เริ่มเลยวาง program 3 วัน 2 คืน เอาแบบไม่เหนื่อยมากเพราะแก่แล้ว
ในใจคิดว่าจะนอนไหนดี ระนอง หรือเกาะพม่าดี แล้วเกาะไรดีละ เกาะพยาม เกาะสอง ข้อมูลเยอะมากๆ แต่ตัดสินใจแล้วว่าหลักๆคือต้องไปหัวใจมรกตให้ได้ หลังจากนอนคิด นั่งเป็นแป๊ะยิ้มหน้าคอมฯทั้งวัน อ่านข้อมูล รีวิว ไปๆมาๆแล้วหลายตลบ ได้ว่า
1. ขึ้นรถทัวร์จากกทม ถึง ระนอง
2. เที่ยวระนองก่อน
3. ลงเรือไปดำน้ำที่เกาะพม่า
4. กลับมานอนเหนื่อยตายที่ระนอง
5. เที่ยวระนองแล้วกลับตอนเย็น
อันดับแรกเที่ยวบินจากกทมไประนองมีสองรอบเท่านั้น ส่วนอนาคตไม่ทราบ ตอนนี้เท่าที่ทราบมีเพียงนกเท่านั้นที่บิน
เวลารอบแรก 6.00 - 7.25 แล้วก็ 17.05-18.30 โหสำหรับคนตื่นสายและเกลียดรถติดแล้วถือว่าเป็นเวลาที่เลวร้ายมาก
ขากลับเวลา 7.55 - 09.25 แล้วก็ 19.00 -20.35
ส่วนท่านใดที่สะดวกที่จะขับรถไปก็แน่นอน 568 โลตามที่แจ้งไว้ตามหน้า web ต่างๆ สามารถวิ่งได้สองเส้น 4006 (ไกลกว่า) และ 4091
ส่วนท่านใดชอบบริการถึงก็ช่างไม่ถึงก็ช่างแล้วนั้น ไม่มี direct ถึงระนองถึงแค่ชุมพร แล้วต่อรถอีก 122 โล (่คิดเสียว่านั่ง BTS ลงแล้วต่อรถเข้าซอยละกัน)
ส่วนตัวผมเองลองใช้บริการรถทัวร์ ซึ่งไม่เคยใช้บริการเลยตั้งแต่เรียนจนถึงปัจจุบัน ซึ่งออกจากขนส่งสายใต้เวลาประมาณ 3 ทุ่มถึงระนองประมาณ 6 โมงเช้า บนรถมีการเสริฟน้ำขนมเหมือนบนเครื่อง ที่นั่งกว้างกว่าเครื่องบินมากและสามารถเอนนอนได้สบาย แถมมีหน้าจอทีวีให้ดูตลอดเวลา หนังนั้นถือว่า update ใช้ได้ เสียตรงนั่งนานหน่อยเท่านั้นเอง (ก็คิดเสียว่ากำลังบินไปยุโรป) แต่ที่จะต้องอดชมไม่ได้เลยนั้นคือพนักงานต้อนรับนั้นทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยมทั้งบริการ หน้าตา ท่าทาง สีหน้า ภาษาน้ำเสียงที่ใช้กับลูกค้าผมให้ 11/10 เลยครับซึ่งบางสายการบินยังไม่ได้รับบริการดีเท่านี้เลย
ระหว่างทางมีจอดเลี้ยงข้าวต้นด้วย สุโก้ยจริงๆ
ประมาณ 6 โมงก็มาถึงขนส่งระนอง ผมได้จองให้บริษัททัวร์ยี่ห้อหนึ่งมารับจากขนส่งแล้วพาผมไปเที่ยวเป็นแบบ day trip แล้วให้จองโรงแรมให้ด้วย จังหวัดระนองนั้นผมไม่ได้มีโอกาสมามากนักเพราะว่าดูแล้วไม่มีอะไรเป็นแค่เมืองผ่าน แต่พออายุเรามากขึ้นเรากลับเริ่มชอบความเงียบสงบของมันอย่างบอกไม่ถูก หรือนี้เขาเรียกว่าแก่ เอาเถอะ slow life ประมาณนั้น
ส่วนตัวผมชอบเมืองนี้มากมีหลายสาเหตุด้วยกัน
อันดับแรกๆเลย รถไม่ติด ซึ่งวันนึ่งท่านสามารถทำอะไรได้มากกว่า 5 อย่างถ้าเป็น กทม รับรองได้สองอย่างไปไม่เกิน 3 แห่งเรียบร้อยมืดพอดี ขับรถเป็นกิโลๆใช้เวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมงถ้าเทียบกับ กทม แล้ว 1 ชั่วโมงอย่างเก่งจากพระราม 9 ไปได้แค่ชิดลมเท่านั้น
ประชากรน้อย ไม่ว่าจะเป็นห้างหรือ 7 รวมถึงร้านอาหารต่างๆ ไม่ต้องต่อคิวให้วุ้นวายหรือรอเรียกเบอร์ ถึงประชากรจะไม่เยอะแต่ผู้คนดูแล้วหลากหลายดีครับ มีทั้งไทยพุทธ มุสลิม ฝรั่งก็ไม่น้อย พม่านั้นเรียกว่าน่าจะเยอะเชียวฟังจากภาษาและทานาคาที่หน้าแล้ว (ผมว่าน่าจะเกินครึ่งเลยทีเดียว)
มลพิษน้อย อาหารแปลกตาหลากหลายโดยเฉพาะบางอย่างหากินที่ กทม ไม่ได้แถมอร่อยมากด้วยเรียกได้ว่าต้องซื้อกลับมาที่ กทม
ในตัวระนองเองก็มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจทีเดียว แต่ถ้าให้ดีมาช่วงอากาศเย็นจะดีมากเพราะจิ้นแล้วเป็นน่าร้อนก็น่าจะเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน แบบเดินกลางแดดได้ 2 วันกายร่างเป็นขวางฟ้าหน้าดำก็คงไม่ไหว กลับไปต้องไปเสียเงินกับวุฒิศักดิ์ก็ใช่เรื่อง
พระราชวังรัตนรังสรรค์ (จำลอง) ถ้าจะเข้าชมคงต้องคิดต่อเจ้าหน้าทีก่อนตามหน้า web ท่องเที่ยวก่อนเพราะพอไปถึงจะไม่มีเจ้าหน้าที่ stand by ไว้ให้เราถามไถ่ แต่ถ้ามาเพื่อถ่ายรูปเก๋ๆ หน้าวังก็โออยู่ แต่ระวังแดดหน่อยก็ดีเพราะว่าแรงใช้ได้
ถ้าใครมีเวลาหน่อยก็ข้ามถนนไปไหว้หอพระ 9 เกจิอาจารย์หน่อยก็จะเป็นมงคลชีวิตครับ
ภูเขาหญ้า เป็นสถานที่ต่อไป พอมาถึงผมมองไปแล้วเรามาดูอะไร พอถามคนขับรถเขาบอกว่ามาดูภูเขาหญ้าผมก็ถึงบางอ้อ ก็สวยดีนะครับเป็นเหมือนทุ่งหญ้าถ้าให้ดีควรมาเวลาเช้าๆเลยครับ แดดไม่แรงมากนัก เพราะถ้าเป็นเที่ยงหรือบ่ายแล้วคือแบบว่าสวยครับแต่ไม่มีอะไรบังกระบาลเลยครับ สถานที่เหมือนหนังอินเดียเหมาะให้นางเอกกับพระเอกวิ่งไล่จับกัน หรือ the sound of music เช้าๆกับเย็นน่าจะสวยครับแดดไม่แรงมากถ่ายมุมดีๆ pre-wedding ดีๆนี่เอง
ไม่ไกลจากภูเขาหญ้า ก็มาไหว้พระอีกแล้ววัดนี้ชื่อว่า วัดบ้านหงาว ภายในสวยงามมากครับ รูปองค์พระหล่อจากดีบุกสวยครับ ตอนผมไปมีช่างกำลังแกะลวดลายอยู่เลย
ไม่ไกลจากวัดมีบันไดไม่เลื่อน 300 กว่าขั้นขึ้นไปจะเห็นวิวอันสวยงามพร้อมกับพระพุทธรูป 1 องค์ให้ท่านไหว้ให้หายเหนื่อยก่อนเดินลง เหมือนเดิมครับถ้ามาเช้าหรือเย็นก็ โอเคแต่ถ้าเที่ยงๆ บ่ายๆ เมษายน ละก็...... เมื่อลงมาถึงชาติพันธุ์ของท่านจะเปลี่ยนไปจากเอเซียเป็นแอฟริกา ส่วนท่านสุภาพสตรีก็จะได้พิสูจน์ผลิตภัณฑ์บนใบหน้าของท่านว่าคงทนถาวรอย่างที่เขาโฆษณาหรือไม่
ระนองเป็นอีกจังหวัดที่มีบ่อน้ำพุร้อน ท่านใดอยากเปลี่ยนบรรยากาศแช่ ออนเช็น in Thailand ไม่ต้องเสียค่าเครื่องบินถึง Japan แต่ท่านใดที่เคยไปญี่ปุ่นมาแล้วก็อาจจะต้องลด degree เรื่องการจัดการลดหน่อยนะคร๊าบ ไม่ช่ายว่าเราไม่ดี แต่เขาดีกว่าเท่านั้นเอง แต่แช่ได้เหมือนกัน ส่วนเรื่องประโยชน์ไม่ได้พูดถึง แร่ธาตุมากมายในน้ำพุ โซเดียม แคลเซียม ฟลูออไรด์ โพแทสเซียม และอีกเพียบซึ่งไหนๆเราก็กินวิตามินทั้ง A B C E blackmore, zinc, ผ่านทางปากแล้วก็เอาเพิ่มแร่ธาตุแทรกเข้าผิวหนังอีกหน่อยจะเป็นไร
หลังจากแช่เสร็จแล้วบอกตรงๆว่าอยากกลับโรงแรมนอนเพราะมันจะง่วงๆ เหมือนกินอิ่มแล้วอยากนอนยังไงไม่รู้ สดชื่นนะแต่อยากนอน แตถ้าท่านพลังเยอะก็ลุยต่อด้วย
อุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว จอดรถแล้วเดินเข้าไปไม่ไกลมากเหงื่อยังไม่ทันออก สวยดีครับผมมาวันธรรมดาเลยไม่แน่ใจว่าวันเสาร์อาทิตย์คนจะเยอะหรือเปล่า ระหว่างทางก่อนถึงน้ำตกก็จะเห็นพืชพันธุ์ธรรมชาติต่างๆนาๆที่คน กทม อย่างผมไม่ได้เห็นเลยแต่ละวัน ยกเว้นเสาร์หรืออาทิตย์ที่พอจะมีเวลาไปสวนลุม ว่าไปแล้วน่าอิจฉาคนจังหวัดระนองจริงๆ
สำหรับวันแรกก็เล่นเอาหมดแรง พอกลับมาโรงแรมก็หมดสภาพ โรงแรมที่จองไว้นั้นถือว่าไม่แพงเลย โรงแรมมี style ของตัวเองดีแบบแนว hip hip แต่ไม่ hop นะครับผมชอบ ก่อนอื่นไม่ได้มา review โรงแรมนะครับแค่เป็นความคิดเห็นส่วนตัว ภายในห้องดูดีครับ แต่เริ่มมีกลิ่นไออับๆบ้าง ซึ่งบ่งบอกถึงว่าผู้ออกแบบหรือเจ้าของที่ออกแบบโรงแรมมีรสนิยม แต่การจัดการน่าจะต้องปรับปรุงแก้ไขพอควร ส่วนการบริการขอพนักงานให้ 3/10 ละกัน ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเป็น concept "DIY" รึเปล่า ห้องน้ำนั้นมีน้ำร้อน แต่ถ้าต้องการน้ำอุ่นไม่มี พอเข้าห้องน้ำแล้วท่านจะเห็นที่เปิดน้ำร้อนกับน้ำเย็นโดยปกติแล้วผสมกันแล้วจะเป็นน้ำอุ่น แต่พอลองเปิดแล้วมันจะร้อนหรือไม่ก็เย็นเท่านั้น ฉะนั้นท่านต้องเลือกว่าอยากเป็น โซบะเย็น หรือ ราเม็งร้อน ส่วนชั้นบนมีสระว่ายน้ำขนาดย่อม แต่เดี่ยวก่อนดูจากสภาพแล้วอืมไม่ลงดีกว่า แต่ถ้าท่านหิวไม่เป็นปัญหาสำหรับโรงแรมนี้แน่นอนเพราะมีร้านอาหารในโรงแรมถึง 3 ร้านด้วยกัน มีชาบู มีอาลาคาร์ท แล้วหน้าสุดก็เป็นร้าน drink ดื่มมีเล่นดนตรีด้วย พอเริ่มดึกก็มีคนเข้ามา drink ดื่มเต็มร้านเลยครับ ดังนั้นถ้าชั่งน้ำหนักด้วยราคาแล้วผมว่าก็ ok อยู่ครับ
แถมตอนเช้ามีอาหารเช้าให้ด้วยนะครับ ถือว่าไม่ธรรมดาเลยสำหรับราคานี้ อาหารเช้าเหมือนตามโรงแรมทั่วไป
หัวใจมรกต
ตื่นแต่เช้าตื่นเต้นจะได้ไปดำน้ำแล้ว ตอนเช้าหลังจากทานข้าวเสร็จมีรถตู้จาก andaman มารับครับขับไปถึงท่าเรือเพื่อทำเรื่องเอกสารผ่านด่านจากไทยไปพม่าใช้เวลาไม่นานนัก พอไปถึงคนไทยเพียบ การไปเที่ยวดำน้ำที่พม่านั้นมีหลาย option ครับแต่หลักจะมี 2 routes ด้วยกันคือไปหัวใจมรกต หรือ ไปเกาะนาวโอพี ส่วนค้างไม่ค้างก็เป็นอีกทางเลือกว่าจะนอนไหน กลับมานอนที่ระนอง หรือนอนที่เกาะทาเทย์ควน โรงแรมอันดามันคลับ ผมเลือก route หัวใจมรกตแล้วกลับมานอนที่ระนองครับ
ในเรือ speed boat ที่นั่งไปส่วนใหญ่เป็นคนไทย น้องที่เป็นไกด์ต้องขอชมเลยว่าเก่งมากครับให้ข้อมูลได้ดีเยียม และความปลอดภัยมากก่อนเป็นอันดับแรก pro มากๆ
โปรดติดตามตอนต่อไป
[CR] ระนอง ดำน้ำหัวใจมรกต
ในใจคิดว่าจะนอนไหนดี ระนอง หรือเกาะพม่าดี แล้วเกาะไรดีละ เกาะพยาม เกาะสอง ข้อมูลเยอะมากๆ แต่ตัดสินใจแล้วว่าหลักๆคือต้องไปหัวใจมรกตให้ได้ หลังจากนอนคิด นั่งเป็นแป๊ะยิ้มหน้าคอมฯทั้งวัน อ่านข้อมูล รีวิว ไปๆมาๆแล้วหลายตลบ ได้ว่า
1. ขึ้นรถทัวร์จากกทม ถึง ระนอง
2. เที่ยวระนองก่อน
3. ลงเรือไปดำน้ำที่เกาะพม่า
4. กลับมานอนเหนื่อยตายที่ระนอง
5. เที่ยวระนองแล้วกลับตอนเย็น
อันดับแรกเที่ยวบินจากกทมไประนองมีสองรอบเท่านั้น ส่วนอนาคตไม่ทราบ ตอนนี้เท่าที่ทราบมีเพียงนกเท่านั้นที่บิน
เวลารอบแรก 6.00 - 7.25 แล้วก็ 17.05-18.30 โหสำหรับคนตื่นสายและเกลียดรถติดแล้วถือว่าเป็นเวลาที่เลวร้ายมาก
ขากลับเวลา 7.55 - 09.25 แล้วก็ 19.00 -20.35
ส่วนท่านใดที่สะดวกที่จะขับรถไปก็แน่นอน 568 โลตามที่แจ้งไว้ตามหน้า web ต่างๆ สามารถวิ่งได้สองเส้น 4006 (ไกลกว่า) และ 4091
ส่วนท่านใดชอบบริการถึงก็ช่างไม่ถึงก็ช่างแล้วนั้น ไม่มี direct ถึงระนองถึงแค่ชุมพร แล้วต่อรถอีก 122 โล (่คิดเสียว่านั่ง BTS ลงแล้วต่อรถเข้าซอยละกัน)
ส่วนตัวผมเองลองใช้บริการรถทัวร์ ซึ่งไม่เคยใช้บริการเลยตั้งแต่เรียนจนถึงปัจจุบัน ซึ่งออกจากขนส่งสายใต้เวลาประมาณ 3 ทุ่มถึงระนองประมาณ 6 โมงเช้า บนรถมีการเสริฟน้ำขนมเหมือนบนเครื่อง ที่นั่งกว้างกว่าเครื่องบินมากและสามารถเอนนอนได้สบาย แถมมีหน้าจอทีวีให้ดูตลอดเวลา หนังนั้นถือว่า update ใช้ได้ เสียตรงนั่งนานหน่อยเท่านั้นเอง (ก็คิดเสียว่ากำลังบินไปยุโรป) แต่ที่จะต้องอดชมไม่ได้เลยนั้นคือพนักงานต้อนรับนั้นทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยมทั้งบริการ หน้าตา ท่าทาง สีหน้า ภาษาน้ำเสียงที่ใช้กับลูกค้าผมให้ 11/10 เลยครับซึ่งบางสายการบินยังไม่ได้รับบริการดีเท่านี้เลย
ระหว่างทางมีจอดเลี้ยงข้าวต้นด้วย สุโก้ยจริงๆ
ประมาณ 6 โมงก็มาถึงขนส่งระนอง ผมได้จองให้บริษัททัวร์ยี่ห้อหนึ่งมารับจากขนส่งแล้วพาผมไปเที่ยวเป็นแบบ day trip แล้วให้จองโรงแรมให้ด้วย จังหวัดระนองนั้นผมไม่ได้มีโอกาสมามากนักเพราะว่าดูแล้วไม่มีอะไรเป็นแค่เมืองผ่าน แต่พออายุเรามากขึ้นเรากลับเริ่มชอบความเงียบสงบของมันอย่างบอกไม่ถูก หรือนี้เขาเรียกว่าแก่ เอาเถอะ slow life ประมาณนั้น
ส่วนตัวผมชอบเมืองนี้มากมีหลายสาเหตุด้วยกัน
อันดับแรกๆเลย รถไม่ติด ซึ่งวันนึ่งท่านสามารถทำอะไรได้มากกว่า 5 อย่างถ้าเป็น กทม รับรองได้สองอย่างไปไม่เกิน 3 แห่งเรียบร้อยมืดพอดี ขับรถเป็นกิโลๆใช้เวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมงถ้าเทียบกับ กทม แล้ว 1 ชั่วโมงอย่างเก่งจากพระราม 9 ไปได้แค่ชิดลมเท่านั้น
ประชากรน้อย ไม่ว่าจะเป็นห้างหรือ 7 รวมถึงร้านอาหารต่างๆ ไม่ต้องต่อคิวให้วุ้นวายหรือรอเรียกเบอร์ ถึงประชากรจะไม่เยอะแต่ผู้คนดูแล้วหลากหลายดีครับ มีทั้งไทยพุทธ มุสลิม ฝรั่งก็ไม่น้อย พม่านั้นเรียกว่าน่าจะเยอะเชียวฟังจากภาษาและทานาคาที่หน้าแล้ว (ผมว่าน่าจะเกินครึ่งเลยทีเดียว)
มลพิษน้อย อาหารแปลกตาหลากหลายโดยเฉพาะบางอย่างหากินที่ กทม ไม่ได้แถมอร่อยมากด้วยเรียกได้ว่าต้องซื้อกลับมาที่ กทม
ในตัวระนองเองก็มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจทีเดียว แต่ถ้าให้ดีมาช่วงอากาศเย็นจะดีมากเพราะจิ้นแล้วเป็นน่าร้อนก็น่าจะเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน แบบเดินกลางแดดได้ 2 วันกายร่างเป็นขวางฟ้าหน้าดำก็คงไม่ไหว กลับไปต้องไปเสียเงินกับวุฒิศักดิ์ก็ใช่เรื่อง
พระราชวังรัตนรังสรรค์ (จำลอง) ถ้าจะเข้าชมคงต้องคิดต่อเจ้าหน้าทีก่อนตามหน้า web ท่องเที่ยวก่อนเพราะพอไปถึงจะไม่มีเจ้าหน้าที่ stand by ไว้ให้เราถามไถ่ แต่ถ้ามาเพื่อถ่ายรูปเก๋ๆ หน้าวังก็โออยู่ แต่ระวังแดดหน่อยก็ดีเพราะว่าแรงใช้ได้
ถ้าใครมีเวลาหน่อยก็ข้ามถนนไปไหว้หอพระ 9 เกจิอาจารย์หน่อยก็จะเป็นมงคลชีวิตครับ
ภูเขาหญ้า เป็นสถานที่ต่อไป พอมาถึงผมมองไปแล้วเรามาดูอะไร พอถามคนขับรถเขาบอกว่ามาดูภูเขาหญ้าผมก็ถึงบางอ้อ ก็สวยดีนะครับเป็นเหมือนทุ่งหญ้าถ้าให้ดีควรมาเวลาเช้าๆเลยครับ แดดไม่แรงมากนัก เพราะถ้าเป็นเที่ยงหรือบ่ายแล้วคือแบบว่าสวยครับแต่ไม่มีอะไรบังกระบาลเลยครับ สถานที่เหมือนหนังอินเดียเหมาะให้นางเอกกับพระเอกวิ่งไล่จับกัน หรือ the sound of music เช้าๆกับเย็นน่าจะสวยครับแดดไม่แรงมากถ่ายมุมดีๆ pre-wedding ดีๆนี่เอง
ไม่ไกลจากภูเขาหญ้า ก็มาไหว้พระอีกแล้ววัดนี้ชื่อว่า วัดบ้านหงาว ภายในสวยงามมากครับ รูปองค์พระหล่อจากดีบุกสวยครับ ตอนผมไปมีช่างกำลังแกะลวดลายอยู่เลย
ไม่ไกลจากวัดมีบันไดไม่เลื่อน 300 กว่าขั้นขึ้นไปจะเห็นวิวอันสวยงามพร้อมกับพระพุทธรูป 1 องค์ให้ท่านไหว้ให้หายเหนื่อยก่อนเดินลง เหมือนเดิมครับถ้ามาเช้าหรือเย็นก็ โอเคแต่ถ้าเที่ยงๆ บ่ายๆ เมษายน ละก็...... เมื่อลงมาถึงชาติพันธุ์ของท่านจะเปลี่ยนไปจากเอเซียเป็นแอฟริกา ส่วนท่านสุภาพสตรีก็จะได้พิสูจน์ผลิตภัณฑ์บนใบหน้าของท่านว่าคงทนถาวรอย่างที่เขาโฆษณาหรือไม่
ระนองเป็นอีกจังหวัดที่มีบ่อน้ำพุร้อน ท่านใดอยากเปลี่ยนบรรยากาศแช่ ออนเช็น in Thailand ไม่ต้องเสียค่าเครื่องบินถึง Japan แต่ท่านใดที่เคยไปญี่ปุ่นมาแล้วก็อาจจะต้องลด degree เรื่องการจัดการลดหน่อยนะคร๊าบ ไม่ช่ายว่าเราไม่ดี แต่เขาดีกว่าเท่านั้นเอง แต่แช่ได้เหมือนกัน ส่วนเรื่องประโยชน์ไม่ได้พูดถึง แร่ธาตุมากมายในน้ำพุ โซเดียม แคลเซียม ฟลูออไรด์ โพแทสเซียม และอีกเพียบซึ่งไหนๆเราก็กินวิตามินทั้ง A B C E blackmore, zinc, ผ่านทางปากแล้วก็เอาเพิ่มแร่ธาตุแทรกเข้าผิวหนังอีกหน่อยจะเป็นไร
หลังจากแช่เสร็จแล้วบอกตรงๆว่าอยากกลับโรงแรมนอนเพราะมันจะง่วงๆ เหมือนกินอิ่มแล้วอยากนอนยังไงไม่รู้ สดชื่นนะแต่อยากนอน แตถ้าท่านพลังเยอะก็ลุยต่อด้วย
อุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว จอดรถแล้วเดินเข้าไปไม่ไกลมากเหงื่อยังไม่ทันออก สวยดีครับผมมาวันธรรมดาเลยไม่แน่ใจว่าวันเสาร์อาทิตย์คนจะเยอะหรือเปล่า ระหว่างทางก่อนถึงน้ำตกก็จะเห็นพืชพันธุ์ธรรมชาติต่างๆนาๆที่คน กทม อย่างผมไม่ได้เห็นเลยแต่ละวัน ยกเว้นเสาร์หรืออาทิตย์ที่พอจะมีเวลาไปสวนลุม ว่าไปแล้วน่าอิจฉาคนจังหวัดระนองจริงๆ
สำหรับวันแรกก็เล่นเอาหมดแรง พอกลับมาโรงแรมก็หมดสภาพ โรงแรมที่จองไว้นั้นถือว่าไม่แพงเลย โรงแรมมี style ของตัวเองดีแบบแนว hip hip แต่ไม่ hop นะครับผมชอบ ก่อนอื่นไม่ได้มา review โรงแรมนะครับแค่เป็นความคิดเห็นส่วนตัว ภายในห้องดูดีครับ แต่เริ่มมีกลิ่นไออับๆบ้าง ซึ่งบ่งบอกถึงว่าผู้ออกแบบหรือเจ้าของที่ออกแบบโรงแรมมีรสนิยม แต่การจัดการน่าจะต้องปรับปรุงแก้ไขพอควร ส่วนการบริการขอพนักงานให้ 3/10 ละกัน ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเป็น concept "DIY" รึเปล่า ห้องน้ำนั้นมีน้ำร้อน แต่ถ้าต้องการน้ำอุ่นไม่มี พอเข้าห้องน้ำแล้วท่านจะเห็นที่เปิดน้ำร้อนกับน้ำเย็นโดยปกติแล้วผสมกันแล้วจะเป็นน้ำอุ่น แต่พอลองเปิดแล้วมันจะร้อนหรือไม่ก็เย็นเท่านั้น ฉะนั้นท่านต้องเลือกว่าอยากเป็น โซบะเย็น หรือ ราเม็งร้อน ส่วนชั้นบนมีสระว่ายน้ำขนาดย่อม แต่เดี่ยวก่อนดูจากสภาพแล้วอืมไม่ลงดีกว่า แต่ถ้าท่านหิวไม่เป็นปัญหาสำหรับโรงแรมนี้แน่นอนเพราะมีร้านอาหารในโรงแรมถึง 3 ร้านด้วยกัน มีชาบู มีอาลาคาร์ท แล้วหน้าสุดก็เป็นร้าน drink ดื่มมีเล่นดนตรีด้วย พอเริ่มดึกก็มีคนเข้ามา drink ดื่มเต็มร้านเลยครับ ดังนั้นถ้าชั่งน้ำหนักด้วยราคาแล้วผมว่าก็ ok อยู่ครับ
แถมตอนเช้ามีอาหารเช้าให้ด้วยนะครับ ถือว่าไม่ธรรมดาเลยสำหรับราคานี้ อาหารเช้าเหมือนตามโรงแรมทั่วไป
หัวใจมรกต
ตื่นแต่เช้าตื่นเต้นจะได้ไปดำน้ำแล้ว ตอนเช้าหลังจากทานข้าวเสร็จมีรถตู้จาก andaman มารับครับขับไปถึงท่าเรือเพื่อทำเรื่องเอกสารผ่านด่านจากไทยไปพม่าใช้เวลาไม่นานนัก พอไปถึงคนไทยเพียบ การไปเที่ยวดำน้ำที่พม่านั้นมีหลาย option ครับแต่หลักจะมี 2 routes ด้วยกันคือไปหัวใจมรกต หรือ ไปเกาะนาวโอพี ส่วนค้างไม่ค้างก็เป็นอีกทางเลือกว่าจะนอนไหน กลับมานอนที่ระนอง หรือนอนที่เกาะทาเทย์ควน โรงแรมอันดามันคลับ ผมเลือก route หัวใจมรกตแล้วกลับมานอนที่ระนองครับ
ในเรือ speed boat ที่นั่งไปส่วนใหญ่เป็นคนไทย น้องที่เป็นไกด์ต้องขอชมเลยว่าเก่งมากครับให้ข้อมูลได้ดีเยียม และความปลอดภัยมากก่อนเป็นอันดับแรก pro มากๆ
โปรดติดตามตอนต่อไป
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น