[CR] ลุงอ้วน กินกะเที่ยว 2015 # 78 ตอนที่ 2 ๑๑๑๑๑...บัลกาเรีย - โรมาเนีย...๑๑๑๑๑ @ ตุลาคม 2015

จากตอนที่ 1 ครับ.     http://ppantip.com/topic/34615064

👍👍👍👍👍👍👍ตอนที่  2👍👍👍👍👍👍👍


"ลุงอ้วนพาไป  บัลกาเรีย โรมาเนีย  2-11 ตุลาคม 2558"


เช้าวันที่ 3   ตื่น 6.30  7.30  8.30  ตามสูตรครับ



ทานอาหารเช้าโรงแรมเรียบร้อยจากนั้นชมสนามกีฬาโรมัน ขนาดใหญ่ที่จุคนได้เกือบ 3 หมื่นคน (โดยกฎของโรมันการสร้างสนาม กีฬาหรือโรงละครต้องสร้างใหม่ความจุได้ครึ่งหนึ่งของประชากรนั่นแสดงว่าในยุคโรมันเมืองนี้มีประชชากรเกือบ 6หมื่นคน)ชมโรงละครกลางแจ้ง (RomanAmphitheatre)สภาโรมัน(RomanForum)กําแพงเมืองเก่า ชมสถาปัตยกรรมบ้านบัลแกเรีย ที่มีคานรองรับชั้นสอง เป็นเอกลักษณ์ของชุมชนเก่าในเมืองพลอฟดิฟ












ถึงเวลาเดินทางมุ่งหน้าไปทางเหนือสู่ภาคกลางของประเทศบัลแกเรียเข้าสู่เมืองคาซานลัค (ระยะทางประมาณ 110 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชม.)

คาซานลัคตั้งอยู่บริเวณเชิงเทือกเขาบอลข่านทางฝั่งตะวันออก เป็นเมือง ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในบัลแกเรีย และเป็นศูนย์กลางในการสกัดและผลิตน้ํามันดอกกุหลาบที่ใหญ่เป็น อันดับสองของโลก ผลผลิตที่ได้ส่งออกไปให้โรงงานผลิตน้ําหอม

และเครื่องสําอางค์ในประเทศแถบยุโรป อาทิ ฝรั่งเศส เยอรมันนี สหรัฐอเมริกา น้ํามันดอกกุหลาบเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทําสืบทอดกันมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 จนถึง ปัจจุบัน

ดอกกุหลาบจึงถือเป็นสัญลักษณ์ของประเทศบัลแกเรีย
แล้วไปชมภาพจิตรกรรมฝาผนังที่ หลุมฝังศพของกษัตริย์ ทราเชียน (The
Thracian Kings Tomb) ย้อนไปในศตวรรษที่ 4  
# มีแต่บรรยากาศภายนอกด้านในห้ามถ่ายภาพ






ทานอาหารกลางวัน ที่ภัตราคารท้องถิ่น– Magnolia Restaurant
มื้อนี้รู้สึกอร่อย เป็แบบเสต็กจานร้อนหมู ที่มีผักรวม ลงมาในกะทะร้อนๆ เสริฟทั้งกะทะ





แวะกินโยเกิร์ต ท้องถิ่นกันครับ
รสชาติ จืดมากๆ ต้องกินกะบน้ำผึ้ง









หนังท้องตึงก็ล้อหมุนไปยัง เมืองเวลีโก ทาร์โนโว (ระยะทาง 120 กม.)

ระหว่างทางแวะชม Shipka Memorial (ระยะไกล) ห่างจากคาซานลัคแค่ 12 กม. เข้าสู่บริเวณยอดเขาบอลข่าน (Balkan Mountains) เรียกชื่อตามคาบสมุทรบอลข่าน ผ่าน ทาง Shipka Pass มีความสูง พันกว่าเมตร ซึ่งเคยเป็นสถานที่ทําสงครามระหว่างรัสเซียกับตุรกีในปี ค.ศ. 1877-1878 ที่มี อนุสาวรีย์ระลึกถึงผู้เสียชีวิตในสงคราม



จากนั้นเดินทางสู่ พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเอทารา (Open Air Craft Museum Etara) ที่เริ่มก่อสร้างในปีค.ศ.1963 ยุค ฟื้นฟูบัลแกเรีย ชมบ้านเรือนสองชั้นที่เป็นเอกลักษณ์

หอนาฬิกา  ร้านค้าขายของที่ระลึก ต่างๆของชาวพื้นเมือง อาทิเช่น

หัตถกรรม การแกะสลัก ที่สืบทอดมาตั้งแต่ยุคเรเนสซองส์








เดินทางต่อไปยัง เมืองเวลีโก ทาร์โนโว (Veliko Tarnovo)

เมืองประวัติศาสตร์ราชอาณาจักรแห่งที่สองของ บัลแกเรีย ดินแดนที่มีการตั้งถิ่นฐานที่เก่าแก่ที่สุดในบัลแกเรีย ตั้งแต่ยุคกลางมีการสร้างป้อมปราการที่มีความแข็งแกร่ง

เพื่อป้องกันข้าศึก ตั้งอยู่บนเนินเขาถึงสามลูก คือ Tsarevets, Trapezitsa และ Sveta Gora ด้วยความ พร้อมในทุกๆด้านเมืองแห่งนี้ได้กลายเป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของบัลแกเรียตอนเหนือ

ปัจจุบันเมืองแห่งนี้ได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวจํานวนมากให้มาชื่นชมสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของโลกยุคโบราณ


คืนนี้เรานอนที่MeridianBolyarskiHotel4* ในเมืองเวลโวทาร์โนโว(นอนที่นี่ 2 คืน)

Meridian Bolyarski Hotel Address: 53A Stefan Stambolov Str., Veliko Tarnovo, 5000, Bulgaria Tel: +359 62 613 200 Fax: +359.62.603.355 http://www.bolyarski.com/index_en.php









อาหารตลอดทริปนี้มื้อเย็นคง กินในโรงแรมตลอดทริปครับ
เพราะอาหารจีนค่อนข้างหายาก ส่วนอาหารไทยแทบไม่มีเลย






และภาพ จากระเบียง ยามพระอาทิตย์ใกล้ตก  สู่  หอ หรือที่ประชุมของสภาเมืองที่มองเห็นจากห้องนอน




เรานอนที่นี่ 2 คืน ก็เลยไม่ออกไปไหนกัน

นอนดีกว่า เหนื่อยครับ

.............................🌌🌌🌌🌌🌌🌌🌌.....................

เช้าวันที่ 4 อากาศดีมาก สดชื่นสุดๆ กับวิวยามเช้า

สวรรค์ มีจริงครับ อยู่ตรงหน้าลุงเลย



มื้อเช้ากับวิว ที่ห้องอาหารเช้า










วันที่ 4 แล้ว

วันนี้ตื่นสายหน่อย  ทานอาหารเช้าเสร็จ. ออกไปนอกเมือง นั่งรถครึ่งชั่วโมง

ไปหมู่บ้านอารบานาสซี (Village of Arbanassi) ตั้งอยู่บนที่ราบสูงเวลีโก หมู่บ้านที่แสดงถึงสถาปัตยกรรมเก่าแก่  หมู่บ้านที่อนุรักษ์ไว้ภายใต้  กรมฟื้นฟูของบัลแกเรียแห่งชาติ ชมโบถส์ในยุคศตวรรษที่ 16-17 (Church of Nativity) และบ้านเก่าแก่ Konstantsalie House






ห้องนอน ห้องสุขาของคหบดี ในยุคก่อน



มื้อเที่ยงกินกันในหมู่บ้านนี่แหละ





เป็นอาหารพื้นเมือง. คล้ายสตูว  ครับ ทานกับแป้งนาน





กินเสร็จเดินทางเข้าเมือง  ชมซากปราสาทซาเรเวทส์ (Tsarevets Fortress) ป้อมปราการและ พระราชวังที่แข็งแกร่งในยุคจักรวรรดิบัลแกเรีย (ยุคกลาง) ที่ตั้ง อยู่บนเนินเขาซาเรเวทส์ (Tsarevets Hill) (1185-1393) ด้วยกําแพงที่หนากว่า3 เมตร ประตูทางเข้า 3 ทาง มีหอคอยบอลด์วินทางทิศตะวันออกเฉียงใต้มีพระราชวังตั้งอยู่ตรงกลาง ที่มีกําแพงปิดล้อมอีกชั้นหนึ่ง ภายในกําแพงเมืองเต็มไปที่อยู่อาศัยของช่างฝีมือและ สถานที่ฝึกอบรมช่างฝีมือเพื่อรับใช้งานทางคริสตจักรชมซากปราสาทซาเรเวทส์ (Tsarevets Fortress) ป้อมปราการและ พระราชวังที่แข็งแกร่งในยุคจักรวรรดิบัลแกเรีย (ยุคกลาง) ที่ตั้ง อยู่บนเนินเขาซาเรเวทส์ (Tsarevets Hill) (1185-1393) ด้วยกําแพงทหี่ นากว่า 3 เมตร ประตูทางเข้า 3 ทาง
มีหอคอยบอลด์วินทางทิศตะวันออกเฉียงใต้








จากนั้นมีเวลาเดินเล่นรอบๆเมืองเก่า หาซื้อของที่ระลึกกัน










จนได้เวลามื้อคำ่ สลัด  และ ปลา ..........



วันนี้เหนื่อยมากจากการเดินขึ้นเขาไปชมปราสาท



ราตรีสวัสดิ์ นอนโรงแรมเดิมอีกคินครับ



........................




🌹🌹🌹🌹🌹🌹ต่อตอนที่ 3  🌹🌹🌹🌹🌹🌹

.......ตอนที่ 3  http://ppantip.com/topic/34618776
ชื่อสินค้า:   เที่ยว บัลกาเรีย โรมาเนีย
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่