E=mc² ทำไม ? คนเข้าใจผิดว่าสมการนี้เอาไว้สร้างระเบิดปรมาณู หรอครับ

มีคนจำนวนมากเข้าใจผิดว่าสมการนี้เอาไว้สร้างระเบิดปรมาณู แต่ความจริงแล้วจากบทความความสัมพันธ์ของพลังงานกับวัตถุที่มี
ความเฉื่อย ที่ไอน์สไตน์ตีพิมพ์ในปี 1905 สมการแสดงความสัมพันธ์ระหว่างมวลสารและพลังงานผ่านแฟคเตอร์ c^2 เท่านั้นเอง
ดังนั้นการบอกว่าสมการนี้คือสมการสร้างระเบิดนิวเคลียร์จึงผิดจุดประสงค์หลักที่สมการสื่อ
.
สมการ E=mc2 เป็นการแสดงความสัมพันธ์ระหว่างมวลกับพลังงาน คือเมื่อมวลสลายไปทั้งหมด จะเกิดพลังงานมีค่าเท่ากับมวลที่สลายไปคูณด้วยความเร็วแสงยกกำลัง 2 แปลตรงๆว่าถ้าสสารสามารถเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นพลังงานได้หมด 100% แล้ว พลังงานที่ได้(e) จะมีค่าเท่ากับมวล(m) ของสสารนั้นคูณกับค่าความเร็วแสง(c = 300,000,000 m/s) ยกกำลังสอง นั่นคือสสารที่มีมวล 1 กิโลกรัม สามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานได้ทั้งหมด 9x10^16 จูล หรือ เก้าสิบล้าน กิกะจูล โดยการประมาณพลังงานที่จะได้ จากการเปลี่ยนเชื้อเพลิงยูเรเนียม ให้กลายเป็นความร้อน
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 10
2Td   3T÷B
ความคิดเห็นที่ 17
การสร้างระเบิดนิวเคลีย์ หลักการง่ายมากๆ

จากสมการ E=mc2 ก้คือ พลังงาน = มวล x ความเร็วแสง ยกกำลัง 2

ลำพังความเร็วแสง  300,000,000 m/s ก็มากโขอยู่แล้ว ยังเอามายกำลังสองอีก

แล้วธาตุไหนที่ทำให้แตกตัวง่ายที่สุด มันคือ ยูเรเนียม

ยูเรเนียมที่ปั่นเสริมสมรรถภาพ จนดีแล้ว มันจะไม่เสถียร์ถ้า ปริมาตรเกินค่าวิกฤติ

สมมติว่า ถ้ามีอยู่ 90 กรัมมันจะไม่ระเบิดแต่ถ้าค่าวิกฤคิคือ 91 มันจะไม่เสถียรและให้แตกตัว วิธีง่ายๆ ของหัวรบนิวเคลียคือ ในระเบิดมียูเรเนียม 2 ก้อน ก้อนที่ 1 หนัก 90 ก้อนที่ 2 หนัก 1

เวลาจะระเบิด ก็ง่ายๆ เอาไอ้ 1 ไปชน 90 ก็จะระเบิดออกมาก ตามทฤษฎี E=mc2

ข้อยากคือ  การเสริมสมรรถภาพยูเรเนียม ครับ
ความคิดเห็นที่ 7
ก็นะ มันอธิบายที่มาที่ไปของพลังงานนิวเคลียร์ในเชิงกายภาพ
คนเลยดันเข้าใจผิด นึกว่ามันไปอธิบาย "วิธีการ" สร้างระเบิดด้วย ซึ่งไม่เกี่ยวกันเลย

เพราะจริงๆแล้วแค่รู้ว่ามวลเปลี่ยนเป็นพลังงานจำนวนมากได้นี่แค่ขั้นต้นเท่านั้น มีองค์ความรู้อีกหลายอย่าง และเทคโนโลยีอีกเป็นตับเพื่อไปสู่ระเบิด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่