วู้ดดี้ อัลเลน เป็นผู้กำกับที่มีสไตล์เป็นของตัวเองขนาดที่ว่า ฮารูกิ มูราคามิ นักเขียนชื่อดังเคยเขียนไว้ในหนังสือของเขาให้ตัวละครไปดูผลงานของ วู้ดดี้ อัลเลน โดยไม่ระบุชื่อหนัง อันที่จริงหนังของ วู้ดดี้ ก็ไม่ได้เหมือนกันไปเสียทุกเรื่อง แต่ในทุกเรื่องนั้นกลับมีลายเซ็นต์อะไรบางอย่างคล้ายกันที่แฟนประจำจะรู้ได้ทันทีว่า นี่คือหนังของเขา
ใน Irrational Man ก็เช่นกัน เรื่องนี้ เอ็มม่า สโตน กลับมาร่วมงานกับผู้กำกับที่เธอชื่นชอบอีกครั้งหลังจากที่เพิ่งแสดงเรื่อง Magic in the Moonlight ของเขาไปเมื่อปีที่แล้ว ส่วนนักแสดงนำชายเป็น ฮัวควิน ฟีนิกซ์ เจ้าของบทหนุ่มขี้เหงาในหนังรักเรื่อง Her ตัวหนังเล่าถึง เอ๊บ (ฮัวควิน ฟีนิกซ์) ศาสตรจารย์ด้านปรัชญาที่เพิ่งย้ายมาสอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยในเมืองเล็กๆแห่งหนึ่ง เขาติดเหล้า ซึมเศร้า หดหู่ แทบไม่สุงสิงกับใคร
จิลล์ (เอ็มม่า สโตน) นักศึกษาสาวมหาลัยลูกศิษย์ของเขาพยายามผูกมิตรด้วย เธอคลั่งไคล้ในตัว เอ๊บ เอามากๆ เช่นเดียวกับ ริต้า (พาร์กเกอร์ โพซี) อาจารย์สาวที่หมดรักในตัวสามีและพยายามมองหาผู้ชายสักคนมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วย เอ๊บ ใช้ชีวิตแบบซังกะตายไร้ความหวังแม้มีสองสาวเข้ามาพัวพัน จนกระทั่งเข้าได้ฟังเรื่องราวความทุกข์ของหญิงสาวคนหนึ่งที่ถูกกระบวนการยุติธรรมรังแกโดยบังเอิญ ต่อมาสิ่งที่เขาตัดสินใจทำกลับช่วยกอบกู้ชีวิตอันแห้งแล้งของเขาให้กลับมาสดใสอีกครั้ง
ช่วงแรกบทค่อนข้างราบเรียบธรรมดา มามีสีสันเข้มข้นน่าขบคิดตอนเอากลางเรื่อง หนังมีหลายพาร์ททั้ง ดราม่า โรแมนติก และ ตลกร้าย แถมยังเกือบจะเป็นทริลเลอร์ด้วย แน่นอนว่าหนังของ วู้ดดี้ อัลเลน ตัวละครต้องพูดกันนํ้าไหลไฟดับ เรื่องนี้ก็เช่นกัน เพียงแต่บทสนทนาไม่ได้ไร้สาระไปซะทีเดียว มันแฝงประเด็นคมคายต่างๆมากมายที่สะท้อนปัญหาสังคม ทั้ง ความสัมพันธ์อันไม่เหมาะสมระหว่างอาจารย์กับนักศึกษา ความรักต่างวัย แง่มุมของชนชั้นกลาง ช่องโหว่ทางกฏหมาย ความถูกต้อง ไปจนถึงประเด็นใหญ่ๆอย่าง ศิลธรรมในตัวเรา ความหมายในการมีชีวิตอยู่ รวมถึงกการวิพากย์ทฤษฏีในโลกปรัชญา
เราไม่รู้เหมือนกันว่า วู้ดดี้ อัลเลน ใส่ฟิลเตอร์อะไรตอนถ่ายทำภาพยนตร์ แต่สีของภาพในหนังของเขาจะดูเป็นเอกลักษณ์ดี ออกวินเทจนิดๆ สวยงามสบายตา ดนตรีประกอบก็ทั้งเข้าและขัดแย้งกับบรรยากาศในหนังซะเหลือเกิน เพราะไม่ว่าเนื้อหาจะเบาหรือหนักแค่ไหน เขาก็เลือกที่จะใช้เพลงบรรเลงจากวงดนตรีแจ๊สในโทนกลางๆไปเรื่อยๆ ไม่ได้จงใจเร้าอารมณ์ผู้ชมด้วยซาวนด์ประกอบ
ฮัวควิน ฟีนิกซ์ ลงทุนไว้พุงเพื่อรับบท เอ๊บ ถือว่าทำได้ไม่เลวทีเดียว ลุคของเขาคือชายสูงวัยที่ไม่ได้มีดีตรงหน้าตาแต่เป็นคารม เขาคือหนุ่มชีวิตรันทดน่าสงสารซึ่งผู้หญิงหลายคนต้องใจอ่อนเมื่อคุยด้วย ขณะที่ เอ็มม่า สโตน ในบท จิลล์ ก็เล่นได้ตามมาตรฐาน เธอดูสวยเด่นในทุกฉากที่ปรากฏตัว เป็นลูกคุณหนูแอบแรดชนิดไม่แคร์ใคร
สิ่งที่เห็นเด่นชัดที่สุดใน Irrational Man คือบทเรียนสำหรับสาวๆที่ชอบความโรแมนติกแบบเพ้อฝัน และ หนุ่มๆซึ่งทำตัวไร้เหตุผลใช้ชีวิตแบบเห็นแก่ตัว เพราะจุดอ่อนของผู้หญิงคือ ความโรแมนติก ส่วนจุดอ่อนของผู้ชายก็คือ ผู้หญิง นั่นเอง
คะแนน 7/10
โดย นกไซเบอร์
ดูตัวอย่างหนัง
http://movie.bugaboo.tv/watch/224003/?link=4
รีวิวหนัง : Irrational Man ปรัชญาโรแมนติกอันไร้เหตุผล
วู้ดดี้ อัลเลน เป็นผู้กำกับที่มีสไตล์เป็นของตัวเองขนาดที่ว่า ฮารูกิ มูราคามิ นักเขียนชื่อดังเคยเขียนไว้ในหนังสือของเขาให้ตัวละครไปดูผลงานของ วู้ดดี้ อัลเลน โดยไม่ระบุชื่อหนัง อันที่จริงหนังของ วู้ดดี้ ก็ไม่ได้เหมือนกันไปเสียทุกเรื่อง แต่ในทุกเรื่องนั้นกลับมีลายเซ็นต์อะไรบางอย่างคล้ายกันที่แฟนประจำจะรู้ได้ทันทีว่า นี่คือหนังของเขา
ใน Irrational Man ก็เช่นกัน เรื่องนี้ เอ็มม่า สโตน กลับมาร่วมงานกับผู้กำกับที่เธอชื่นชอบอีกครั้งหลังจากที่เพิ่งแสดงเรื่อง Magic in the Moonlight ของเขาไปเมื่อปีที่แล้ว ส่วนนักแสดงนำชายเป็น ฮัวควิน ฟีนิกซ์ เจ้าของบทหนุ่มขี้เหงาในหนังรักเรื่อง Her ตัวหนังเล่าถึง เอ๊บ (ฮัวควิน ฟีนิกซ์) ศาสตรจารย์ด้านปรัชญาที่เพิ่งย้ายมาสอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยในเมืองเล็กๆแห่งหนึ่ง เขาติดเหล้า ซึมเศร้า หดหู่ แทบไม่สุงสิงกับใคร
จิลล์ (เอ็มม่า สโตน) นักศึกษาสาวมหาลัยลูกศิษย์ของเขาพยายามผูกมิตรด้วย เธอคลั่งไคล้ในตัว เอ๊บ เอามากๆ เช่นเดียวกับ ริต้า (พาร์กเกอร์ โพซี) อาจารย์สาวที่หมดรักในตัวสามีและพยายามมองหาผู้ชายสักคนมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วย เอ๊บ ใช้ชีวิตแบบซังกะตายไร้ความหวังแม้มีสองสาวเข้ามาพัวพัน จนกระทั่งเข้าได้ฟังเรื่องราวความทุกข์ของหญิงสาวคนหนึ่งที่ถูกกระบวนการยุติธรรมรังแกโดยบังเอิญ ต่อมาสิ่งที่เขาตัดสินใจทำกลับช่วยกอบกู้ชีวิตอันแห้งแล้งของเขาให้กลับมาสดใสอีกครั้ง
ช่วงแรกบทค่อนข้างราบเรียบธรรมดา มามีสีสันเข้มข้นน่าขบคิดตอนเอากลางเรื่อง หนังมีหลายพาร์ททั้ง ดราม่า โรแมนติก และ ตลกร้าย แถมยังเกือบจะเป็นทริลเลอร์ด้วย แน่นอนว่าหนังของ วู้ดดี้ อัลเลน ตัวละครต้องพูดกันนํ้าไหลไฟดับ เรื่องนี้ก็เช่นกัน เพียงแต่บทสนทนาไม่ได้ไร้สาระไปซะทีเดียว มันแฝงประเด็นคมคายต่างๆมากมายที่สะท้อนปัญหาสังคม ทั้ง ความสัมพันธ์อันไม่เหมาะสมระหว่างอาจารย์กับนักศึกษา ความรักต่างวัย แง่มุมของชนชั้นกลาง ช่องโหว่ทางกฏหมาย ความถูกต้อง ไปจนถึงประเด็นใหญ่ๆอย่าง ศิลธรรมในตัวเรา ความหมายในการมีชีวิตอยู่ รวมถึงกการวิพากย์ทฤษฏีในโลกปรัชญา
เราไม่รู้เหมือนกันว่า วู้ดดี้ อัลเลน ใส่ฟิลเตอร์อะไรตอนถ่ายทำภาพยนตร์ แต่สีของภาพในหนังของเขาจะดูเป็นเอกลักษณ์ดี ออกวินเทจนิดๆ สวยงามสบายตา ดนตรีประกอบก็ทั้งเข้าและขัดแย้งกับบรรยากาศในหนังซะเหลือเกิน เพราะไม่ว่าเนื้อหาจะเบาหรือหนักแค่ไหน เขาก็เลือกที่จะใช้เพลงบรรเลงจากวงดนตรีแจ๊สในโทนกลางๆไปเรื่อยๆ ไม่ได้จงใจเร้าอารมณ์ผู้ชมด้วยซาวนด์ประกอบ
ฮัวควิน ฟีนิกซ์ ลงทุนไว้พุงเพื่อรับบท เอ๊บ ถือว่าทำได้ไม่เลวทีเดียว ลุคของเขาคือชายสูงวัยที่ไม่ได้มีดีตรงหน้าตาแต่เป็นคารม เขาคือหนุ่มชีวิตรันทดน่าสงสารซึ่งผู้หญิงหลายคนต้องใจอ่อนเมื่อคุยด้วย ขณะที่ เอ็มม่า สโตน ในบท จิลล์ ก็เล่นได้ตามมาตรฐาน เธอดูสวยเด่นในทุกฉากที่ปรากฏตัว เป็นลูกคุณหนูแอบแรดชนิดไม่แคร์ใคร
สิ่งที่เห็นเด่นชัดที่สุดใน Irrational Man คือบทเรียนสำหรับสาวๆที่ชอบความโรแมนติกแบบเพ้อฝัน และ หนุ่มๆซึ่งทำตัวไร้เหตุผลใช้ชีวิตแบบเห็นแก่ตัว เพราะจุดอ่อนของผู้หญิงคือ ความโรแมนติก ส่วนจุดอ่อนของผู้ชายก็คือ ผู้หญิง นั่นเอง
คะแนน 7/10
โดย นกไซเบอร์
ดูตัวอย่างหนัง http://movie.bugaboo.tv/watch/224003/?link=4