บทความโดย : คุณชายมะนาว..กับหุ้นสายสีลม
ในครั้งที่แล้วผมได้อธิบายถึงจังหวะของการขายหุ้นภายใต้เขตปลอดภัยของการซื้อขาย (Safety zone) ที่เราได้กำหนดขึ้นมาไปบ้างแล้ว
ท่านสามารถติดตามอ่านบทความก่อนหน้าได้จาก facebook หรือ blog ของผมได้ครับ
ในบทความนี้เราจะมาว่ากันต่อครับว่าในกรณีที่เมื่อสัญญาณการเคลื่อนตัวของ RSI เลยเขต Safety zone ไปแล้ว เราควรจะมีกระบวนการตัดสินใจอย่างไร โดยผมจะยกกรณีศึกษามาเป็นตัวอย่าง 2 ตัวอย่างครับ
ตัวอย่างกรณีที่ 1
ตัวอย่างกรณีที่ 2
จากรูปด้านบนจะเห็นได้ว่าหลังจากที่เราได้ทำการซื้อหุ้นไว้เรียบร้อยแล้วตั้งแต่ในเขต Safety zone หากเส้นสัญญาณของ RSI ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น เราก็จะปล่อยให้มัน Let profit run ต่อไปเรื่อยๆ ให้ไกลที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยที่
1. หาก RSI มีค่าน้อยกว่า 70 (RSI < 70) แล้วเกิดการเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนตัวเป็นปักหัวต่ำลงมา จุดที่ท่านสมควรจะขายหุ้นออกไปนั่นก็คือเมื่อเส้น RSI เริ่มมีค่าน้อยกว่า 60 (RSI < 60) รายละเอียดต่างๆ อยู่ในบทความก่อนหน้า (ตอนที่ 5) แล้วครับ
2. หาก RSI มีค่ามากกว่า 70 (RSI > 70) แล้วเกิดการเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนตัวเป็นปักหัวต่ำลงมา ให้ท่านพิจารณาขายหุ้นออกไปดังนี้ครับ
2.1 หากจังหวะของการกลับตัวนั้น เกิดขึ้นเมื่อ RSI มีค่ามากกว่า 80 ขึ้นไป (RSI > 80) ให้ขายหุ้นออกไปทั้งหมด
2.2 หากจังหวะของการกลับตัวนั้น เกิดขึ้นเมื่อ RSI มีค่ามากกว่า 70 แต่ไม่เกิน 80 (70 < RSI < 80) ให้ขายหุ้นออกไปทั้งหมด หรือ แบ่งขายเป็น 2 จังหวะก็ได้ โดย
2.2.1 ขายครั้งที่ 1 เมื่อ RSI เปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนตัวเป็นปักหัวต่ำลงมา
2.2.2 ขายครั้งที่ 2 เมื่อ RSI เริ่มมีค่าน้อยกว่า 70 (RSI < 70)
ทั้งนี้จังหวะการขายขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของท่านนะครับ ซึ่งอาจจะเหมือนหรือแตกต่างจากที่ผมนำเสนอก็ได้ แต่สิ่งที่ท่านควรจะต้องจดจำไว้ก็คือ ยิ่ง RSI มีค่ามากขึ้นเท่าไหร่ ความเสี่ยงที่เกิดจากการเข้าซื้อหุ้นก็จะยิ่งมีมากขึ้นตามไปด้วย
ขอบพระคุณทุกท่านที่กรุณาติดตาม หากไม่รังเกียจกรุณาช่วยกด Like facebook หรือช่วยแชร์ ส่งต่อสิ่งดีๆเหล่านี้ให้กับสังคมด้วยนะครับ และขอเชิญมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของแฟนเพจ..สังคมเล็กๆที่อบอุ่น เพื่อเป็นกำลังใจในการสร้างสรรค์สิ่งดีๆคืนให้กับสังคมต่อไป.
บทความโดย : คุณชายมะนาว..กับหุ้นสายสีลม
จับสัญญาณซื้อขายด้วย RSI ตอนที่ 6 : โดย คุณชายมะนาว..กับหุ้นสายสีลม
ในครั้งที่แล้วผมได้อธิบายถึงจังหวะของการขายหุ้นภายใต้เขตปลอดภัยของการซื้อขาย (Safety zone) ที่เราได้กำหนดขึ้นมาไปบ้างแล้ว
ท่านสามารถติดตามอ่านบทความก่อนหน้าได้จาก facebook หรือ blog ของผมได้ครับ
ในบทความนี้เราจะมาว่ากันต่อครับว่าในกรณีที่เมื่อสัญญาณการเคลื่อนตัวของ RSI เลยเขต Safety zone ไปแล้ว เราควรจะมีกระบวนการตัดสินใจอย่างไร โดยผมจะยกกรณีศึกษามาเป็นตัวอย่าง 2 ตัวอย่างครับ
ตัวอย่างกรณีที่ 1
ตัวอย่างกรณีที่ 2
จากรูปด้านบนจะเห็นได้ว่าหลังจากที่เราได้ทำการซื้อหุ้นไว้เรียบร้อยแล้วตั้งแต่ในเขต Safety zone หากเส้นสัญญาณของ RSI ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น เราก็จะปล่อยให้มัน Let profit run ต่อไปเรื่อยๆ ให้ไกลที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยที่
1. หาก RSI มีค่าน้อยกว่า 70 (RSI < 70) แล้วเกิดการเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนตัวเป็นปักหัวต่ำลงมา จุดที่ท่านสมควรจะขายหุ้นออกไปนั่นก็คือเมื่อเส้น RSI เริ่มมีค่าน้อยกว่า 60 (RSI < 60) รายละเอียดต่างๆ อยู่ในบทความก่อนหน้า (ตอนที่ 5) แล้วครับ
2. หาก RSI มีค่ามากกว่า 70 (RSI > 70) แล้วเกิดการเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนตัวเป็นปักหัวต่ำลงมา ให้ท่านพิจารณาขายหุ้นออกไปดังนี้ครับ
2.1 หากจังหวะของการกลับตัวนั้น เกิดขึ้นเมื่อ RSI มีค่ามากกว่า 80 ขึ้นไป (RSI > 80) ให้ขายหุ้นออกไปทั้งหมด
2.2 หากจังหวะของการกลับตัวนั้น เกิดขึ้นเมื่อ RSI มีค่ามากกว่า 70 แต่ไม่เกิน 80 (70 < RSI < 80) ให้ขายหุ้นออกไปทั้งหมด หรือ แบ่งขายเป็น 2 จังหวะก็ได้ โดย
2.2.1 ขายครั้งที่ 1 เมื่อ RSI เปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนตัวเป็นปักหัวต่ำลงมา
2.2.2 ขายครั้งที่ 2 เมื่อ RSI เริ่มมีค่าน้อยกว่า 70 (RSI < 70)
ทั้งนี้จังหวะการขายขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของท่านนะครับ ซึ่งอาจจะเหมือนหรือแตกต่างจากที่ผมนำเสนอก็ได้ แต่สิ่งที่ท่านควรจะต้องจดจำไว้ก็คือ ยิ่ง RSI มีค่ามากขึ้นเท่าไหร่ ความเสี่ยงที่เกิดจากการเข้าซื้อหุ้นก็จะยิ่งมีมากขึ้นตามไปด้วย
ขอบพระคุณทุกท่านที่กรุณาติดตาม หากไม่รังเกียจกรุณาช่วยกด Like facebook หรือช่วยแชร์ ส่งต่อสิ่งดีๆเหล่านี้ให้กับสังคมด้วยนะครับ และขอเชิญมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของแฟนเพจ..สังคมเล็กๆที่อบอุ่น เพื่อเป็นกำลังใจในการสร้างสรรค์สิ่งดีๆคืนให้กับสังคมต่อไป.
บทความโดย : คุณชายมะนาว..กับหุ้นสายสีลม