หมอบอกเป็นกระดูกอ่อนสะบ้าเสื่อม เช้าเกือบปกติ แต่บ่ายๆเย็นๆจะบวม อยากถามคนเคยเป็นครับ

หวัดดีครับ

คือรู้สึกแน่นๆที่ด้านหน้าเข่าใต้ลูกสะบ้า เป็นเฉพาะขาซ้าย เพิ่งจะมีอาการชัดๆ  จนไปหาหมอกระดูกเมื่อสัปดาห์ก่อน หมอบอก กระดูกอ่อนลูกสะบ้าเสื่อม
ก็ให้ยาแก้บวมแก้อักเสบมากิน (Arcoxia) บอกให้กินเฉพาะเวลาปวด ถ้าไม่ปวดไม่ต้องกิน แล้วให้ลองหา กลูโคซามีน มากิน

ช่วงนี้เวลาเดินจะลำบากนิด พยายามเดินช้าตลอดเลยครับ ไม่งั้นมันกระเทือนแล้วมันจะบวมขึ้นมา
สังเกตว่า กินยาหลังอาหารเย็นแล้ว ตื่นเช้ามาวันใหม่ จะรู้สึกเกือบหายเป็นปกติเลยครับ แต่เวลาต้องไปเดินข้างนอก (ไปทำงาน) ถึงจะพยายามระวังแค่ไหน แต่ตอนบ่ายๆเย็นๆ มันจะเริ่มบวมล่ะ และจะเดินลำบากเพราะเหยียดขาได้ไม่สุด

ตอนนี้ ก็กิน กลูโคซามีน มาสัปดาห์นึง แล้วยา Arcoxia เพิ่งได้กินไป 2 ครั้ง
แต่รู้สึกว่าอาการยังเหมือนๆเดิม คือ เช้าเกือบปกติ บ่ายๆเย็นๆจะบวมและปวดขึ้นมา

อยากรู้ประสบการณ์คนเคยเป็น ว่าการพักฟื้นนี้ ต้องพักนานเท่าไหร่ถึงจะหายครับ แล้วดูแลตัวเองยังไงบ้าง

ผมอายุ 30 น่ะครับ เป็นคนผอมมาก BMI ต่ำกว่า 18

ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นครับผม

========
อันนี้แชร์เหตุการณ์ที่คิดว่าเป็นจุด trigger ทำให้อาการออก
ปกติผมวิ่งออกกำลังกายเบาๆ สัปดาห์ละครั้ง ครั้งล่ะแค่ 3.5 km และระวังเรื่องการจัดท่าวิ่งตลอดเพื่อไม่ให้เข่ากระแทก รองเท้าก็เป็นรองเท้าวิ่งแบบปกติครับ (ที่ส้นหนามีซับเยอะๆ) ทำมาได้ปีกว่าๆแล้ว ยังไม่มีปัญหาอะไร
แต่เวลาเดินในชีวิตปกติ เข่าซ้ายจะเหมือนรู้สึกกระเทือนอยู่ประจำ (คิดว่าร่างกายซ้ายขวาไม่สมดุล) ก็พยายามจัดท่าเดินมาตลอดให้กระแทกน้อยที่สุดมาตลอด (แต่ก็ไม่สมดุลจริงๆซักที) ส่วนเวลาวิ่งไม่มีปัญหาเพราะจัดท่าตอนวิ่งไม่ให้เอาส้นเท้าลงมันง่ายกว่าเวลาเดิน
และปกติก็ทำท่ากายบริหารง่ายๆอยู่บ้านในวันอื่นๆที่เหลือ วันล่ะประมาณ 1 ชม. (ไม่ได้ใส่น้ำหนักเวทครับ และไม่มีท่าเคลื่อนไหวเร็วใดๆ)
ก็อยู่อย่างงั้นมาเรื่อยปีกว่าๆ ไม่มีปัญหาอะไร รู้สึกแข็งแรงมีความสุขดี

แต่สัปดาห์ก่อน มีวันนึงระหว่างไปทำงาน แล้วมันจะไม่ทันเวลา ก็เลยพยายามวิ่งครับ แต่สภาพมันไม่ดีเหมือนการวิ่งออกกำลังปกติของเรา คือ
- พื้นฟุตบาทมันไม่เรียบเหมือนในสวนที่ไปวิ่งประจำครับ เดี๋ยวเอียงซ้ายเอียงขวา มีหลุมบ้าง อิฐปูพื้นโผล่บ้าง
- รองเท้าใส่ไปทำงาน ไม่ใช่รองเท้าวิ่ง เป็นรองเท้าผ้าใบแบบไม่ผูกเชือก (ไม่กระชับเอามากๆ) และพื้นรองเท้าออกแบบไม่ดีเท่าไหร่ คือ ปกติแค่เวลาเจอพื้นเอียงนี่ปวดเท้าครับเพราะขอบรองเท้ามันไม่มน เป็นเหลี่ยมมุมๆของปุ่มเกาะพื้นของมัน
- เป้ด้านหลัง ไม่ใช่เป้ที่ออกแบบให้ใส่ทำกิจกรรมแนวๆนี้ เป็นเป้ใส่คอมเหลี่ยมๆ (แต่ไม่ได้แบกคอมใส่เป้ไปน่ะครับ)

คราวนี้พอวิ่งแบบนั้น ถึงไม่ได้มีการสะดุดล้มอะไร แต่ก็รู้สึกเลยว่าเป็นการวิ่งที่ไม่ถูกสุขลักษณะมากๆ (เทียบกับการวิ่งที่เราวิ่งประจำ ความรู้สึกของท่าวิ่งและการกระแทกต่างๆ) แต่ตอนนั้นยังไม่ได้เป็นอะไรในทันที
จนกระทั่งเย็นวันนั้น ตอนแปรงฟัน แล้วเวลาก้มตัวตรงอ่างล้างหน้าตลอดเวลาแปรงฟัน มันรู้สึกเข่าซ้ายด้านหน้ามันแน่นๆและปวด (เพิ่งมารู้สึกหลังว่าท่ายืนก้มแบบนั้น มันก็ไม่ค่อยดีกับเข่า) และวันต่อๆมาก็เริ่มอาการชัด จนคิดว่าต้องไปหาหมอล่ะ

หมอตรวจแบบจับๆ กดๆภายนอก มีท่านึงที่หมอจะดันลูกสะบ้าจากด้านบน แล้วบอกให้เรายกขา ท่านี้ขาซ้ายจะเจ็บเลยครับ ขาขวาก็เจ็บแต่ระดับต่างกันกับขาซ้ายมาก
หมอเลยสรุปว่า กระดูกอ่อนสะบ้าเสื่อม

สรุปสิ่งที่คิดว่าต้องระวังมากๆคือ
เวลาวิ่ง ต้องจัดการพวก เครื่องแต่งตัวและอุปกรณืให้เหมาะสมเสมอ
ในสภาพเครื่องแต่งตัวของมนุษย์เงินเดือนปกตินั้น ไม่เหมาะกับการวิ่งเลย อย่าวิ่งโดยไม่จำเป็นในสภาพแบบนั้น
โดยเฉพาะรองเท้า รองเท้าผ้าใบธรรมดา ที่ไม่ใช่รองเท้ากีฬา และโดยเฉพาะที่ราคาไม่แพง ส่วนใหญ่ ไม่เหมาะกับการวิ่งเลย
และถ้าใส่วิ่ง แม้จะระยะแค่ไม่กี่ร้อยเมตร ก็ทำลายสุขภาพได้มาก
ขนาดผมเป็นคน น.น. ตัวไม่มาก ยังมีปัญหาได้
ไม่อยากคิดว่าคน น.น. ตัวเยอะกว่านี้ จะเป็นยังไง

สำหรับการวิ่งที่ทำมาประจำ ก่อนหน้านั้นเป็นปีๆ
ก็ยังสงสัยอยู่ว่ามันมีส่วนกับปัญหาเข่าตอนนี้รึเปล่า (ยังไม่แน่ใจ แต่ก็คิดว่าวิ่งมาเป็นปีๆ แถมวิ่งน้อย ระวังตลอด น่าจะมีผลไม่เยอะ) แต่คิดว่าจุด trigger สำคัญ มันเป็นตอนวิ่งแบบไม่ถูกแบบแผนที่เล่าไปด้านบนมากกว่าครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่