สวัสดีค่ะ พอดีญาติไปขโมยของที่ห้างสรรพสินค้ารวมมูลค่า ประมาณ 13,000 บาท
แล้วโดนจับข้อหาลักทรัพย์โดยใช้กลอุบาย
ญาติเรารับสารภาพ ศาลชั้นต้นเลยตัดสินให้ จำคุก 1 ปี รับสารภาพลดเหลือ 6 เดือนไม่รอลงอาญา
โดยศาลชั้นต้นตัดสินคดีตามหลักทรัพย์ที่ขโมยมา ศาลชั้นต้นไม่ทราบประวัติ ไม่ทราบว่า
ไม่เคยต้องโทษมาก่อน (เป็นความผิดครั้งแรก) ไม่ทราบเรื่องการศึกษา หลังจากนั้นก็ทำเรื่อง
ประกันตัวเพื่อยื่นอุทธรณ์ พอยื่นอุทธรณ์ไป เราก็หวังว่า ศาลอุทธรณ์น่าจะให้รอลงอาญา เพราะคิดว่าน่าจะพอเข้าข่าย
ป.อาญา มาตรา 56 แต่...ศาลอุทธรณ์ตัดสิน เปลี่ยนจากจำคุกมาเป็นกักขัง 4 เดือน
และลดลงอีกกึ่งหนึ่ง เป็น กักขัง 2 เดือน และไม่อนุญาตให้ฎีกา แต่ญาติเราก็ทำเรื่องขออนุญาตฎีกา โดยให้ศาลชั้นต้นอนุญาต
และยื่นทั้งเอกสารขออนุญาตและคำร้องฎีกา วันที่ 23 ก.ค. 58 พอวันที่ 9 ต.ค.58 มีหมายมาที่บ้าน
ให้ไปฟังคำพิพากษาศาลฎีกา ในวันที่ 29 ธ.ค. 58 (พรุ่งนี้) เลยอยากทราบว่า โอกาสคำพิพากษาของศาลฎีกาจะเป็นไปในแนว
ทางไหนมากที่สุด ???
ขอบคุณค่ะ
โอกาสความเป็นไปได้ของคำพิพากษาศาลฎีกา ???
แล้วโดนจับข้อหาลักทรัพย์โดยใช้กลอุบาย
ญาติเรารับสารภาพ ศาลชั้นต้นเลยตัดสินให้ จำคุก 1 ปี รับสารภาพลดเหลือ 6 เดือนไม่รอลงอาญา
โดยศาลชั้นต้นตัดสินคดีตามหลักทรัพย์ที่ขโมยมา ศาลชั้นต้นไม่ทราบประวัติ ไม่ทราบว่า
ไม่เคยต้องโทษมาก่อน (เป็นความผิดครั้งแรก) ไม่ทราบเรื่องการศึกษา หลังจากนั้นก็ทำเรื่อง
ประกันตัวเพื่อยื่นอุทธรณ์ พอยื่นอุทธรณ์ไป เราก็หวังว่า ศาลอุทธรณ์น่าจะให้รอลงอาญา เพราะคิดว่าน่าจะพอเข้าข่าย
ป.อาญา มาตรา 56 แต่...ศาลอุทธรณ์ตัดสิน เปลี่ยนจากจำคุกมาเป็นกักขัง 4 เดือน
และลดลงอีกกึ่งหนึ่ง เป็น กักขัง 2 เดือน และไม่อนุญาตให้ฎีกา แต่ญาติเราก็ทำเรื่องขออนุญาตฎีกา โดยให้ศาลชั้นต้นอนุญาต
และยื่นทั้งเอกสารขออนุญาตและคำร้องฎีกา วันที่ 23 ก.ค. 58 พอวันที่ 9 ต.ค.58 มีหมายมาที่บ้าน
ให้ไปฟังคำพิพากษาศาลฎีกา ในวันที่ 29 ธ.ค. 58 (พรุ่งนี้) เลยอยากทราบว่า โอกาสคำพิพากษาของศาลฎีกาจะเป็นไปในแนว
ทางไหนมากที่สุด ???
ขอบคุณค่ะ