紅葉 Walk alone in Kyoto Day 1

มีคนเคยถามว่า เที่ยวคนเดียว สนุกตรงไหน?

ตอบยากนะครับ เพราะความสนุกมันเหลือคณานับจริงๆ

มันเริ่มตั้งแต่ คุณคิดวางแผนวันลาหยุดงาน ว่าจะโยกซ้ายย้ายขวา หรือเลื่อนหน้าขยับหลัง ทำไงก็ได้ไม่ให้เพื่อนร่วมงานเดือดร้อนเป็นพอ แน่นอนว่า ตัวคนเดียวจัดการเรื่องแบบนี้ได้ดีกว่ามีเพื่อนไปเป็นไหนๆ เพราะนอกจากเรื่องเวลาที่ไม่ค่อยจะตรงกันแล้ว ยังต้องดูทิศทางลมของแฟนหรือสามีของเพื่อนๆเหล่านั้นด้วย (แต่ถ้าเพื่อนของคุณโสด หรือไม่มีใครเอา ปัญหานี้ก็ตัดทิ้ง)

คุณเริ่มเห็นข้อดีของการเที่ยวคนเดียวแล้วใช่ไหมครับ...

ความสนุกต่อมา คือการเลือกสถานที่ที่จะไป ซึ่งขึ้นกับความชอบและความถึกของแต่ละคน ผมชอบไปญี่ปุ่น และไม่ชอบไปกับทัวร์ด้วย เลย backpack ไปเอง รวมแล้วครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ของการเที่ยวญี่ปุ่นคนเดียว และเป็นรอบที่ 3 ของปี การ backpack ทำให้เราต้องวางแผน trip ของเราเองทั้งหมด ตั้งแต่การขึ้นรถไฟ ที่ซุกหัวนอน อาหารแต่ละมื้อ และสถานที่ที่จะไปเที่ยว แน่นอนว่าลำบาก ยาก และต้องย้ำคิดย้ำทำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่สิ่งที่ได้มาคือ เราเป็นเจ้าของ trip อย่างแท้จริง และอยากจะทำอะไรนานแค่ไหนก็ได้ตามใจไม่ง้อคณะทัวร์...เดินตามธงกับเดินตามใจ มันต่างกันนะครับ

แต่จะว่าผมเดินทางคนเดียว มันก็ไม่เชิงครับ ผมแบกกล้อง Panasonic GF7 ขาตั้งกล้อง และเลนส์อีก 4 ตัวไปเป็นเพื่อนด้วย เพื่อที่จะเก็บภาพถ่ายสวยๆมาให้ทุกๆคนได้ดูกัน แต่เพื่อนๆเหล่านี้เมื่อเข้ามาอยู่ในเป้วางพาดบนไหล่ผมก็ก่อปัญหาไม่ใช่น้อย เพราะนอกจากจะทำให้การเดินทางลำบากขึ้นแล้ว ก็ยังทำให้เกิดรอยถลอกเป็นทางยาวบนไหล่จากการเสียดสีขึ้นอีก แต่ก็ถือว่า ไม่เท่าไหร่ครับ

การเดินทางมาญี่ปุ่นครั้งนี้ ผมใช้เวลาอยู่เกียวโต 5 วัน นาโกย่า 1 วัน และโตเกียว 1 วันครับ (22-28 พ.ย.58) เพื่อนคนหนึ่งถามว่า จะอยู่เกียวโตทำไมตั้ง 5 วัน 5555 ไม่รู้สิครับ แต่คิดว่า อยากจะซึมซับบรรยากาศเมืองเก่าแห่งนี้ให้นานหน่อย เผื่อจะเข้าใจความเป็นญี่ปุ่นมากขึ้น และอยากจะสัมผัสช่วงเวลาแห่งใบไม้แดงที่เกียวโตซึ่งเขาว่ากันว่าสวยงามที่สุด อยากจะเห็นครับว่า วันที่กองทัพใบไม้แดงยึดครองเมืองตามที่เขียนไว้ในหนังสือนั้นมันเป็นอย่างไร

เกียวโตเป็นเมืองใหญ่ มีที่ให้ไปเที่ยวมากมาย เวลา 5 วันที่วางไว้ยังไม่สามารถทำให้เที่ยวได้จนทั่วเลย พี่คนหนึ่งบอกว่า จะเที่ยวให้ทั่วทั้งเกียวโต คงต้องใช้เวลาสัก 2 สัปดาห์ แต่ถ้าจะใช้เวลาขนาดนั้น ผมคงโดนที่ทำงานประณามชัวร์

วันแรกของการมาเยือนเกียวโต ผมเที่ยวในเขต Kitano-Kinkaguchi area เดินทางโดยรถบัส Roku 101 จากสถานีเกียวโต ซึ่งจะพาผู้โดยสารไปสู่ใจกลางเมืองและทางทิศตะวันตกของเมือง สามารถใช้ Kyoto sightseeing pass, Kyoto city Bus และใช้ Kansai Thru Pass ได้ครับ

#Kitano-Tenmangu shrine (北野天満宮)
Open : 5:00 to 18:00 (April to September) 5:30 to 17:30 (October to March)
Fees : Free ยกเว้น Plum Grove and Maple Tree Garden 700 yen
(ข้อมูลจาก japan-guide.com)
ศาลเจ้าแห่งนี้ผู้คนเชื่อกันว่าจะช่วยเรื่องความสำเร็จทางการเรียนและการทำงาน จึงไม่น่าแปลกใจครับที่จะเห็นนักเรียนจำนวนมากเข้ามาขอพรกัน








#Ryoanji temple (龍安寺)
Open : 8:00 to 17:00 (March to November) 8:30 to 16:30 (December to February)
Fees : 500 Yen
วัด Ryoanji (龍安寺) อยู่ไม่ไกลจาก Kitano-Tenmangu shrine สามารถเดินเท้าไปหรือจะนั่งรถบัสไปต่อก็ได้ครับ ซึ่งส่วนตัวผมเองอยากจะใช้ขาทั้งสองข้างมากกว่าเลยตัดสินใจเดินไป ซึ่งแน่นอนว่า คิดผิดครับ เพราะไกลพอสมควร อีกทั้งยังต้องฝ่าลมหนาวระดับ 8 องศาเซลเซียสที่พัดมาจนหน้าที่ปกติหนาอยู่แล้วให้รู้สึกชาได้


วัดนี้มีชื่อเสียงเรื่องสวนหิน ซึ่งเมื่อเข้าไปชมแล้ว จะเห็นนักท่องเที่ยวจำนวนมากทิ้งตัวลงนั่งมองก้อนหินน้อยใหญ่ตรงหน้า ผู้สูงวัยดูจะใช้เวลานั่งมองนานเป็นพิเศษ ผมวางกระเป๋าเป้อันหนักอึ้งลงและค่อยๆมองไล่ไปที่หินแต่ละก้อน เคยได้ยินมาว่า สมาธิเกิดขึ้นได้จากการมองหินเหล่านี้ ผมนั่งมองอยู่นานครับ ยอมรับว่าไม่ได้เกิดสมาธิอย่างที่คิดไว้ แต่กลับรู้สึกเพลิดเพลินใจอย่างบอกไม่ถูกจนลืมเวลาที่ใช้ไปเกือบ 1 ชั่วโมงในการมองก้อนหินเหล่านี้



#Kinkakuji temple (金閣寺)
Open : 9:00 to 17:00
Fees : 400 Yen
วัดทองเป็นจุดหมายสุดท้ายในวันนี้ครับ เนื่องจากเป็น 1 ใน Kyoto signature ที่เหล่านักท่องเที่ยววางแผนไว้ว่า "ต้องมา" ทำให้วัดแห่งนี้ดูจะคึกคักเป็นพิเศษ ผมพยายามทำตัวให้เล็กลงก่อนจะแทรกตัวไปในคลื่นมหาชนที่กำลังถ่ายภาพวัดที่เป็นสีเหลืองทองทั้งหลัง แน่นอนครับว่า การถ่ายภาพไม่ให้ติดคนนั้นไม่ง่ายเลย แต่ไม่ว่าผู้คนจะเยอะอย่างไรก็ตาม วัดนี้ก็สวยงามและตราตรึงเสมอ แม้จะเป็นครั้งที่ 2 แล้วที่มาที่นี่ แต่กองทัพใบไม้เปลี่ยนสีที่อยูอีกด้านหนึ่งเป็นฉากหลัง ทำให้ผมและนักท่องเที่ยวคนอื่นๆรู้สึกตราตรึงราวกับอยู่ในมนต์สะกด






สำหรับการเดินทางในวันแรกก็จบลงเพียงเท่านี้ครับ ยังเหลืออีก 6 วัน ที่จะพาเพื่อนๆไปดูความสวยงามของใบไม้แดงกันต่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่