สวัสดีค่ะ ขอแนะนำตัวก่อนเลยนะคะ จขกท ชื่อ น้ำผึ้งนะคะ หรือจะเรียก Honey ให้ดูอินเตอร์ ก็ได้ค่ะ  
รู้สึกประหม่าเล็กน้อย .. กับการเขียนกระทู้ครั้งแรก
หากผิดพลาดยังไง ให้อภัยหนูด้วยนะคะ (เสียงออดอ้อน)

ทริปนี้กว่าจะรวมตัวครบแก๊ง นี่ต้องใช้เวลาเป็นปีๆ  ถึงอย่างนั้นก็เถอะ มันก็ย้างงงงง ไม่ครบสักที
แอบนอยด์ ...
เพราะแก๊ง เรา นัดเที่ยวกันปีละ 1 ครั้ง
ทำไมหน่ะหรอ ? เพราะมีอยู่นางนึง she อยู่ออสเตรเลีย จะกลับมาปีละ 1 ครั้ง
มันก็เลยเป็นโอกาสพิเศษ ที่จะรวมตัวกัน

ก็เลยคุยกันว่าจะไปที่ไหนกันดี ที่ที่มีหมอกหนาๆ บรรยากาศดีๆ สัมผัสอากาศเย็นๆในตอนเช้า


!!! กาญจนบุรี !!! บ้าน จขกท เอง แฮร่ ^^
รออะไรหล่ะ ไปโล้ดดดดด


ปล. PHOTO BY NOTE 5
ไม่ชัดโปรดอภัย




  

  

วันที่ 1 The For Rest Resort
เดอะแก๊งออกเดินทางจาก เมืองหลวงอันศิวิไล มาแวะรับ จขกท ที่เมืองกาญ แล้วเดินทางไปต่อ จนถึงรีสอร์ท
ถ้าคำนวณเวลาจากกทม - รีสอร์ท ประมาณ 3ชม.ครึ่ง  
จะเห็นว่าน้ำเขียวมาก .. เขียวใสนะคะ ไม่ใช่เขียวเสีย


เช็คอินเสร็จ รีบเก็บของเข้าห้องเลยค่ะ หน้าห้องจะมีเปลเชือกแบบนี้แขวนอยู่หน้าห้องทุกห้องเลยค่ะ


จขกท ได้ห้องเตียงคู่ สปริง นี่เด้งดีจริงๆค่ะ


เก็บของ สัมภาระ เปลี่ยนชุด แต่งหน้า ทาปาก เป็นที่เรียบร้อย(ลงน้ำก็ยังต้องทา เวลานี้หน้าสดไม่ได้ค่ะ คนเยอะ 5555)
ลงแพลากรวมเลยค่ะ เขาจะลากไปไกลประมาณ 2 กม แล้วปล่อยให้เราลอยกลับมาที่แพ


น้ำใสมากกกก ส่วนใครที่ว่ายน้ำไม่เป็นไม่ต้องกลัวเลยค่ะ โดดตู้มมม เลยค่ะ จขกท. ก็ว่ายไม่เป็น ชูชีพเอาอยู่ บางจุดน้ำไม่ลึก
จะมีเจ้าหน้าที่ของ รีสอร์ท คอยดูแลเราด้วยค่ะ คือถ้าใครไม่ลงนี่พลาดดดดด
อ้อ เกือบ ลืมม มีสไลด์เดอร์ ให้เล่นด้วยนะคะ


พลังงานก็เริ่มหมดไป เสียงท้องก็ร้อง ดังขึ้นมา
ถึงเวลาอาหารเย็นแล้ววว เป็นบุฟเฟ่นะคะ  



อิ่มแล้ว Move มาหน้าห้องตัวเองเลยค่ะ
เตรียมตัวตั้งวง กินบรรยากาศ ทำกิจกรรมประจำแก๊ง 555 (ออกสื่อไม่ได้ เดี๋ยวจ่าจับ)


บรรยากาศสุดแสนจะโรมานซ์



วันที่ 2

ต้อนรับสู่เช้าวันใหม่
ท่ามกลางสายหมอก




เริ่มสายหมอกก็เริ่มจาง เพราะฉะนั้น อย่าตื่นสายนะคะ




อาหารเช้า ก็บุฟเฟ่ ค่ะ


อ้อลืมค่ะ ตอนเช้า มีลากแพ ไปชมวิวตอนเช้าอีกรอบนะคะ
หรือเมื่อวานใคร เล่นน้ำไม่สะใจ เช้านี้เลยค่ะ โดด ตู้มมมมม
น้ำเย็น เจ๊ยบบบบบบ
แต่น้ำแรงกว่าตอนเย็นนะคะ


ถึงเวลา เช็คเอ้าท์ ขอแชะ ภาพ สักสองร้อยรูป 5555


สถานีต่อไป สะพานมอญ สังขละบุรี
จากรีสอร์ท ก็ใช้เวลา เกือบ 2 ชมเลยจ้าา
จขกท จอดรถไว้ฝั่งมอญ โทรหาแพลุงบุญ จะมีเรือมารับข้ามฝั่งไปที่แพค่ะ
ลุงคนนี้เลยค่ะ (ลืมถามชื่อ) แกเป็นชาวมอญ ใจดีค่ะ


เป็นแพ ที่แก๊งของ จขกท พักค่ะ


มองออกไปก็เจอสะพานเลยค่ะ วิวดีมากมาย


ทางเดินข้างหลังแพที่พักค่ะ แอบกลัวหัก


เก็บสัมภาระเสร็จ ขึ้นเรือไปไหว้พระเลยค่ะ


วัดใต้น้ำ หรือวัดจมน้ำ คือวัดวังก์วิเวการามเก่า ซึ่งกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ถือว่าเป็น Unseen Thailand
เพราะมีความแปลกที่มีซากโบราณสถานจมอยู่ใต้น้ำ ส่วนภายในมีรูปถ่ายหลวงพ่ออุตตมะให้นักท่องเที่ยวได้สักการะบูชา


ก็จะมีเด็กๆชาวมอญ คอยเดินขายดอกไม้ และเป็นไกด์




ซุ้มประตูทางเข้ามายังโบสถ์


ถ้ามองจากบานหน้าต่างของโบสถ์จะเห็น หอระฆัง


ตอนวางแพลนเที่ยว ลืมคิดว่ามีเพื่อนเป็นอิสลาม 5555
ได้แต่ยืนชมวิว อยู่นอกโบสถ์


ไว้พระเสร็จ นั่งเรือกลับ ชมวิวไปเรื่อยๆ






ลุงถามว่า ลอดใต้สะพานมั๊ย??
รีบตอบ Yes ss เลยค่ะ







ลงจากเรือ ขึ้นมาบนฝั่งมอญ
วิวสวยมากๆ ค่ะ  ที่เห็นแพติดกับสะพานลูกบวบ นั่นแหละค่ะ แพลุงบุญ ที่พักของเราชาวเดอะแก๊ง


มีมุมสวีทท วี้ดดดวิ้วววว
จะกดชัตเตอร์ วิวสะพานกับแสงอาทิตย์ ไหง ติดมา แอบอิจฉา


ต่อมอิจฉา ทำงานหนัก ท้องก็เลยร้องหนักกก หมูจุ่มพม่า Highlight
ใครไม่ได้กิน แสดงว่ามาไม่ถึงสะพานมอญ
สำหรับคนไม่ชอบกินเครื่องใน มีเนื้อหมูด้วยนะคะ  ในน้ำซุป ก็จะมีขิงและกระเทียม อร่อยค่ะ คอนเฟิร์ม


เริ่มมืดคนก็เริ่มเยอะแล้วค่ะ ของกินก็มีให้เลือกมากมาย


ขอตุนเสบียงเพิ่ม ซื้อกับแกล้ม อีกสักหน่อย


ขอแชะ ภาพเดอะแก๊ง อีกสักนิด
เขาว่า ... การมีเพื่อนเยอะ หน่ะ เป็นเรื่องที่ดี แต่.. การมีเพื่อนดีๆ หน่ะ มันดีกว่าเยอะ


และแล้วก็ได้เวลากลับไปตั้งวง ตั้งจีบบบบบบ 555
มีโคมลอยตกลงมาที่สะพานลูกบวบ เพื่อน จขกท ก็รีบพายเรือท่อPVC ที่ทางแพเขามีให้ไปเก็บ
หวังจะสร้างบรรยากาศ


และแล้วก็ได้มาในครอบครอง ซึ่งมันไม่มีเชื้อไฟ ..
แต่ ก็ไม่มีความย่อท้อ ...
ทหารอากาศ กับ นักปิโตรเคมี .. ร่วมมือกัน คิดและวิเคราะห์ ใช้ความรู้ที่ร่ำเรียนทั้งหมดมาประยุกต์ ค่ะ 5555
ใช้ม้วนกระดาษทิชชู่ จุดไฟ แล้วใช้วาสลีนโปะ ดีใจ ลอยๆๆๆๆๆ
แล้วก็ --------แป่วววว--------ทำสามรอบ ... พอเหอะ กลัวไหม้ แพ ข้างหลัง เพราะมันลอยเตี้ยย



วันที่ 3 สะพานมอญ สังขละบุรี
ตื่นแต่เช้า ใส่บาตร
จะมีอาหารเป็นชุดๆ ให้เราซื้อค่ะ


เจอเด็กๆ เอาโถวางบนหัวแล้วเดิน ไม่หล่นด้วยอ้ะ


ใส่บาตรเสร็จ ก็ หาของกินเลยค่ะ อร่อยๆทั้งนั้น
#เพื่อนเราชอบกินโจ๊กหมู 555 โค้ดลับ






อิ่มแล้วก็กลับมาเล่นน้ำที่หน้าแพที่พักกันค่ะ




และแล้วก็ถึงเวลาที่ต้องกลับ  ลุง ก็ไปส่งเราขึ้นฝั่ง


ขับรถไปเจดีย์พุทธคยา  ไม่ได้เข้าไปข้างในเพราะทุกคนนุ่งกางเกงขาสั้น
ไม่สุภาพเรียบร้อย เลยต้องอธิษฐานอยู่ข้างหน้าค่ะ


ล้อหมุนไปถ้ำกระแซเลยค่ะ
ถ้ำนี้เป็นถ้ำที่เคยเป็นที่พักของเชลยศึกเมื่อครั้งสร้างเส้นทางรถไฟสายมรณะจากไทยไปพม่า


ภายในถ้ำโปร่งและมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประดิษฐานอยู่


บริเวณทางรถไฟจะเห็นทิวทัศน์ที่งดงามและมองเห็นแม่น้ำแควน้อยอยู่เบื้องล่าง


บริเวณนี้เป็นจุดที่สร้างทางรถไฟยากที่สุด และเป็นโค้งมรณะ



________________________________________________________________________________________

ก็ขอจบการรีวิว ไว้เพียงเท่านี้นะคะ
ส่วนเรื่องค่าใช้จ่าย แน่นอน ต้องมีคนอยากรู้
ค่าที่พัก The For Rest 8o]t 1200//คน/คืน
ค่าที่พัก แพลุงบุญ หารกัน ก็ตก คนละ 200
ค่าเยี่ยมชมวัด ไปวัดใต้น้ำที่เดียว คนละ 50 บาท

ค่าส่วนกลาง...ค่าน้ำมัน ไปหลายๆคนหาร ประหยัดได้เยอะค่ะ แต่ทริปนี้มีเพื่อน จขกท เป็นเจ๊ ออกทั้งรถและค่าน้ำมันบางส่วน
ค่ามิกเซอร์ 555 เอาที่สบายใจ อยากมิกซ์เท่าไหร่ จัดเอาค่ะ