Christmas’ stalker 🎄
เธอคนนั้นอยู่ในความทรงจำของผมเสมอ
นานมาแล้วซินะ ที่เราไม่ได้เจอกัน ไม่รู้เธอจะเป็นอย่างไรบ้าง เธอหายไปจากระบบ ไม่มีการโพสอัพเดทสเตตัสบ่อยๆ นานๆ ทีเธอจะโพสรูปสวยๆ ที่ไม่มีแม้เงาของเธออยู่ในนั้น แต่ผมรู้ว่าเธออยู่ตรงนั้น เมื่อสามปีที่แล้วเธอเปลี่ยนสเตตัสเป็นแต่งงานแล้ว โพสภาพงานแต่งเล็กๆ ไม่มากมาย
…...ส่วนผมยังเหมือนเดิม มีความสุขกับงานที่รัก แต่บ้างครั้งก้อมีปวดหัวบ้างกับเรื่องรอบตัวที่ไม่ได้อย่างใจ ส่วนเรื่องความรักยังเหมือนเดิม ล่องลอยเหมือนอยู่ในอากาศ นี้เดือนธันวาคม กลิ่นของเทศกาลคริสมาสปลิวฟุ้งอยู่รอบๆ หลายคนบอกมันคือเทศกาลแห่งการแบ่งปันสุข คนรอบๆ ตัวผมกำลังวุ่นวายสาละวนหาของขวัญให้ครอบครัว เพื่อนฝูงกันใหญ่ แผนการท่องเที่ยวฉลองยาวไปถึงปีใหม่มีให้ได้ยินกันทุกวัน
.
.
.
.
แต่ในหัวผมตอนนี้ กลับมีรอยยิ้มของเธอ
“เราชอบช่วงคริสมาส อยากเห็นหิมะตก อยากแกะของขวัญใต้ต้นคริสมาส” เสียงของเธอดังขึ้นในสมองของผม อยู่ๆ เธอก็บอกผมวันหนึ่ง ตอนนั้นผมคิดว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ เรื่องเพ้อเจอของพวกเด็กผู้หญิงในประเทศร้อน
เรื่องของผมกับเธอเริ่มในฤดูร้อน ตอนที่ผมย้ายไปโรงเรียนใหม่ เธอเป็นเพื่อนในห้องไม่สวย ไม่ขาว ตอนนั้นไม่แน่ใจว่าเธอน่ารักไหม จำได้ว่าเธอขี้อายมาก แต่อยู่ๆ เราก็คบกัน ผมไม่แน่ใจมันเริ่มเมื่อไหร่ เราไม่เหมือนคู่รักมัธยมทั่วไป เราไม่เคยกินข้าวพร้อมกัน แทบจะไม่เคยกลับบ้านพร้อมกัน นานๆ ที ผมจะเดินไปส่งเธอตรงปากซอยเข้าบ้านเธอ เราคุยกันไม่เยอะมาก โดยมากเป็นเรื่องเกี่ยวกับจิตนาการแบบเด็กๆ ของเธอซึ่งผมยังจำได้มาถึงทุกวันนี้ เธอไม่เคยเรียกร้องเวลาใดๆ จากผม แค่ทุกๆ เช้าที่โรงเรียนเธอจะยิ้มให้ผมอย่างเขิน ดวงตากลมๆ สีน้ำตาลเข้มของเธอทำให้ผมมีความสุขมากอย่างไม่น่าเชื่อ เธอไม่ค่อยคุยกับเด็กผู้ชายเท่าไหร่หนัก รวมถึงผมด้วย ตอนที่ผมไม่สบาย เพื่อนๆ คะยั้นคะยอให้เธอพาผมไปห้องพยาบาล เธอทำตาม นั้นแทบจะเป็นครั้งแรกที่เราอยู่ด้วยกันสองคนในโรงเรียน พอเราเดินพ้นห้องเรียนได้ เธอหันมาบอกผมว่า “คนสุขภาพดี ต้องเดินนำคนป่วยนะ” พูดเสร็จ เธอก็ทำตามนั้น ผมเดินตามหลังเธอแบบงงๆ เธอเป็นเด็กผู้หญิงที่อยู่ใกล้ๆ แล้วสบายใจอย่างบอกไม่ถูก ความพิเศษของเธอคือเธอเป็นเด็กผู้หญิงที่โตอย่างช้าๆ เรียบๆ ผมแอบรู้มาว่านักบาสตัวโรงเรียนแอบชอบเธอ ผมไม่รู้ว่าเธอไปทำอะไรให้นักบาสคนนั้นชอบ แปลกดีผมคิดแบบนั้นตอนนั้น ผมกับเธอเลิกกันช่วงย้ายห้องประจำปี เราทั้งคู่ไม่ได้บอกเลิกกัน ที่เราเลิกกัน ผมคิดว่าเพราะเธอยุ่งๆ กันการเรียนและกิจกรรมกับเพื่อนๆ เด็กผู้หญิง และผมก็ยุ่งยุ่งกับเพื่อนๆ ผู้ชาย แต่ผมก็ติดตามข่าวคราวเธออย่างเงียบๆ นักบาสคนนั้นตามจีบมากขึ้น แต่เธอคงงงๆ อยู่ช่วงนั้น เพราะเธอคงไม่มั่นใจว่ามันเป็นเรื่องจริง ผมไม่ได้คุยกับเธอเลย นอกจากแว๊บๆ เจอ เธอก็ยิ้มให้แบบเขินๆ แต่เป็นผมซะมากกว่าที่เฝ้ามองเธอจนสุดสายตา
พอจบม. 3 เธอเลือกไปเรียนต่อม. ปลายที่จังหวัดข้างๆ ส่วนผมเลือกต่อสายอาชีพที่จังหวัดข้างๆ เช่นเดียวกับเธอ ผมเจอเธอเป็นบ้างครั้งบนรถเมล์ เธออยู่ในชุดม.ปลาย เสื้อคอปกสีขาว กระโปรงสีน้ำเงินจีบยาวเลยเข่ากับเข็มขัดประจำโรงเรียน ผมสั้นเกือบติ่งหูที่ยังดูไม่ได้ทรงแต่กลับเข้ากันดีกับตากลมๆ ของเธอ แต่ตอนนี้เธอเริ่มใส่แว่น เธอยังดูงงๆ เขินๆ อายๆ เหมือนเดิม เธอไม่มีแฟนเหมือนเดิม นักบาสยังตามจีบเธอ แต่เธอปฏิเสธไป ส่วนผมมีแฟนไปเรื่อยเปื่อย แต่ลึกๆ ผมยังคิดถึงเธอเสมอ โดยเฉพาะช่วงเดือนธันวาคม เป็นช่วงเวลาที่เธอชอบ
หลังจากนั้นหลายปีผ่านไป วันหนึ่งผมได้เฟสเธอจากเพื่อนเก่าในงานเลี้ยงรุ่นที่เธอไม่เคยมา และลองแอ้ดเธอไป ไม่นานเธอรับแอ้ดกลับมา และเราก็กลายมาเป็นเพื่อนทางเฟสกันอีกครั้ง แต่ก็แค่นั้น เราไม่ได้เริ่มติดต่อกัน ผมแค่แอบดูทามไลน์ เธอไม่ค่อยโพสอะไรส่วนตัวมากมาย แต่ผมก็ยังรู้สึกอุ่นใจที่อย่างน้อยเฟสบุ๊คก็ยังเป็นตัวเชื่อมโลกของเราแบบห่างๆ อย่างเงียบๆ มาตลอด ผมได้กดไลค์ให้เธอตอนที่โพสภาพงานแต่ง และช่วงที่เธอเปลี่ยนสถานะเป็นแต่งงานในเฟส ผมแอบใจหายเงียบๆ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
ช่วงนี้เดือนธันวาแล้ว หิมะเริ่มตก ปีนี้เป็นปีแรกที่ผมได้มีโอกาสอยู่ในประเทศเดียวกับเธออีกครั้ง แต่ผมไม่แน่ใจว่าเธอรู้หรือเปล่า ทุกครั้งที่หิมะตก ผมกลับคิดถึงเธอมากขึ้นทุกที เธอคงมีความสุขอยู่ตรงไหนสักแห่ง …………………..
Merry Christmas ……...เด็กผู้หญิงในความทรงจำ
ถ้าเพียงผมกล้ามากกว่านี้
วันนี้เราคงได้นั่งดูหิมะด้วยกัน
และผมคงได้เห็นความตื้นเต้นของเธอในตอนที่เธอแกะกล่องของขวัญจากผม
เรื่องสั้นๆ
เธอคนนั้นอยู่ในความทรงจำของผมเสมอ
นานมาแล้วซินะ ที่เราไม่ได้เจอกัน ไม่รู้เธอจะเป็นอย่างไรบ้าง เธอหายไปจากระบบ ไม่มีการโพสอัพเดทสเตตัสบ่อยๆ นานๆ ทีเธอจะโพสรูปสวยๆ ที่ไม่มีแม้เงาของเธออยู่ในนั้น แต่ผมรู้ว่าเธออยู่ตรงนั้น เมื่อสามปีที่แล้วเธอเปลี่ยนสเตตัสเป็นแต่งงานแล้ว โพสภาพงานแต่งเล็กๆ ไม่มากมาย
…...ส่วนผมยังเหมือนเดิม มีความสุขกับงานที่รัก แต่บ้างครั้งก้อมีปวดหัวบ้างกับเรื่องรอบตัวที่ไม่ได้อย่างใจ ส่วนเรื่องความรักยังเหมือนเดิม ล่องลอยเหมือนอยู่ในอากาศ นี้เดือนธันวาคม กลิ่นของเทศกาลคริสมาสปลิวฟุ้งอยู่รอบๆ หลายคนบอกมันคือเทศกาลแห่งการแบ่งปันสุข คนรอบๆ ตัวผมกำลังวุ่นวายสาละวนหาของขวัญให้ครอบครัว เพื่อนฝูงกันใหญ่ แผนการท่องเที่ยวฉลองยาวไปถึงปีใหม่มีให้ได้ยินกันทุกวัน
.
.
.
.
แต่ในหัวผมตอนนี้ กลับมีรอยยิ้มของเธอ
“เราชอบช่วงคริสมาส อยากเห็นหิมะตก อยากแกะของขวัญใต้ต้นคริสมาส” เสียงของเธอดังขึ้นในสมองของผม อยู่ๆ เธอก็บอกผมวันหนึ่ง ตอนนั้นผมคิดว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ เรื่องเพ้อเจอของพวกเด็กผู้หญิงในประเทศร้อน
เรื่องของผมกับเธอเริ่มในฤดูร้อน ตอนที่ผมย้ายไปโรงเรียนใหม่ เธอเป็นเพื่อนในห้องไม่สวย ไม่ขาว ตอนนั้นไม่แน่ใจว่าเธอน่ารักไหม จำได้ว่าเธอขี้อายมาก แต่อยู่ๆ เราก็คบกัน ผมไม่แน่ใจมันเริ่มเมื่อไหร่ เราไม่เหมือนคู่รักมัธยมทั่วไป เราไม่เคยกินข้าวพร้อมกัน แทบจะไม่เคยกลับบ้านพร้อมกัน นานๆ ที ผมจะเดินไปส่งเธอตรงปากซอยเข้าบ้านเธอ เราคุยกันไม่เยอะมาก โดยมากเป็นเรื่องเกี่ยวกับจิตนาการแบบเด็กๆ ของเธอซึ่งผมยังจำได้มาถึงทุกวันนี้ เธอไม่เคยเรียกร้องเวลาใดๆ จากผม แค่ทุกๆ เช้าที่โรงเรียนเธอจะยิ้มให้ผมอย่างเขิน ดวงตากลมๆ สีน้ำตาลเข้มของเธอทำให้ผมมีความสุขมากอย่างไม่น่าเชื่อ เธอไม่ค่อยคุยกับเด็กผู้ชายเท่าไหร่หนัก รวมถึงผมด้วย ตอนที่ผมไม่สบาย เพื่อนๆ คะยั้นคะยอให้เธอพาผมไปห้องพยาบาล เธอทำตาม นั้นแทบจะเป็นครั้งแรกที่เราอยู่ด้วยกันสองคนในโรงเรียน พอเราเดินพ้นห้องเรียนได้ เธอหันมาบอกผมว่า “คนสุขภาพดี ต้องเดินนำคนป่วยนะ” พูดเสร็จ เธอก็ทำตามนั้น ผมเดินตามหลังเธอแบบงงๆ เธอเป็นเด็กผู้หญิงที่อยู่ใกล้ๆ แล้วสบายใจอย่างบอกไม่ถูก ความพิเศษของเธอคือเธอเป็นเด็กผู้หญิงที่โตอย่างช้าๆ เรียบๆ ผมแอบรู้มาว่านักบาสตัวโรงเรียนแอบชอบเธอ ผมไม่รู้ว่าเธอไปทำอะไรให้นักบาสคนนั้นชอบ แปลกดีผมคิดแบบนั้นตอนนั้น ผมกับเธอเลิกกันช่วงย้ายห้องประจำปี เราทั้งคู่ไม่ได้บอกเลิกกัน ที่เราเลิกกัน ผมคิดว่าเพราะเธอยุ่งๆ กันการเรียนและกิจกรรมกับเพื่อนๆ เด็กผู้หญิง และผมก็ยุ่งยุ่งกับเพื่อนๆ ผู้ชาย แต่ผมก็ติดตามข่าวคราวเธออย่างเงียบๆ นักบาสคนนั้นตามจีบมากขึ้น แต่เธอคงงงๆ อยู่ช่วงนั้น เพราะเธอคงไม่มั่นใจว่ามันเป็นเรื่องจริง ผมไม่ได้คุยกับเธอเลย นอกจากแว๊บๆ เจอ เธอก็ยิ้มให้แบบเขินๆ แต่เป็นผมซะมากกว่าที่เฝ้ามองเธอจนสุดสายตา
พอจบม. 3 เธอเลือกไปเรียนต่อม. ปลายที่จังหวัดข้างๆ ส่วนผมเลือกต่อสายอาชีพที่จังหวัดข้างๆ เช่นเดียวกับเธอ ผมเจอเธอเป็นบ้างครั้งบนรถเมล์ เธออยู่ในชุดม.ปลาย เสื้อคอปกสีขาว กระโปรงสีน้ำเงินจีบยาวเลยเข่ากับเข็มขัดประจำโรงเรียน ผมสั้นเกือบติ่งหูที่ยังดูไม่ได้ทรงแต่กลับเข้ากันดีกับตากลมๆ ของเธอ แต่ตอนนี้เธอเริ่มใส่แว่น เธอยังดูงงๆ เขินๆ อายๆ เหมือนเดิม เธอไม่มีแฟนเหมือนเดิม นักบาสยังตามจีบเธอ แต่เธอปฏิเสธไป ส่วนผมมีแฟนไปเรื่อยเปื่อย แต่ลึกๆ ผมยังคิดถึงเธอเสมอ โดยเฉพาะช่วงเดือนธันวาคม เป็นช่วงเวลาที่เธอชอบ
หลังจากนั้นหลายปีผ่านไป วันหนึ่งผมได้เฟสเธอจากเพื่อนเก่าในงานเลี้ยงรุ่นที่เธอไม่เคยมา และลองแอ้ดเธอไป ไม่นานเธอรับแอ้ดกลับมา และเราก็กลายมาเป็นเพื่อนทางเฟสกันอีกครั้ง แต่ก็แค่นั้น เราไม่ได้เริ่มติดต่อกัน ผมแค่แอบดูทามไลน์ เธอไม่ค่อยโพสอะไรส่วนตัวมากมาย แต่ผมก็ยังรู้สึกอุ่นใจที่อย่างน้อยเฟสบุ๊คก็ยังเป็นตัวเชื่อมโลกของเราแบบห่างๆ อย่างเงียบๆ มาตลอด ผมได้กดไลค์ให้เธอตอนที่โพสภาพงานแต่ง และช่วงที่เธอเปลี่ยนสถานะเป็นแต่งงานในเฟส ผมแอบใจหายเงียบๆ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
ช่วงนี้เดือนธันวาแล้ว หิมะเริ่มตก ปีนี้เป็นปีแรกที่ผมได้มีโอกาสอยู่ในประเทศเดียวกับเธออีกครั้ง แต่ผมไม่แน่ใจว่าเธอรู้หรือเปล่า ทุกครั้งที่หิมะตก ผมกลับคิดถึงเธอมากขึ้นทุกที เธอคงมีความสุขอยู่ตรงไหนสักแห่ง …………………..
Merry Christmas ……...เด็กผู้หญิงในความทรงจำ
ถ้าเพียงผมกล้ามากกว่านี้
วันนี้เราคงได้นั่งดูหิมะด้วยกัน
และผมคงได้เห็นความตื้นเต้นของเธอในตอนที่เธอแกะกล่องของขวัญจากผม