สาวไทยกับสองล้อรอบโลก ตอน ตะลุยอเมริกาใต้ (ออกนอกเส้นทางไปดูทะเลเกลือที่ โบลิเวีย )





      หายไป 2 อาทิตย์เต็มๆเลย ที่หายไปไม่ใช่อะไรนะคะ อินเตอร์เนตที่ประเทศโบลิเวียแย่มากๆเลยละค่ะ มดแดงต้องรอให้ข้ามฝั่งมาประเทศชิลีก่อนถึงจะมาอัพเดทให้เพื่อนๆได้อ่านกันต่อ มาต่อกันที่กระทู้ใหม่เหมือนเดิมนะคะ   เป้าหมายของเรายังคงเหมือนเดิม เดินทางไม่เกิน 200 km  หรือ ไม่เกิน4ชม ต่อวัน (หลังๆนี้ ด้วยปัจจัยด้านเวลา และสถานที่ ทำให้เรา ขี่เกินเวลาและระยะทางที่กำหนดอยู่หลายครั้งเหมือนกันค่ะ) ราคาที่พัก ไม่เกิน 20$ หรือ 600 บาทต่อวัน ค่าอาหารไม่เกิน 10$ต่อมื้อ หรือ ไม่เกิน 30$ต่อวัน สำหรับเราสองคน หรือ ค่าใช้จ่าย รวมค่าน้ำมัน ไม่เกิน 50$ ต่อวัน หรือ 25$ ต่อคน หรือ ประมาณไม่เกินคนละ 750 บาท ต่อคนต่อวัน

ลิงค์จากประเทศเปรู สำหรับคนที่ยังไม่ได้อ่านตอนที่แล้วนะคะ
http://ppantip.com/topic/34403325


ลิงค์จากประเทศเอกวาดอร์
http://ppantip.com/topic/34057015/comment92-1

และ ลิงค์สำหรับคนที่ยังไม่อ่านตอนแรก จุดเริ่มต้นที่ประเทศปานามา มดแดงอยากให้คนที่ยังไม่ได้อ่านลองเข้าไปอ่านดูนะคะ ว่าจุดเริ่มต้นของพวกเราเป็นยังไง มีจุดมุ่งหมายยังไง แผนการเดินทางของเราครั้งนี้เป็นยังไง ยังไงลองเข้าไปอ่านกันดูนะคะ
http://ppantip.com/topic/34046788



มดแดงขอยกข้อความจากวีกีพีเดียเกี่ยวกับประเทศโบลิเวียมาให้อ่านกันเล็กน้อยนะคะ "  โบลิเวีย (สเปน: Bolivia) หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า รัฐพหุชนชาติแห่งโบลิเวีย (สเปน: Estado Plurinacional de Bolivia) เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลในตอนกลางของทวีปอเมริกาใต้ มีอาณาเขตจรดประเทศบราซิลทางทิศเหนือและทิศตะวันออก จรดประเทศปารากวัยและอาร์เจนตินาทางทิศใต้ และจรดประเทศชิลีและเปรูทางทิศตะวันตก"


  หลังจากนั่งเรือเที่ยวทะเลสาปติติกากาในประเทศเปรูแล้ว วันรุ่งขึ้นพวกเราก็จัดเตรียมเอกสารทำวีซ่าทันที จากที่ศึกษาข้อมูลมาก็คือเตรียมเอกสารให้พร้อมแล้วไปยื่นที่สถานฑูต โบลิเวีย เสียค่าใช้จ่ายประมาณ 35 ดอลลาห์ สำหรับคนไทย รอประมาณ ชม นึงแล้วก็ได้เลย

เอกสารที่ต้องเตรียม
– สำเนาพาสปอล์ด
– ตั๋วเครื่องบินบินกลับประเทศไทย (บินจากที่ไหนก็ได้ค่ะ บางคนบินกลับทางประเทศบลาซิล ก็อธิบายให้เค้าฟังว่าจะไปไหนต่อแล้วบินกลับที่บลาซิล เป็นต้นค่ะ)
– รูปถ่าย
–ใบรับรองแพทฉีดวัคซีน
– สำเนาบัตรเอทีเอม ถ่ายเอกสารหน้าหลัง
แต่ของมดแดงเองอย่างที่บอกมาแต่ต้นทริปนี้แล้วว่า มดแดงไม่ทราบเรื่องฉีดวัคซีนมาก่อน เลยไม่มี ตั๋วเครื่องบินก็ไม่มีมีแต่เอกสารรถไว้ไปอธิบายให้เค้าฟังอีกที ส่วนบัตรเอทีเอมมดแดงใช้เอทีเอมแบบธรรมดาของข้านเรา มดแดงใช้ของธนาคารกสิกร แล้วก็สำเนาพาสปอล์ดกับรูป ของไอ้หนุ่มผมยาวก็คล้ายๆกันค่ะ
พอไปถึงเรายื่นเอกสาร เค้าบอกว่า ต้องเข้าเว็บไซด์ของสถานทูตโบลิเวียแล้วสมัครในเว็บมาก่อน แสกนรูปไว้เลยไม่ต้องเอารูปมา มดแดงเลยบอกว่าที่อ่านมามันไม่ใช่อย่านี้นิ แค่มายื่นเอกสารแล้วก็เสร็จเลย ลุงแกบอกเพิ่งเปลี่ยนกฎเมื่อ3 วันที่แล้วนี้เอง (คือวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา) เราเลยออกมาใช้อินเตอร์เน็ตคาเฟ่ไกล้ๆ มีหลายที่ค่ะ สมัคเข้าไปเป็นภาษาภาษาอังกฤษ พอสมัคเสร็สก็กลับมาใหม่ ทีนี้ลุงแกถามเรื่องใบวัคซีน มดแดงไม่มีเลยโกหกไปว่าทำหายที่ประเทศเอกวาดอร์ นั่งคุยกันเรื่องแผนเดินทางซักพัก แกก็ปริ้นวีซ่ามาให้เลย เป็นวีซ่า 30 วัน วีซ่าเล็กๆน่ารักมากเลยค่ะ พอปริ้นออกมา ลุงแกบอกว่า เสร็จละ ไม่ต้องเสียเงินเลยด้วย ดีจริงๆค่ะ ส่วนไอ้หนุ่มผมยาวเป็นชาวอเมริกันเสีย 160 ดอลล่าห์ วีซ่า 10ปี บังคับ จะทำที่นี่เลยหรือไปทำที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองก็ได้ ไอ้หนุ่มผมยาวเลยตัดสินใจไปทำที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองเผื่อจะได้วีซ่าแบบราคาถูกกว่า ประเทศโบลิเวียไม่ค่อยชอบชาวอเมริกันเท่าไร ค่ะ สองประเทศนี้เค้ามีปัญหากันมาช้านาน เลยโดนค่าวีซ่าไปเต็มๆ ส่วนประเทศอื่นๆเข้าฟรีค่ะ

                                                        วีซ่าเหมือนวีซ่าธรรมดาแต่เล็กมากเลยค่ะ อ่านชื่อตัวเองแทบไม่ออก
                                          

พอได้วีซ่าแล้วเราก็พักผ่อนกันเรียมตัวออกเดินทางพรุ่งนี้เลย


รุ่งเช้าเราตื่นกันแต่เช้า จัดแจงเก็บของแล้วออกเดินทาง เราขี่เรียบทะเลสาป ติติกากา กันมาประมาณ 130 กม จาก Puno มาที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง ที่ Kasani อากาสวันนี้หนาวเย็นมากๆ ระหว่างทางมีลูกเห็นตกลงมาอย่างแรง เล่นเอาเจ็บเลยละค่ะ ถนนก็ลื่นมากๆด้วย ต้องชะลอค่อยๆขี่กันไป
                                             


                                     ในที่สุดก็มาถึงด่านชายแดน เราสแตมป์ออกจากฝั่งประเทศเปรูแบบง่ายๆ คนไม่เยอะเลยค่ะ
                                              
                                          

         

                 หลังจากนั้นก็ขี่ข้ามมายังฝั่งประเทศโบลิเวีย อีกประมาณ 300 เมตร ประเทศโบลิเวียเป็นประเทศที่ยากจนที่สุดในแถบนี้ ด่านรวจคนที่นี่ค่อนข้างดูซอมซ่อ ไม่เจริญหูเจริญตาเท่าไร มีนักท่องเที่ยวข้ามชายแดนกันเยอะพอสมควรค่ะ พอไปถึงมดแดงยื่นวีซ่าให้ก็ไม่มีปัญหาค่ะ สแตมป์เข้าแบบง่ายดาย ส่วนไอ้หนุ่มผมยาวต้องรอทำวีซ่ายุ่งยากกว่าที่คิดเยอะเลยละค่ะ ไหนจะวีซ่าไหนจะเอกสารเรื่องรถอีก กินเวลาไปเกือบ 2 ชม มดแดงนี่นั่งตากแดดรอจนไหม้เลยละค่ะ อย่างที่บอกว่าประเทศนี้เค้าไม่ค่อยชอบชาวอเมริกันเท่าไร จากที่เอารถเข้าประเทศไม่ต้องเสียอะไรเลย ตม. ที่นี่ขอค่าใช้จ่าย 20 โบลิเวียโน่ ( เงินโบลิเวียโน่ เทียบกับเงินบาทตอนนี้ เอา 5 คูนเลยค่ะง่ายๆ 20 โบลิเวียโน่ก็ประมาณ 100 บาท ไทย) ไอ้หนุ่มผมยาวถามว่าค่าอะไร  ตม. ตอบค่าใช้จ่ายให้ตัวเอง ตอบแบบตรงๆเลยนะคะ ไม่มีอ้อมเลย สุดท้ายก็ต้องจ่ายไป 100 บาท ขี้เกียจมีปัญหา เดี๋ยวไม่เซ็นให้เอารถเข้าไม่ได้ก็ยุ่งอีก
                                            


                    ระหว่างรอไอ้หนุ่มผมยาวทำเรื่องมดแดงก็ออกมารอข้างนอก นั่งคุยกับชาวบ้านเค้าเอามันจากประเทศเปรูข้ามมาขายฝั่งโบลิเวีย มดแดงเองก็เพิ่งรู้ว่า จริงๆแล้ว ต้นกำเนิดของมันสัมปหลังมาจากระเทสเปรูนี่เอง
                                            

                      หลังจากทำเอกสารเรียบร้อยแล้ว เราก็ออกเดินทางต่อไปที่ Copacabana ทันที จาก ด่านตรวจคนเข้าเมืองขี่ไปกันอีกแค่ 8 กม ก็ถึง่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่