Star Wars: Episode VII : The Force Awakens
review by Ake คะแนนให้ 10/10
ผมจำได้ว่า Star Wars ภาคแรกที่ได้ดูน่าจะเป็นภาค Star Wars II: Attack of the Clones ในปี 2002 เป็นภาคของอนาคินตอนเด็ก ยอมรับว่าตอนนั้นที่ดูก็ยังเป็นวัยรุ่นอยู่มาก ดูเพราะขึ้นชื่อว่า Star Wars แต่ก็ไม่ได้ประทับอะไรมาก จนกระทั่งได้ดู ภาค 3 Star Wars III: Revenge of the Sith (2005) ตอนนั้นก็เพิ่งจะรู้ว่า ออ อนาคิ สกายวอล์คเกอร์ ก็คือดาร์ธ เวเดอร์นั่นเอง และยิ่งทำให้สนใจ star war มากขึ้น ก็เริ่มหา ภาค 1 : The Phantom Menace (1999) และก็ไล่เรียง ภาค 4 : A New Hope (1977) ภาค 5 : Empire Strike Back (1980) ภาค 6 : Return of the Jedi (1983) ตามมา บอกตามตรงสำหรับผม ไม่ค่อยอินเท่าไร แต่ก็ทราบเรื่องราวเหตุการณ์และเส้นเรื่องของภาพยนตร์เรื่องนี้บ้าง พอสมควร...
จากภาคที่ผมประทับใจที่สุด คือภาค 2-3 ภาคของอนาคินที่ชอบเพราะคิดว่าตัวเองเริ่มอินกับการมองโลกเรื่อง ดี-เลว อะไรทำนองนี้ จากภาคสุดท้ายก่อนถึงภาคล่าสุดนี้ ก็ห่างหายไปเป็น 10 ปี ด้วยระยะเวลาขนาดนี้ ถือได้ว่าเป็นระยะเวลาของการเปลี่ยนผ่านช่วงชีวิตของคนกันเลยทีเดียว จากเด็กสู่วัยรุ่น จากวัยรุ่นสู่วัยทำงาน จากวัยทำงานสู่วัยกลางคน วัยกลางคนสู่วัยชรา... สำหรับตัวเองนั้นก็จากวัยรุ่นสู่วัยผู้ใหญ่
แต่พอได้มาดู Star Wars : The Force Awakens แล้ว มันทำให้ความรู้สึกเก่าๆ ตอนที่ประทับใจ Star Wars ในภาคต้นๆ มาดู แม้ผมจะไม่ใช่สาวกหรือแฟนพันธุ์แท้ของ star wars ก็ตาม
ผมยิ้มตอนที่ได้เห็นลุงฮาน โซโล (Harrison Ford) เห็น เจ้าหญิงเลอา (Carrie Fisher-คนนี้นั่งนึกตั้งนานว่าใคร) เห็นลุคสกายวอร์คเกอร์ (Mark Hamill-คนนี้ไม่ได้เห็นหน้านานมาก เห็นในจอแล้วก็ยังงงว่าคนเดียวกันหรอ ฮ่าๆๆ)ปรากฏในจอ
ผมรู้สึกตื่นเต้นและลุ้นตามไปกับเรื่อง เพราะเข้าไปแบบไม่รู้เรื่องย่อ หรือเนื้อเรื่องมาก่อนเลยว่าจะมาประมาณใด พูดง่ายๆ คือเดาทางไม่ออก เพราะดูไปๆ จะเกิดคำถามตลอดว่าคนนี้คือใคร ต้องการอะไร ทำไปทำไม อะไรแบบนี้ครับ ก็เลยทำให้เกิดความรู้สึกร่วมไปกับหนังได้ง่าย
ผมชอบเสียงดนตรีประกอบหนัง ที่ยังคงให้ความรู้สึกถึงความคลาสสิค ความเป็น star wars อยู่ แม้บางช่วงจะมีเสียงดนตรีให้นึกถึง super man ก็ตาม
นักแสดงรุ่นใหม่ อย่าง Adam Driver ที่รับบทเป็น Kylo Ren John Boyega รับบทเป็น Finn นี่ก็ถือว่าไม่ด้อยเลย แต่ที่ทำให้ประทับใจสุดๆ ก็เห็นจะเป็นตัวเอกของเรื่องอย่าง Daisy Ridley ที่รับบทเป็น Rey ที่เห็นหน้าเต็มในจอครั้งแรกก็ทึ่งกับความน่ารัก ยิ่งดูจนจบยิ่งประทับใจเพราะฉากดราม่านางก็เอาอยู่จริงๆ
บอกได้คำเดียวว่าอิ่มจริงๆ ก่อนหน้านี้ผมก็แอบแปลกใจคะแนนที่คนเข้าไปดูรอบปฐมทัศน์ ให้คะแนนเต็ม 10 กันมาก ตอนนี้คะแนนส่วนใหญ่ก็สูง อย่าง IMDB เองค่าเฉลี่ยก็อยู่ที่ 9 พอได้ดูแล้วถึงเข้าใจและไม่แปลกใจเลยจริงๆ ผมขอลุกขึ้นปรบมือให้เลยครับ...
Link :
www.facebook.com/movie365
[CR] Star Wars: Episode VII : The Force Awakens
Star Wars: Episode VII : The Force Awakens
review by Ake คะแนนให้ 10/10
ผมจำได้ว่า Star Wars ภาคแรกที่ได้ดูน่าจะเป็นภาค Star Wars II: Attack of the Clones ในปี 2002 เป็นภาคของอนาคินตอนเด็ก ยอมรับว่าตอนนั้นที่ดูก็ยังเป็นวัยรุ่นอยู่มาก ดูเพราะขึ้นชื่อว่า Star Wars แต่ก็ไม่ได้ประทับอะไรมาก จนกระทั่งได้ดู ภาค 3 Star Wars III: Revenge of the Sith (2005) ตอนนั้นก็เพิ่งจะรู้ว่า ออ อนาคิ สกายวอล์คเกอร์ ก็คือดาร์ธ เวเดอร์นั่นเอง และยิ่งทำให้สนใจ star war มากขึ้น ก็เริ่มหา ภาค 1 : The Phantom Menace (1999) และก็ไล่เรียง ภาค 4 : A New Hope (1977) ภาค 5 : Empire Strike Back (1980) ภาค 6 : Return of the Jedi (1983) ตามมา บอกตามตรงสำหรับผม ไม่ค่อยอินเท่าไร แต่ก็ทราบเรื่องราวเหตุการณ์และเส้นเรื่องของภาพยนตร์เรื่องนี้บ้าง พอสมควร...
จากภาคที่ผมประทับใจที่สุด คือภาค 2-3 ภาคของอนาคินที่ชอบเพราะคิดว่าตัวเองเริ่มอินกับการมองโลกเรื่อง ดี-เลว อะไรทำนองนี้ จากภาคสุดท้ายก่อนถึงภาคล่าสุดนี้ ก็ห่างหายไปเป็น 10 ปี ด้วยระยะเวลาขนาดนี้ ถือได้ว่าเป็นระยะเวลาของการเปลี่ยนผ่านช่วงชีวิตของคนกันเลยทีเดียว จากเด็กสู่วัยรุ่น จากวัยรุ่นสู่วัยทำงาน จากวัยทำงานสู่วัยกลางคน วัยกลางคนสู่วัยชรา... สำหรับตัวเองนั้นก็จากวัยรุ่นสู่วัยผู้ใหญ่
แต่พอได้มาดู Star Wars : The Force Awakens แล้ว มันทำให้ความรู้สึกเก่าๆ ตอนที่ประทับใจ Star Wars ในภาคต้นๆ มาดู แม้ผมจะไม่ใช่สาวกหรือแฟนพันธุ์แท้ของ star wars ก็ตาม
ผมยิ้มตอนที่ได้เห็นลุงฮาน โซโล (Harrison Ford) เห็น เจ้าหญิงเลอา (Carrie Fisher-คนนี้นั่งนึกตั้งนานว่าใคร) เห็นลุคสกายวอร์คเกอร์ (Mark Hamill-คนนี้ไม่ได้เห็นหน้านานมาก เห็นในจอแล้วก็ยังงงว่าคนเดียวกันหรอ ฮ่าๆๆ)ปรากฏในจอ
ผมรู้สึกตื่นเต้นและลุ้นตามไปกับเรื่อง เพราะเข้าไปแบบไม่รู้เรื่องย่อ หรือเนื้อเรื่องมาก่อนเลยว่าจะมาประมาณใด พูดง่ายๆ คือเดาทางไม่ออก เพราะดูไปๆ จะเกิดคำถามตลอดว่าคนนี้คือใคร ต้องการอะไร ทำไปทำไม อะไรแบบนี้ครับ ก็เลยทำให้เกิดความรู้สึกร่วมไปกับหนังได้ง่าย
ผมชอบเสียงดนตรีประกอบหนัง ที่ยังคงให้ความรู้สึกถึงความคลาสสิค ความเป็น star wars อยู่ แม้บางช่วงจะมีเสียงดนตรีให้นึกถึง super man ก็ตาม
นักแสดงรุ่นใหม่ อย่าง Adam Driver ที่รับบทเป็น Kylo Ren John Boyega รับบทเป็น Finn นี่ก็ถือว่าไม่ด้อยเลย แต่ที่ทำให้ประทับใจสุดๆ ก็เห็นจะเป็นตัวเอกของเรื่องอย่าง Daisy Ridley ที่รับบทเป็น Rey ที่เห็นหน้าเต็มในจอครั้งแรกก็ทึ่งกับความน่ารัก ยิ่งดูจนจบยิ่งประทับใจเพราะฉากดราม่านางก็เอาอยู่จริงๆ
บอกได้คำเดียวว่าอิ่มจริงๆ ก่อนหน้านี้ผมก็แอบแปลกใจคะแนนที่คนเข้าไปดูรอบปฐมทัศน์ ให้คะแนนเต็ม 10 กันมาก ตอนนี้คะแนนส่วนใหญ่ก็สูง อย่าง IMDB เองค่าเฉลี่ยก็อยู่ที่ 9 พอได้ดูแล้วถึงเข้าใจและไม่แปลกใจเลยจริงๆ ผมขอลุกขึ้นปรบมือให้เลยครับ...
Link : www.facebook.com/movie365