หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
ใจหนึ่งดวง เป้สองใบ ขึ้นรถไฟไป "คีรีวง"
กระทู้สนทนา
จังหวัดนครศรีธรรมราช
เที่ยวน้ำตก
เที่ยวภูเขา
เที่ยวไทย
โฮมสเตย์
สวัสดีชาวพันทิป...
และแล้วก็ถึงเวลาตามแผนที่วางไว้ ทริปนี้จัดยาวยาว 4 วัน 3 คืน 22-25 ธันวาคม 2558 อยากหาที่สูดอากาศดีๆ บรรยากาศดีๆ สักที่ เคยเห็นที่แห่งหนึ่งตามกระทู้พันทิปนี่แหละ สวยใช้ได้ทีเดียว เห็นเขาว่าเป็นหมู่บ้านที่อากาศดีที่สุดในประเทศไทย นั่นคือ หมู่บ้านคีรีวง อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช นั่นเอง ! เลยนั่งคิดชื่อทริป คิดไปคิดมาเอานั่นเลยละกัน "ใจหนึ่งดวง เป้สองใบขึ้นรถไฟไป "คีรีวง" แต่..ตามที่คิดไว้อยากมีโมเม้น Slow life นั่งรถไฟไปเลยต้องหาจุดตั้งหลัก ที่ตกลงกันคือ "พัทลุง"
เริ่มออกเดินทางกันเลย...ครับผม
เช้าวันอังคาร 22 ธันวาคม 2558 ทริปนี้มีเพื่อนร่วมทางด้วย เราเริ่มจากจุดเริ่มต้นต่างกันแต่จุดหมายเดียวกัน เป้ใบแรกจากชุมพร ใบที่สองจากกระบี่ ผมเริ่มเดินทางจากกระบี่สู่พัทลุง ด้วยรถตู้ กระบี่-หาดใหญ่ เพราะรถตรงจากกระบี่ไม่มี ใช้เวลาเดินทางถึงพัทลุง ประมาณ 3 ชั่วโมง จุดนัดพบของเราคือสถานีขนส่งผู้โดยสารพัทลุง เราได้เจอกันก็ตอน 5 โมงเย็นแล้ว เลยหาที่นอนกันในตัวเมืองพัทลุง เพื่อรอขึ้นรถไฟไปนครศรีธรรมราชกัน...(ตื่นเต้นจนนอนไม่หลับเลย) 555
เช้าวันพุธ 23 ธันวาคม 2558 การเดินทางจริงๆก็เริ่มขึ้น ตื่นเต้นมากๆ เเละไม่รอช้าสิ่งแรกต้องเช็คตั๋วรถไฟไปนครศรีธรรมราช ขบวน 456 (ชั้น3 รถไฟฟรี) ได้ตั๋วมาแล้ววว ^^
ตามตารางเวลารถถึงจะเวลา 11.18 ถึงเวลาแล้วรถก็ยังไม่มาและแล้วสิ่งที่กลัวที่สุดก็เป็นจริง รถไฟเสียเวลา
นี่แหละรถไฟไทย เลยหาที่ลั่นชัตเตอร์กัน
แล้วก็นั่งรอกันต่อไป..........ปู้นนนไปปู้นนนมา จนได้เวลา 12.40 เสียงดังมา ปู้นนนนนนนนี้คงใช่ขบวนที่เราไปก็เริ่มออกเดินทางเลยครับ...
นี่คือสิ่งที่ผมได้มาระหว่างทางมันคือประสบการณ์ใหม่
และแล้วรถไฟขบวนนี้ก็เทียบชานชลา สถานีนครศรีธรรมราช รถไฟจอดสนิท เวลา 16.40 เราต้องนั่งรถต่อไปยังบ้านคีรีวง
ด้วยรถสองแถว นครศรีฯ-คีรีวง เดินไม่ได้ละ วิ่งสิ คิวรถคีรีวงอยู่หน๊ายยย ท่ามกลางสายฝนโปรปราย ชุ่มฉ่ำ โชคดีเห็นรถผ่านมาพอดี โบกอย่างเร็ว (หัวใจเริ่มมีหวังตื่นเต้นตลอดเวลา)
ในสุดเราก็ถึงที่หมาย โอ้ววววว "คีรีวง" เราใช้เวลานั่งรถประมาณ 30 นาที ค่ารถ คนละ 30 บาท ส่งถึงหน้าบ้านเลย แค่บอกว่าพักบ้านใครคนขับเขาก็รู้จักหมด คือดีงะ 555
ถึงที่พัก เก็บกระเป๋า โฮมสเตย์ที่เราพัก เป็นของผู้ใหญ่นุ หมู่ 8 คล้ายกับห้องแถวซึ่งผิดจากที่คาดหวังมานิดหน่อย และตอนนี้ฝนตกยังไม่หยุดตก เศร้าเลย ไม่รอช้าลุยกันเลย สอบถามหาบ้านนายทั่ง (ตามพันทิปมา) เพื่อเช่าจักรยาน เราเดินจากที่พักมาประมาณ 600 เมตร ยอมลุยฝนตามหาบ้านนายทั่ง และเราก็หากันจนเจอ พร้อมแล้วยานพาหนะสองล้อคู่ใจตลอดทริปนี้ จักรยานค่าเช่าวันละ 50 บาทนะ สามารถเลือกได้ตามชอบเลย
อาหารมื้อแรกที่คีรีวงก็ถูกวางอยู่ตรงหน้า ถูกจัดวางอยู่ในถาด เป็นอาหารพื้นบ้าน 6 อย่าง ผักวุ้นเส้น แกงส้ม ไข่เจียว ปลาทูทอด(คอหักด้วย55) น้ำพริกและผัก รสชาติใช้ได้เลย รสชาติคนใต้แท้ๆเลย สงสัยด้วยความหิวมาทั้งวัน จัดไปซะอิ่มจนเกือบล้นคอ 5555
อิ่มแล้วหนังตามันเริ่มจะปิด ขอพักผ่อนก่อนตื่นมาพรุ่งนี้เราไปลุยทุกซอกทุกมุมของหมู่บ้านนี้ที่อากาศดีที่สุดในประเทศไทย "คีรีวง"
เช้าวันแรกที่บ้านคีรีวง 23 ธันวาคม 2558 เมื่อวานเดินทางกันมาหนักมาก วันนี้เลยตื่นซะสายเลย อดดูพระอาทิตย์ขึ้น แต่ไม่เป็นไรเราอยู่กันอีกหลายวัน เราเริ่มออกสำรวจที่นี่กันตั้งเเต่เช้าไปกับจักรยานคู่ใจจากบ้านนายทั่ง ระหว่างทางไปสะดุดตากับลำธารสายใหญ่ที่ทอดผ่านกลางระหว่างหมู่บ้าน ไหลมาจากภูเขา ซึ่งถือว่าเป็นสายน้ำสำคัญของหมู่บ้านเลยละ บางคนก็นั่งซักผ้า บางคนก็อาบน้ำ น่าอิจฉาคนที่นี่เนอะได้อาบน้ำท่ามกลางบรรยาศที่สุดจะบรรยายจริงๆ
ก่อนที่จะมาที่นี่ผมก็ได้ศึกษามาพอคร่าวๆว่าจะเที่ยวไหนได้บ้าง ที่แรกที่น่าสนใจคือ "หนานหินท่าหา" ซึ่งจะมีสะพานแขวนอยู่ เลยสอบถามทางจากป้าที่กำลังซักผ้าริมน้ำในหมู่บ้าน "สะพานแขวนไปทางไหนครับ" ป้าก็ทำหน้างง ผมเลยให้ดูรูป ป้าเลยอ่อ! "สะพานเว" ผมเลยนึกได้ว่า คำว่า "เว" ภาษาใต้ คือ การแกว่งไปแกว่งมา นั่นก็คือสะพานแขวนนั่นแหละครับ เฮ้อออ ขอบคุญครับป้า 5555
เราปั่นจักรยานกันไปเรื่อยๆเลียบลำธารไป ซักประมาณ 2 กิโลเมตรนิดๆนะครับ ก็ถึง "หนานหินท่าหา" บรรยากาศใช้ได้เลย มองออกไปด้านหน้าเป็นภูขาต่ำลงมาเจอสะพานแขวนและด้านล่างเป็นสายน้ำไหลช้าๆ น้ำใสจนเห็นตัวปลาจริงๆ (บรรยายซะเห็นภาพเลย)
มุมนี้เหมือนอยู่ญี่ปุ่นเลยย
ก่อนกลับหันไปเห็นร้านขายน้ำร้านเล็กๆตั้งอยู่ริมน้ำ และผมคงไม่พลาดที่จะนั่งดื่มด่ำท่ามกลางบรรยาศแบบนี้ ฟินยาวววเลย
มีอาหารปลาไว้จำหน่ายด้วย เผื่อใครต้องการดูปลา...
ก่อนที่จะไปที่ต่อไปเราผ่านหน้าวัดคีรีวง ผมขอนั่งพักขาครู่ อากาศดีลมเย็นสบาย...ได้หลับสักงีบตรงนี้คงจะดีนะ ^^
เสียงท้องร้องแล้ว สนุกจนลืมหิว ว่าแล้วก็หาอะไรลงท้องกันดีกว่า ปั่นจักรยานเลือกอยู่หลายร้านเพราะอยากได้บรรยากาศด้วย
จนเจอร้านนี้ "ร้านกาแฟ Check-IN" บรรยากาศจะเป็นอย่างไร ตามภาพเลยครับ หิวมาก ขอตัวก่อนนะครับ
นี่คือ...พี่ปัด ผู้เสกสรรอาหารสุดอร่อยให้เรา 5555 (ชมไปเผื่อได้กินฟรี)
มื้อนี้เสียหายให้พี่ปัดไป 85 บาท ^^
อิ่มแล้ว หายเหนื่อยแล้ว หายเมื่อยแล้วลุยกันต่อเลย ที่หมู่บ้านคีรีวงนี้มีน้ำตกอยู่ด้วยนะครับ ตามที่มีข้อมูลคือ น้ำตกวังไม้ปัก และน้ำตกสอยดาว แต่เลือกเอาที่ใกล้ละกันนะ ไกลเกินปั่นไม่ไหวจริงๆ จากต้วหมู่บ้านปั่นจักรยานไปทางน้ำตกสอยดาว ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร (ถ้าผิดขออภัยด้วยนะประมาณเอาเอง) จะเจอ "น้ำตกวังไม้ปัก" มีน้ำตกไหลลงมาเป็นชั้นๆ เสียงน้ำกระทบกับหิน ลั่นชัตเตอร์รัวๆ..
ใครที่ตามคีรีวงมาจากพันทิปอย่างเช่นเราสองคนต้องรู้จักร้านนี้ "บ้านนายทั่ง" ร้านจะมี 2 ที่ ที่แรกอยู่ก่อนถึงวัดคีรีวง เป็นร้านที่เช่าจักรยานและขายกาแฟของที่ระลึก ร้านตกแต่งด้วยของเก่า เท่ไปอีกแบบ ส่วนร้านที่สอง อยู่ติดริมลำธาร เป็นร้านไม่ใหญ่มากขายกาแฟและเครื่องดื่มต่างๆ
อันนี้ชื่อไอติมขบวนรัก หวานซะ
เย็นมากแล้ววันนี้ทั้งเหนื่อยทั้งเพลีย เราขอตัวอาบน้ำทานข้าวพักผ่อนก่อนนะครับ อาหารค่ำมื้อพิเศษวันนี้ "ต้มกะทิผักกูด" คับ
เดี๋ยวผมจะมาต่อนะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
คีรีวง(Kiriwong) อากาศดี ณ คีรีวง| สบายดีณคีรีวงxThewayIsee
.คีรีวงสบายดี ในคีรีวง. เรายังคงออกตามล่าทะเลหมอก และอากาศเย็นในช่วงต้นปี+มิตรสหายท่านหนึ่งทีได้เริ่มต้นในการให้กำเนิดเด็กตัวน้อยเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างครอบครั
หมูกลมชอบไปเที่ยว
ปัญหาฝุ่น PM 2.5 แม้แต่หมู่บ้านที่อากาศดีที่สุดก็ไม่รอด
ผมมีโอกาสมาเที่ยวหมู่บ้านคีรีวง ที่มีสโลแกนว่า “อากาศดีที่สุดในไทย” โดยเมื่อมาถึง สภาพอากาศครึ้ม มีละอองฝนเป็นระยะๆสลับกันไป บนทิวเขารอบๆมีเมฆหมอกปกคลุมไปทั่ว บรรยากาศดีมากครับ แต่พอจะสูด
สมาชิกหมายเลข 8406375
[CR]นครศรีธรรมราช หมู่บ้านคีรีวง 2 วัน 1 คืน ก็เที่ยวได้
...เริ่มต้นไม่ยากครับ แค่คิดว่า หยุด 2 วัน เสาร์-อาทิตย์ จะไปเที่ยวที่ไหนได้บ้าง เพื่อนๆก็ชวนขึ้น ภูทับเบิก แต่เราอยากลองไปที่อื่นดูบ้าง เพราะภูทับเบิก ไปมาเมื่อปีที่แล้ว ยังรู้สึกฟินอยู่ เพราะเก็บมา
ปัณณ์ กันต์ธร
ฝนตกหนักติดต่อกันหลายชั่วโมงในหลายพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช
https://www.facebook.com/share/p/19ktqG7Yhf/ เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา หลังจากฝนตกหนักติดต่อกันหลายชั่วโมงในหลายพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ทำให้เกิดมวลน้ำป่าจำนวนมหาศาลจากเทือกเขาหลวงนครศรีธรรมราช ได้ไหลเชี
สมาชิกหมายเลข 6700176
ส่งท้ายปีที่คีรีวง : เที่ยวนครศรีธรรมราช
สวัสดีค่ะ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของเรา หากผิดพลาดยังไงขออภัยด้วยนะคะ ^_^ เมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาเราได้ไปเที่ยวหมู่บ้านคีรีวง หมู่บ้านที่อากาศดีที่สุดในประเทศไทยมาค่ะ เราเดินทางจากสุราษฎร์ธานีไปโดยขับ
สมาชิกหมายเลข 3161634
ถ้าให้เลือกสถานที่เที่ยวได้1ที่ระหว่าง แม่กำปองเชียงใหม่ กับ คีรีวง นครศรีธรรมราช 2วัน1คืน เพื่อนๆจะเลือกที่ไหนกันคะ
ไปช่วงเดือนปลายมีนาคมค่ะ
สมาชิกหมายเลข 807389
เข้าป่าตามหาความสงบ น้ำตกกรุงชิง - หมู่บ้านคีรีวง นครศรีธรรมราช
ณ คาบสมุทรมลายู... 1.บทนำอารัมภบท อย่างที่เคยบอกไป ท่านที่หลงเข้ามาอ่านบทความในซีรีย์นี้ ที่เราจะพาทุกท่านย้อนกลับไปกับความทรงจำในอดีต สัก 5 EP. หลังจากที่ลงมาจาก
Tiger not smile
“ศศิกานต์” เผย รัฐบาลสั่งด่วนให้ ปภ. อนุมัติงบฉุกเฉิน
รัฐบาลสั่งด่วนเพิ่มงบเงินทดรองราชการ 6 จังหวัดภาคใต้ ช่วยเหลือน้ำท่วม “ศศิกานต์” เผย รัฐบาลสั่งด่วนให้ ปภ. อนุมัติงบฉุกเฉินจังหวัดภาค
แมทท์
คีรีวง หมู่บ้านที่อากาศดีที่สุดในประเทศไทย
ผมไปมาเมื่อวันที่ 30/12/61 เนื่องจากไม่ได้คิดจะรีวิวสถานที่ตั้งแต่แรก ก็เลยไม่ได้มีข้อมูลอะไรมากมาย วันที่ผมไปเที่ยวมีฝนตกเป็นบางช่วงแต่ก็สนุกครับ ผมอยู่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เดินทางโดยรถตู้จากทุ่
E23JRR
เเบกเป้ ตะลุยคีรีวง 2วัน1คืน ปั่นจักรยาน เเช่น้ำตก ปล่อยตัวตามธรรมชาติสูดอากาศดี๊ดี
เปิดกระทู้เเรก !!! ว่ากันด้วยเรื่องเที่ยว ภาคใต้มีจังหวัดหนึ่งที่อากาศดีที่สุดในประเทศไทย นั่นคือ"หมู่บ้านคีรีวง" จังหวัดนครศรีธรรมราช การเดินทาง : รถตู้ หาดใหญ่-นครศรีธรรมราช คนละ 140 บาท
สมาชิกหมายเลข 2580207
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
จังหวัดนครศรีธรรมราช
เที่ยวน้ำตก
เที่ยวภูเขา
เที่ยวไทย
โฮมสเตย์
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 49
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
ใจหนึ่งดวง เป้สองใบ ขึ้นรถไฟไป "คีรีวง"
และแล้วก็ถึงเวลาตามแผนที่วางไว้ ทริปนี้จัดยาวยาว 4 วัน 3 คืน 22-25 ธันวาคม 2558 อยากหาที่สูดอากาศดีๆ บรรยากาศดีๆ สักที่ เคยเห็นที่แห่งหนึ่งตามกระทู้พันทิปนี่แหละ สวยใช้ได้ทีเดียว เห็นเขาว่าเป็นหมู่บ้านที่อากาศดีที่สุดในประเทศไทย นั่นคือ หมู่บ้านคีรีวง อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช นั่นเอง ! เลยนั่งคิดชื่อทริป คิดไปคิดมาเอานั่นเลยละกัน "ใจหนึ่งดวง เป้สองใบขึ้นรถไฟไป "คีรีวง" แต่..ตามที่คิดไว้อยากมีโมเม้น Slow life นั่งรถไฟไปเลยต้องหาจุดตั้งหลัก ที่ตกลงกันคือ "พัทลุง"
เริ่มออกเดินทางกันเลย...ครับผม
เช้าวันอังคาร 22 ธันวาคม 2558 ทริปนี้มีเพื่อนร่วมทางด้วย เราเริ่มจากจุดเริ่มต้นต่างกันแต่จุดหมายเดียวกัน เป้ใบแรกจากชุมพร ใบที่สองจากกระบี่ ผมเริ่มเดินทางจากกระบี่สู่พัทลุง ด้วยรถตู้ กระบี่-หาดใหญ่ เพราะรถตรงจากกระบี่ไม่มี ใช้เวลาเดินทางถึงพัทลุง ประมาณ 3 ชั่วโมง จุดนัดพบของเราคือสถานีขนส่งผู้โดยสารพัทลุง เราได้เจอกันก็ตอน 5 โมงเย็นแล้ว เลยหาที่นอนกันในตัวเมืองพัทลุง เพื่อรอขึ้นรถไฟไปนครศรีธรรมราชกัน...(ตื่นเต้นจนนอนไม่หลับเลย) 555
เช้าวันพุธ 23 ธันวาคม 2558 การเดินทางจริงๆก็เริ่มขึ้น ตื่นเต้นมากๆ เเละไม่รอช้าสิ่งแรกต้องเช็คตั๋วรถไฟไปนครศรีธรรมราช ขบวน 456 (ชั้น3 รถไฟฟรี) ได้ตั๋วมาแล้ววว ^^
ตามตารางเวลารถถึงจะเวลา 11.18 ถึงเวลาแล้วรถก็ยังไม่มาและแล้วสิ่งที่กลัวที่สุดก็เป็นจริง รถไฟเสียเวลา นี่แหละรถไฟไทย เลยหาที่ลั่นชัตเตอร์กัน
แล้วก็นั่งรอกันต่อไป..........ปู้นนนไปปู้นนนมา จนได้เวลา 12.40 เสียงดังมา ปู้นนนนนนนนี้คงใช่ขบวนที่เราไปก็เริ่มออกเดินทางเลยครับ...
นี่คือสิ่งที่ผมได้มาระหว่างทางมันคือประสบการณ์ใหม่
และแล้วรถไฟขบวนนี้ก็เทียบชานชลา สถานีนครศรีธรรมราช รถไฟจอดสนิท เวลา 16.40 เราต้องนั่งรถต่อไปยังบ้านคีรีวง
ด้วยรถสองแถว นครศรีฯ-คีรีวง เดินไม่ได้ละ วิ่งสิ คิวรถคีรีวงอยู่หน๊ายยย ท่ามกลางสายฝนโปรปราย ชุ่มฉ่ำ โชคดีเห็นรถผ่านมาพอดี โบกอย่างเร็ว (หัวใจเริ่มมีหวังตื่นเต้นตลอดเวลา)
ในสุดเราก็ถึงที่หมาย โอ้ววววว "คีรีวง" เราใช้เวลานั่งรถประมาณ 30 นาที ค่ารถ คนละ 30 บาท ส่งถึงหน้าบ้านเลย แค่บอกว่าพักบ้านใครคนขับเขาก็รู้จักหมด คือดีงะ 555
ถึงที่พัก เก็บกระเป๋า โฮมสเตย์ที่เราพัก เป็นของผู้ใหญ่นุ หมู่ 8 คล้ายกับห้องแถวซึ่งผิดจากที่คาดหวังมานิดหน่อย และตอนนี้ฝนตกยังไม่หยุดตก เศร้าเลย ไม่รอช้าลุยกันเลย สอบถามหาบ้านนายทั่ง (ตามพันทิปมา) เพื่อเช่าจักรยาน เราเดินจากที่พักมาประมาณ 600 เมตร ยอมลุยฝนตามหาบ้านนายทั่ง และเราก็หากันจนเจอ พร้อมแล้วยานพาหนะสองล้อคู่ใจตลอดทริปนี้ จักรยานค่าเช่าวันละ 50 บาทนะ สามารถเลือกได้ตามชอบเลย
อาหารมื้อแรกที่คีรีวงก็ถูกวางอยู่ตรงหน้า ถูกจัดวางอยู่ในถาด เป็นอาหารพื้นบ้าน 6 อย่าง ผักวุ้นเส้น แกงส้ม ไข่เจียว ปลาทูทอด(คอหักด้วย55) น้ำพริกและผัก รสชาติใช้ได้เลย รสชาติคนใต้แท้ๆเลย สงสัยด้วยความหิวมาทั้งวัน จัดไปซะอิ่มจนเกือบล้นคอ 5555
อิ่มแล้วหนังตามันเริ่มจะปิด ขอพักผ่อนก่อนตื่นมาพรุ่งนี้เราไปลุยทุกซอกทุกมุมของหมู่บ้านนี้ที่อากาศดีที่สุดในประเทศไทย "คีรีวง"
เช้าวันแรกที่บ้านคีรีวง 23 ธันวาคม 2558 เมื่อวานเดินทางกันมาหนักมาก วันนี้เลยตื่นซะสายเลย อดดูพระอาทิตย์ขึ้น แต่ไม่เป็นไรเราอยู่กันอีกหลายวัน เราเริ่มออกสำรวจที่นี่กันตั้งเเต่เช้าไปกับจักรยานคู่ใจจากบ้านนายทั่ง ระหว่างทางไปสะดุดตากับลำธารสายใหญ่ที่ทอดผ่านกลางระหว่างหมู่บ้าน ไหลมาจากภูเขา ซึ่งถือว่าเป็นสายน้ำสำคัญของหมู่บ้านเลยละ บางคนก็นั่งซักผ้า บางคนก็อาบน้ำ น่าอิจฉาคนที่นี่เนอะได้อาบน้ำท่ามกลางบรรยาศที่สุดจะบรรยายจริงๆ
ก่อนที่จะมาที่นี่ผมก็ได้ศึกษามาพอคร่าวๆว่าจะเที่ยวไหนได้บ้าง ที่แรกที่น่าสนใจคือ "หนานหินท่าหา" ซึ่งจะมีสะพานแขวนอยู่ เลยสอบถามทางจากป้าที่กำลังซักผ้าริมน้ำในหมู่บ้าน "สะพานแขวนไปทางไหนครับ" ป้าก็ทำหน้างง ผมเลยให้ดูรูป ป้าเลยอ่อ! "สะพานเว" ผมเลยนึกได้ว่า คำว่า "เว" ภาษาใต้ คือ การแกว่งไปแกว่งมา นั่นก็คือสะพานแขวนนั่นแหละครับ เฮ้อออ ขอบคุญครับป้า 5555
เราปั่นจักรยานกันไปเรื่อยๆเลียบลำธารไป ซักประมาณ 2 กิโลเมตรนิดๆนะครับ ก็ถึง "หนานหินท่าหา" บรรยากาศใช้ได้เลย มองออกไปด้านหน้าเป็นภูขาต่ำลงมาเจอสะพานแขวนและด้านล่างเป็นสายน้ำไหลช้าๆ น้ำใสจนเห็นตัวปลาจริงๆ (บรรยายซะเห็นภาพเลย)
มุมนี้เหมือนอยู่ญี่ปุ่นเลยย
ก่อนกลับหันไปเห็นร้านขายน้ำร้านเล็กๆตั้งอยู่ริมน้ำ และผมคงไม่พลาดที่จะนั่งดื่มด่ำท่ามกลางบรรยาศแบบนี้ ฟินยาวววเลย
มีอาหารปลาไว้จำหน่ายด้วย เผื่อใครต้องการดูปลา...
ก่อนที่จะไปที่ต่อไปเราผ่านหน้าวัดคีรีวง ผมขอนั่งพักขาครู่ อากาศดีลมเย็นสบาย...ได้หลับสักงีบตรงนี้คงจะดีนะ ^^
เสียงท้องร้องแล้ว สนุกจนลืมหิว ว่าแล้วก็หาอะไรลงท้องกันดีกว่า ปั่นจักรยานเลือกอยู่หลายร้านเพราะอยากได้บรรยากาศด้วย
จนเจอร้านนี้ "ร้านกาแฟ Check-IN" บรรยากาศจะเป็นอย่างไร ตามภาพเลยครับ หิวมาก ขอตัวก่อนนะครับ
นี่คือ...พี่ปัด ผู้เสกสรรอาหารสุดอร่อยให้เรา 5555 (ชมไปเผื่อได้กินฟรี)
มื้อนี้เสียหายให้พี่ปัดไป 85 บาท ^^
อิ่มแล้ว หายเหนื่อยแล้ว หายเมื่อยแล้วลุยกันต่อเลย ที่หมู่บ้านคีรีวงนี้มีน้ำตกอยู่ด้วยนะครับ ตามที่มีข้อมูลคือ น้ำตกวังไม้ปัก และน้ำตกสอยดาว แต่เลือกเอาที่ใกล้ละกันนะ ไกลเกินปั่นไม่ไหวจริงๆ จากต้วหมู่บ้านปั่นจักรยานไปทางน้ำตกสอยดาว ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร (ถ้าผิดขออภัยด้วยนะประมาณเอาเอง) จะเจอ "น้ำตกวังไม้ปัก" มีน้ำตกไหลลงมาเป็นชั้นๆ เสียงน้ำกระทบกับหิน ลั่นชัตเตอร์รัวๆ..
ใครที่ตามคีรีวงมาจากพันทิปอย่างเช่นเราสองคนต้องรู้จักร้านนี้ "บ้านนายทั่ง" ร้านจะมี 2 ที่ ที่แรกอยู่ก่อนถึงวัดคีรีวง เป็นร้านที่เช่าจักรยานและขายกาแฟของที่ระลึก ร้านตกแต่งด้วยของเก่า เท่ไปอีกแบบ ส่วนร้านที่สอง อยู่ติดริมลำธาร เป็นร้านไม่ใหญ่มากขายกาแฟและเครื่องดื่มต่างๆ
อันนี้ชื่อไอติมขบวนรัก หวานซะ
เย็นมากแล้ววันนี้ทั้งเหนื่อยทั้งเพลีย เราขอตัวอาบน้ำทานข้าวพักผ่อนก่อนนะครับ อาหารค่ำมื้อพิเศษวันนี้ "ต้มกะทิผักกูด" คับ
เดี๋ยวผมจะมาต่อนะครับ