Note : แฟนฟิกชั่นเรื่องนี้เขียนขึ้นมาด้วยความพีคคู่บอสออย ใน Ep.สุดท้าย ทำให้เขียนแฟนฟิกชั่นขนาดสั้นออกมาได้เรื่องหนึ่ง แล้วก็พัฒนาต่อเป็นฟิกยาวตามความพีคที่ไม่จบไม่สิ้นของคนเขียนค่ะ
Ep.0 Never Too Late
http://ppantip.com/topic/34594113
Ep.1 Forget the Past
http://ppantip.com/topic/34604193
เครดิตภาพเปิดกระทู้ จาก Google ซึ่งลิ้งไปยังเวบ Dek-D อีกทีค่า ถ้าใครทราบที่มาของต้นฉบับ รบกวนแจ้งหน่อยนะคะ เดี๋ยวจะได้ใส่เครดิตให้ถูกต้องค่า
.........................
.
.
.
หลังจากออยส่งแมสเซสไปบอกว่าพร้อมแล้ว บอสก็ช่วยนัดแม่ของเขาให้ ท่านแนะนำว่า ออยน่าจะไปกินข้าวกลางวันที่บ้าน แล้วคุยกันต่อช่วงบ่าย จะได้มีเวลาคุยกันเต็มที่ไม่ต้องรีบกลับ
เมื่อไปถึงบ้านของบอส ออยแปลกใจนิดหน่อยที่พ่อกับแม่ของบอสที่ตอนแรกดูเป็นคนนิ่งๆ กลับใจดีมาก ทั้งคู่คงพอรู้เรื่องของออยมาจากบอสบ้างแล้ว (บอสบอกว่า เขาเอาสเตตัสนั้นให้แม่อ่านเพราะเป็นห่วงเธอ แม่ของบอสเป็นคนแนะนำให้ลูกชายพาออยมาคุยกับท่านเอง) ที่โต๊ะอาหาร พ่อแม่ของบอสก็เลยไม่ถามอะไรออยมากนัก แต่กลับชวนเธอชิมอาหารจานนั้นจานนี้ ครอบครัวของบอสไม่ได้พูดคุยเฮฮาสนุกสนานเหมือนบ้านของขนมปัง แต่บรรยากาศที่โต๊ะอาหารก็สงบและชวนให้สบายใจ
หลังจากนั้นบอสก็เลี่ยงไปจัดการธุระของตัวเอง ปล่อยให้แม่ของเขาคุยกับออยตามลำพัง
‘คุณหมอ’ เริ่มต้นจากการปรับความคิดของออย เกี่ยวกับการมาพบจิตแพทย์ว่าเป็นเรื่องปกติ ออยไม่ต้องกลัวว่าตัวเองจะเป็นคนบ้าหรือมีปัญหาทางจิต หลังจากนั้นทั้งสองก็พูดคุยกันง่ายๆ เรื่องชีวิตประจำวันทั่วไป ก่อนจะวกเข้ามาสู่ประเด็นที่ทำให้ออยตัดสินใจทำเรื่องวันนั้น
คุณหมอแนะนำให้ออยเริ่มจากการยอมรับตัวเอง มองหาข้อดีและยอมรับข้อบกพร่องที่เธอมี คุณหมอย้ำว่า มนุษย์ทุกคนมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ ความจริงแล้วการยอมรับตัวเองที่มีอะไรไม่ดีในตัวได้ก็ถือเป็นความกล้าหาญอย่างหนึ่ง*
คุณหมอทิ้งการบ้านไว้ให้ออยลองกลับไปคิดและปรับตัวดู “ถ้าหนูมีปัญหาหรือสงสัยอะไรก็โทรมาหาหมอได้เลยนะ ถ้าไม่สะดวกก็ฝากมากับบอสก็ได้ แล้วไว้เดี๋ยวเรามาคุยกันอีก”
“เท่านี้หนูก็รบกวนคุณหมอมากแล้วค่ะ” ออยบอกอย่างเกรงใจ “ไม่ได้ไปโรงพยาบาลแต่มาปรึกษาที่บ้านแบบนี้...”
“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ” คุณหมอยิ้ม “ออยเป็นเพื่อนบอสนี่นา รายนั้นหาเพื่อนยากจะตาย หมอดีใจที่เขามีเพื่อนที่ยอมรับเขาอย่างที่เขาเป็นได้ ขอบใจนะที่ออยวิจารณ์นิสัยบอสตรงๆ หมอเลยได้คุยกับเขาเรื่องปรับนิสัยเสียนี่จริงจังเสียที”
“ค่ะ” ออยก้มหน้ารับ รู้สึกผิดนิดหน่อยที่ถูกชม เพราะความจริงแล้ววันนั้นเธอต่อว่าบอสอย่างรุนแรงเพราะความโกรธล้วนๆ
หลังจากคุยกันจบ ออยก็ลาพ่อแม่ของบอสแล้วเดินออกจากบ้านพร้อมกับเจ้าตัว
“ขอบคุณมากนะบอส ที่พาเรามาคุยกับแม่แกวันนี้ เราสบายใจขึ้นเยอะเลย”
“แกรู้สึกดีขึ้นก็ดีแล้ว” อีกฝ่ายว่าแล้วยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู “เพิ่งบ่ายสามครึ่ง วันนี้แกต้องรีบกลับบ้านรึเปล่า”
ออยส่ายหน้า “ก็ไม่นะ” เธอไม่รู้ว่า ‘การพบจิตแพทย์’ ครั้งแรกต้องใช้เวลามากน้อยแค่ไหน เมื่อเช้าก็เลยบอกเตี่ยกับม้าว่าคงอยู่บ้านเพื่อนถึงตอนเย็น และจะกลับบ้านค่ำๆ “กลับไปให้ทันกินข้าวเย็นก็คงโอเค ทำไมเหรอ”
บอสยิ้มออกมานิดๆ “มีที่ที่อยากให้แกไปน่ะ”
.......................................................................
.
.
*Note : บทสนทนาระหว่างออยกับคุณแม่ของบอสที่เป็นจิตแพทย์ เราสรุปจากบทความ #เมื่อออยคุยกับคุณแม่ของบอสที่เป็นจิตแพทย์ ของคุณหมอมินบานเย็น เพจเข็นเด็กขึ้นภูเขา นะคะ คุณหมอเขียนดีและให้ความรู้อย่างมืออาชีพจริงๆ เรารู้สึกอยากให้แฟนๆ ฮอร์โมนคนอื่นๆ ได้อ่านด้วย ก็เลยขอสรุปมาเพียงสั้นๆ ลองเข้าไปอ่านฉบับเต็มได้ตามลิ้งด้านล่างนี้เลยค่ะ
https://www.facebook.com/kendekthai/posts/995342313838288:0
อนึ่ง ทั้งบทสรุปและการใส่ลิ้ง เราได้ขออนุญาตคุณหมอมินฯ และได้รับอนุญาตเรียบร้อยแล้วค่ะ ^^
Cure Ep.2: Start the New (Boss/Oil) Hormones the Final Season’s Fanfiction
Ep.0 Never Too Late
http://ppantip.com/topic/34594113
Ep.1 Forget the Past
http://ppantip.com/topic/34604193
เครดิตภาพเปิดกระทู้ จาก Google ซึ่งลิ้งไปยังเวบ Dek-D อีกทีค่า ถ้าใครทราบที่มาของต้นฉบับ รบกวนแจ้งหน่อยนะคะ เดี๋ยวจะได้ใส่เครดิตให้ถูกต้องค่า
.........................
.
.
.
หลังจากออยส่งแมสเซสไปบอกว่าพร้อมแล้ว บอสก็ช่วยนัดแม่ของเขาให้ ท่านแนะนำว่า ออยน่าจะไปกินข้าวกลางวันที่บ้าน แล้วคุยกันต่อช่วงบ่าย จะได้มีเวลาคุยกันเต็มที่ไม่ต้องรีบกลับ
เมื่อไปถึงบ้านของบอส ออยแปลกใจนิดหน่อยที่พ่อกับแม่ของบอสที่ตอนแรกดูเป็นคนนิ่งๆ กลับใจดีมาก ทั้งคู่คงพอรู้เรื่องของออยมาจากบอสบ้างแล้ว (บอสบอกว่า เขาเอาสเตตัสนั้นให้แม่อ่านเพราะเป็นห่วงเธอ แม่ของบอสเป็นคนแนะนำให้ลูกชายพาออยมาคุยกับท่านเอง) ที่โต๊ะอาหาร พ่อแม่ของบอสก็เลยไม่ถามอะไรออยมากนัก แต่กลับชวนเธอชิมอาหารจานนั้นจานนี้ ครอบครัวของบอสไม่ได้พูดคุยเฮฮาสนุกสนานเหมือนบ้านของขนมปัง แต่บรรยากาศที่โต๊ะอาหารก็สงบและชวนให้สบายใจ
หลังจากนั้นบอสก็เลี่ยงไปจัดการธุระของตัวเอง ปล่อยให้แม่ของเขาคุยกับออยตามลำพัง
‘คุณหมอ’ เริ่มต้นจากการปรับความคิดของออย เกี่ยวกับการมาพบจิตแพทย์ว่าเป็นเรื่องปกติ ออยไม่ต้องกลัวว่าตัวเองจะเป็นคนบ้าหรือมีปัญหาทางจิต หลังจากนั้นทั้งสองก็พูดคุยกันง่ายๆ เรื่องชีวิตประจำวันทั่วไป ก่อนจะวกเข้ามาสู่ประเด็นที่ทำให้ออยตัดสินใจทำเรื่องวันนั้น
คุณหมอแนะนำให้ออยเริ่มจากการยอมรับตัวเอง มองหาข้อดีและยอมรับข้อบกพร่องที่เธอมี คุณหมอย้ำว่า มนุษย์ทุกคนมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ ความจริงแล้วการยอมรับตัวเองที่มีอะไรไม่ดีในตัวได้ก็ถือเป็นความกล้าหาญอย่างหนึ่ง*
คุณหมอทิ้งการบ้านไว้ให้ออยลองกลับไปคิดและปรับตัวดู “ถ้าหนูมีปัญหาหรือสงสัยอะไรก็โทรมาหาหมอได้เลยนะ ถ้าไม่สะดวกก็ฝากมากับบอสก็ได้ แล้วไว้เดี๋ยวเรามาคุยกันอีก”
“เท่านี้หนูก็รบกวนคุณหมอมากแล้วค่ะ” ออยบอกอย่างเกรงใจ “ไม่ได้ไปโรงพยาบาลแต่มาปรึกษาที่บ้านแบบนี้...”
“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ” คุณหมอยิ้ม “ออยเป็นเพื่อนบอสนี่นา รายนั้นหาเพื่อนยากจะตาย หมอดีใจที่เขามีเพื่อนที่ยอมรับเขาอย่างที่เขาเป็นได้ ขอบใจนะที่ออยวิจารณ์นิสัยบอสตรงๆ หมอเลยได้คุยกับเขาเรื่องปรับนิสัยเสียนี่จริงจังเสียที”
“ค่ะ” ออยก้มหน้ารับ รู้สึกผิดนิดหน่อยที่ถูกชม เพราะความจริงแล้ววันนั้นเธอต่อว่าบอสอย่างรุนแรงเพราะความโกรธล้วนๆ
หลังจากคุยกันจบ ออยก็ลาพ่อแม่ของบอสแล้วเดินออกจากบ้านพร้อมกับเจ้าตัว
“ขอบคุณมากนะบอส ที่พาเรามาคุยกับแม่แกวันนี้ เราสบายใจขึ้นเยอะเลย”
“แกรู้สึกดีขึ้นก็ดีแล้ว” อีกฝ่ายว่าแล้วยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู “เพิ่งบ่ายสามครึ่ง วันนี้แกต้องรีบกลับบ้านรึเปล่า”
ออยส่ายหน้า “ก็ไม่นะ” เธอไม่รู้ว่า ‘การพบจิตแพทย์’ ครั้งแรกต้องใช้เวลามากน้อยแค่ไหน เมื่อเช้าก็เลยบอกเตี่ยกับม้าว่าคงอยู่บ้านเพื่อนถึงตอนเย็น และจะกลับบ้านค่ำๆ “กลับไปให้ทันกินข้าวเย็นก็คงโอเค ทำไมเหรอ”
บอสยิ้มออกมานิดๆ “มีที่ที่อยากให้แกไปน่ะ”
.......................................................................
.
.
*Note : บทสนทนาระหว่างออยกับคุณแม่ของบอสที่เป็นจิตแพทย์ เราสรุปจากบทความ #เมื่อออยคุยกับคุณแม่ของบอสที่เป็นจิตแพทย์ ของคุณหมอมินบานเย็น เพจเข็นเด็กขึ้นภูเขา นะคะ คุณหมอเขียนดีและให้ความรู้อย่างมืออาชีพจริงๆ เรารู้สึกอยากให้แฟนๆ ฮอร์โมนคนอื่นๆ ได้อ่านด้วย ก็เลยขอสรุปมาเพียงสั้นๆ ลองเข้าไปอ่านฉบับเต็มได้ตามลิ้งด้านล่างนี้เลยค่ะ
https://www.facebook.com/kendekthai/posts/995342313838288:0
อนึ่ง ทั้งบทสรุปและการใส่ลิ้ง เราได้ขออนุญาตคุณหมอมินฯ และได้รับอนุญาตเรียบร้อยแล้วค่ะ ^^