ใครที่ดูแล้วอย่างที่รู้ๆกันว่าภาคนี้เป็นเหมือนภาคสำหรับปูทางไปเพื่อการเปิดตำนานใหม่ของ Star Wars มีการเปิดตัว ตัวละครหน้าใหม่ที่จะมาแทนที่ตัวละครเก่าเยอะมาก แต่ละตัวต่างก็มีที่มาและปมปัญหาที่ยังครุมเครือแตกต่างกันอยู่ โดยตัวละครที่ผมจะพูดถึงในภาคนี้คือ Kylo Ren ตัวร้ายของภาคนี้ครับ ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองหรือเปล่านะ แต่เท่าที่ดูแล้วเหมือนมันมี hint หลายๆอย่างที่พยายามจะสื่อว่าตัวละครตัวนี้จะกลายมาเป็น Anti-hero ของภาคนี้

ข้อมูลต่างๆที่ผมสังเกตมาก็ได้แก่


แน่ล่ะครับ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้นามสกุล Skywalker โดยตรง พ่อนามสกุล Solo แม่นามสกุล Organa แต่ใครๆก็รู้ว่าเขาเป็นหลายแท้ๆของ Anakin Skywalker ซึ่งก็อย่างที่รู้ว่าหนัง Star Wars ตัวเอกคือ Skywalker ดังนั้นการเปลี่ยน Skywalker ให้เป็นตัวร้าย คงจะขัดใจแฟนๆ Skywalker พิลึก ยิ่งการต้องเห็นพี่น้องมาฆ่ากันตายในตอนจบ (ในกรณีที่ Ray ก็เป็น Skywalker เหมือนกันนะ) คงเป็นสิ่งที่สาวก Skywalker ไม่อยากเห็นเป็นแน่นอน (หรืออาจจะถูกใจแฟน  Solo (แต่นี้ก็ทายาทคนเดียวและคนสุดท้ายของตระกูล Solo เหมือนกันน้า))


"Nothing will stand in our way ..., I will finish what you started, Grandfather."
เป็นประโยคที่ Ren พูดกับหน้ากากเน่าๆของ Darth Vader ซึ่งตรงนี้น่าสนใจมากกว่าที่เขาบอกว่าจะจบสิ่งที่เวเดอร์ได้เริ่มไว้ หมายถึงอะไร เวเดอร์เริ่มอะไรเอาไว้ ไม่มีแฟน Star Wars คนไหนที่ไม่รู้ใช่ไหมครับ ว่าคำทำนายเรื่อง Chosen One นั้นหมายถึง Anakin หรือก็คือ Darth Vader นั่นเอง ไม่รู้ว่าในยุคหลังการล่มสลายของ Jedi Order นั้น ตำนานนี้จะเป็นที่แพร่หลายกันแค่ไหน แต่ใครๆในยุคนั้นโดยเฉพาะคนที่มีความเกี่ยวพันกับ Luke Skywalker ก็น่าจะรู้ว่าคนที่ปราบจักรพรรดิ์ Palpatine แห่ง Galactic Empire ได้ก็คือเวเดอร์นี่เอง นั่นคือการกระทำอันทรงเกียรติ์ที่สุดของ Darth Vader ใน Star Wars มันก็เป็นสิ่งที่ Ren ที่มอง Darth Vader เป็นไอดอล น่าจะอยากทำตามมากที่สุด ไม่ใช่การเป็นเบ๊ต๊อกต๋อยตามตูดคนร้ายตลอดไป แต่มันก็มีความเป็นไปได้เหมือนกันนะ ว่าภาพของ Darth Vader ในหัวของ Ren อาจจะเกิดมาจากคำหลอกลวงของ Supreme Leader Snoke ทั้งหมด ทำให้เขามอง Vader เป็นไอดอลในการทำเลวได้ แต่ถ้ามันเป็นแบบนี้จริงๆ แล้วสักวันหนึ่งมีใครสักคนมาบอกเล่าความจริงเกี่ยวกับ Darth Vader ให้เขาฟัง มันก็อาจจะกลายเป็นจุดพลิกผันความคิดให้เขากลับมาเป็นคนดีได้อีกใช่หรือไม่ อาจจะไม่ได้กลับมาเป็นคนดีจ๋าแบบ Jedi แต่คงไม่มีทางอยู่เป็นข้ารับใช้คนที่หลอกใช้ตัวเองมาตลอดได้อย่างสนิทใจต่อไปอีกจริงไหม และต้องอย่าลืมด้วยว่า วิญญาณ Anakin ที่ตายไป ก็ได้เข้ารวมเป็นส่วนหนึ่งของพลัง แบบเดียวกับที่ Obiwan เป็น แล้วเหมือนกัน ในเมื่อครั้งหนึ่ง Obiwan เคยกลับมาปรากฏตัวให้ Luke เห็นได้ ก็เป็นไปได้ว่า Anakin อาจจะกลับมาเป็นผู้ชี้ทางสว่างให้หลายชายคนเดียวของตัวเองเดินต่อไปในทางที่ถูกที่ควรได้เช่นกัน


ฉากสำคัญที่แฟนๆ Star Wars ไม่อยากให้เกิดขึ้นที่สุดในภาคนี้ก็คือฉากการตายของ Han Solo ด้วยฝีมือลูกชายของตัวเองคือ Kylo Ren หรือ นาย Ben ไม่ทราบนามสกุล นั่นเอง ฉากนี้ถ้าดูแบบเผินๆ น่าจะมองว่าเป็นฉากที่ส่งให้ Kylo Ren กลายเป็นตัวร้าย ฝ่ายมืดโดยสมบูรณ์แบบ แต่บทสนทนาระหว่าง 2 พ่อลูกนี้ ก็ดูมีอะไรน่าสนใจอยู่เหมือนกัน ตอนที่สองพ่อลูกเผชิญหน้ากัน เร็นได้ขอให้ฮานช่วยเหลืออะไรบางอย่าง ซึ่งฮานก็ยินดีที่จะช่วยโดยไม่ถงไม่ถามเลยสักคำ ตรงนี้น่าคิดอยู่เหมือนกันนะว่าฮานรู้หรือเปล่าว่าสิ่งที่เร็นต้องการให้ช่วยนั้นแท้จริงแล้วคืออะไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือหลังจากที่ดาบ Lightsaber ของเร็นเสียบทะลุตัวฮานไปแล้ว แทนที่ฮานจะแสดงท่าทีโกรธหรือตกใจกับสิ่งที่เร็นทำ กลับอำลาลูกชายของตนไปด้วยรอยยิ้มแถมยังจับที่แก้มของลูกชาย อย่างอ่อนโยน เหมือนกับว่ายินดีกับสิ่งที่ลูกชายทำเสียด้วยซ้ำ หรือจริงๆแล้วฮานรู้ว่าการช่วยเหลือลูกชายที่ดีที่สุดคือการเสียสละตัวเอง เสียสละเพื่ออะไรล่ะ ? ขอย้อนกลับไปถึงฉากที่เร็นคุยกับหน้ากาก Vader อีกรอบนะครับ สาเหตุที่เร็นไปคุยกับหน้ากากเวเดอร์ก็เพื่อปรึกษาว่าควรจะทำอย่างไรดีที่สโน๊คมองเห็นด้านสว่างของตน คือถ้าเร็นอยากจะเป็นด้านมืดด้วยตัวเอง น่าจะใช้คำพูดว่า "ข้าจะทำอย่างไรเพื่อกำจัดด้านสว่างในใจข้า" ก็พอ จริงๆถ้าเขาอยากทำลายด้าสว่างในจิตใจแล้วเข้าสู้ด้านมืดโดยสมบูรณ์แบบควรไปขอคำปรึกษาจากสโน๊คจะง่ายกว่าไหม ทำไมต้องกลัวสโน๊ครู้ด้วย หรือเพราะเขากำลังซ่อนความตั้งใจที่แท้จริงของตัวเองจากสโน๊คอยู่ ความที่ตั้งใจที่แท้จริงของเขาอาจจะไม่ใช่ความต้องการทำลายความสว่างใจจิตใจเพียงแต่ซ่อนมันจากสโน๊คเพื่อทำในสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าก็เป็นได้ การฆ่าฮานโซโลอาจจะเป็นวิธีการเดียวที่จะซ่อนความดีในจิตใจเขาจากสายตาของสโน๊คก็เป็นได้ และก็ไม่แน่ว่าฮานเองอาจจะเข้าใจถึงจุดนี้มาแต่แรกแล้วก็ได้ การทำมาตุฆาต อาจจะเป็นสิ่งที่ไม่น่ารับได้ในสายตาของพวกเรา โดยเฉพาะการฆ่าตัวละครอันเป็นที่รักของพวกเรามาอย่างยาวนานอย่างฮานโซโล ซึ่งนั่นแหละ อาจจะเป็นความตั้งใจของผู้กำกับที่พยายามหลอกพวกเราว่าตัวละครตัวนี้ได้กลายเป็นตัวละครที่ชั่วร้ายอย่างแท้จริงไปเสียแล้ว เพื่อจะได้มาเฉลยหักมุมเอาทีหลังว่าความจริงอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด แล้วอย่าลืมว่าในจักรวาล Star Wars ความตายไม่ใช่จุดสิ้นสุดของชีวิต แต่เป็นการกลับเป็นส่วนหนึ่งของพลัง อย่างที่ Obi-wan ได้กว่าเอาไว้ว่า "If you strike me down, I shall become more powerful than you can possibly imagine." การตายของโซโล อาจจะไม่ใช่เรื่องแย่อย่างที่เราคิด โซโลอาจจะอยากกลับมาดูแลลูกต่อเหมือนที่โอบิวันกลับมาหาอนาคิน เพื่อรักษาปมในใจในวัยเด็กของเขาก็ได้นะ ไม่แน่ว่าปัญหาระหว่างสองพ่อลูกนี้อาจจะเกิดมาจากการที่ฮานไม่มีเวลามาเลี้ยงลูกก็ได้ ฮ่าๆๆๆ


คอนเซปสำคัญในจักรวาล Star Wars ก็คือสมดุลย์ของพลัง ซึ่งคำว่าสมดุลย์นั้นก็คือตรงกลาง ไม่สว่างจนเกินไปและไม่มืดจนเกินไป ตัวละครที่จะนำสมดุลย์มาสู่พลังได้ ไม่ใช่ตัวละครที่มีแต่ด้านสว่างอย่างเดียว เหมือน Luke Skywalker แต่เป็นตัวละครที่มีทั้งด้านมืดและด้านสว่างในคนเดียวอย่าง Anakin Skywalker ต่างหาก ตัวละครที่ถูกปูมาให้เป็นตัวเอกในภาคนี้คือ Ray  ไม่ทราบนามสกุล นั้นเป็นตัวละครที่ถอดแบบ Luke มาแบบเป๊ะๆเลยก็ว่าได้ ในขณะที่ตัวละคร Kylo Ren นั้นก็เทียบได้กับ Darth Vader ในยุคนี้ ก็ไม่แน่เหมือนกันว่าสมดุลย์แห่งพลังที่จะเกิดขึ้นในภาคนี้อาจจะหมายถึงคนๆเดียวที่มีทั้งด้านมืดและด้านสว่าง หรืออาจจะหมายถึง 2 คู่นี้ก็ได้ (ถ้า Ray เป็น Skywalker ตามที่คิดกันไว้อ่ะนะ)


อันนี้ผมคิดขำๆนะ หลังจากดูจบแล้วคุยกับเพื่อนหลายๆคนแล้วมีแต่คนคิดเหมือนกันว่าตอนที่เร็นถอดหน้ากากออกมา มันคือสเนปชัดๆ ยิ่งอยู่ในชุดผ้าคลุมสีดำยิ่งเหมือน เพราะตัวละครมันมีบุคลิคแบบเดียวกันหรือเปล่า ตอนแคสติ้งคนแสดงเขาถึงได้เลือกคนที่มีบุคลิกคล้ายๆกันมาเล่น เหมือนหนังแอคชั่นบ้าระ่ส่วนใหญ่ต้องมีพระเอกหัวล้าน ฮ่าๆๆๆ

ทั้งหมดนี้เป็นแค่ข้อสันนิษฐานไปเองฝ่ายเดียวของผมนะ ก็เดาไปเรื่อยนั่นแหละ แต่ปมในภาคนี้มันมีเยอะจนน่าเก็บมาขบคิดเหลือเกิน เลยอยากจะเอาสิ่งที่คิดไว้มาแชร์ให้เพื่อนๆได้อ่านกัน เผื่อจะมีใครที่คิดเหมือนกันบ้าง จะคิดเหมือนหรือคิดต่างกันยังไง แสดงความเห็นกันได้นะครับ ขอบคุณครับ