[SR] รีวิว HP Envy 15 พรีเมียมโน้ตบุ๊คเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือ Core i7 Gen 6 หน้าจอ IPS และรองรับ USB Type-C

จากการมาของชิปประมวลผล Intel Core i Gen 6 (Skylake) ทำให้ HP หนึ่งในผู้นำของโลกคอมพิวเตอร์ ได้นำเสนอ HP Envy Series รุ่นปลายปี 2015 ซึ่งเป็นโน้ตบุ๊คเอนเตอร์เทนเม็นท์ในระดับสูงของทาง HP  จากการออกแบบอย่างพิถีพิถัน และใช้วัสดุอะลูมิเนียมตลอดทั้งเครื่อง แตกต่างจากโน้ตบุ๊คปกติทั่วไปตามท้องตลาด มาพร้อมดีไซน์บานพับที่เมื่อเปิดฝาหน้าจอแสดงผลใช้งาน ตัวขอบของฝาบนจะทำหน้าที่ดันตัวเครื่องให้สูงขึ้น ส่งผลให้พิมพ์งานได้สะดวกมากขึ้น และช่วยระบายความร้อนได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย เรียกได้ว่าใส่ในการออกแบบจริงๆ

โดยโน้ตบุ๊ค HP Envy Series ในตอนนี้ที่เข้ามาขายในไทยแล้วจะมีด้วยกัน 3 รุ่นด้วยกัน ก็คือ HP Envy 13 ที่เป็น Ultrabook สุดบางเบา ราคาสุดคุ้มค่า และ HP Envy 14 (หน้าจอ 14 นิ้ว) รวมถึง HP Envy 15 (หน้าจอ 15.6 นิ้ว พร้อมทัชสกรีนได้) ที่มีลักษณะโดยรวมคล้ายๆ กันในเรื่องของดีไซน์ แต่หลักๆ ก็คือ  HP Envy 15 จะให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่าเพราะอัพสเปกมาเต็ม แต่ก็มัน้ำหนักเยอะสุดในสามรุ่นด้วยเช่นกัน

ซึ่งในกระทู้นี้เราจะมารีวิว HP Envy 15 กันอีกรอบ กับโน้ตบุ๊ตกลุ่มมัลติมีเดียเอนเตอร์เทนเม็นท์ ขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD รองรับการทัชกรีน ที่อัพเกรดเป็นพาเนล IPS รุ่นภาพสูง มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์จากโรงงาน ส่วนสเปกก็ถือว่าแรงพอตัวและได้มีการอัพเดท ทำให้ใช้งานได้อย่างรวดเร็วและคลอบคลุมกว่าโน้ตบุ๊คทั่วไป ด้วยชิปประมวลผล Intel Core i7 Gen 6 และการ์ดจอระดับสูงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 950M รุ่นล่าสุด รวมไปถึงยังให้แรมมาขนาดสูงที่ 16GB และ SSD ในตัวที่ 128GB (รุ่นก่อน 256GB) ซึ่งใช้ร่วมกับฮาร์ดดิสก์ความจุ 1TB อีกด้วย น้ำหนักก็เบากว่าโน้ตบุ๊ค 15.6 นิ้วทั่วไป (2.6 โลหรือมากกว่า) ที่ 2.3 กิโลกรัมเท่านั้น เรียกได้ว่าไร้ที่ติจริงๆ สนนราคาก็อยู่ที่ 49,990 บาท ที่ดูแล้วราคาสูงหน่อย แต่เมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้ก็ถือว่าคุ้มค่าพอตัวเลย

สเปกเต็มๆ ของ HP Envy 15 รุ่นปลายปี 2015
- จอแสดงผล 15.6 นิ้ว Full HD แบบกระจก และรองรับการสัมผัส
- ชิปประมวลผล Intel Core i7-6500U (2.50 GHz, up to 3.10 GHz)
- แรมขนาด 16 GB DDR3L-1600 SDRAM
- ฮาร์ดดิสก์หลักเป็น SSD ความจุ 128GB SSD (M.2)
- ฮาร์ดดิสก์รองเป็น HDD ความ 1TB
- การ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 950M มาพร้อมแรม 4GB
- รองรับ USB Type-C พอร์ตแห่งอนาคต
- ระบบเสียง Bang & Olufsen แบบ 4.1 Channel ให้เสียงรอบทิศทาง
- คีย์บอร์ดมีไฟใช้งานง่าย ทัชแพดขนาดใหญ่มรองรับ Gesture Control
- Wi-Fi รองรับ 802.11b/g/n/ac (1x1)
- Bluetooth 4.0 combo
- ระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์
- แบตเตอรี่ใช้ได้ต่อเนื่องถึง 8 ชั่วโมง
- ไม่มีไดร์ฟ DVD ในตัว แต่มีแบบ External แถมให้
- รับประกัน 2 ปี และได้รับบริการ HP SmartFriend จำนวน 1 ปี
- ราคา 49,990 บาท

การใช้งานหน้าจอแสดงผลของ HP ENVY 15 ให้ประสบการณ์ใช้งานที่ดี ด้วยความที่มีความละเอียดระดับ Full HD (1920 x 1080 พิกเซล) ให้พื้นที่การใช้งานที่มากกว่าโน้ตบุ๊คที่หน้าจอเป็นเพียง HD ส่วนพาเนลคุณภาพสูง IPS ทำให้มีสีสันที่สวยงามสมจริงแบบสุด  แน่นอนว่าหน้าจอเป็นกระจกที่ลดแสงสะท้อนพิเศษ ลองใช้งานจริงก็พบว่าพอที่จะมีแสงสะท้อนอยู่บ้างแต่อยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ ส่วนในเรื่องของเสียงนั้นบอกได้เลยว่าแจ่มใช้ได้ทีเดียว ด้วยความเป็นระบบเสียง Bang & Olufsen แบบ 4.1 Channel ให้เสียงรอบทิศทาง เพราะได้ลำโพง 4 ตัวและซัฟวูฟเวอร์ 1 ตัว ส่งผลมีเสียงเบสมากกว่าโน้ตบุ๊คปกติพร้อมกับมีมิติแยกเครื่องดนตรีได้ชัดเจน ลองเอาไปเล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลงก็ประทับใจเพราะมีเสียงครบช่วง เรียกได้หาได้น้อยในโน้ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ แน่นอน

HP ENVY 15 จัดได้ว่าทำได้ดีสำหรับใช้งานทั่วไป อาทิการพิมพ์งานเอกสารต่างๆ ส่งอีเมล ท่องเว็บไซต์ เล่นโซเซียสมีเดีย และแชทออนไลน์ ก็ทำได้แบบลื่นไหลด้วยแป้นพิมพ์ขนาดปกติแบบมีไฟพื้นหลังพร้อมปุ่มตัวเลข ที่ออกแบบมาได้ดีระดับนึงมีการเด้งรับต่อการพิมพ์สัมผัสต่อเนื่องได้ดี และตัวแป้นเองไม่ยวบจนเกินไป ที่สำคัญยังมาพร้อมไฟแสดงผลบนคีย์บอร์ดทำให้ในที่แสงน้อยหรือมืดได้ดี แต่ติดนิดนึงตรงที่ไฟส่องสว่างไม่สม่ำเสมอแป้นพิมพ์เท่าใดนัก ส่วนทัชแพดเองก็จะเป็นทัชแพดมีขนาดที่ใหญ่มาก มากกว่าโน้ตบุ๊คทั่วไปมาก ส่งผลให้ใช้งานได้สะดวกสบายมาพร้อมกับเทคโนโลยี Gesture Control ที่รองรับการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบบน Windows 10 เช่น ซูมเข้า ซูมออก เลื่อนขึ้น-ลง หรือการแตะ  ซึ่งทัชแพดเองก็ลื่นไหลใช้งานดีไม่แพ้จอสัมผัสกันเลย

โดยส่วนตัวแล้วผมเองเล่นเกมออนไลน์ MOBA ยอดนิยมอย่าง DOTA 2 เป็นประจำก็เลยจัดซะเลยบนเครื่อง HP Envy 15 เสียเลย ผ่านการติดตั้งของ Steam ซึ่งดาวน์โหลดมาติดตั้งลงเครื่องอีกที โดยอย่างที่ทราบกันดีว่าเกม DOTA 2 เป็นเกมที่กินทรัพยากรระดับนึงเมื่อปรับสุด พร้อมกับยังตั้งความละเอียดเป็น Native ของหน้าจอที่ Full HD ซึ่งจากการทดลองเล่นแล้ว ก็ให้ผลเป็นที่น่าพอใจ จากความลื่นไหลของภาพ และกราฟิกต่างๆ ที่เราปรับจนสุด โดยทดลองจับ FPS ก็พบว่าอยู่ที่ระดับ 50 - 60 เลยทีเดียว ทั้งในฉากปกติและตะลุมบอนกัน รวมไปถึงตัว Wi-Fi ก็ทำงาานได้ดี ทำให้เกมไม่ Lag หรือกระตุกเลย

และอีกเกมก็จะเป็นเกมที่ค่อนข้างกินสเปกอย่าง Mortal Kombat X ที่จัดได้ว่าเกมต่อสู้สุดโหดของเหล่าบรรดานักสู่ยอดมนุษย์ ที่มีฉากเลือดสาดดิบเถื่อนอยู่พอตัว แน่นอนตัวผมเองชอบเล่นเป็นพิเศษเลย แบบว่าเหมือนได้ระบายอารมณ์อะไรอย่างงั้น ตอนนั้นก็ซื้อมาแบบพรีด้วย จากการที่เสี้ยนมากๆ จากเกมดูแล้วน่ามันส์ พร้อมกราฟิกที่โหดพอตัวเลย เรียกได้ว่าเคยลองใช้พีซีสเปกแรงที่มาพร้อมการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 970 ยังเล่น Full HD ปรับสุดได้ไม่ลื่นเลย ว่าแล้วก็เอามาลองกับ HP Envy 15 ก็ถือว่าใช้ได้ทีเดียวกับความละเอียด Full HD ที่ก็ดูลื่นไหลดี แต่ก็ต้องยอมปรับกราฟิกอื่นๆ ลงมาจนเกือบหมดเลย อย่างไรก็ตามถือว่าสอบผ่าน เพราะเล่นได้สนุกสนานไม่ว่าจะไปเล่นที่ไหน ด้วยความที่เป็นโน้ตบุ๊คนั่นเอง อ่อ...เกมทั้งสองเกมติดตั้งบน SSD ความจุ 128GB ได้อย่างสบายๆ เลย โหลดเกมเร็วมากกก

ส่วนเกมอื่นๆ ที่ผมเล่นอยู่ก็ตอบสนองได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น Resident Evil 6 / Need for Speed: Most Wanted / Need for Speed Rivals / Plants vs. Zombies Garden Warfare / Street Fighter V ซึ่งยังไงถ้าใน SSD ไม่พอเพียงกับการติดตั้งเกม (จากสภาพก็ไม่พอนั่นแหละ) เราก็ยังสามารถย้ายมาติดตั้งที่ฮาร์ดดิสก์ลูก 1TB ได้ อาจจะโหลดเกมไม่ทันใจเท่า SSD แต่ก็สบายๆ แล้วกับการใช้งาน

นอกเหนือจากนี้พอร์ตการเชื่อมต่อก็ครบครันทั้ง USB 3.0 สี่พอร์ต, HDMI, LAN ที่สำคัญยังมี USB Type-C กับพอร์ต ที่จะรองรับอุปกรณ์ใหม่ๆ ในอนาคต พร้อมแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานกว่า 7-8 ชั่วโมงในโหมดประหยัดพลังงาน และทาง HP ยังให้บริการ iPass ที่ใช้ WiFi ได้ฟรีทั่วโลกในระยะ 1 ปี เพียงแค่เชื่อมต่ออินเตอร์ WiFi และ Log-in ผ่านแอปพลิเคชั่น iPass ก็สามารถใช้งานได้แล้วละครับ โดยในประเทศไทยทั้ง True, AIS และ 3BB ก็รองรับและยังมีการรับประกัน 2 ปี ที่มาพร้อมบริการ HP SmartFriend ที่รับซ่อมเครื่องที่บ้าน, กู้ข้อมูลฟรี 1 ครั้ง และบริการคอลเซ็นเตอร์ให้คำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง อีกทั้งกรณีที่แก้ปัญหาได้ไม่สำเร็จหน้างาน ก็ยังมีบริการ Pick up and Return ที่รับเครื่องมาซ่อมยังศูนย์บริการและส่งคืนกลับไปหาผู้ใช้ที่ไหนก็ได้ในประเทศไทย

ซึ่งจากคุณสมบัติมากกมายรวมถึงการออกแบบและประสิทธิภาพของ HP Envy 15 เหมาะสมอย่างยิ่งกับวัยทำงานที่ต้องการโน้ตบุ๊คที่ Powerful Entertainment ในแบบพรีเมียม หรูหรา ดูแพง ไว้ทำงานหรือในเวลาว่างๆชอบความสนุกสนานจากเล่นเกม และผ่อนคลายด้วยความบันเทิงแบบเต็มขั้นอย่างแท้จริง มาพร้อมกับราคา 49,990 บาท ที่ได้รับการตีบวกจากรุ่นก่อนพอตัว (แม้ว่าจะโดนแอบลด SSD ลงก็เถอะนะ) ทั้งรองรับ USB Type-C พอร์ตแห่งอนาคต ชิปประมวลผล Core i7 Gen 6 ที่สดใหม่ และหน้าจอพาเนล IPS ที่สวยงามก็จริง แต่ก็กลับสะท้อนแสงพอตัว คือต้องบอกว่าตอนใช้งานที่คอนโดนั้นโอเคมาก แต่ตอนไปเอาถ่ายรูปที่ร้านกาแฟ แสงรอบๆ กลับสะท้อนค่อนข้างเยอะ ง่ายๆ คือ HP Envy 15 รุ่นนี้ เหมาะกับการใช้งานในรวมเสียมากกว่านั่นเอง
ชื่อสินค้า:   HP Envy 15
คะแนน:     
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่