*หลอน

กระทู้สนทนา
สวัสดีครับ  ผมเป็นวัยรุ่นคนหนึ่งที่มีชีวิตค่อนข้างจะอิสระ
แต่กระนั้นชีวิต ก็ยังวนเวียนไม่เปลี่ยนแปลงไป .....   ส่วนตัวกระผมนั้นหาได้ยึดติดใดๆไม่ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เนื่องจากประสบการณ์การยึดติดที่ผ่านๆมาในอดีต มันทำให้ตัวเหมือนตกหลุมบ่อกับดัก โดยที่ข้างนอกนั้นไปถึงไหนต่อไหนแล้ว แต่เรายังอยู่ที่เดิม
อันนี้ที่มากล่าวเพียงแต่ขอแลกเปลี่ยนประสบการณ์นิดๆหน่อยๆ .....   คุณเชื่อในพระเจ้า ปีศาจและชัยฏอน(ซาตานมั๊ย?)   คุณเชื่อมั่นยึดมั่นถือมั่นในพระธรรมคำสั่งสอน หรือเปล่า หรือความเชื่อส่วนตัวของคุณ แปลกแยกไม่เหมือนคนอื่นๆ โดยทั่วไป หรือ...บางทีตัวคุณอาจจะยังไม่รู้จักตัวคุณเองดีพอ
อย่างที่ว่า...พลังความคิด (กลศาสตร์ พลังอยู่ตรงไหน?) มีแรงผลักดัน คุณว่าจริงหรือเปล่า อย่างเช่นว่า เมื่อเรายึดมั่นถือมั่น เชื่อในสิ่งนั้นสิ่งนี้จริงๆ  ก็มักจะพบจะเจอในสิ่งนั้นๆ นั่นแหละ

...ผมคิดว่า สมองของคนเรานั้น จะคอยควบคุมหรือปรับระดับคลื่นความถี่ต่างๆ รวมทั้งการได้ยิน และได้กลิ่น ในระดับความถี่ ที่เหมาะสม... หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Class เดียวกัน  และหรือ ร่วมภพภูมิเดียวกัน
   บางครั้งการไปกระแทกเสารับสัญญาณโดยยาบางชนิดนั้น มันไม่ได้อันตรายเพียงแค่ มึนเมาแต่การสั่นสะเทือนแต่ละครั้งนั้น ...จะไปแบบปฏิกิริยาลูกโซ่ ต่อเนื่องจนอ่อนกำลัง(เป็นคลื่น)  การสั่นสะเทือนนั่นเองที่ทำให้จิตของคนเราปรับเปลี่ยนรูปแบบ จนบางคนจิตหลุด(ไร้สติโดยสิ้นเชิง) บ้างก็มีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ทั้งนั้น เป็นผลอันเนื่องมาจาก
การสั่นสะเทือนภายใน(รวมถึงจิต)  ทำให้การรับสัญญาณไขว้เขว คงไม่จืด ถ้าหากเรานั่งดูละครช่องเจ็ด อย่างเมามันแต่อยู่ๆกลับมีสัญญาณแทรกข้ามช่องจากช่อง 3 อาจมีภาพเบลอๆลางๆของละครช่อง 3 และหรือมีเสียงโฆษณาช่อง 3 ขณะนั้นทับมาด้วย -_-  เปรียบเปรยไปแล้ว ทีนี้มาว่ากันที่มนุษย์บ้าง คนเราเกิดมา จิต คือนาย กาย คือบ่าว
คาดว่าคงไม่มีใครมีคู่มือการใช้ชีวิตติดตัวมาตั้งแต่ในครรภ์ คนเรานั้นจะจิตหลุดได้ ก็ ต่อเมื่อเสียความรู้สึกอย่างที่สุด(ประมาณตรอมใจตาย) และการสั่นสะเทือนดังกล่าว ยังทำให้เกิดการเบียดเบียนจากอีกภพภูมิ/มิติอื่น ซึ่งหากทว่าเป็นจิตของตัวเราที่อยู่ต่างมิติ(ตัวตนต่างมิติ/มิติคู่ขนาน) หรืออีกภพภูมิหนึ่ง คงไม่เป็นไร แต่ถ้าเป็นพวกสสารมืดที่สามารถปลอมแปลงเป็นใครก็ได้แล้วมาแอบอ้างสวมรอย
ซึ่งที่หนักหน่อยก็คือ การเข้าซึมแล้วยึด+ควบคุมร่างกาย (แล้วกลั่นแกล้ง) แน่นอนว่าเมื่อก่อนมีอยู่เยอะ แต่เนื่องจากยุคสมัยที่เปลี่ยนไป รวมถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี จึงทำให้ มีการจัดวางระบบระเบียบต่างๆในแต่ละคลื่นความถี่เพื่อไม่ให้มีและ ลดอัตราการแทรกแซงในวัฏจักร จึงไม่แปลกที่คนบางกลุ่มยังพบเจอคนตายที่ตาย แบบไม่รู้ตัว นั่นก็เพราะ ความก้ำกึ่งทางดัชนีประยุกต์ ที่มีให้ใช้อย่างอิสระไม่จำกัด และ เนื่องจากการสะสมพลังงานทุกรูปแบบ ที่มีอยู่ในวัฏจักรซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับความเชื่อ ความสามารถและอัตรา(ดันทุรัง -_-) ประกอบกับการใช้ชีวิตโดยใช้ประสบการณ์ที่มี มาดัดแปลงแก้ไขให้เข้ากับตนเอง    และการตั้งสติเป็นสิ่งสำคัญ จากประสบการณ์ที่ผ่านๆมา ได้ทดลองตั้งสติ และเฝ้าสังเกตุการณ์ สิ่งที่เกิดขึ้น แลได้พบเห็นสารพัดสารเพ ในสิ่งที่มีในภพภูมิอื่นและได้เข้าใจว่ากฏทางฟิสิกส์ของแต่ละภพภูมิ / แต่ละมิติไม่เหมือนกัน....ด้วยสิ่งที่ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่มนุษย์จินตนาการนั้น มีหมด...เพียงแต่ขึ้นอยู่กับกฏทางฟิสิกส์ของพื้นที่ไหนเท่านั้น
......ที่ ที่เราอยู่หากเปรียบเป็น 6 เหลี่ยมรังผึ้ง(the Hive) จุดที่เราอยู่นั้น สมมติเรียก Tier 1 (ณ ดุนยา จนกว่าบันทึกกรรมจะหมด หรืออีกนัยหนึ่งคือหมดสิ้นอายุขัย) การกระทำต่างๆในชีวิตเราจะแปรเป็นค่าดัชนี ชี้วัดว่า ณ ปัจจุบัน เราอยู่ ณ จุด (Tier ?)ไหน อาคิเราะห์ไหน  และจิตที่ดีนั้น จะอยุ่พ้นขอบบน(ในรูปแบบสมมติ) ถ้า มีแกนX  และแกน Y  ลองวาดดูสิ ....   จิต++ นั้นย่อมดีกว่าจิตลบ  (จิตหรือคิด -_-) ในมิติต่างๆ จะมีสิ่งที่แฝงเร้นและซ่อนเร้นอยู่เสมอ หากลองสังเกตุดู จาก พฤติกรรมที่พบเจอในทุกๆวัน แล้ว สังเกตุจุดเด่น ที่รอบข้างอาจเผลอหลุดสิ่งที่ผิดแปลกออกมา จะพบว่า ได้มีการแทรกแซงอย่างแนบเนียนเกิดขึ้นโดยผนวกจากความเข้ากันได้ทางพันธุกรรม การแทรกแซง-แทรกซึม หากทดลองโดยนำมนุษย์เข้าพาหนะที่มีความเร็วเท่า หรือมากกว่าแสง สสารมวลโมเลกุลของร่างนั้นๆ ย่อมแปลงสภาพเป็นโฟตอน กลายเป็นว่า กายภาพเปลี่ยนสภาพตามคลื่นความถี่  ซึ่งการจูนนั้นๆ จะมี สาระสำคัญอยู่ กรรม หรือการกระทำ และหากอยากหลุดพ้น ขอแค่ตั้งสติ ตั้งจิตให้นิ่ง ทำในสิ่งที่ต้องการ(โดยไม่เดือดร้อนใคร) ส่วนใครจะไปอยู่รังผึ้งไหน หรือ Tier ? หรือจะทับซ้อนในลักษณะ ต่างๆ(รังผึ้งซ้อนรังผึ้ง ในรูปแบบ มิติที่ขดตัวก็มี) ขึ้นอยู่กับกรรม ผลจากการกระทำ ของคนๆนั้น -_-    แล้วคุณล่ะ? อยู่ Tier ที่ชอบที่ชอบแล้วยัง?
.....โปรดใช้พิจารณญาณในการส่องดู -_-
# ควรนำสกิลกาลามสูตร 10 มาใช้ร่วมในการรับข้อมูล
...
ลูกเต๋า น่ะยังมี 6 ด้าน อย่ายึดติดเพียงแต่ด้านที่ตัวเองชินหละ ...โลกภายนอกน่ะกว้างนะ ไปเที่ยวซะ
.......ไม่สะดวก ไปเที่ยว ปรึกษาได้นะ
...
..
.
อีกเรื่อง ขอร้องเถอะ ...ศาสนาน่ะ...   ยุติการแบ่งแยกได้แล้ว
...เปรียบเปรย
..
.
เพราะหาก   โลก  =  โรงเรียน
นบี(หรืออาจถูกมองว่าเป็น ศาสดา) กว่า 124,000 ท่าน  อาจแทนได้ = ครูประจำชั้น 1ท่าน ต่อ 1 ห้องเรียน
...    แต่ถามหน่อย โรงเรียนเดียวกันหรือเปล่า???
...
..
.
ก็    นานาจิตตัง   เถอะนะ   อมยิ้ม20อมยิ้ม20อมยิ้ม20
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่