มีกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับประเด็นนี้เยอะมากทั้งการทำงานไม่เป็สากลปิดลีคเลื่อนทัวนาเมนต์นู่นนี่
ทำไมถึงเลือกใช้ผู้เล่นเฉพาะชุดเดิมๆไม่เลือกคนคนที่ฟอร์มดีอ้างว่าไม่เข้าระบบนู่นนี่บลาๆ
อันขอบอกก่อนว่ามันเป็นแค่ความคิดของผมอาจจะขัดใจบางคนนะไม่ชอบก็สยองเบาๆเด้อครับ
หลายคนอยากให้ทีมชาติรวมตัวกันแค่4-5 วันปฎิทินฟีฟ่าเดย์นักเตะเปลี่ยนหน้าไปเรื่อยๆเลือกเฉพาะที่ฟอร์มดีๆ
ถามว่าทำได้ไหมตอบได้ว่าได้ถ้ามีเงื่อนไขตามนี้
1.นักเตะไทยฝีเท้าระดับสูงจนสามารถกลบเรื่องจุดด้อยเรื่องทีมเวิร์คและระบบทีมไปได้ ตัวอย่างเช่น
ทีมระดับโลกทั้งหลาย บราซิล อุกกวัย อาเจนติน่า แต่ในความเป็นจริงก็อย่างที่เห็น
นักเตะฝีเท้าดาดๆย้ำว่าดาดๆ(ในปัจจุบัน)ระดับสำรองของสำรองหรืออดีตทีมชาติของคู่แข่งในเอเชีย
อย่างโกชุลกิ อาโอยาม่า แมธ สมิธ นักเตะไทยในปัจจุบันทั้งลีกยังแทบสู้เค้าไม่ได้นี่คือเรื่องจริง
2.สมาคมมีการทำวิจัยวางระบบพัฒนารูปแบบการเล่นให้เป็นแบบเดียวกันทุกระดับตั้งแต่เยาวชนจนถึงใน
ถ้ามีแบบนี้จะตัดปัญหาเรื่องการใช้เวลาในการจูนทีมบิ้วอินผู้เล่น สารถเรียกตัวมาซ้อมทีมขึ้นกระดานวาง
แทคติคการเล่นได้เลย ตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จก็เช่นเยอรมันแชมป์โลก เดเอฟเบสมาคมฟุตบอลเค้า
สร้างศูนย์ฝึกเยาวชน 400 กว่าแห่งทั่วประเทศมีการคัดเด็กจากที่ต่างๆทั้งจากอคาเดมี่ของสโมสรอาชีพเอง
มาเทรนเพิ่มเติมในแคมป์ และยังมีนโยบายให้อคาเดมี่ของทีมในลีกต้องทำงานร่วมกับสมาคมด้วย
ตัวอย่างประเทศใกล้ๆเราที่มีโปรเจคคล้ายๆกันแล้วประสบความสำเร็จคือญี่ปุ่นแถมไปประยุกต์สร้างอะคาเดมี่ยังนาเดชิโกะ
เต็มรูปแบบจนทีมหญิงได้แชมป์ด้วย แต่แนวคิดอคาเดมี่และลีกฟุตบอลเพื่อทีมชาติแบบนี้ส่วนใหญ่จะถูกยี้โดยแฟนบอลไทย
เพราะมีบางคนบอกว่ามันคือแนวคิดคล้ายๆดรีมทีม(ซึ่งจริงๆไม่ใช่)และมันยังทำให้ทีมในลีกมีการเล่นแพทเทิร์นคล้ายๆกันไม่
สนุกไม่ถูกจริตคนไทย และจากการทำงานของสมาคมไม่ว่าชุดปัจจุบันหรือในอนาคตพูดได้คำเดียวเลยว่ายากกับโปรเจคระยะ
ยาวแบบนี้
3.ไม่ต้องมีแบบ 2 ข้อบนก็ได้เรียกรวมทีมเฉพาะฟีฟ่าเดย์ตัวผู้เล่นก็เปลี่ยนหน้าไปเรื่อยๆไม่มีคำว่าไม่เข้าระบบเลือกคนฟอร์มดีมาก่อน
แต่แฟนบอลไทยต้องมีใจเป็นสากลครับ เพราะจนกว่าที่นักเตะไทยจะพัฒนาฝีเท้าได้ตามข้อ 1 หรือได้เทวดามาเป็นนายกสมาคมทำตามข้อ 2
บอกเลยว่าผลงานดีบ้างแย่บ้างแต่ส่วนใหญ่ตะกุกตะกักแน่และแฟนบอลต้องห้ามไล่โคชเพราะมันคือการทำตามวิถีสากล ตัวอย่างชัดๆเลย
คือช่วงแรกๆที่ไทยลีกเริ่มบูมได้ปีที่ 3 ตอนนั้นเรามีเฮียหงอกดอยช์เป็นโคชดีกรีระดับผลงานของแกดีกว่าคนปัจจุบันเยอะมากในช่วงเวลาแรกๆ
ที่แกคุมทีมยังไม่มีปัญหากับสมาคมได้ทำงานเต็มที่แรกๆ ผมเคยไปดูแกคุมทีมชาติอุ่นกับพม่าที่ไอโมบายด้วย(สมัยนั้นท่านเนยังซี้กับสมาคม)
แมทแรกชนะ 1-0 แมทต่อมา 1-1 ตอนนั้นผมคิดไว้ในใจเลยว่ากุต้องทนมหกรรมการว่าวต่อไปอีกนานแน่ ถึงหลายๆคนจะบอกว่ายังขาดตัวหลั
บางคนแต่พอเอาจริงๆ จักรพันธ์ แก้วพรม พรใส รังสรรค์ อดุลย์ ดัสกร ทองเหลา สุเชาว์ ธีรศิลป์ ศรายุทธ ชัยคำดี ศิวรักษ์ สุทธินันท์ พุกหอม
ปรัชญ์ ธีราทร นิเวศ พวกนี้คือโครตดาวรุ่งและสตาร์ไทยลีกตอนนั้นทำผลงานได้สุดยอดมากครับ ซีเกมส์ก็ว่าว ซูซูกิก็ว่าว คัดบอลโลกก็ว่าว
ไม่นับแมทที่เจออสที่นิเวศเทพสถิต มีประทับใจเกมเดียวคือเจอโอมาน จากนั้นชื่อทีมชาติก็เหม็นโฉ่วนักบอลไม่อยากมาเล่นแฟนบอลไม่อยากมาเชียร์
จะเป็นสากลน่ะได้แต่แฟนบอลต้องใจสากลอดทนรอได้ด้วย
ส่วนเรื่องแนวคิดการทำทีมของโคชกิติศักดิ์ มันอาจจะไม่โอเคบางคนอาจด่าว่าอีโก้สูงงี่เง่าเด็กยีหรืออะไรก็ตามแต่มันคือทางที่โอเคสุดแล้ว
ในสภาวะปัจจุบันคือการสร้างบ่มทีมที่เล่นด้วยกันมาเป็นเวลานาน อาจจะมีตัวเก๋าฟอร์มดีเข้ามาขยายบ้างแต่แกนหลักก็คงเดิมคือ
ศักย์ภาพอาจไปไม่สุดหลายๆคนอาจจะบี้ว่ามันเเป็นระบบดรีมทีมซึ่งมันกอาจจะคล้ายจริงๆเรียกแบบนั้นคงไม่ผิด แต่มันเป็นดรีมทีม V2
ที่ยกระดับมีระบบลีกช่วยเสริมแล้ว 5555 โอเคบางคนในทีมอาจจะไม่ได้เปี้ยงสุดแต่ก็ทดแทนด้วยเรื่องทีมเวิร์ค นักเตะที่ฝีเท้าดีเกินเพื่อน
จริงๆมาบิ้วอินทีหลังก็ได้อย่างเคสของบรร.นอกจากกรวิท หรือ ธีรทรผมส่วนที่เหลือระดับฝีเท้าจะเหนือกว่าแต่ไม่ได้กลบทิ้งแบบ 2 คนข้างต้นและบางคนก็ใกล้วัสตั๊ดอีกปีสองปีแล้วต่อไปก็จะมีพวกใหม่ๆอย่างรุ่นอานนท์ วรชิตขึ้นมาขยาย squad อีกเพราะมันเป็นการทำทีมระยะยาวหวังผลจริงๆก็กับฟุตบอลโลกรอบหน้านู่นที่4 เอเชี่ยน แชมป์ซีเกม ซูซูกิคัฟ หรือรอบ12ทีมจะดีจะร้ายยังไงผมก็อยากให้ไปตัดสินกันจริงๆรอบหน้า
ถ้าแกยังได้ทำอยู่นะ
ทำซิโก้ต้องมีการ์ดเข้าระบบ ทำไมต้องปิดลีคขอเวลาเพิ่ม
ทำไมถึงเลือกใช้ผู้เล่นเฉพาะชุดเดิมๆไม่เลือกคนคนที่ฟอร์มดีอ้างว่าไม่เข้าระบบนู่นนี่บลาๆ
อันขอบอกก่อนว่ามันเป็นแค่ความคิดของผมอาจจะขัดใจบางคนนะไม่ชอบก็สยองเบาๆเด้อครับ
หลายคนอยากให้ทีมชาติรวมตัวกันแค่4-5 วันปฎิทินฟีฟ่าเดย์นักเตะเปลี่ยนหน้าไปเรื่อยๆเลือกเฉพาะที่ฟอร์มดีๆ
ถามว่าทำได้ไหมตอบได้ว่าได้ถ้ามีเงื่อนไขตามนี้
1.นักเตะไทยฝีเท้าระดับสูงจนสามารถกลบเรื่องจุดด้อยเรื่องทีมเวิร์คและระบบทีมไปได้ ตัวอย่างเช่น
ทีมระดับโลกทั้งหลาย บราซิล อุกกวัย อาเจนติน่า แต่ในความเป็นจริงก็อย่างที่เห็น
นักเตะฝีเท้าดาดๆย้ำว่าดาดๆ(ในปัจจุบัน)ระดับสำรองของสำรองหรืออดีตทีมชาติของคู่แข่งในเอเชีย
อย่างโกชุลกิ อาโอยาม่า แมธ สมิธ นักเตะไทยในปัจจุบันทั้งลีกยังแทบสู้เค้าไม่ได้นี่คือเรื่องจริง
2.สมาคมมีการทำวิจัยวางระบบพัฒนารูปแบบการเล่นให้เป็นแบบเดียวกันทุกระดับตั้งแต่เยาวชนจนถึงใน
ถ้ามีแบบนี้จะตัดปัญหาเรื่องการใช้เวลาในการจูนทีมบิ้วอินผู้เล่น สารถเรียกตัวมาซ้อมทีมขึ้นกระดานวาง
แทคติคการเล่นได้เลย ตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จก็เช่นเยอรมันแชมป์โลก เดเอฟเบสมาคมฟุตบอลเค้า
สร้างศูนย์ฝึกเยาวชน 400 กว่าแห่งทั่วประเทศมีการคัดเด็กจากที่ต่างๆทั้งจากอคาเดมี่ของสโมสรอาชีพเอง
มาเทรนเพิ่มเติมในแคมป์ และยังมีนโยบายให้อคาเดมี่ของทีมในลีกต้องทำงานร่วมกับสมาคมด้วย
ตัวอย่างประเทศใกล้ๆเราที่มีโปรเจคคล้ายๆกันแล้วประสบความสำเร็จคือญี่ปุ่นแถมไปประยุกต์สร้างอะคาเดมี่ยังนาเดชิโกะ
เต็มรูปแบบจนทีมหญิงได้แชมป์ด้วย แต่แนวคิดอคาเดมี่และลีกฟุตบอลเพื่อทีมชาติแบบนี้ส่วนใหญ่จะถูกยี้โดยแฟนบอลไทย
เพราะมีบางคนบอกว่ามันคือแนวคิดคล้ายๆดรีมทีม(ซึ่งจริงๆไม่ใช่)และมันยังทำให้ทีมในลีกมีการเล่นแพทเทิร์นคล้ายๆกันไม่
สนุกไม่ถูกจริตคนไทย และจากการทำงานของสมาคมไม่ว่าชุดปัจจุบันหรือในอนาคตพูดได้คำเดียวเลยว่ายากกับโปรเจคระยะ
ยาวแบบนี้
3.ไม่ต้องมีแบบ 2 ข้อบนก็ได้เรียกรวมทีมเฉพาะฟีฟ่าเดย์ตัวผู้เล่นก็เปลี่ยนหน้าไปเรื่อยๆไม่มีคำว่าไม่เข้าระบบเลือกคนฟอร์มดีมาก่อน
แต่แฟนบอลไทยต้องมีใจเป็นสากลครับ เพราะจนกว่าที่นักเตะไทยจะพัฒนาฝีเท้าได้ตามข้อ 1 หรือได้เทวดามาเป็นนายกสมาคมทำตามข้อ 2
บอกเลยว่าผลงานดีบ้างแย่บ้างแต่ส่วนใหญ่ตะกุกตะกักแน่และแฟนบอลต้องห้ามไล่โคชเพราะมันคือการทำตามวิถีสากล ตัวอย่างชัดๆเลย
คือช่วงแรกๆที่ไทยลีกเริ่มบูมได้ปีที่ 3 ตอนนั้นเรามีเฮียหงอกดอยช์เป็นโคชดีกรีระดับผลงานของแกดีกว่าคนปัจจุบันเยอะมากในช่วงเวลาแรกๆ
ที่แกคุมทีมยังไม่มีปัญหากับสมาคมได้ทำงานเต็มที่แรกๆ ผมเคยไปดูแกคุมทีมชาติอุ่นกับพม่าที่ไอโมบายด้วย(สมัยนั้นท่านเนยังซี้กับสมาคม)
แมทแรกชนะ 1-0 แมทต่อมา 1-1 ตอนนั้นผมคิดไว้ในใจเลยว่ากุต้องทนมหกรรมการว่าวต่อไปอีกนานแน่ ถึงหลายๆคนจะบอกว่ายังขาดตัวหลั
บางคนแต่พอเอาจริงๆ จักรพันธ์ แก้วพรม พรใส รังสรรค์ อดุลย์ ดัสกร ทองเหลา สุเชาว์ ธีรศิลป์ ศรายุทธ ชัยคำดี ศิวรักษ์ สุทธินันท์ พุกหอม
ปรัชญ์ ธีราทร นิเวศ พวกนี้คือโครตดาวรุ่งและสตาร์ไทยลีกตอนนั้นทำผลงานได้สุดยอดมากครับ ซีเกมส์ก็ว่าว ซูซูกิก็ว่าว คัดบอลโลกก็ว่าว
ไม่นับแมทที่เจออสที่นิเวศเทพสถิต มีประทับใจเกมเดียวคือเจอโอมาน จากนั้นชื่อทีมชาติก็เหม็นโฉ่วนักบอลไม่อยากมาเล่นแฟนบอลไม่อยากมาเชียร์
จะเป็นสากลน่ะได้แต่แฟนบอลต้องใจสากลอดทนรอได้ด้วย
ส่วนเรื่องแนวคิดการทำทีมของโคชกิติศักดิ์ มันอาจจะไม่โอเคบางคนอาจด่าว่าอีโก้สูงงี่เง่าเด็กยีหรืออะไรก็ตามแต่มันคือทางที่โอเคสุดแล้ว
ในสภาวะปัจจุบันคือการสร้างบ่มทีมที่เล่นด้วยกันมาเป็นเวลานาน อาจจะมีตัวเก๋าฟอร์มดีเข้ามาขยายบ้างแต่แกนหลักก็คงเดิมคือ
ศักย์ภาพอาจไปไม่สุดหลายๆคนอาจจะบี้ว่ามันเเป็นระบบดรีมทีมซึ่งมันกอาจจะคล้ายจริงๆเรียกแบบนั้นคงไม่ผิด แต่มันเป็นดรีมทีม V2
ที่ยกระดับมีระบบลีกช่วยเสริมแล้ว 5555 โอเคบางคนในทีมอาจจะไม่ได้เปี้ยงสุดแต่ก็ทดแทนด้วยเรื่องทีมเวิร์ค นักเตะที่ฝีเท้าดีเกินเพื่อน
จริงๆมาบิ้วอินทีหลังก็ได้อย่างเคสของบรร.นอกจากกรวิท หรือ ธีรทรผมส่วนที่เหลือระดับฝีเท้าจะเหนือกว่าแต่ไม่ได้กลบทิ้งแบบ 2 คนข้างต้นและบางคนก็ใกล้วัสตั๊ดอีกปีสองปีแล้วต่อไปก็จะมีพวกใหม่ๆอย่างรุ่นอานนท์ วรชิตขึ้นมาขยาย squad อีกเพราะมันเป็นการทำทีมระยะยาวหวังผลจริงๆก็กับฟุตบอลโลกรอบหน้านู่นที่4 เอเชี่ยน แชมป์ซีเกม ซูซูกิคัฟ หรือรอบ12ทีมจะดีจะร้ายยังไงผมก็อยากให้ไปตัดสินกันจริงๆรอบหน้า
ถ้าแกยังได้ทำอยู่นะ