*คำเตือน: กระทู้นี้เขียนด้วยความเพ้อและมโนมาก ใครไม่ฟินคู่นี้โปรดข้ามไปค่ะ
ปล. ฝากกระทู้แรก เขียนไว้ก่อน ep สุดท้าย on air
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ เ รื่ อ ง ข อ ง ซั น กั บ เ จ น http://ppantip.com/topic/34569330
ทันทีที่ HM ss3 ปิดฉากลง นอกจากคำถามที่ว่าในห้องน้ำนั่นขาใคร ? อีกหลายคำถามที่กระหน่ำทุกช่องโซเชียลมีเดียและอาจจะค้างคาอยู่ในใจคนดูมากมายได้แก่ แล้วเจนจะบอกอะไรกับซัน ? ตกลงเจนกลับไปเมืองนอกหรือเปล่า?
ส่วนตัวแล้ว ..ดิชั้นแอบคิดไว้ก่อนจะได้ดูตอนจบว่า gth ก็คงจะทิ้งท้ายไว้ให้เราคิดแบบนี้แหละ signature เค้า (แต่คิดว่าจะทิ้งไว้กับคู่นนปัง โธ่ หวยดันออกที่คู่ที่เราเชียร์)...โอเค ไม่เป็นไร จบแบบทิ้งให้คิด ดิชั้นมีสิทธิ์มโน
ที่ผ่านมา (ก่อน ep .สุดท้าย) ความสัมพันธ์ของคู่นี้ จะเรียกว่าชัดก็ชัด แต่ชัดในความเป็นเพื่อนคนพิเศษ ที่สนิทกันมากกว่าเพื่อนปกติ...แต่เท่าที่เรารู้ (หรือเท่าที่ผู้กำกับเค้าตัดให้เราดู) ซันกับเจนไม่เคยพูดอะไรกันถึงสถานะความสัมพันธ์ใดๆ ให้มันชัดเจนลงไป เหมือนต่างฝ่ายต่างรู้สึกดีแต่ไม่บอกเธอ (เสียงเพลง SS1 ลอยมา) อารมณ์แบบเพื่อนสนิท ทำอะไรไม่ได้ เจนเองก็คงไม่แน่ใจว่าซันทำดีกับเธอเพราะนั่นคือธรรมชาติ ความเฟรนด์ลี่ (หรือความหม้อ) ของซันหรือเปล่า และซันก็คงยังไม่แน่ใจว่าเจนคิดยังไง ทั้งที่จริงๆ แล้วซันและเจนจัดว่าเป็นคู่ที่แค่มองตาก็เข้าใจกันตลอดมา แต่เรื่องนี้ ทั้งสองคนก็ยังคงเก็บซ่อนความรู้สึกไว้ กั๊กๆ ฟอร์มๆ ใส่กัน น่าจะเพราะต่างก็กลัวว่าถ้าแสดงออกแล้วอีกฝ่ายไม่คิดเหมือนกัน จะเป็นการทำลายมิตรภาพดีๆ ที่มีอยู่
แล้วทำไม เจนถึงไม่กล้าบอกซันเหมือนที่เธอกล้าบอกขนมปังว่าเธอจะไปแล้ว?
ถ้าเจน ไม่ได้คิดอะไรกับซันเกินคำว่าเพื่อน..เจนคงกล้าที่จะบอกซันตั้งแต่แรกที่เธอตัดสินใจจะกลับไป หรือกล้าบอกตั้งแต่ตอนที่ส่ง wechat ไป แล้วทำไมเจนเปลี่ยนใจ recall (โอเค เข้าใจว่าส่วนนึงมันคือการ tie in sponsor) แต่ที่ไม่บอก..เพราะเจนเองก็ไม่แน่ใจความรู้สึกของตัวเอง ไม่แน่ใจความรู้สึกของซัน และลึกๆ แล้วสิ่งที่เจนไม่พร้อมจะรับรู้คือ "ปฏิกิริยาของซัน" อาจจะกลัวว่า ถ้าเกิดบอกไปแล้วซันตอบมาแค่ "อือ แล้วกลับมาเยี่ยมกูบ้างนะ" นั่นหมายถึงซันไม่ได้คิดอะไรกับเธอเลย (ทำให้เธออาจจะต้องแบกอกหักยับเยินกลับนิวยอร์ก) หรืออีกทางหนึ่งคือกลัวว่าถ้าบอกไปแล้วซันยื้อไว้ (ไม่ว่าจะยื้อในฐานะเพื่อนหรืออะไรก็ตาม)...จะยิ่งทำให้เธอตัดสินใจลำบากยิ่งขึ้นไปอีก เจนถึงยืดเวลาการบอกซันออกไป..เรื่อยๆ...
ลองคิดในมุมของซัน...ตอนที่ซันรู้จากขนมปังแล้วก็คงรอว่าเมื่อไหร่เจนพร้อมจะบอกก็คงบอกมาเอง แต่เจนก็ไม่บอก จนกระทั่งถึงฉากในร้านอาหาร (สงสารอิซันมากอ่ะลูกเอ๊ย แสร้งทำเป็นร่าเริงได้สุดนะตอนแรก) ลองใจด้วยเรื่องชวนไปนั่งรถเมล์แต่บอกว่าไปวันหลังนะ...เจนชะงักแต่ก็ยังตอบมาแค่ อื้อ แล้วหลบตา...จนในที่สุดซันต้องยกประเด็นขึ้นมาเอง "เออแล้วที่ส่งข้อความมา ส่งอะไรมาวะ" เจนดูอ้ำอึ้งนิดนึง แต่ในที่สุดก็ต้องบอก "...กูจะไปแล้วนะ"
จากนี้ ขอวิเคราะห์แบบช็อตต่อช็อต:
"ปังบอกกูแล้ว กูถึงพามากินข้าวไง" หน้าเจนคือเจื่อนไปนิดนึง แต่ก็ยังคงเก็บอารมณ์นิ่งๆ ตามสไตล์แล้วพยักหน้านิดๆ...เหมือนคิดในใจว่า นี่คือซันพามาเลี้ยงส่งใช่มั้ย ถ้ารู้จากปังแล้วทำไมไม่เคยมาโวยวายใส่เลย...นี่สินะคือปฎิกิริยาของซัน
"แล้วไปเมื่อไหร่"
"หลังสอบเสร็จอ่ะ"
"ไม่ให้กูตั้งตัวเลยเนาะ" ถึงตรงนี้อิคู่นี้ก็ยังไม่ชัดเจนกันซะทีนะคะท่านผู้ชม นอกจากหน้าซันที่อาการเริ่มออก
"กูขอโทษเว้ย คือกูรู้สึกว่ากูแมร่งไม่เหมาะกะที่นี่ แล้วพอกูไม่เหมาะ กูก็ไม่รู้จะอยู่ไปทำไมว่ะ แมร่งไม่มีเหตุผลอะไรแล้วอ่ะ ที่ทำให้กูอยากอยู่ที่นี่ต่อ" ตอนนี้หน้าอิซันจะไปแระ กลั้นน้ำตาสุด
ดังนั้น "แล้วกูล่ะ กูเป็นเหตุผลได้มั้ย" คือความชัดเจนครั้งแรก...ที่ซันบอกให้เจนรู้ว่าซันคิดยังไง หน้าเจนแอบอึ้งไปนิดนึง ทำหน้าแบบไม่รู้จะยิ้มหรือจะอะไรดี อาจจะนึกอยู่ในใจว่า "แล้วมาบอกอะไรป่านนี้" (แต่พูดออกมาไม่ได้เพราะเดี๋ยวสคริปต์จะซ้ำกับดากานดา) วินาทีนั้นดูเนิ่นนานมากๆ จนซันคอตก ก้มหน้า ถอนหายใจ (แล้วชาขาวเพียวริขุก็มา อืมมม ตัดฉับได้บาดใจมากค่ะพี่ปิง)
จนคืนปีใหม่...เจนกางเต็นท์ เปิดไฟดิสโก้..แบบที่เคยเล่นเป็นเอเลี่ยนกับพี่ชายตอนเด็กๆ..นอนดูบอร์ดดิ้งพาส (ซึ่งตรงนี้เป็นประเด็นที่ไม่เคลียร์ เพราะพิมพ์ว่า BKK-NYX ซึ่งเป็นไฟลท์ที่TG เลิกบินไปนานแล้ว แถมเลขไฟลท์ผิด และขึ้นเกทแล้วแสดงว่าเป็นของเก่า แต่จะอย่างไรก็ตาม เราข้ามตรงนี้ไปค่ะ เอาเป็นว่านางนอนคิดถึงเรื่องจะไปหรือไม่ไปก็เท่านั้นแหละ)...สิ่งที่วางอยู่อีกอย่างคือโทรศัพท์ที่มีข้อความจากซัน ...ชวนออกไปเที่ยวด้วยกัน...เจนก็คงยังไม่รู้จะตัดสินใจยังไงต่อไปกับชีวิตดี...
จนมาถึงสอบเสร็จ..คุณซันคะ คุณเล่นใหญ่รัชดาลัยมากค่ะ อยากรู้จริงๆ ว่าตอนที่ซันไปขอครูๆ และวงโยให้มาช่วยเนี่ย ไปบอกว่าอะไร (ดิชั้นสงสารเน็ต เฟิร์สและน้องโรที่ต้องช่วยกันเข็นกลองมากท่าทางจะหนัก) จริงๆ แล้วซันและวงจะแค่เล่นคอนเสิร์ตปิดโรงเรียนไปแบบปกติก็ได้...แต่แค่นั้นมันอาจจะง่ายไป..ซันคงอยากให้เจนได้นึกถึงช่วงเวลาที่ฝึกเป็นดรัม คือช่วงที่ความรู้สึกเธอเริ่มโอเคกับที่นี่ ตอนที่ครูลูกตาลถามเจนว่า เห็นแล้วรู้สึกยังไง แล้วเจนตอบว่า "ยังมีคนเดินผิดอยู่เลยค่ะ แต่ก็ไม่แย่นะคะ" ทำให้เห็นว่าเจนรู้จักการที่จะมองข้ามอะไรเล็กๆ น้อยๆ แล้วมองภาพรวม มองสิ่งที่อยู่ตรงหน้า คือการที่ซันและเพื่อนๆ ร่วมกันเล่นเพลงให้ "แตกต่างเหมือนกัน" (โอเค มันคือเพลงของฮอร์โมน แต่ความหมายแฝงมันก็คือการบอกเจนด้วยว่าเธอไม่ได้ไม่เหมาะกับที่นี่อย่างที่เธอคิด เพราะทุกคนล้วนแตกต่างกันแต่ก็มีความเหมือนกัน)
ถึงตอนนี้ ดูเหมือนเจนจะมีน้ำตาคลอๆ นิดๆ (ซันส่งยิ้ม ยักคิ้วให้แบบแรดมากจริงๆ บอกเลย) โมเมนต์ตรงนี้น่ารักมากๆ มีญาติโยมยืนอยู่ร่วมร้อยแต่เธอมองกันเหมือนท้ังสนามบอลมีกันอยู่แค่สองคน...แถมเจนยังส่งยิ้ม 5000 ให้ซันอีก...ไม่เปลี่ยนใจก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วนะเนี่ย
ถัดจากนั้นคือฉากที่เราเห็นทั้งสองคนเดินมาหากัน...และยังคงฟอร์มจัดใส่กันเหมือนเดิม "เป็นไง ถูกใจป่ะ" "ก็งั้นๆ อ่ะ" แต่แค่สายตาและรอยยิ้มที่ส่งให้กัน จากการที่สองคนนี้แค่มองตาก็รู้ใจกันตลอดมา เชื่อว่าทั้งซันและเจนรู้อยู่แล้วว่าตอนนั้นอีกฝ่ายรู้สึกยังไง...
ดังนั้นกลับไปที่คำถาม เราคงไม่ต้องถามกันแล้วว่า เจนจะบอกอะไรกับซัน?
แต่ให้ลองถามตัวเองด้วยคำถามที่ว่า ถ้าหากมีใครสักคนที่ทุ่มเทและทำให้เราขนาดนี้...เราจะไปจากเขาได้ลงจริงๆ หรือ...
ซัน & เจน กับคำถามที่ทิ้งไว้กลาง "อากาศ"
ปล. ฝากกระทู้แรก เขียนไว้ก่อน ep สุดท้าย on air
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ทันทีที่ HM ss3 ปิดฉากลง นอกจากคำถามที่ว่าในห้องน้ำนั่นขาใคร ? อีกหลายคำถามที่กระหน่ำทุกช่องโซเชียลมีเดียและอาจจะค้างคาอยู่ในใจคนดูมากมายได้แก่ แล้วเจนจะบอกอะไรกับซัน ? ตกลงเจนกลับไปเมืองนอกหรือเปล่า?
ส่วนตัวแล้ว ..ดิชั้นแอบคิดไว้ก่อนจะได้ดูตอนจบว่า gth ก็คงจะทิ้งท้ายไว้ให้เราคิดแบบนี้แหละ signature เค้า (แต่คิดว่าจะทิ้งไว้กับคู่นนปัง โธ่ หวยดันออกที่คู่ที่เราเชียร์)...โอเค ไม่เป็นไร จบแบบทิ้งให้คิด ดิชั้นมีสิทธิ์มโน
ที่ผ่านมา (ก่อน ep .สุดท้าย) ความสัมพันธ์ของคู่นี้ จะเรียกว่าชัดก็ชัด แต่ชัดในความเป็นเพื่อนคนพิเศษ ที่สนิทกันมากกว่าเพื่อนปกติ...แต่เท่าที่เรารู้ (หรือเท่าที่ผู้กำกับเค้าตัดให้เราดู) ซันกับเจนไม่เคยพูดอะไรกันถึงสถานะความสัมพันธ์ใดๆ ให้มันชัดเจนลงไป เหมือนต่างฝ่ายต่างรู้สึกดีแต่ไม่บอกเธอ (เสียงเพลง SS1 ลอยมา) อารมณ์แบบเพื่อนสนิท ทำอะไรไม่ได้ เจนเองก็คงไม่แน่ใจว่าซันทำดีกับเธอเพราะนั่นคือธรรมชาติ ความเฟรนด์ลี่ (หรือความหม้อ) ของซันหรือเปล่า และซันก็คงยังไม่แน่ใจว่าเจนคิดยังไง ทั้งที่จริงๆ แล้วซันและเจนจัดว่าเป็นคู่ที่แค่มองตาก็เข้าใจกันตลอดมา แต่เรื่องนี้ ทั้งสองคนก็ยังคงเก็บซ่อนความรู้สึกไว้ กั๊กๆ ฟอร์มๆ ใส่กัน น่าจะเพราะต่างก็กลัวว่าถ้าแสดงออกแล้วอีกฝ่ายไม่คิดเหมือนกัน จะเป็นการทำลายมิตรภาพดีๆ ที่มีอยู่
แล้วทำไม เจนถึงไม่กล้าบอกซันเหมือนที่เธอกล้าบอกขนมปังว่าเธอจะไปแล้ว?
ถ้าเจน ไม่ได้คิดอะไรกับซันเกินคำว่าเพื่อน..เจนคงกล้าที่จะบอกซันตั้งแต่แรกที่เธอตัดสินใจจะกลับไป หรือกล้าบอกตั้งแต่ตอนที่ส่ง wechat ไป แล้วทำไมเจนเปลี่ยนใจ recall (โอเค เข้าใจว่าส่วนนึงมันคือการ tie in sponsor) แต่ที่ไม่บอก..เพราะเจนเองก็ไม่แน่ใจความรู้สึกของตัวเอง ไม่แน่ใจความรู้สึกของซัน และลึกๆ แล้วสิ่งที่เจนไม่พร้อมจะรับรู้คือ "ปฏิกิริยาของซัน" อาจจะกลัวว่า ถ้าเกิดบอกไปแล้วซันตอบมาแค่ "อือ แล้วกลับมาเยี่ยมกูบ้างนะ" นั่นหมายถึงซันไม่ได้คิดอะไรกับเธอเลย (ทำให้เธออาจจะต้องแบกอกหักยับเยินกลับนิวยอร์ก) หรืออีกทางหนึ่งคือกลัวว่าถ้าบอกไปแล้วซันยื้อไว้ (ไม่ว่าจะยื้อในฐานะเพื่อนหรืออะไรก็ตาม)...จะยิ่งทำให้เธอตัดสินใจลำบากยิ่งขึ้นไปอีก เจนถึงยืดเวลาการบอกซันออกไป..เรื่อยๆ...
ลองคิดในมุมของซัน...ตอนที่ซันรู้จากขนมปังแล้วก็คงรอว่าเมื่อไหร่เจนพร้อมจะบอกก็คงบอกมาเอง แต่เจนก็ไม่บอก จนกระทั่งถึงฉากในร้านอาหาร (สงสารอิซันมากอ่ะลูกเอ๊ย แสร้งทำเป็นร่าเริงได้สุดนะตอนแรก) ลองใจด้วยเรื่องชวนไปนั่งรถเมล์แต่บอกว่าไปวันหลังนะ...เจนชะงักแต่ก็ยังตอบมาแค่ อื้อ แล้วหลบตา...จนในที่สุดซันต้องยกประเด็นขึ้นมาเอง "เออแล้วที่ส่งข้อความมา ส่งอะไรมาวะ" เจนดูอ้ำอึ้งนิดนึง แต่ในที่สุดก็ต้องบอก "...กูจะไปแล้วนะ"
จากนี้ ขอวิเคราะห์แบบช็อตต่อช็อต:
"ปังบอกกูแล้ว กูถึงพามากินข้าวไง" หน้าเจนคือเจื่อนไปนิดนึง แต่ก็ยังคงเก็บอารมณ์นิ่งๆ ตามสไตล์แล้วพยักหน้านิดๆ...เหมือนคิดในใจว่า นี่คือซันพามาเลี้ยงส่งใช่มั้ย ถ้ารู้จากปังแล้วทำไมไม่เคยมาโวยวายใส่เลย...นี่สินะคือปฎิกิริยาของซัน
"แล้วไปเมื่อไหร่"
"หลังสอบเสร็จอ่ะ"
"ไม่ให้กูตั้งตัวเลยเนาะ" ถึงตรงนี้อิคู่นี้ก็ยังไม่ชัดเจนกันซะทีนะคะท่านผู้ชม นอกจากหน้าซันที่อาการเริ่มออก
"กูขอโทษเว้ย คือกูรู้สึกว่ากูแมร่งไม่เหมาะกะที่นี่ แล้วพอกูไม่เหมาะ กูก็ไม่รู้จะอยู่ไปทำไมว่ะ แมร่งไม่มีเหตุผลอะไรแล้วอ่ะ ที่ทำให้กูอยากอยู่ที่นี่ต่อ" ตอนนี้หน้าอิซันจะไปแระ กลั้นน้ำตาสุด
ดังนั้น "แล้วกูล่ะ กูเป็นเหตุผลได้มั้ย" คือความชัดเจนครั้งแรก...ที่ซันบอกให้เจนรู้ว่าซันคิดยังไง หน้าเจนแอบอึ้งไปนิดนึง ทำหน้าแบบไม่รู้จะยิ้มหรือจะอะไรดี อาจจะนึกอยู่ในใจว่า "แล้วมาบอกอะไรป่านนี้" (แต่พูดออกมาไม่ได้เพราะเดี๋ยวสคริปต์จะซ้ำกับดากานดา) วินาทีนั้นดูเนิ่นนานมากๆ จนซันคอตก ก้มหน้า ถอนหายใจ (แล้วชาขาวเพียวริขุก็มา อืมมม ตัดฉับได้บาดใจมากค่ะพี่ปิง)
จนคืนปีใหม่...เจนกางเต็นท์ เปิดไฟดิสโก้..แบบที่เคยเล่นเป็นเอเลี่ยนกับพี่ชายตอนเด็กๆ..นอนดูบอร์ดดิ้งพาส (ซึ่งตรงนี้เป็นประเด็นที่ไม่เคลียร์ เพราะพิมพ์ว่า BKK-NYX ซึ่งเป็นไฟลท์ที่TG เลิกบินไปนานแล้ว แถมเลขไฟลท์ผิด และขึ้นเกทแล้วแสดงว่าเป็นของเก่า แต่จะอย่างไรก็ตาม เราข้ามตรงนี้ไปค่ะ เอาเป็นว่านางนอนคิดถึงเรื่องจะไปหรือไม่ไปก็เท่านั้นแหละ)...สิ่งที่วางอยู่อีกอย่างคือโทรศัพท์ที่มีข้อความจากซัน ...ชวนออกไปเที่ยวด้วยกัน...เจนก็คงยังไม่รู้จะตัดสินใจยังไงต่อไปกับชีวิตดี...
จนมาถึงสอบเสร็จ..คุณซันคะ คุณเล่นใหญ่รัชดาลัยมากค่ะ อยากรู้จริงๆ ว่าตอนที่ซันไปขอครูๆ และวงโยให้มาช่วยเนี่ย ไปบอกว่าอะไร (ดิชั้นสงสารเน็ต เฟิร์สและน้องโรที่ต้องช่วยกันเข็นกลองมากท่าทางจะหนัก) จริงๆ แล้วซันและวงจะแค่เล่นคอนเสิร์ตปิดโรงเรียนไปแบบปกติก็ได้...แต่แค่นั้นมันอาจจะง่ายไป..ซันคงอยากให้เจนได้นึกถึงช่วงเวลาที่ฝึกเป็นดรัม คือช่วงที่ความรู้สึกเธอเริ่มโอเคกับที่นี่ ตอนที่ครูลูกตาลถามเจนว่า เห็นแล้วรู้สึกยังไง แล้วเจนตอบว่า "ยังมีคนเดินผิดอยู่เลยค่ะ แต่ก็ไม่แย่นะคะ" ทำให้เห็นว่าเจนรู้จักการที่จะมองข้ามอะไรเล็กๆ น้อยๆ แล้วมองภาพรวม มองสิ่งที่อยู่ตรงหน้า คือการที่ซันและเพื่อนๆ ร่วมกันเล่นเพลงให้ "แตกต่างเหมือนกัน" (โอเค มันคือเพลงของฮอร์โมน แต่ความหมายแฝงมันก็คือการบอกเจนด้วยว่าเธอไม่ได้ไม่เหมาะกับที่นี่อย่างที่เธอคิด เพราะทุกคนล้วนแตกต่างกันแต่ก็มีความเหมือนกัน)
ถึงตอนนี้ ดูเหมือนเจนจะมีน้ำตาคลอๆ นิดๆ (ซันส่งยิ้ม ยักคิ้วให้แบบแรดมากจริงๆ บอกเลย) โมเมนต์ตรงนี้น่ารักมากๆ มีญาติโยมยืนอยู่ร่วมร้อยแต่เธอมองกันเหมือนท้ังสนามบอลมีกันอยู่แค่สองคน...แถมเจนยังส่งยิ้ม 5000 ให้ซันอีก...ไม่เปลี่ยนใจก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วนะเนี่ย
ถัดจากนั้นคือฉากที่เราเห็นทั้งสองคนเดินมาหากัน...และยังคงฟอร์มจัดใส่กันเหมือนเดิม "เป็นไง ถูกใจป่ะ" "ก็งั้นๆ อ่ะ" แต่แค่สายตาและรอยยิ้มที่ส่งให้กัน จากการที่สองคนนี้แค่มองตาก็รู้ใจกันตลอดมา เชื่อว่าทั้งซันและเจนรู้อยู่แล้วว่าตอนนั้นอีกฝ่ายรู้สึกยังไง...
ดังนั้นกลับไปที่คำถาม เราคงไม่ต้องถามกันแล้วว่า เจนจะบอกอะไรกับซัน?
แต่ให้ลองถามตัวเองด้วยคำถามที่ว่า ถ้าหากมีใครสักคนที่ทุ่มเทและทำให้เราขนาดนี้...เราจะไปจากเขาได้ลงจริงๆ หรือ...