู ขาดก็แต่พระเอก เฮ้อ พอเดินเลยไปอีกนิดก็จะถึงทะเลสาบ เสียงคลื่นกระทบฝั่ง บวกกับ แสงไฟในเมือง และผู้คนที่ดูมีความสุข ทำให้พวกเราพลอยมีความสุขไปด้วย พวกเรานั่งอยู่ซักพักก็ชวนกันกลับที่พัก
วันนี้เหนื่อยกันมามากแล้ว นอนเอาแรงไว้พรุ่งนี้ดีกว่า วันรุ่งขึ้นพวกเราตรงไปที่information centerเพื่อหาข้อมูลในการเที่ยว แล้วก็สรุปลงตัวที่การขับรถไปดูที่ๆเค้ามีกิจกรรมให้ทำ bungy jump, jetover,gondola,speed boat แล้วใครจะเล่นอะไรก็ตามสบาย ตบท้ายด้วยการแวะซื้อของที่ระลึก ของที่ระลึกก็จะมีหลายอย่าง เช่น ตุ๊กตาแกะ, พวงกุญแจ, ครีมทาผิวทำมากจากรกแกะ( อันนี้แหละที่เค้าว่าใช้แล้วหน้าจะเด้ง ดึ๋ง ดั๋ง) สบู่ผลไม้ , เสื้อผ้าขนแกะ และ กีวี เป็นต้น พอกลับถึงที่พักก็แยกย้ายกันไปทำธุระส่วนตัว แล้วกลับมาเจอกันอีกทีตอนกินข้าว วันนี้เรากินกันแบบง่ายๆ นั่นก็คือ ม่าม่า ง่าย สะดวก และอร่อยเพียงแค่ใส่ไข่ ใส่ผัก จบ ไม่อยากกินเยอะ เดี๋ยวไม่มีแรงแด๊น คริคริ
พอตกดึกพวกคนแก่ทั้งหลาย ที่อายุเกิน18ก็ออกไปdrinkกันที่ผับ ราคาของเครื่องดื่มแอลกฮอล์ที่นิวซีแลนด์ ก็ใกล้เคียงกับที่ไทย แพงกว่านิดหน่อย ผับที่นู่นก็เหมือนกับบ้านเรานั่นแหละ มีร้องเพลงเต้นรำ มองไปตรงไหนก็มีแต่คนเมา แต่ก็อย่าซ่ามากนัก จงสำนึกไว้เสมอว่าฝรั่งที่ชอบคนเอเชียมีเยอะ แต่ส่วนที่ไม่ชอบก็มีเหมือนกัน ถ้าซ่ามากๆก็อาจจะโดนเหยีบบเอาได้
พอพูดถึงฝรั่งที่ไม่ชอบคนเอเชีย ขอเล่านิดนึง ตอนมาถึงแรกๆแล้วจะต้องเดินบนถนนคนเดียวที่มีฝรั่งขับรถผ่านไปผ่านมาก็เกรงจะแย่อยู่แล้ว หันหน้าหันหลัง ระแวงไปหมด แล้วต้องมาเจอไอ้พวกฝรั่งวัยรุ่นที่มันจะขับรถผ่านไปเฉยๆไม่ได้ ต้องขอบีบแตร์ดังๆให้เราหันไปมองมัน พอหันไปก็ได้นิ้วกลางมาเต็มๆ บางทีมีเสียงมาด้วย f_ck you asia,stupid asia ,go away etc.
ไอ้เฟี้ยเอ๊ย เป็นคนเอเชียแล้วมันเสียหายตรงไหนฟะ ฉลาดกว่าพวกแกตั้งเยอะ อย่างน้อยฉันก็พูดได้สองภาษา ถึงแม้ว่าภาษาอังกฤษจะไม่ค่อยแข็งแรงก็เหอะ พอโดนหลายๆครั้งเข้าก็ทนไม่ไหว หันไปด่าสวนมันบ้าง แต่เป็นภาษาไทย ฮ่าๆๆเป็นไงหละเมิง ฟังไม่รู้เรื่องอะดิ๊ พวกเมิงด่ากรูพอจะเข้าใจ แต่เวลากรูด่า พวกมิงไม่เข้าใจ ใครกันแน่ฟะที่โง่
สบายใจแระ เล่าต่อ ... วันรุ่งขึ้นต้องกลับบ้านแล้ว พวกเราออกกันแต่เช้าเพราะว่าจะไปแวะเมืองอื่นด้วย ขับไปไม่นานก็มาถึง Arrow town แอร์โร่ทาวน์ เป็นเหมืองทองเก่า สมัยก่อนมีนักขุดทองพากันมาเสี่ยงโชคมากมาย แม้กระทั่งสมัยนี้ก็ยังมีให้เห็นอยู่ มาเป็นกลุ่มบ้าง คนเดียวบ้าง นั่งร่อนหินอยู่ ในใจหวังว่าจะโชคดีบ้าง เมืองแอร์โร่ เป็นเมืองขนาดเล็ก ใจกลางเมืองส่วนใหญ่จะเป็นร้านขายของที่ระลึก พวกเราก็เดินไปดูทุกร้านแบบ window shopping ก็คือ ดูแต่ตา ไม่ควักตังค์ซื้อนั่นเอง วะ ฮ่ะ ฮ่า
ของที่ระลึกที่คนส่วนมากซื้อ คือ gold nugget เป็นก้อนทองธรรมชาติที่ยังไม่ได้ถลุง คนขายบอกว่าราคาแค่ร้อยกว่าๆเอง ซื้อไปซักสองสามอัน ร้อยกว่าดอลเนี่ยนะ ไม่แพง ตลกแระลุง หนูเก็บไว้กินข้าวดีกว่ามั้งคะ อิ่มด้วย
ถ้าใครมีงบน้อยแต่อยากจะซื้ออะไรติดไม้ติดมือกลับบ้าน ก็เปลี่ยนมาซื้อ jade หินหยกแทนก็ได้ ราคาไม่แพงมาก ตกประมาณ $30-$120
หลังจากที่พวกเรากินข้าวกลางวันที่ แอร์โร่ ทาวน์แล้วก็มุ่งหน้ากลับทิมารู กว่าจะถึงทิมารูก็เย็นมากแล้วยังต้องเอารถไปคืนอีก สภาพแต่ละคนก็ดูไม่จืดด้วยกันทั้งนั้น พอเสร็จเรียบร้อยแล้วก็แยกย้ายกันกลับบ้าน เฮ้อ ถึงบ้านซักที แต่ว่า การบ้านยังไม่ได้ทำเลย ฮือๆๆๆ คืนนี้เก๊าจะได้นอนไหมเนี่ย
วิ้ง วิ้ง วิ้งงงง......กลับมาสู่เหตุการณ์ปัจจุบัน พอคราวนี้ได้กลับไปเที่ยวอีกพร้อมครอบครัว ก็รู้สึกดีไปอีกแบบนึง ว่าแล้วก็ไปดูรูปกันดีกว่าเนอะ
ถนนเส้นที่จะไปควีนทวาน์ ก็จะมีหลายแบบหลายอารมณ์ มีทั้งแบบแห้งๆ ดูโล่งๆ
แล้วก้จะมีแบบสีสันสดใส สวยมากมาย
วันที่ไปฝนตกๆ หยุดๆ ตลอดทาง พอไปถึงควีนทาวน์ฝนก็หยุดตกพอดี ได้เห็นสายรุ้งค่อยๆพาดบนภูเขา คือว่า สวยอะ ยืนมองอยู่ อึ้งอยู่พักนึง นึกขึ้นได้ ถ่ายรูปสิคะ
หลังจากนั้นก็พาเด็กๆ ไปดูรอบๆ ถ่ายรูปเล่นไปเรื่อย
แล้วก็มีบรรยากาศที่เหลือรอบๆเมือง
จบแล้วค่า....
ปล. ถ้าใครสนใจอยากดูภาพบรรยากาศต่างๆจากนิวซีแลนด์ ก็ลองเข้าไปชมกันได้ในเพจ Pla Gallery นะคะ จุ๊บๆ
https://www.facebook.com/plaifahgallery/
แล้วถ้าเกิดใครสนใจประสบการณ์ ตอนที่ปลามาเรียนภาษาครั้งแรกที่นิวซีแลนด์ ก็ลองไปอ่านดูกันได้นะคะ ตอนนี้ มี 3 ภาค ทั้งหมด 18 ตอน
ภาคแรก http://ppantip.com/topic/33658503
ภาคสอง http://ppantip.com/topic/34445386