ช่วงปีใหม่หลายๆคนอาจจะมีแพลนไปเที่ยวกันในวันหยุดยาว ผมเลือกไปยุโรปเพราะผมมีพาสปอร์ตที่โน่นเลยไปง่ายหน่อย ทั้งๆที่พ่อกับแม่ผมก็เตือนแล้วว่ามีแต่คนหนีอากาศหนาวมาเที่ยวบ้านเรา ไปโน่นมันเป็นช่วงวันหยุดยาวคนเค้าก็ไปอยู่กับครอบครัว... ใครจะไปคิดล่ะครับว่าสถานที่ต่างๆที่ต้องซื้อบัตรเข้าชมจะปิดกันด้วย แต่ไม่ครับ..ทริปนี้ไม่เฟล เราก็เน้นไปดูพวกสถาปัตยกรรมแทน.. ม่ะ เริ่มกันเลย

               ทริปนี้ผมบินไปคนเดียวครับ นัดเจอกับเพื่อนที่มิลาน บินโดยสายการบินไทย บินตรง ไปถึงที่มิลานก็เช้าพอดี.. พอไปถึงปุ๊บก็เอาข้าวของไปเก็บที่บ้านเพื่อนละก็ออกไปเดินเล่นเบาๆครับ

               ที่มิลานจะไม่ค่อยมีอะไรน่าตื่นตาตื่นใจอะไรมากมาย เพราะเป็นเมืองเกี่ยวกับแฟชั่น ส่วนใหญ่คนจะเน้นมาช็อปปิ้งของแบรนด์เนม แต่ก็จะมี Duomo เป็นมหาวิหารแห่งเมืองมิลาน ผมเดินดูทั้งด้านนอกและด้านใน ใหญ่โตอลังการมากครับ

มาดูด้านนอกของ Duomo กันก่อนเนอะ


ซูมเข้าไปที่ตัววิหาร...อื้อหือออ วิจิตรมากครับ


ถ้าหันกล้องไปอีกทิศนึงก็จะเห็นช็อป Ray-Ban โดดเด่นเป็นสง่า... แต่เอาจริงๆซื้อที่นี่ก็ไม่ได้ถูกกว่าไทยเท่าไหร่นะ


ช่วงที่ไปนี่เป็นช่วงคริสต์มาสพอดี แถวๆรอบวิหารก็จะมีอุปกรณ์คริสต์มาสมาขาย ผมก็ไปเดินดูผ่านๆอ่ะ


เดินๆไปเอ้อ..เจอคนแต่งตัวแปลกดี เข้าไปขอถ่ายรูปด้วยหน่อย... พอถ่ายเสร็จหันมาแบมือ บอก 5 Euro... ผมก็แบบ W...T...FFFFFF เกือบ 250 บาทเลยนะ คิดในใจนะว่า อืม ฝรั่งมาไทยก็โดนขูดใช่ย่อย ก็...หายกันนะ ยังไม่อยากมีปัญหาตั้งแต่วันแรก""


ผมไปสะดุดกับของหวานร้านนี้ครับ อื้มมมม ราคาไม่สูงมากพอจะซื้อฝากได้ครับ แต่ผมซื้อกินเองนะ
แถวๆนั้นจะมีร้านเล็กๆประมาณนี้หลายร้านเลยครับ แต่ผมชอบร้านนี้สุด


อ่ะ...มีอีกร้านสำหรับคุณผู้หญิงโดยเฉพาะ ย้ำนะครับนี่คือช็อคโกแลต ไม่ใช่รองเท้านะ


เดินเล่นรอบนอกพอแล้ว เราก็เข้าไปชมข้างในกันบ้างครับ โดยถ้าจะถ่ายภาพต้องเสียเงินคนละ 2 ยูโร
ด้านในวิหารขอลงพอหอมปากหอมคอนะครับ

ข้างในค่อนข้างมืดนะ ผมปรับสปีดชัตเตอร์ลง และดัน ISO ขึ้นสุดเลย NOISE ค่อนข้างเยอะครับ


มีคนเข้าไปนั่งอธิษฐานขอพรครับ ช่วงเทศกาลถ้าใครไม่ได้อยู่กับครอบครัวในเมืองมิลานก็มีที่นี่แหละครับที่คนนิยมมาขอพร


สวยและละเอียดมากๆครับ


อ่ะ...ลองซูมเข้าไปหน่อย


หลังคาอลังการ ละเอียดอ่อนมากจริงๆ




               หลังจากเข้าชมดูโอโม่ ผมก็เดินเล่นช็อปปิ้งแถวนั้นนิดๆหน่อยละก็กลับที่พักครับ บ้านพักเพื่อนผมอยู่แถวๆนั้นไม่ไกลเท่าไหร่ นอนคืนนึงตื่นมาเช้าอีกวันก็นั่งรถไฟไปเวนิสครับ
               จากมิลาน ไปเวนิสง่ายมากครับ เดินไปที่สถานีรถไฟ Centrale ละก็ไปถาม information ก็ได้ครับ แต่ถ้าเซียนๆก็อ่านๆเอาละไปจองเลย สำหรับผมผมเป็นคนขี้เกียจวางแผน แค่ดูๆว่าจะไปเที่ยวไหนบ้างอาศัยถามอย่างเดียวครับ อ้อ..อีกเรื่องนึง รถไฟที่อิตาลี่โคด ของโคด ดีเลย์เลยครับรอนานมาก มาต่อกันที่เวนิสนะ..

มาช่วงปีใหม่ก็ดีอย่างเสียอย่างครับ คนน้อยมาก แต่ข้อเสียคือหนาวมากกกกกกกกก แต่ยอมครับได้รูปที่ไม่เบียดเสียดกับใคร


เวนิส...เมืองแห่งสายน้ำ สมชื่อจริงๆครับ


เวนิสจะมีเทศกาลสำคัญ และขึ้นชื่อที่สุดเลยคือ เทศกาลสวมหน้ากาก 'เวนิส คาร์นิวัล' จะมีช่วงเดือนมกราถึงกุมภาครับ ช่วงที่ผมไปก็ไปดูเป็นของฝากแทนละกัน สวยหลอนแปลกตาดีครับ


เรือกอนโดล่าาาาาา




ถ่ายคู่กับเรือซักหน่อย




เอาจริงๆ ผมชักเริ่มชอบการถ่ายภาพละล่ะ




มาถึงเวนิสแล้วไม่ขึ้นกอนโดล่าก็จะกะไรอยู่ จัดไปอย่าให้เสีย...ค่าขึ้นเรือกอนโดล่านี่อยู่ที่ดวงเลยครับ เดินถามไปเรื่อยๆจนเจอที่ถูกที่สุดละกันครับ ของผมได้เหมาลำอยู่ที่ 30 ยูโร ล่องประมาณชั่วโมงนึงครับ




ล่องเรือไปได้ซักพัก คุณคนขับเรือก็ร้องโอเปร่าครับ อื้อหือ..บรรยากาศสุดยอด เหมือนอยู่ในหนังอ่ะครับ


ให้เพื่อนถ่ายตอนอยู่บนเรือมั่งครับ




อ่ะมีคลิปด้วยครับผม


ขออีกภาพก่อนลงจากกอนโดล่าละกันนะ


ขึ้นมาจากกอนโดล่าก็หิวละครับ เดินหาของกินกันสนุกเลย มาเมืองสายน้ำก็อยากกินอะไรที่มันมาจากน้ำ... ก็จะมีประมาณนี้ครับ


แต่ผมจบลงที่จานนี้ครับ เค้าบอกร้านนี้เป็นร้านขึ้นชื่อ...แต่ผมจำชื่อร้านไม่ได้ต้องขออภัยด้วยค้าบ
แต่ไม่ต้องเสียดายนะ สำหรับผม...ไม่ถูกปากเลยครับ ถ่ายรูปเป็นที่ระทึกซักหน่อย


ก่อนออกจากเวนิส ขอจบด้วยภาพนี้ละกันนะครับ บรรยากาศเย็นๆกำลังจะค่ำ..ขอบอกเลยครับว่าหนาวสุดยอดจริงๆ



ขอเบรคก่อนนะครับ เดี๋ยวมาต่อด้วยบาร์เซโลน่า =D