พอดีคุยกับเพื่อนแล้วมีประเด็นน่าสนใจอยู่เรื่องนึง
ผมกับเพื่อนมีความเห็นแนวเดียวกันว่า โลกที่เปลี่ยนแปลงไปทุกวัน ที่แข่งขันกันอย่างเสรี ด้วยเศรษฐกิจ ความคิด ไม่ใช่ความชาตินิยมอย่างเดียวแล้ว อย่างไรก็น่าเลือกใช้นโยบายบริหารประเทศแบบก้าวหน้าแบบปรับตัวเข้ากับโลกมากกว่าแบบอนุรักษ์ที่เอาตัวเองเป็นใหญ่มากกว่า แต่หลายๆประเทศในโลกก็มีการสลับสับเปลี่ยนขั่วอำนาจกันอยู่เสมอ แม้ว่าพรรคก้าวหน้าจะมีแนวนโยบายที่ทันสมัย เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงของโลกมากกว่า กระทั้งผมได้ฟังแนวคิดเรื่อง "เล่ห์เหลี่ยมสกปรกแบบรีพลับลิกัน" ของเพื่อน ซึ้งว่าด้วยเรื่อง ธรรมชาติการไม่อยากเปลี่ยนแปลง และเอาตัวเองเป็นใหญ่ของมนุษย์ จึงสะท้อนภาพการเมืองในประเทศไทยในหัวผม ว่าเพราะอะไร ฝ่ายอนุรักษ์ถึงชนะฝ่ายก้าวหน้าได้ เพราะเขาใช้ความกลัว ดังกล่าวแบบที่ฝ่ายอนุรักษ์นิยมทั่วโลกใช้ต่อสู้กับ ความคิดที่ก้าวหน้า
เท่าที่จำได้ผมว่ามันก็ตรง หลายครั้งที่ ปชป.เอาความหัวเก่าหัวโบราณมาทำลายความก้าวหน้า สร้างความกลัว จนเป็นผลเสียต่อชาติ เช่น
-การสร้างวาทะกรรมเรื่อง ชาติ สถาบันต่างๆ และคนดี
-การเอาแนวคิดเรื่องการกู้ ว่าเป็นสิ่งเลวร้าย แบบภาพจำที่สังคมไทยมีต่อการกู้ ที่สื่อและหนังสือละครสมัยเก่าเคยสอนเรา เช่นการกู้หนี้ยืมสิน ไปเล่นการพนัน กินเหล้า เที่ยวเตร่ ซึ้งแตกต่างจากการกู้ไปลงทุน ซึ้งสังคมเศรษฐกิจยุคใหม่ยอมรับว่าเป็นสิ่งจำเป็น
-การทำลายนโยบายลดความน่าเชื่อถือ โดยการสร้างวาทะกรรม สุวรรณภูมิรันเวย์ร้าว 30บาทตายทุกโรค ข้าวเน่า จนเกิดความเสียหายต่อความเชื่อมั่นขึ้นจริงๆ ดิสเครดิตประชาธิปไตย
-การมีนโยบายชาตินิยมแข็ง กับต่างประเทศ โดยเฉพาะชาติตะวันตก ที่สนับสนุนระบอบประชาธิปไตยและสิทธิมนุษย์ชน(ซึ้งจริงๆชาตินิยมก็มีส่วนดี แต่จะเลวร้ายหากใช้เพื่อทำลายศัตรู เช่นเยอรมันสมัยWWII)
-การให้การ เรื่องไทยเสียดินแดนให้กัมพูชาเพื่อทำลายความนิยมและปลุกความรักชาติ ของ สส.ศิริโชค ต่อหน้าสภา (มีการบันทึก)เกือบจะทำให้ไทยเสียเปรียบการเจรจา กระทั้ง ท่านทูต วีรชัย ขึ้นพูดคัดค้านคำของ สส. ให้สภามีการบันทึก เพื่อปกป้องว่าไทยไม่ได้เสียดินแดน ซึ้งเกรงว่ากัมพูชาจะใช้เป็นหลักฐานในการเจรจา
เรื่องเหล่านี้คือเลห์เหลี่ยมสกปรกแบบรีพลับลิกันแบบไทยๆ ซึ้งเอาจริงๆก็คงมีอีกเยอะ และไม่ได้ดีหรือร้ายอยู่ฝ่ายเดียว ผมเองก็ไม่ได้ลึกซึ้งว่าสงครามการเมืองเค้าเล่นกันอย่างไร แต่การได้รู้การเมืองต่างประเทศ และศึกษาประวัติศาสตร์ก็ทำให้เรามองการเมืองไทยได้กว้างขึ้น แม้จะไม่เข้าใจทั้งหมด แต่ก็ทำให้เราได้รู้ทันการเมืองไทยมากขึ้น ไม่เป็นเครื่องมือให้นักการเมืองเล่นงานศัตรูจนทำชาติเสียหาย
แล้วเพื่อนๆมองเห็นเล่ห์เหลี่ยมสกปรกการเมืองอย่างไรบ้าง มาแชร์กัน
**แก้ไขเป็น สส.ศิริโชค ครับ พิมพ์ผิด
มีเรื่องอะไรบ้างที่พรรคฝ่ายอนุรักษ์อย่าง ปชป. ใช้เล่นงาน ฝ่ายก้าวหน้าอย่าง พท.
ผมกับเพื่อนมีความเห็นแนวเดียวกันว่า โลกที่เปลี่ยนแปลงไปทุกวัน ที่แข่งขันกันอย่างเสรี ด้วยเศรษฐกิจ ความคิด ไม่ใช่ความชาตินิยมอย่างเดียวแล้ว อย่างไรก็น่าเลือกใช้นโยบายบริหารประเทศแบบก้าวหน้าแบบปรับตัวเข้ากับโลกมากกว่าแบบอนุรักษ์ที่เอาตัวเองเป็นใหญ่มากกว่า แต่หลายๆประเทศในโลกก็มีการสลับสับเปลี่ยนขั่วอำนาจกันอยู่เสมอ แม้ว่าพรรคก้าวหน้าจะมีแนวนโยบายที่ทันสมัย เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงของโลกมากกว่า กระทั้งผมได้ฟังแนวคิดเรื่อง "เล่ห์เหลี่ยมสกปรกแบบรีพลับลิกัน" ของเพื่อน ซึ้งว่าด้วยเรื่อง ธรรมชาติการไม่อยากเปลี่ยนแปลง และเอาตัวเองเป็นใหญ่ของมนุษย์ จึงสะท้อนภาพการเมืองในประเทศไทยในหัวผม ว่าเพราะอะไร ฝ่ายอนุรักษ์ถึงชนะฝ่ายก้าวหน้าได้ เพราะเขาใช้ความกลัว ดังกล่าวแบบที่ฝ่ายอนุรักษ์นิยมทั่วโลกใช้ต่อสู้กับ ความคิดที่ก้าวหน้า
เท่าที่จำได้ผมว่ามันก็ตรง หลายครั้งที่ ปชป.เอาความหัวเก่าหัวโบราณมาทำลายความก้าวหน้า สร้างความกลัว จนเป็นผลเสียต่อชาติ เช่น
-การสร้างวาทะกรรมเรื่อง ชาติ สถาบันต่างๆ และคนดี
-การเอาแนวคิดเรื่องการกู้ ว่าเป็นสิ่งเลวร้าย แบบภาพจำที่สังคมไทยมีต่อการกู้ ที่สื่อและหนังสือละครสมัยเก่าเคยสอนเรา เช่นการกู้หนี้ยืมสิน ไปเล่นการพนัน กินเหล้า เที่ยวเตร่ ซึ้งแตกต่างจากการกู้ไปลงทุน ซึ้งสังคมเศรษฐกิจยุคใหม่ยอมรับว่าเป็นสิ่งจำเป็น
-การทำลายนโยบายลดความน่าเชื่อถือ โดยการสร้างวาทะกรรม สุวรรณภูมิรันเวย์ร้าว 30บาทตายทุกโรค ข้าวเน่า จนเกิดความเสียหายต่อความเชื่อมั่นขึ้นจริงๆ ดิสเครดิตประชาธิปไตย
-การมีนโยบายชาตินิยมแข็ง กับต่างประเทศ โดยเฉพาะชาติตะวันตก ที่สนับสนุนระบอบประชาธิปไตยและสิทธิมนุษย์ชน(ซึ้งจริงๆชาตินิยมก็มีส่วนดี แต่จะเลวร้ายหากใช้เพื่อทำลายศัตรู เช่นเยอรมันสมัยWWII)
-การให้การ เรื่องไทยเสียดินแดนให้กัมพูชาเพื่อทำลายความนิยมและปลุกความรักชาติ ของ สส.ศิริโชค ต่อหน้าสภา (มีการบันทึก)เกือบจะทำให้ไทยเสียเปรียบการเจรจา กระทั้ง ท่านทูต วีรชัย ขึ้นพูดคัดค้านคำของ สส. ให้สภามีการบันทึก เพื่อปกป้องว่าไทยไม่ได้เสียดินแดน ซึ้งเกรงว่ากัมพูชาจะใช้เป็นหลักฐานในการเจรจา
เรื่องเหล่านี้คือเลห์เหลี่ยมสกปรกแบบรีพลับลิกันแบบไทยๆ ซึ้งเอาจริงๆก็คงมีอีกเยอะ และไม่ได้ดีหรือร้ายอยู่ฝ่ายเดียว ผมเองก็ไม่ได้ลึกซึ้งว่าสงครามการเมืองเค้าเล่นกันอย่างไร แต่การได้รู้การเมืองต่างประเทศ และศึกษาประวัติศาสตร์ก็ทำให้เรามองการเมืองไทยได้กว้างขึ้น แม้จะไม่เข้าใจทั้งหมด แต่ก็ทำให้เราได้รู้ทันการเมืองไทยมากขึ้น ไม่เป็นเครื่องมือให้นักการเมืองเล่นงานศัตรูจนทำชาติเสียหาย
แล้วเพื่อนๆมองเห็นเล่ห์เหลี่ยมสกปรกการเมืองอย่างไรบ้าง มาแชร์กัน
**แก้ไขเป็น สส.ศิริโชค ครับ พิมพ์ผิด