พ้าง พัง พ้าง พังงงงงงงง !!!!
ขอมอบเพลงนี้ให้แก่ Line up Wonderfruit 2015 โดยเฉพาะ
Living Stage เวทีหลักของงาน กร่อยมากจริง ๆ ปีนี้
ความพังพินาศวันแรก
Living Stage
Boy Thai
Harts
Submotion Orchestra
The Faint
ฺBoy Thai
คือรักษามาตราฐานความเป็นบอยไทยได้เป็นอย่างดี แต่เพลงเน้นไปที่เพลง Saxsophone จนลืมไปว่าพระเอกของวงคือ ระนาดและเปิงมางคอก เลยทำให้ความน่าสนใจของวงเหมือนไปฟัง โก้ มิสเตอร์แซ็กแมน มากกว่า
Harts
ต้องยกให้เป็น
Best performance ของเวทีนี้ไปเลย กลองกับกีตาร์ ลีลาเหลือร้าย เอ็นเตอร์เทนคนดูได้เริ่ด
Submotion Orchestra
Ambient Soul หวาน หม่น ไพเราะ ส่วนนักร้องหญิง เสียงทรงพลัง แต่บรรยากาศเพลงเนือย ๆ กระเดียดไปทาง พวก Zero 7 ถ้าได้ฟังก่อนนอนจะเพลินมาก (เธอประกาศว่ากำลังจะมีเบบี๋ ด้วย) คนดูให้ความสนใจกับวงนี้มาก แต่ดันเอามาเป็นวงรอง Head line up ของวันแรก และไม่ต้องเดาว่าวงปิด The faint จะเป็นยังไง
The Faint
หลังจากจบ Submotion Orchestra คนที่ยืนดูกันหนาแน่นก่อนหน้านี้ สลายโต๋ หายไปห้องน้ำและไม่กลับมา เหลือคนดูไม่ถึง 200 คน กลิ่นของความกร่อยมาเยือนแล้ว แต่อันนี้เราไม่ค่อยสนใจ เอาเป็นว่ายืนดูได้ ถึงวงนี้จะไม่เคยฟังมาก่อนก็ตาม วงเล่นดีมากนะ นักร้องนักดนตรีเต็มที่กับโชว์ ถึงเพลงจะไม่ใช่สไตล์เราก็ตาม แต่สุดท้ายก็อยู่ไม่นานเดินออกไปดูเวที Soi Stage แทนเพราะ Howie B กำลงัขึ้นโชว์
Soi Stage
Howie B at Soi Stage
เฝ้ารอมานานเลยกับ Howie B ตามตารางลงว่าเป็น Live สนุกแน่งานนี้ (เสียงแห่งความคาดหวังงง) พอไปเจอกำลังเซ็ทเครื่อง
กลิ่นตุ ๆ เริ่มออกแล้ว เค้าไม่ได้เล่น Live band ค่า อยากจะบ้าตาย
สุดท้ายกลายเป็น DJ Set แถมขายงาน Installation motion graphic art มากกว่าเพลงของเขาอีก ดูได้ 3 เพลง น้ำตาตกใน แอบไปร้องไห้คนเดียวยันเช้า
วันที่สอง ที่สุดของความอกหัก รอเก้อยิ่งกว่าสายบัวเป็นหม้ายขันหมาก
ที่พักกางเต้นใกล้กับ Living Stage มาก เวลาซ้อมหรือเซ็ทติ้งนี่ได้ยินทุกวงแต่ยกเว้น....
Soi Stage
ประทับใจทีสุดของ Wonderfruit เลยคือ Chanudom บางคนอาจจะยังไม่คุ้นหูแต่ถ้าบอกว่า คนที่เล่นละครเวที Hedwig and the angry inch น่าจะพอจำกันได้ มาเต็มเริ่ด เพลงก็ดี เขาขึ้นเล่นตอนไปสั่งก๋วยเตี๋ยว วิ่งปรู๊ดเหมือนปวดท้อง...ทิ้งก๋วยเตี๋ยวไว้เบื้อหลัง มุ่งไปหน้าเวที และเป็นการแสดงที่ดีที่สุดของงานสำหรับเราในครั้งนี้เลยทีเดียว
Living Stage
Kidnapper ไม่ได้ดูจ้า
Rajasthan Root
อิมพอร์ตจากอินตรเดีย traditional ผสม ดนตรีโมเดิร์น ก็โอเคนะ ไม่ได้ชอบเท่าไหร่
Lucent Dossier Experience
โมเดิร์นแดนซ์ ผสม กายกรรม หรูเริ่ดอลังการดาวสามพันล้านแปดแสนดวง ตื่นเต้นและเร้าใจสุด ๆ
Mos Def
นี่แหล่ะความผิดหวังที่สุด ถ่อสังขารมาจนาดนี้ เพื่อดูคนนี้ แต่เหอๆ .... น่าจะสงสัยตั้งแต่แรกแล้วว่า ทำไมตอนเค้าซาวด์เช็คถึงได้ยินแต่ Kidsnapper / Rajasthan Roots และ Jon Hopkins & Chris Levine แล้ว Mos Def ไปไหน ????? ทางผู้จัดประกาศใน FB ว่า ไฟลท์ของที่จะมาเมืองไทยดีเลย์ แต่จะพยายามให้ Mos Def มาเล่นให้ได้ แต่สุดท้ายก็ไม่มา แต่เราตั้งข้อสงสัยว่าเพราะเป็น Line up รองหรือเปล่า เลยมีส่วนทำให้ไฟลท์ดีเลย์ แต่คิดว่าโปรเฟสชันนอลขนาดนั้นคงไม่เกี่ยว
Jon Hopkins x Chris Levine
เทคโนสายตื๊ดดดด ผสมเลเซอร์วิชวลอลังการ มาปิดท้ายงาน คนดิ้นกันยับ เราดูได้สัก 20 นาที ก็ขอลาไปเลียแผลใจที่เต้น เพื่อเก็บแรงไว้วันพรุ่งนี้
วันที่สาม อาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม 2558
Soi Stage
Dannis Lloyd
Neo Soul ผสม hip hop / R&B เพลงประมาณวง How to dress well (วงนี้เคยมาเล่นที่ RCA เมื่อเดือนกุมภา) อันนี้ก็ผิดหวังอีก เพราะมีปัญหาเรื่อวซาวด์ ประมาณช่องที่ต่อไมค์ผ่าน Vox มีปัญหาเสียงออกข้างเดียวเลยทำให้เพลงไม่สมบูรณ์ ศิลปินพยายามบอกถึงปัญหาให้คนคุมเสียงแก้ แต่เหมือนสื่อสารกันไม่เข้าใจ และคนคุมเสียงไม่เข้าใจปัญหาว่าเกิดจากตรงไหน สุดท้าย Dannis เดินออกมาขอบคุณแต่ทำได้เพียงเท่านี้เพราะระบบเสียงแก้ไขไม่ได้ เลยอดดูต่อ T_T
Living Stage
Greasy Cafe ไม่ได้ดูพี่เล็กจ้า
Pongsit Kampee น้าปูก็ไม่ได้ดูเช่นกัน
Rhye
แฟนคลับหนาแน่นมากกกก โดยเฉพาะสาว ๆ เพราะความนุ่มละมัยของเพลง และ ความหล่อแบบหนุ่มขี้อายของ Rhye สาว ๆ เลยเทใจให้มากเป็นพิเศษ แต่ก็อกหักกันยกแผง แฟน (Rhye) คอยมาคุมข้างเวที กลัวว่าเพลงที่ Rhye แต่งให้ตัวจะร้องไม่ดีหล่ะสิ หวานทั้งเพลง หวานทั้งดนตรี คนในงานเลยเคลิบเคลิ้มไปเลย แต่เพียงเขาไม่มีช่วงแบบพีคสุด ๆ ให้ตื่นเต้น เหมาะกับฟังก่อนนอน และไม่ควรมาอยู่ Line up รองจาก Blone Redhead เสียด้วยซ้ำ
Blonde Red Head
ความกร่อยมาเยือนนนนนตั้งแต่ต้นยันจบ Blonde Red Head ปิดท้าย จากก่อนหน้าคนแทบไม่มีที่ยืน หลังจากจบ Rhye คนก็สลายไปตามปกติ แต่คราวนี้ไปแล้ว ไปลับ พอถึงเวลา Blonde Red Head ขึ้น คนกลับมาดูไม่ถึง ร้อยคน เล่นตระกร้อกันได้หลายวงเลย เราเห็นสีหน้าสมาชิกในวงแล้วเห็นใจจริง ๆ แต่เขาก็เล่นได้ดี เต็มที่กับเพลง และคนดูก็เต็มที่กับเพลงของวงเช่นกัน อาจกร่อย ๆ ไปนิด ไม่สิมากเลยหล่ะ แต่ก็เป็นการโชว์จบงานที่สวยงามจริง ๆ ต้องยกให้เป็น Best Performance ของวันนี้เลย
เวทีอื่น ๆ
Solar Stage
ไม่ทิ้งคอนเซ็ปตรั้งก่อน แดนซ์กันสู้พระอาทิตย์ขึน ตีสามยัน 9 โมงเช้า ขนาดวันสุดท้ายไม่มีตารางเปิด ก็ยังมีดีเจให้ความบันเทิงกันยันงานจบ
Quarry Stage
จบจากเวทีหลักสามารถเดิน เข้าป่า เข้าพง ตามทางแต่ไปไกลลิบ เจอศิลปินแนว EDM บีท ย้ำ ๆ หนืด ๆ
Molum Bus
รถบัสหมอลำ จาก Jim Thompson เราเคยดูนิทรรศการแคนล่อง คะนองลำ เมื่อต้นปี ให้ความรู้เกี่ยวกับหมอลำในทุกแง่มุม แต่คราวนี้ยกกันมาทั้งรถบัส และมีการแสดงจากหมอแคน สมบัติ ด้วย ส่วนที่เหลือเป็นการเปิดเพลงหมอลำ ส่วนหลังคารถก็มีให้คนขึ้นไปนั่งได้ด้วย
Forbidden fruit
อันนี้เน้นกิจกรรม Talk และ รวมกลุ่ม มี DJ เปิดเพลงบ้าง
Fractals by LORDFAI NAVINDA AND COLLABORATORS
เป็น Contemp dance ใช้เสา 9 ต้น และมีเชือกด้วย ไม่ค่อยเข้าใจคอนเซ็ปการเต้นเขา และการแสดงนานเกินไป จนรู้สึกเบื่อ และอารมณ์ร่วมของนักแสดงน้อย
ส่วนเรื่องอื่น ๆ
- ตรวจตราเข้มงวดมาก ถึงมากที่สุด ค้นทุกสิ่งอย่างเพื่อความปลอดภัย การ์ด ทหาร ตำรวจ สุนัขตำรวจ เดินกันขวักไขว่
- อาหารทุกชนิดห้ามเอาเข้า ลูกอมที่เป็นห่อ ๆ ก็ห้ามจ้า อาหารอ่อนให้เด็กเล็กที่เอามาก็ไม่ได้ ให้ซื้อกินในงานอย่างเดียว และถูกสุด 80 บาท และไล่ระดับไปเรื่อย ๆ
- เครื่องดื่ม น้ำเปล่าขวด 30 แต่สามารถเอาขวดไปเติมรีฟิวน้ำได้ และเข้าคอนเซ็ป sustainability แต่มีจุดเดียวทั้งงาน อยากประหยัดก็ต้องขยันเดิน ส่วนเครื่องดื่มแฮลกออลราคายังกะใน pub ย่านสุขุมวิท เบียร์กระป๋อง (ลีโอ) แค่ 150 บาท เอ้งงงง
- ที่พักส่วน General Camping เป็นสัดส่วนกว่าครั้งก่อนมาก มีการตรวจเช็คและลงทะเบียนเข้าพัก และมีรถวิ่งตรวจตราอยู่เนือง ๆ
- บรรยากาศ / ตกแต่ง สวยงาม เก๋ กู๊ด ดีกว่าปีที่แล้วอีก
- ปีนี้คนดู โดยเฉพาะคนไทยเข้าไปมากขึ้น แต่สิ่งที่ให้ความสนใจส่วนใหญ่เป็นการถ่ายรูป มากกว่าที่เข้าไปร่วมกิจกรรมตามซุ้มหรือเวทีต่าง ๆ
- ปีหน้าควรให้ความสำคัญกับการเรียงลำดับของการแสดง เพราะปีนี้กร่อยทุกวันจริง ๆ
จบการรายงาน
อกหักที่ Wonderfruit และ line up พังพินาศ
ขอมอบเพลงนี้ให้แก่ Line up Wonderfruit 2015 โดยเฉพาะ Living Stage เวทีหลักของงาน กร่อยมากจริง ๆ ปีนี้
ความพังพินาศวันแรก
Living Stage
Boy Thai
Harts
Submotion Orchestra
The Faint
ฺBoy Thai
คือรักษามาตราฐานความเป็นบอยไทยได้เป็นอย่างดี แต่เพลงเน้นไปที่เพลง Saxsophone จนลืมไปว่าพระเอกของวงคือ ระนาดและเปิงมางคอก เลยทำให้ความน่าสนใจของวงเหมือนไปฟัง โก้ มิสเตอร์แซ็กแมน มากกว่า
Harts
ต้องยกให้เป็น Best performance ของเวทีนี้ไปเลย กลองกับกีตาร์ ลีลาเหลือร้าย เอ็นเตอร์เทนคนดูได้เริ่ด
Submotion Orchestra
Ambient Soul หวาน หม่น ไพเราะ ส่วนนักร้องหญิง เสียงทรงพลัง แต่บรรยากาศเพลงเนือย ๆ กระเดียดไปทาง พวก Zero 7 ถ้าได้ฟังก่อนนอนจะเพลินมาก (เธอประกาศว่ากำลังจะมีเบบี๋ ด้วย) คนดูให้ความสนใจกับวงนี้มาก แต่ดันเอามาเป็นวงรอง Head line up ของวันแรก และไม่ต้องเดาว่าวงปิด The faint จะเป็นยังไง
The Faint
หลังจากจบ Submotion Orchestra คนที่ยืนดูกันหนาแน่นก่อนหน้านี้ สลายโต๋ หายไปห้องน้ำและไม่กลับมา เหลือคนดูไม่ถึง 200 คน กลิ่นของความกร่อยมาเยือนแล้ว แต่อันนี้เราไม่ค่อยสนใจ เอาเป็นว่ายืนดูได้ ถึงวงนี้จะไม่เคยฟังมาก่อนก็ตาม วงเล่นดีมากนะ นักร้องนักดนตรีเต็มที่กับโชว์ ถึงเพลงจะไม่ใช่สไตล์เราก็ตาม แต่สุดท้ายก็อยู่ไม่นานเดินออกไปดูเวที Soi Stage แทนเพราะ Howie B กำลงัขึ้นโชว์
Soi Stage
Howie B at Soi Stage
เฝ้ารอมานานเลยกับ Howie B ตามตารางลงว่าเป็น Live สนุกแน่งานนี้ (เสียงแห่งความคาดหวังงง) พอไปเจอกำลังเซ็ทเครื่อง
กลิ่นตุ ๆ เริ่มออกแล้ว เค้าไม่ได้เล่น Live band ค่า อยากจะบ้าตาย สุดท้ายกลายเป็น DJ Set แถมขายงาน Installation motion graphic art มากกว่าเพลงของเขาอีก ดูได้ 3 เพลง น้ำตาตกใน แอบไปร้องไห้คนเดียวยันเช้า
วันที่สอง ที่สุดของความอกหัก รอเก้อยิ่งกว่าสายบัวเป็นหม้ายขันหมาก
ที่พักกางเต้นใกล้กับ Living Stage มาก เวลาซ้อมหรือเซ็ทติ้งนี่ได้ยินทุกวงแต่ยกเว้น....
Soi Stage
ประทับใจทีสุดของ Wonderfruit เลยคือ Chanudom บางคนอาจจะยังไม่คุ้นหูแต่ถ้าบอกว่า คนที่เล่นละครเวที Hedwig and the angry inch น่าจะพอจำกันได้ มาเต็มเริ่ด เพลงก็ดี เขาขึ้นเล่นตอนไปสั่งก๋วยเตี๋ยว วิ่งปรู๊ดเหมือนปวดท้อง...ทิ้งก๋วยเตี๋ยวไว้เบื้อหลัง มุ่งไปหน้าเวที และเป็นการแสดงที่ดีที่สุดของงานสำหรับเราในครั้งนี้เลยทีเดียว
Living Stage
Kidnapper ไม่ได้ดูจ้า
Rajasthan Root
อิมพอร์ตจากอินตรเดีย traditional ผสม ดนตรีโมเดิร์น ก็โอเคนะ ไม่ได้ชอบเท่าไหร่
Lucent Dossier Experience
โมเดิร์นแดนซ์ ผสม กายกรรม หรูเริ่ดอลังการดาวสามพันล้านแปดแสนดวง ตื่นเต้นและเร้าใจสุด ๆ
Mos Def
นี่แหล่ะความผิดหวังที่สุด ถ่อสังขารมาจนาดนี้ เพื่อดูคนนี้ แต่เหอๆ .... น่าจะสงสัยตั้งแต่แรกแล้วว่า ทำไมตอนเค้าซาวด์เช็คถึงได้ยินแต่ Kidsnapper / Rajasthan Roots และ Jon Hopkins & Chris Levine แล้ว Mos Def ไปไหน ????? ทางผู้จัดประกาศใน FB ว่า ไฟลท์ของที่จะมาเมืองไทยดีเลย์ แต่จะพยายามให้ Mos Def มาเล่นให้ได้ แต่สุดท้ายก็ไม่มา แต่เราตั้งข้อสงสัยว่าเพราะเป็น Line up รองหรือเปล่า เลยมีส่วนทำให้ไฟลท์ดีเลย์ แต่คิดว่าโปรเฟสชันนอลขนาดนั้นคงไม่เกี่ยว
Jon Hopkins x Chris Levine
เทคโนสายตื๊ดดดด ผสมเลเซอร์วิชวลอลังการ มาปิดท้ายงาน คนดิ้นกันยับ เราดูได้สัก 20 นาที ก็ขอลาไปเลียแผลใจที่เต้น เพื่อเก็บแรงไว้วันพรุ่งนี้
วันที่สาม อาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม 2558
Soi Stage
Dannis Lloyd
Neo Soul ผสม hip hop / R&B เพลงประมาณวง How to dress well (วงนี้เคยมาเล่นที่ RCA เมื่อเดือนกุมภา) อันนี้ก็ผิดหวังอีก เพราะมีปัญหาเรื่อวซาวด์ ประมาณช่องที่ต่อไมค์ผ่าน Vox มีปัญหาเสียงออกข้างเดียวเลยทำให้เพลงไม่สมบูรณ์ ศิลปินพยายามบอกถึงปัญหาให้คนคุมเสียงแก้ แต่เหมือนสื่อสารกันไม่เข้าใจ และคนคุมเสียงไม่เข้าใจปัญหาว่าเกิดจากตรงไหน สุดท้าย Dannis เดินออกมาขอบคุณแต่ทำได้เพียงเท่านี้เพราะระบบเสียงแก้ไขไม่ได้ เลยอดดูต่อ T_T
Living Stage
Greasy Cafe ไม่ได้ดูพี่เล็กจ้า
Pongsit Kampee น้าปูก็ไม่ได้ดูเช่นกัน
Rhye
แฟนคลับหนาแน่นมากกกก โดยเฉพาะสาว ๆ เพราะความนุ่มละมัยของเพลง และ ความหล่อแบบหนุ่มขี้อายของ Rhye สาว ๆ เลยเทใจให้มากเป็นพิเศษ แต่ก็อกหักกันยกแผง แฟน (Rhye) คอยมาคุมข้างเวที กลัวว่าเพลงที่ Rhye แต่งให้ตัวจะร้องไม่ดีหล่ะสิ หวานทั้งเพลง หวานทั้งดนตรี คนในงานเลยเคลิบเคลิ้มไปเลย แต่เพียงเขาไม่มีช่วงแบบพีคสุด ๆ ให้ตื่นเต้น เหมาะกับฟังก่อนนอน และไม่ควรมาอยู่ Line up รองจาก Blone Redhead เสียด้วยซ้ำ
Blonde Red Head
ความกร่อยมาเยือนนนนนตั้งแต่ต้นยันจบ Blonde Red Head ปิดท้าย จากก่อนหน้าคนแทบไม่มีที่ยืน หลังจากจบ Rhye คนก็สลายไปตามปกติ แต่คราวนี้ไปแล้ว ไปลับ พอถึงเวลา Blonde Red Head ขึ้น คนกลับมาดูไม่ถึง ร้อยคน เล่นตระกร้อกันได้หลายวงเลย เราเห็นสีหน้าสมาชิกในวงแล้วเห็นใจจริง ๆ แต่เขาก็เล่นได้ดี เต็มที่กับเพลง และคนดูก็เต็มที่กับเพลงของวงเช่นกัน อาจกร่อย ๆ ไปนิด ไม่สิมากเลยหล่ะ แต่ก็เป็นการโชว์จบงานที่สวยงามจริง ๆ ต้องยกให้เป็น Best Performance ของวันนี้เลย
เวทีอื่น ๆ
Solar Stage
ไม่ทิ้งคอนเซ็ปตรั้งก่อน แดนซ์กันสู้พระอาทิตย์ขึน ตีสามยัน 9 โมงเช้า ขนาดวันสุดท้ายไม่มีตารางเปิด ก็ยังมีดีเจให้ความบันเทิงกันยันงานจบ
Quarry Stage
จบจากเวทีหลักสามารถเดิน เข้าป่า เข้าพง ตามทางแต่ไปไกลลิบ เจอศิลปินแนว EDM บีท ย้ำ ๆ หนืด ๆ
Molum Bus
รถบัสหมอลำ จาก Jim Thompson เราเคยดูนิทรรศการแคนล่อง คะนองลำ เมื่อต้นปี ให้ความรู้เกี่ยวกับหมอลำในทุกแง่มุม แต่คราวนี้ยกกันมาทั้งรถบัส และมีการแสดงจากหมอแคน สมบัติ ด้วย ส่วนที่เหลือเป็นการเปิดเพลงหมอลำ ส่วนหลังคารถก็มีให้คนขึ้นไปนั่งได้ด้วย
Forbidden fruit
อันนี้เน้นกิจกรรม Talk และ รวมกลุ่ม มี DJ เปิดเพลงบ้าง
Fractals by LORDFAI NAVINDA AND COLLABORATORS
เป็น Contemp dance ใช้เสา 9 ต้น และมีเชือกด้วย ไม่ค่อยเข้าใจคอนเซ็ปการเต้นเขา และการแสดงนานเกินไป จนรู้สึกเบื่อ และอารมณ์ร่วมของนักแสดงน้อย
ส่วนเรื่องอื่น ๆ
- ตรวจตราเข้มงวดมาก ถึงมากที่สุด ค้นทุกสิ่งอย่างเพื่อความปลอดภัย การ์ด ทหาร ตำรวจ สุนัขตำรวจ เดินกันขวักไขว่
- อาหารทุกชนิดห้ามเอาเข้า ลูกอมที่เป็นห่อ ๆ ก็ห้ามจ้า อาหารอ่อนให้เด็กเล็กที่เอามาก็ไม่ได้ ให้ซื้อกินในงานอย่างเดียว และถูกสุด 80 บาท และไล่ระดับไปเรื่อย ๆ
- เครื่องดื่ม น้ำเปล่าขวด 30 แต่สามารถเอาขวดไปเติมรีฟิวน้ำได้ และเข้าคอนเซ็ป sustainability แต่มีจุดเดียวทั้งงาน อยากประหยัดก็ต้องขยันเดิน ส่วนเครื่องดื่มแฮลกออลราคายังกะใน pub ย่านสุขุมวิท เบียร์กระป๋อง (ลีโอ) แค่ 150 บาท เอ้งงงง
- ที่พักส่วน General Camping เป็นสัดส่วนกว่าครั้งก่อนมาก มีการตรวจเช็คและลงทะเบียนเข้าพัก และมีรถวิ่งตรวจตราอยู่เนือง ๆ
- บรรยากาศ / ตกแต่ง สวยงาม เก๋ กู๊ด ดีกว่าปีที่แล้วอีก
- ปีนี้คนดู โดยเฉพาะคนไทยเข้าไปมากขึ้น แต่สิ่งที่ให้ความสนใจส่วนใหญ่เป็นการถ่ายรูป มากกว่าที่เข้าไปร่วมกิจกรรมตามซุ้มหรือเวทีต่าง ๆ
- ปีหน้าควรให้ความสำคัญกับการเรียงลำดับของการแสดง เพราะปีนี้กร่อยทุกวันจริง ๆ
จบการรายงาน