สวัสดีค่าา นี่เป็นกระทู้แรกเลยที่เรามาเขียน คือเป็นคนไม่ชอบทำอะไรแบบนี้เลย แต่ตอนก่อนที่จะไปแลกเปลี่ยนพยายามหากระทู้ที่จะช่วยเราในการปรับตัว เล่าเรื่อง โฮส เมือง ไรงี้ แต่มันไม่มีเลยค่ะ นี่ก็กลับมาสองปีแล้วว่างๆเลยอยากมาเล่าให้น้องๆที่กำลังจะไปฟังค่ะ กำลังรวบรวมรูปมาใส่นะคะ55555555
ก่อนเดินทาง
ขอเกริ่นก่อน เราไปแลกเปลี่ยนตอนม.5ค่ะ สอบได้ก็เลยขอที่บ้านไปแล้วที่บ้านก็ดันโอเค5555555 ซึ่งเราขอบอกเลยว่าเป็นปีที่เหมาะที่สุดแล้วในการไปแลกเปลี่ยนในความคิดเรา เพราะว่า
1. ม.5 ที่เมืองไทยเรียนยากมาก (555555เป็นเด็กขี้เกียจค่ะ ไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง)
2. การเป็น Junior (ม.5) ที่นู่นเรียนค่อนข้างจะชิว(มาก)
3.ไม่เด็กเกินไป การเป็น Sophomore (ม.4) ค่อนข้างไม่ cool ค่ะ เป็น Junior เท่กว่าเยอะ55555555 (คหสตนะ5555555)
4. ม.6 ต้องสอบเข้าแล้ว แต่ถ้าเต็มใจเรียนซ้ำชั้นซักปีก็โอเคนะ (เพื่อนเราหลายคนก็ไปม.6แล้วเอาใบจบที่นู่น คือเท่ากับจบ High School จากอเมริกาเลย เก๋กู๊ด อิจฉามว๊ากกกกกกก)
แต่อยากไปตอนไหนก็แล้วแต่เลยค่ะ นี่เป็นความเห็นของเราเฉยๆ ความจริงมันก็มีข้อเสียค่ะ ม.5 ที่ไทยกิจกรรมเยอะมาก เราพลาดหลายอย่างเลย
โอเคเล่าต่อ คือต้องบอกก่อนว่าเรามาจากบ้านที่ค่อนข้างจะไม่ลำบาก เราไม่เคยทำงานบ้านเองเลยยยยยยยยย แบบเลยยยยยยย ถูพื้น กวาดบ้าน ดูดฝุ่น เคยทำเวลาที่โรงเรียนให้ทำเวรเท่านั้นเอง (ซึ่งปกติก็ไม่ค่อยทำ5555555) อย่าพูดเรื่องทำกับข้าว เป็นอะไรที่ไกลตัวเรามากๆ ก่อนเดินทางที่บ้านเราห่วงเรื่องนี้มากๆ กระเป๋าเรามีพวกอาหารซองๆ 50% ของกระเป๋าเลย55555555
ได้โฮสแล้วววววว
เราได้โฮสก่อนเดินทางนานอยู่ สำหรับน้องๆที่กังวลว่าได้โฮสช้าไรงี้ขอให้หยุดความคิดนั้นซะ ยังไงก็ได้โฮสนะคู๊ณณณณณณ อย่าโวยวายกันค่า ได้ช้าได้เร็วไม่ต่างกันด้วยลูก555555555 โฮสเราเป็นคู่สามีภรรยา ทั้งคู่ต่างคนต่างเคยมีครอบครัวมาแล้ว แต่ลูกชองที่ฝ่ายโฮสมัมยังเรียนหนังสืออยู่มีผู้ชายกับผู้หญิง พี่ผู้ชายนี่ตอนเราไปนางทำแฟนท้อง เลยแต่งงานแยกบ้านไป ส่วนพี่ผู้หญิงยังอยู่ที่บ้านค่ะ (ปัจจุบันหนีไปแต่งงานย้ายบ้านไปแล้ว555555 ชั้นล่ะสงสารโฮส) โฮสมัมเราจะผมกับตาน้ำตาลเข้ม ผิวค่อนข้างสีคล้ายๆคนไทย แต่ตาโตค่ะ เป็นลูกครึ่งคนขาวกับแม็กซิกันค่ะ (เมืองที่เราอยู่พวกแม็กซิกันเยอะมากกกกกกกกก ละบางคนก็หน้าเหมือนคนไทยสุดๆ แรกๆเกือบเข้าไปทักหลายครั้งละ) ส่วนโฮสแด๊ดเราเป็นคนขาว แนวๆลุงแซนต้าใจดีที่สูงและไม่อ้วนค่ะ โฮสเราทั้งสองคนน่ารักมากๆค่ะ อยู่ด้วยแล้วสนุกอบอุ่นไม่เหงาเลยค่ะ (ตอนเราเจอพวกเค้าครั้งแรกเราน้ำตาไหลเลยค่ะ พวกเค้า welcome เราดีมากๆ เดี๋ยวอีกแปปจะเล่าให้ฟังว่าทำไมน้ำตาไหล555555) อ่อเราได้ไปอยู่เมือง Wenatchee, Washington นะคะ คือเราโชคดีมากกกกกกกกกกกกก เพราะว่าน้าเรา 3 คนอยู่ที่นี่หมดเลยค่ะ บังเอิญแบบบังเอิญจริงๆ อเมริกามีตั้งห้าสิบกว่ารัฐ รัฐนึงก็หลายเมือง ดั๊นนนนนนนมาอยู่เมืองที่น้าอยู่ จะโชคดีอะไรขนาดนั้นล่ะคู๊ณ (อย่าเพิ่งฝันไปนะเด็กๆ นี่แบบว่า 1 ในไม่กี่คนจริงๆ55555555
)
ได้เวลาเดินทาง BKK-NYC
วันนั้นเป็นวันที่เรานอนร้องไห้ไม่อยากไปเลยค่ะ แบบขอฆ่าตัวตายดีกว่าอะ (เวอร์ม้ะ แต่เค้ารู้สึกงั้นจริงนะ งุงิ) คือเราติดแม่มาก เราแบบลูกแหง่อ่ะ คือแม่เราจัดการทุกอย่างหมดในชีวิตเรา เราไม่เคยติดต่อใครหรือทำไรเองเลย เป็นห่วงด้วยกลัวแม่เป็นอะไร คือคุณน้าเราเคยเป็นนรแลกเปลี่ยนอเมริกาเหมือนกันแล้วแม่เค้าเสียไม่มีใครบอกเค้าจนกลับมาถึงถึงจะรู้ (โหดร้ายมาก
) เราเลยฝังใจมากๆ โชคดีที่โครงการเราดีมากๆ เราสนิทกับเพื่อนในโครงการเยอะอยู่เลยเจี๊ยวจ๊าวก่อนขึ้นเครื่อง พอขึ้นเครื่องเท่านั้นแหละคุณเอ๊ยยยยยยยยยยยยย ชั้นจะไม่นั่งเครื่องบินอีกแล้ววววววว คือปกติเป็นคนชอบนั่งเครื่องบินมากกกกกกกกก และก็นั่งมาตั้งแต่เด็กจนโต ไม่เคยคิดเลยว่าเครื่องบินจะมาเป็นอุปสรรคของชั้น เพราะอะไรรู้มั้ยคะ นั่งเครื่องเกือบ 22 ชม.ค่ะ!!!!!!!!!!!!!!!!! โอ้หม่ายก๊อด อิชั้นทีขึ้นเครื่องอยู่บ่อยๆนี่ร้องไห้ตลอดทางเลยค่ะคุณ คือตอนนั้นพอมันนั่งเฉยๆยี่สิบกว่าชั่วโมงอิชั้นก็คิดไปสิ่คะ ถ้าเกิดนู่นนี่นั่นโน่นระหว่างเราอยู่ที่นี่จะเป็นยังไง อยากกอดแม่มากๆ คิดถึงอ้อมกอดของแม่ หนึ่งปีที่จะไม่ได้กอดแม่ชั้นจะเป็นยังไง ยังไงชั้นก็อยู่ไม่ได้ตายแน่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ และแล้วเราก็ร้องไห้ตลอดทางจนถึงนิวยอร์คค่ะ หนังหรือเกมบนเครื่องอะไรก็แล้วแต่ช่วยตูไม่ได้เลยขอบใจ อ่อลืมบอกไป โครงการเราให้มีการปฐมนิเทศก่อนที่นิวยอร์คค่ะ สองวัน (เสียดายมากเห็นเทพีสันติภาพแว๊บเดียว ตอนนั้นกำลังเศร้าไม่มีอารมณ์ถ่ายรูป555555555) ก็เลยรู้สึกดีขึ้นนิดนึงเพราะมีเพื่อนๆอยู่ด้วย รักเพื่อนๆที่โครงการที่สุดดดดดด
Life goes on NYC-Seattle
จากนิวยอร์คไปที่ซีแอทเทิ้ลก็ดีขึ้นมาหน่อยค่ะแต่ยังเศร้าอยู่ ยังคงมีเพื่อนมาด้วยอุ่นใจมากค่ะ พอถึงจุดหมายเราพบว่า
พาสปอร์ตและบอร์ดดิ้งพาสหายหมดเลย ซวยแล้วไงตู ดีนะที่โฮสเพื่อนมารับที่แอร์พอร์ตนี้พอดีเค้าเลยช่วยเราไว้ ถ้ามีใครเกิดเหตุการณืนี้แบบเราบอกเลยค่ะ ตั้งสติ หายใจลึๆ ไปที่เคาน์เตอร์ของสายการบินนั้นๆแล้วถามว่ามีของที่ลืมไว้บนเครื่องมั้ย เค้าจะโทรไปให้ค่ะ แล้วสุดท้ายก็เจอ เห้ออออ
คราวนี้ต้องแยกจากเพื่อนจริงๆแล้วค่ะ ดั๊นจะรอดมั้ยคะเนี่ย (คือนิสัยเป็นคนขี้ลืมมากล่องๆโก๊ะๆมึนๆ55555555)
Seattle-Wenatchee
ไฟล์ทสั้นสุดๆ 45 นาทีถึง ขอบคุณจริงๆเพราะถ้านากว่านี้จะไม่ไปแล้ว ไม่นั่งแล้วไอเครื่องบินบ้า
โอเคแล้วเราก็เจอโฮส เค้าไม่ลืมมารับเราด้วย คือตอนแรกลุ้นมากๆๆๆๆๆๆๆ จากที่เล่ามานี่แหละค่ะเป็นสาเหตุที่ทำไมเจอโฮสแล้วร้องไห้ ในที่สุดเราก็มาถึงแล้วจริงๆ ได้มาอยู่ในอ้อมอกของคนที่จะเป็นแม่เราตลอด 10 เดือนนี้ แล้วโฮสก็ขับรถพาเรากลับบ้าน เมืองนี้เป็นเมืองเล็กๆน่ารักอบอุ่นมากเลยค่ะ ล้อมรอบไปด้วยภูเขา ผู้คนก็ไม่เยอะ น่ารักมากๆเลยค่ะ พอถึงบ้านบ้านก็น่ารักมากๆ มีหมาสองแมวสอง อีกัวน่าสอง บ้านเป็นสีฟ้าๆ เปิดประตูเข้าไปทางขวาเป็นบันไดที่ปูด้วยพรม ทางซ้ายเป็นห้องนั่งเล่นพื้นพรม มีโซฟาสีน้ำตาลนุ่มๆแล้วก็มีทีวี โต๊ะแล้วก็พวกของออกกำลังกายของมัมค่ะ ส่วนของห้องครัวก็จะเป็นพื้นไม้ค่ะ ครัวฝรั่งเค้าจะมีตู้คล้ายๆโต๊ะ(งงล่ะสิ่555555)อยู่ตรงกลางเรียกว่า Island เอาไว้เตรียมอาหารแล้วก็มีส่วนของที่ทำครัวก็จะล้อมรอบไปด้วยตู้เต็มไปหมด
โรงเรียนวันแรก
คือโรงเรียนที่นู่นเนี่ยเค้าจะไม่ได้เป็นโรงเรียนเดียวแล้วจบ อ.1-ม.6 นะคะ เค้าจะแยกเป็นโรงเรียนๆ แต่อยู่ในเครือเดียวกัน เช่น Elementary School = G.1-8 Junior High= 8-9 High School= 10-12 อันนี้ยกตัวอย่างนะคะ แต่ละ District จะต่างกันค่ะ ตอนแรกเราตั้งใจจะเป็น Senior(ม.6) ค่ะแต่ Counselor(อารมณ์ประมาณครูแนะแนวค่ะ) เราไม่ให้ค่ะ (อดได้ดิปเลยฮือๆ
) โอเคไม่เป็นไรจูเนียร์ก็จูเนียร์ วันแรกเค้าให้ไปลงทะเบียนและถ่ายรูปค่ะ ตอนนั้นแต่งหน้าไม่เป็นเลยไม่ชอบ หน้าเยินมากเพื่อนฝรั่งสวยๆทั้งนั้น อย่างอายค่ะ (ขอแนะนำให้น้องที่กำลังจะไปแล้วอยากเฉิดฉายให้ฝึกแต่งหน้าก่อนไปค่ะ คือถ้าไม่อยากหรือไม่ชอบก็ไม่เป็นไรค่ะ แต่สำหรับพี่ถ้าพี้อนเวลากลับไปได้ จะหัดแต่งหน้า คือมันปีเดียวเองอะที่ได้อยู่ที่นั่นแต่มีแต่รูปหน้าพังๆ กลับมายังไงก็ต้องแต่งอยู่ดีตอนเข้ามหาลัยแล้วก็ซึมซับวัฒนธรรมอเมกาด้วย คือไม่อยากให้น้องๆทำผิดพลาดอย่างพี่ ถ้าตอนนั้นแต่งชีวิตคงจะดีกว่านั้นเยอะ) โอเคต่อ พอพี่ไปลงทะเบียนเรียน ท่ามกลางภาษาอังกฤษมากมายอยู่ๆก็ได้ยิน
"ภาษาไทย?????!!!!!!???" โอ้ยตอนนั้นตกใจมากรีบ้ข้าไปถามต้นเสียง พวกนางสองคนเป็นคนไทยจริงๆอยู่ชั้นเดียวกับเราหมดเลยมีประสบการณ์ที่นี่มาแล้วปีนึง แถมยังพักอยู่กับญาติห่างๆของเราด้วย ช้อคอีกต่อ โล่งใจไปหนึ่งเปราะ แต่อยู่โรงเรียนเดียวกับเราคนเดียว อีกคนอยู่รรคู่แข่ง อุอิ
ลืมเล่าเรื่องลงทะเบียนเรียนให้ฟังเลย55555555 คือโรงเรียนเค้าจะมีวิชามาให้เราเลือกเยอะมากกกกกกกก แบบแล้วแต่วิชาก็จะมีหลายเวลา ให้เราบุฟเฟ่จัดตารางเรียนเองได้เลย เสียดายเราทำใบให้เลือกวิชาหายไปแล้ว ถ้าหาเจอจะเอามาโพสให้ดูนะ555555 อะยกตัวอย่างวิชา Personal Fitness วิชานี้ไม่มีไรมากค่ะ เล่นฟิตเนส สวยงาม Business Law กฎหมายธุรกิจค่ะ Child Development เรียนการเลี้ยงเด็กค่ะ(ประเทศเค้าพัฒนาแล้วจริงๆค่ะคู๊ณ) Single Living เรียนการอยู่เป็นโสดค่ะคุณ โหมันดีมาก อิชั้นลง มันคุ้มค่ามากจริงๆ ตอนนี้เซียนมากค่ะ55555555(มันดีป่าวฟะเนี่ย) โอเคแล้วเค้าก็จะมีวิชาบังคับมาให้ด้วยนะว่าอยู่ชั้นนี้มีวิชาบีงคับอะไรบ้าง เค้าจะจัดเวลาเรียนมาให้เช่น 8:00-8:45 8:55-9:50 เป็นตารางเปล่าๆ แล้วยูก็จิ้มเลยจ่ะจะเอาวิชาไหนอยู่คาบไหน เวลา+ครูสอนเยอะมากกกกก เช่นในใบเลือกมี 1. Cal 1 Mrs.xxx 8:00-8:45 2. Cal 1 Mr.yyy 8:55-9:50 อยากเรียนวิชานี้เวลาไหนก็เอาใส่ตารางเก๋ๆ วันนึงก็จะมีประมาณ 5 คาบมั้งถ้าจำไม่ผิด เราลง
P1.Algebra 2 มันคือเลขวิชาบังคับตามเคย เรียนพวกสมการไรงี้ อิชั้นเป็นเด็กตกเลขตั้งแต่ป.5จนจบ อยู่นู่นท็อปห้องนะขอบอก ฮุฮิ
P2.Band เราชอบเล่นดนตรีตั้งแต่อยู่เมืองไทยและค่ะตั้งใจจะต่อดนตรีเลยเทคอันนี้เลย (อยู่นู่นกลายเป็นห่วยสุด ร้องไห้แปป)
P3.English เข้าไปคาบแรกเรียน Literature โหดมาก ต้องลำบากหนุ่มหล่อที่นั่งข้างหน้า อิชั้นเลยย้ายคลาสไปเรียนที่มันง่ายกว่า(แอบเสียดายคลาสเดิมคนหล่อเยอะมาก อุอิ)
Break
P.4 US History อันนี้วิชาบังคับค่ะ แรกๆยากมาก รับแมวไปรับประทาน หลังๆดึงขึ้นมาเป็นนกได้ ภูมิใจสุดๆ มันยากจริงๆคุณขา แต่สนุกมากๆเลย
P.5 เทอม 1 เราเรียน Single Living ค่ะ ง่ายๆชิวๆ ทำงานส่ง
เทอม 2 เราเรียน Psychology ค่ะ สนุกมากกกกกกกกกก ได้ความรู้มากกกกกกกกกกก ขอแนะนำวิชานี้เลยค่ะเรียนเสร็จดูเป็นผู้มีความรู้เลย วิ้งๆ
How to make friends
แล้วก็มาถึงช่วงที่ทุกคนรอคอยยยยย อวดก่อนว่าเราเพื่อนเยอะมาก สนุกมากๆ เราได้เพื่อนเพราะอะไรรู้มั้ย วิชาเรียนเนี่ยและ ถามว่าทำไมไม่ไปอยู่กับเพื่อนคนไทย เออ เลิกเรียนก็อยุ่แหละคุณแต่เวลาเรียนมันไม่ตรงกันพักก้ไม่ตรงกัน วันแรก ด้วยความเสร่อ อิชั้นก็ซื้อข้าวแล้วไปขอชาวบ้านเค้านั่งค่ะ ตอนนั้นรู้สึกเสร่อมาก แต่พอมองย้อนไป เออ ความจริงแล้วใครๆก็ทำกันนะ ไม่ต้องกลัวโดนมองเป็น Loner หรือ Loser นะคะ บางคนเพื่อนพักไม่ตรงกันเค้าก็กินคนเดียวไม่ก็ขอคนอื่นนั่งด้วยค่ะ ถ้าคนที่เราขอนั่งด้วยหน้าตารับแขกก็ชวนคุยซักหน่อยค่ะ แต่ถ้าไม่ก็กินให้เสร็จแล้วลุกเลยจ่ะ ไปเมคเฟรนที่อื่นดีกว่า
คือเราโชคดีมากกกกกก(อีกแล้ว) ในคาบ US History เรา เรานั่งคนเดียวอยู่ประมาณสองคาบ เรารู้สึกว่ามีคนกำลังมองเราตลอดเวลาเลย เป็นเด็กผญตัวเล็กๆคล้ำๆหน้าตาแปลกมาก ไม่เคยเห็นคนหน้าตาโบราณแบบนี้มาก่อน อยู่ดีๆนางก็เข้ามาทักจ่ะ เจ้น้ำตาจะไหลลลลลลล มีคนคุยกับตูแล้ววววววววววว คือนางชอบคนเอเชียมากแล้วนางพอรู้ว่าเรามาจากเมืองไทยนางก็สนใจเรามาก นางบอกว่าที่บ้านนางเคยเป็นโฮสให้เด็กไทยด้วย โอ้ย ดีงาม หลังจากนั้นเราก็สนิทกันเลยค่ะ แล้วนางก็พามาเจอเพื่อนๆของนาง เพื่อนนางน่ารักกกกกกกกทุกคนเลย ตอนนี้ต้องเปลี่ยนเป็นเพื่อนเราแล้วค่ะ พวกเขาสนใจเรามาก ทุกคนพยายามปรับตัวเข้าหาเราเราพยายามเข้าหาเค้า เป็นอะไรที่ดีมากๆ กลุ่มเรามีประมาณ 9 คนค่ะ แฮงเอ้ากันตลอดๆ สนุกมากๆเลย เดี๋ยวจะมาสรุปการหาเพื่อนให้เป็นข้อๆนะคะ รอแปปนึงงงง (อยากลงรูปมากแต่ทำไม่เป็นใครก็ได้สนหน่อยฮือๆ
)
แชร์ประสบการณ์แลกเปลี่ยนที่อเมริกาแบบที่ไม่มีใครเคยบอกคุณมาก่อน+ทริคในการอยู่รอด+ทริคในการช้อปปิ้ง+ฯลฯ
ก่อนเดินทาง
ขอเกริ่นก่อน เราไปแลกเปลี่ยนตอนม.5ค่ะ สอบได้ก็เลยขอที่บ้านไปแล้วที่บ้านก็ดันโอเค5555555 ซึ่งเราขอบอกเลยว่าเป็นปีที่เหมาะที่สุดแล้วในการไปแลกเปลี่ยนในความคิดเรา เพราะว่า
1. ม.5 ที่เมืองไทยเรียนยากมาก (555555เป็นเด็กขี้เกียจค่ะ ไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง)
2. การเป็น Junior (ม.5) ที่นู่นเรียนค่อนข้างจะชิว(มาก)
3.ไม่เด็กเกินไป การเป็น Sophomore (ม.4) ค่อนข้างไม่ cool ค่ะ เป็น Junior เท่กว่าเยอะ55555555 (คหสตนะ5555555)
4. ม.6 ต้องสอบเข้าแล้ว แต่ถ้าเต็มใจเรียนซ้ำชั้นซักปีก็โอเคนะ (เพื่อนเราหลายคนก็ไปม.6แล้วเอาใบจบที่นู่น คือเท่ากับจบ High School จากอเมริกาเลย เก๋กู๊ด อิจฉามว๊ากกกกกกก)
แต่อยากไปตอนไหนก็แล้วแต่เลยค่ะ นี่เป็นความเห็นของเราเฉยๆ ความจริงมันก็มีข้อเสียค่ะ ม.5 ที่ไทยกิจกรรมเยอะมาก เราพลาดหลายอย่างเลย
โอเคเล่าต่อ คือต้องบอกก่อนว่าเรามาจากบ้านที่ค่อนข้างจะไม่ลำบาก เราไม่เคยทำงานบ้านเองเลยยยยยยยยย แบบเลยยยยยยย ถูพื้น กวาดบ้าน ดูดฝุ่น เคยทำเวลาที่โรงเรียนให้ทำเวรเท่านั้นเอง (ซึ่งปกติก็ไม่ค่อยทำ5555555) อย่าพูดเรื่องทำกับข้าว เป็นอะไรที่ไกลตัวเรามากๆ ก่อนเดินทางที่บ้านเราห่วงเรื่องนี้มากๆ กระเป๋าเรามีพวกอาหารซองๆ 50% ของกระเป๋าเลย55555555
ได้โฮสแล้วววววว
เราได้โฮสก่อนเดินทางนานอยู่ สำหรับน้องๆที่กังวลว่าได้โฮสช้าไรงี้ขอให้หยุดความคิดนั้นซะ ยังไงก็ได้โฮสนะคู๊ณณณณณณ อย่าโวยวายกันค่า ได้ช้าได้เร็วไม่ต่างกันด้วยลูก555555555 โฮสเราเป็นคู่สามีภรรยา ทั้งคู่ต่างคนต่างเคยมีครอบครัวมาแล้ว แต่ลูกชองที่ฝ่ายโฮสมัมยังเรียนหนังสืออยู่มีผู้ชายกับผู้หญิง พี่ผู้ชายนี่ตอนเราไปนางทำแฟนท้อง เลยแต่งงานแยกบ้านไป ส่วนพี่ผู้หญิงยังอยู่ที่บ้านค่ะ (ปัจจุบันหนีไปแต่งงานย้ายบ้านไปแล้ว555555 ชั้นล่ะสงสารโฮส) โฮสมัมเราจะผมกับตาน้ำตาลเข้ม ผิวค่อนข้างสีคล้ายๆคนไทย แต่ตาโตค่ะ เป็นลูกครึ่งคนขาวกับแม็กซิกันค่ะ (เมืองที่เราอยู่พวกแม็กซิกันเยอะมากกกกกกกกก ละบางคนก็หน้าเหมือนคนไทยสุดๆ แรกๆเกือบเข้าไปทักหลายครั้งละ) ส่วนโฮสแด๊ดเราเป็นคนขาว แนวๆลุงแซนต้าใจดีที่สูงและไม่อ้วนค่ะ โฮสเราทั้งสองคนน่ารักมากๆค่ะ อยู่ด้วยแล้วสนุกอบอุ่นไม่เหงาเลยค่ะ (ตอนเราเจอพวกเค้าครั้งแรกเราน้ำตาไหลเลยค่ะ พวกเค้า welcome เราดีมากๆ เดี๋ยวอีกแปปจะเล่าให้ฟังว่าทำไมน้ำตาไหล555555) อ่อเราได้ไปอยู่เมือง Wenatchee, Washington นะคะ คือเราโชคดีมากกกกกกกกกกกกก เพราะว่าน้าเรา 3 คนอยู่ที่นี่หมดเลยค่ะ บังเอิญแบบบังเอิญจริงๆ อเมริกามีตั้งห้าสิบกว่ารัฐ รัฐนึงก็หลายเมือง ดั๊นนนนนนนมาอยู่เมืองที่น้าอยู่ จะโชคดีอะไรขนาดนั้นล่ะคู๊ณ (อย่าเพิ่งฝันไปนะเด็กๆ นี่แบบว่า 1 ในไม่กี่คนจริงๆ55555555)
ได้เวลาเดินทาง BKK-NYC
วันนั้นเป็นวันที่เรานอนร้องไห้ไม่อยากไปเลยค่ะ แบบขอฆ่าตัวตายดีกว่าอะ (เวอร์ม้ะ แต่เค้ารู้สึกงั้นจริงนะ งุงิ) คือเราติดแม่มาก เราแบบลูกแหง่อ่ะ คือแม่เราจัดการทุกอย่างหมดในชีวิตเรา เราไม่เคยติดต่อใครหรือทำไรเองเลย เป็นห่วงด้วยกลัวแม่เป็นอะไร คือคุณน้าเราเคยเป็นนรแลกเปลี่ยนอเมริกาเหมือนกันแล้วแม่เค้าเสียไม่มีใครบอกเค้าจนกลับมาถึงถึงจะรู้ (โหดร้ายมาก) เราเลยฝังใจมากๆ โชคดีที่โครงการเราดีมากๆ เราสนิทกับเพื่อนในโครงการเยอะอยู่เลยเจี๊ยวจ๊าวก่อนขึ้นเครื่อง พอขึ้นเครื่องเท่านั้นแหละคุณเอ๊ยยยยยยยยยยยยย ชั้นจะไม่นั่งเครื่องบินอีกแล้ววววววว คือปกติเป็นคนชอบนั่งเครื่องบินมากกกกกกกกก และก็นั่งมาตั้งแต่เด็กจนโต ไม่เคยคิดเลยว่าเครื่องบินจะมาเป็นอุปสรรคของชั้น เพราะอะไรรู้มั้ยคะ นั่งเครื่องเกือบ 22 ชม.ค่ะ!!!!!!!!!!!!!!!!! โอ้หม่ายก๊อด อิชั้นทีขึ้นเครื่องอยู่บ่อยๆนี่ร้องไห้ตลอดทางเลยค่ะคุณ คือตอนนั้นพอมันนั่งเฉยๆยี่สิบกว่าชั่วโมงอิชั้นก็คิดไปสิ่คะ ถ้าเกิดนู่นนี่นั่นโน่นระหว่างเราอยู่ที่นี่จะเป็นยังไง อยากกอดแม่มากๆ คิดถึงอ้อมกอดของแม่ หนึ่งปีที่จะไม่ได้กอดแม่ชั้นจะเป็นยังไง ยังไงชั้นก็อยู่ไม่ได้ตายแน่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ และแล้วเราก็ร้องไห้ตลอดทางจนถึงนิวยอร์คค่ะ หนังหรือเกมบนเครื่องอะไรก็แล้วแต่ช่วยตูไม่ได้เลยขอบใจ อ่อลืมบอกไป โครงการเราให้มีการปฐมนิเทศก่อนที่นิวยอร์คค่ะ สองวัน (เสียดายมากเห็นเทพีสันติภาพแว๊บเดียว ตอนนั้นกำลังเศร้าไม่มีอารมณ์ถ่ายรูป555555555) ก็เลยรู้สึกดีขึ้นนิดนึงเพราะมีเพื่อนๆอยู่ด้วย รักเพื่อนๆที่โครงการที่สุดดดดดด
Life goes on NYC-Seattle
จากนิวยอร์คไปที่ซีแอทเทิ้ลก็ดีขึ้นมาหน่อยค่ะแต่ยังเศร้าอยู่ ยังคงมีเพื่อนมาด้วยอุ่นใจมากค่ะ พอถึงจุดหมายเราพบว่า พาสปอร์ตและบอร์ดดิ้งพาสหายหมดเลย ซวยแล้วไงตู ดีนะที่โฮสเพื่อนมารับที่แอร์พอร์ตนี้พอดีเค้าเลยช่วยเราไว้ ถ้ามีใครเกิดเหตุการณืนี้แบบเราบอกเลยค่ะ ตั้งสติ หายใจลึๆ ไปที่เคาน์เตอร์ของสายการบินนั้นๆแล้วถามว่ามีของที่ลืมไว้บนเครื่องมั้ย เค้าจะโทรไปให้ค่ะ แล้วสุดท้ายก็เจอ เห้ออออ คราวนี้ต้องแยกจากเพื่อนจริงๆแล้วค่ะ ดั๊นจะรอดมั้ยคะเนี่ย (คือนิสัยเป็นคนขี้ลืมมากล่องๆโก๊ะๆมึนๆ55555555)
Seattle-Wenatchee
ไฟล์ทสั้นสุดๆ 45 นาทีถึง ขอบคุณจริงๆเพราะถ้านากว่านี้จะไม่ไปแล้ว ไม่นั่งแล้วไอเครื่องบินบ้า โอเคแล้วเราก็เจอโฮส เค้าไม่ลืมมารับเราด้วย คือตอนแรกลุ้นมากๆๆๆๆๆๆๆ จากที่เล่ามานี่แหละค่ะเป็นสาเหตุที่ทำไมเจอโฮสแล้วร้องไห้ ในที่สุดเราก็มาถึงแล้วจริงๆ ได้มาอยู่ในอ้อมอกของคนที่จะเป็นแม่เราตลอด 10 เดือนนี้ แล้วโฮสก็ขับรถพาเรากลับบ้าน เมืองนี้เป็นเมืองเล็กๆน่ารักอบอุ่นมากเลยค่ะ ล้อมรอบไปด้วยภูเขา ผู้คนก็ไม่เยอะ น่ารักมากๆเลยค่ะ พอถึงบ้านบ้านก็น่ารักมากๆ มีหมาสองแมวสอง อีกัวน่าสอง บ้านเป็นสีฟ้าๆ เปิดประตูเข้าไปทางขวาเป็นบันไดที่ปูด้วยพรม ทางซ้ายเป็นห้องนั่งเล่นพื้นพรม มีโซฟาสีน้ำตาลนุ่มๆแล้วก็มีทีวี โต๊ะแล้วก็พวกของออกกำลังกายของมัมค่ะ ส่วนของห้องครัวก็จะเป็นพื้นไม้ค่ะ ครัวฝรั่งเค้าจะมีตู้คล้ายๆโต๊ะ(งงล่ะสิ่555555)อยู่ตรงกลางเรียกว่า Island เอาไว้เตรียมอาหารแล้วก็มีส่วนของที่ทำครัวก็จะล้อมรอบไปด้วยตู้เต็มไปหมด
โรงเรียนวันแรก
คือโรงเรียนที่นู่นเนี่ยเค้าจะไม่ได้เป็นโรงเรียนเดียวแล้วจบ อ.1-ม.6 นะคะ เค้าจะแยกเป็นโรงเรียนๆ แต่อยู่ในเครือเดียวกัน เช่น Elementary School = G.1-8 Junior High= 8-9 High School= 10-12 อันนี้ยกตัวอย่างนะคะ แต่ละ District จะต่างกันค่ะ ตอนแรกเราตั้งใจจะเป็น Senior(ม.6) ค่ะแต่ Counselor(อารมณ์ประมาณครูแนะแนวค่ะ) เราไม่ให้ค่ะ (อดได้ดิปเลยฮือๆ) โอเคไม่เป็นไรจูเนียร์ก็จูเนียร์ วันแรกเค้าให้ไปลงทะเบียนและถ่ายรูปค่ะ ตอนนั้นแต่งหน้าไม่เป็นเลยไม่ชอบ หน้าเยินมากเพื่อนฝรั่งสวยๆทั้งนั้น อย่างอายค่ะ (ขอแนะนำให้น้องที่กำลังจะไปแล้วอยากเฉิดฉายให้ฝึกแต่งหน้าก่อนไปค่ะ คือถ้าไม่อยากหรือไม่ชอบก็ไม่เป็นไรค่ะ แต่สำหรับพี่ถ้าพี้อนเวลากลับไปได้ จะหัดแต่งหน้า คือมันปีเดียวเองอะที่ได้อยู่ที่นั่นแต่มีแต่รูปหน้าพังๆ กลับมายังไงก็ต้องแต่งอยู่ดีตอนเข้ามหาลัยแล้วก็ซึมซับวัฒนธรรมอเมกาด้วย คือไม่อยากให้น้องๆทำผิดพลาดอย่างพี่ ถ้าตอนนั้นแต่งชีวิตคงจะดีกว่านั้นเยอะ) โอเคต่อ พอพี่ไปลงทะเบียนเรียน ท่ามกลางภาษาอังกฤษมากมายอยู่ๆก็ได้ยิน"ภาษาไทย?????!!!!!!???" โอ้ยตอนนั้นตกใจมากรีบ้ข้าไปถามต้นเสียง พวกนางสองคนเป็นคนไทยจริงๆอยู่ชั้นเดียวกับเราหมดเลยมีประสบการณ์ที่นี่มาแล้วปีนึง แถมยังพักอยู่กับญาติห่างๆของเราด้วย ช้อคอีกต่อ โล่งใจไปหนึ่งเปราะ แต่อยู่โรงเรียนเดียวกับเราคนเดียว อีกคนอยู่รรคู่แข่ง อุอิ
ลืมเล่าเรื่องลงทะเบียนเรียนให้ฟังเลย55555555 คือโรงเรียนเค้าจะมีวิชามาให้เราเลือกเยอะมากกกกกกกก แบบแล้วแต่วิชาก็จะมีหลายเวลา ให้เราบุฟเฟ่จัดตารางเรียนเองได้เลย เสียดายเราทำใบให้เลือกวิชาหายไปแล้ว ถ้าหาเจอจะเอามาโพสให้ดูนะ555555 อะยกตัวอย่างวิชา Personal Fitness วิชานี้ไม่มีไรมากค่ะ เล่นฟิตเนส สวยงาม Business Law กฎหมายธุรกิจค่ะ Child Development เรียนการเลี้ยงเด็กค่ะ(ประเทศเค้าพัฒนาแล้วจริงๆค่ะคู๊ณ) Single Living เรียนการอยู่เป็นโสดค่ะคุณ โหมันดีมาก อิชั้นลง มันคุ้มค่ามากจริงๆ ตอนนี้เซียนมากค่ะ55555555(มันดีป่าวฟะเนี่ย) โอเคแล้วเค้าก็จะมีวิชาบังคับมาให้ด้วยนะว่าอยู่ชั้นนี้มีวิชาบีงคับอะไรบ้าง เค้าจะจัดเวลาเรียนมาให้เช่น 8:00-8:45 8:55-9:50 เป็นตารางเปล่าๆ แล้วยูก็จิ้มเลยจ่ะจะเอาวิชาไหนอยู่คาบไหน เวลา+ครูสอนเยอะมากกกกก เช่นในใบเลือกมี 1. Cal 1 Mrs.xxx 8:00-8:45 2. Cal 1 Mr.yyy 8:55-9:50 อยากเรียนวิชานี้เวลาไหนก็เอาใส่ตารางเก๋ๆ วันนึงก็จะมีประมาณ 5 คาบมั้งถ้าจำไม่ผิด เราลง
P1.Algebra 2 มันคือเลขวิชาบังคับตามเคย เรียนพวกสมการไรงี้ อิชั้นเป็นเด็กตกเลขตั้งแต่ป.5จนจบ อยู่นู่นท็อปห้องนะขอบอก ฮุฮิ
P2.Band เราชอบเล่นดนตรีตั้งแต่อยู่เมืองไทยและค่ะตั้งใจจะต่อดนตรีเลยเทคอันนี้เลย (อยู่นู่นกลายเป็นห่วยสุด ร้องไห้แปป)
P3.English เข้าไปคาบแรกเรียน Literature โหดมาก ต้องลำบากหนุ่มหล่อที่นั่งข้างหน้า อิชั้นเลยย้ายคลาสไปเรียนที่มันง่ายกว่า(แอบเสียดายคลาสเดิมคนหล่อเยอะมาก อุอิ)
Break
P.4 US History อันนี้วิชาบังคับค่ะ แรกๆยากมาก รับแมวไปรับประทาน หลังๆดึงขึ้นมาเป็นนกได้ ภูมิใจสุดๆ มันยากจริงๆคุณขา แต่สนุกมากๆเลย
P.5 เทอม 1 เราเรียน Single Living ค่ะ ง่ายๆชิวๆ ทำงานส่ง
เทอม 2 เราเรียน Psychology ค่ะ สนุกมากกกกกกกกกก ได้ความรู้มากกกกกกกกกกก ขอแนะนำวิชานี้เลยค่ะเรียนเสร็จดูเป็นผู้มีความรู้เลย วิ้งๆ
How to make friends
แล้วก็มาถึงช่วงที่ทุกคนรอคอยยยยย อวดก่อนว่าเราเพื่อนเยอะมาก สนุกมากๆ เราได้เพื่อนเพราะอะไรรู้มั้ย วิชาเรียนเนี่ยและ ถามว่าทำไมไม่ไปอยู่กับเพื่อนคนไทย เออ เลิกเรียนก็อยุ่แหละคุณแต่เวลาเรียนมันไม่ตรงกันพักก้ไม่ตรงกัน วันแรก ด้วยความเสร่อ อิชั้นก็ซื้อข้าวแล้วไปขอชาวบ้านเค้านั่งค่ะ ตอนนั้นรู้สึกเสร่อมาก แต่พอมองย้อนไป เออ ความจริงแล้วใครๆก็ทำกันนะ ไม่ต้องกลัวโดนมองเป็น Loner หรือ Loser นะคะ บางคนเพื่อนพักไม่ตรงกันเค้าก็กินคนเดียวไม่ก็ขอคนอื่นนั่งด้วยค่ะ ถ้าคนที่เราขอนั่งด้วยหน้าตารับแขกก็ชวนคุยซักหน่อยค่ะ แต่ถ้าไม่ก็กินให้เสร็จแล้วลุกเลยจ่ะ ไปเมคเฟรนที่อื่นดีกว่า
คือเราโชคดีมากกกกกก(อีกแล้ว) ในคาบ US History เรา เรานั่งคนเดียวอยู่ประมาณสองคาบ เรารู้สึกว่ามีคนกำลังมองเราตลอดเวลาเลย เป็นเด็กผญตัวเล็กๆคล้ำๆหน้าตาแปลกมาก ไม่เคยเห็นคนหน้าตาโบราณแบบนี้มาก่อน อยู่ดีๆนางก็เข้ามาทักจ่ะ เจ้น้ำตาจะไหลลลลลลล มีคนคุยกับตูแล้ววววววววววว คือนางชอบคนเอเชียมากแล้วนางพอรู้ว่าเรามาจากเมืองไทยนางก็สนใจเรามาก นางบอกว่าที่บ้านนางเคยเป็นโฮสให้เด็กไทยด้วย โอ้ย ดีงาม หลังจากนั้นเราก็สนิทกันเลยค่ะ แล้วนางก็พามาเจอเพื่อนๆของนาง เพื่อนนางน่ารักกกกกกกกทุกคนเลย ตอนนี้ต้องเปลี่ยนเป็นเพื่อนเราแล้วค่ะ พวกเขาสนใจเรามาก ทุกคนพยายามปรับตัวเข้าหาเราเราพยายามเข้าหาเค้า เป็นอะไรที่ดีมากๆ กลุ่มเรามีประมาณ 9 คนค่ะ แฮงเอ้ากันตลอดๆ สนุกมากๆเลย เดี๋ยวจะมาสรุปการหาเพื่อนให้เป็นข้อๆนะคะ รอแปปนึงงงง (อยากลงรูปมากแต่ทำไม่เป็นใครก็ได้สนหน่อยฮือๆ )