ทำไมต้องพม่า....
เริ่มจากความอยากจะเปรี้ยวด้วยการ back pack เที่ยวต่างประเทศกับเค้าบ้าง หลังจากศึกษาหลากหลายประเทศที่เป็นจุดหมายในฝันของใครหลายคน แต่สุดท้ายสรุปลงที่พม่าเนื่องด้วยหลากหลายสาเหตุ อันดับแรกเลยคืออยากไปไหว้พระตามรอยศรัทธาของเราๆชาวพุทธ ต่อมาก็เรื่องภาษาเอาแบบงูๆ ปลาๆ แต่ยังมีชีวิตรอดและอิ่มท้องแบบไม่ต้องเมื่อยมือสื่อสารกันมากมาย สุดท้ายก็เงินทุนในกระเป๋าเนื่องด้วยเป็นทริปแบกกระเป๋าออกนอกประเทศครั้งแรกเลยอยากซ้อมแบบเบาๆ ลองคำนวณทั้งค่าตั๋ว ที่พักและการเดินทางรับรองทริปนี้กินอิ่มนอนหลับแน่นอนในงบ 10,000บาทสำหรับ 2คน
Day 1 : ตัวเมืองย่างกุ้ง วัดพระหินขาว ช้างเผือกเมืองพม่า วัดชเวตอเมียต วัดงาทัตจี วัดเจ๊าทัตจี เจดีย์โบตะตาว เทพทันใจ เจดีย์ชเวดากอง
Day 2 : เมืองหงสา(พะโค) พระธาตุมุเตา พระนอนชเวตาเลียง เจดีย์ไจ๊ก์ปุ่น(พระสี่ทิศ) พระมหาเจดีย์ พระนอนนองดาวจี มย่ะตาเลียง เดินทางสู่พระธาตุอินทร์แขวน <<
http://ppantip.com/topic/34574444 >>
Day 3 : พระธาตุอินทร์แขวน เดินทางกลับประเทศไทย และรวมค่าใช้จ่าย <<
http://ppantip.com/topic/34576969 >>
และฝากติดตามรีวิวได้ที่
https://wearetreat.wordpress.com/ ขอบคุณค่ะ
เตรียมตัวเดินทางกันดีกว่า…….
เริ่มต้นจากตั๋วเครื่องบิน ได้โปรหางแดงแบบไปกลับเบ็ดเสร็จคนละ 1,430บาทถ้วน จองกันไม่ถึงกับข้ามปีแต่ก็ข้ามอยู่หลายเดือนเนื่องจากจองต้นปีบินจริงเกือบสิ้นปีแต่มิใช่ปัญหา แถมพอใกล้เดินทางก็ได้ยินข่าวดีว่าฟรีวีซ่า (ทุ่นเงินไปอีก 800กว่าบาทสบายกระเป๋า)
ต่อมาก็ได้เวลาหาข้อมูล เรื่องการเดินทางเพราะทริปนี้เราตั้งใจจะไปให้ถึงพระธาตุอินทร์แขวน เรื่องต่อรถจึงเป็นเรื่องที่ขอมั่นใจไว้ก่อนเนื่องจากเวลาและที่พักที่ตั้งใจจะจองกันไว้ตั้งแต่ที่นี่ โรงแรมนี่ไม่ยากรีวิวช่วยให้เห็นสภาพจริงได้มาก ลงมือจองให้เสร็จเรียบร้อยเพื่อความสบายใจว่ามีที่นอนแน่
แลกเงิน พม่าใช้เงินสกุลจ๊าด( Kyats) แต่ไปแลกที่สนามบินย่างกุ้ง เราแลกเอาเงินดอลลาร์เผื่อเหลือเผื่อขาดสักนิด เราแลกไป 250ดอลลาร์ (แปลงกลับเป็นเงินไทยได้ 8,xxx) อันนี้คิดเผื่อเหลือเผื่อขาดไว้พอควรเนื่องจากยังไม่แน่ใจเรื่องการเดินทาง แรกเริ่มตั้งใจจะเดินมากๆนั่งรถน้อยๆ แต่ก็ไม่แน่อาจจะเปลี่ยนใจโบกแท็กซี่ก็เป็นได้
วันเดินทาง
ตอนลงมือจองเลือกเวลาบินตอน 11:10 ไปถึงประมาณเที่ยง มีผิดแผนนิดหน่อยเมื่อหางแดงเมลมาเลื่อนไฟร์ท วันจริงเลยได้บินบินหางแดง FD255 เวลา 12:05 จากจะถึงตอนเที่ยงเลยเลื่อนออกไปเป็นบ่าย คนจัดตารางเลยเริ่มสับสนนิดหน่อยเพราะกลัวไม่ทันเวลาที่จะเก็บเกี่ยวย่างกุ้งให้ครบทุกที่ เดี๋ยวลองดูกันว่าจะทันไม่ทัน
...........สนามบินย่างกุ้ง ลงเครื่องแล้วอย่าลืมปรับเวลา ที่นี่ช้ากว่าบ้านเรา 30นาที ผ่านด่านตม.เข้ามาก็เตรียมแลกเงิน เตรียมเป็นเศรษฐีเงินแสนกันได้เลย สามารถแลกเงินที่สนามบินได้เลย จากด้านในเดินเลยที่รับกระเป๋ามานิดเดียวได้เรท 1,275 จ๊าด/ดอลลาร์ เราแลกที่ Myanma foreign trade bank ข้อกำหนดคือ 1passsport แลกได้ 100 ดอลลาร์ สรุปแลกไป 120 ดอลลาร์ได้มา 153,000จ๊าด เสร็จสิ้นการแลกเงิน แนะนำให้ถือเงินดอลลาร์ไว้บ้างเวลาสะดวกเสียค่าเข้าสถานที่ต่างๆ ค่ารถ ค่าโรงแรมใช้ได้หมดจะได้ไม่ต้องถือเงินแสนให้ปวดหัว คิดจากเรทแล้วใช้เงินดอลลาร์จะถูกกว่าจ่ายเงินจ๊าดเล็กน้อย ภารกิจต่อไปคือ ซิมโทรศัพท์
หลังจากเลือกอยู่นาน อ่านอยู่เยอะจากหลากหลายรีวิว แต่หาข้อมูลไม่ได้เลยตกลงใจที่ ooredoo ราคา 8,000 จ๊าด ได้เนต 1.35Gb ใช้ได้ 30วัน ซุ้มนี้เดินออกมาจากประตูผู้โดยสารขาเข้าก็จะเจอ ตกลงใจได้ก็ยื่นโทรศัพท์ให้เค้าจัดการเปลี่ยนซิมและตั้งค่าโทรศัพท์ โทรยืนยันการเปิดใช้งานให้เรียบร้อยจนใช้ได้แล้วจึงกล่าวอำลา สบายใจไม่ขาดการสื่อสารกับทางบ้านแน่นอน
ราคา sim card+package
550 Mb + sim card = 4,300 kyats
1.35 Gb + sim card = 8,000 kyats
2.5 Gb + sim card = 13,000 kyats
5.5 Gb + sim card = 26,500 kyats
..........พอพ้นประตูออกมาเราก็จะเจอกับพี่แท็กซี่ที่จะเข้ามามะรุมมะตุ้มแต่แทนที่จะถามว่าจะไปไหนกลับถามว่ามาจากไหน ตอบไปว่า Thailand เท่านั้นเราจะได้ยินตอบกลับมาว่าสวัสดีกันใหญ่ เชื่อละว่าคนไทยมาเยอะจริงๆ เนื่องจากวางแผนมาว่าจะเข้าเมืองโดยแท๊กซี่หลังจากต่อราคาและเอาชื่อโรงแรมให้ดูก็ได้เจ้านี้ที่เสนอว่ารู้จักโรงแรมนี้ เริ่มด้วยราคา 8,000จ๊าด แต่เท่าที่อ่านมาหลายคนบอกว่าเค้าบอกมาเท่าไหร่ให้ต่อไว้ก่อน หลังจากต่อกันไปมาสรุปที่ราคา 7,000จ๊าด ไอ้เราก็โอเคไปก็ไปบ่ายมากแล้ว พอขึ้นรถปั๊บเปิดแอร์เรียบร้อย ปฎิบัติการเกลี้ยกล่อมก็เริ่มขึ้น เริ่มจากทริปนี้มากี่วัน ไปไหนบ้าง จะไปยังไง พักที่ไหน บลา บลา บลา..... หลังจากลงมือกล่อมอยู่นานสรุปเลยตกลงที่ one day trip สำหรับย่างกุ้ง ในราคา 45ดอลลาร์ ไปทุกที่ที่อยากไปสุดท้ายส่งลงโรงแรมเป็นอันจบพิธี......
..........เนื่องจากใกล้สนามบิน เราจึงไปวัดพระหินขาวเป็นที่แรก ค่าเข้า $3 ข้อแนะนำเพื่อความสะดวกรวดเร็วนะคะ ควรเตรียมรองเท้าแตะมาด้วยจะดีมากเพราะเราต้องถอดรองเท้าตั้งแต่ประตูวัด ทุกวัดเลยจ้า
วัดพระหินขาวหรือที่มีชื่อเรียกอย่างทางการว่า “ Lawka Chantha AbayaLabamuni Buddha Image ” พระหินขาวนี้สร้างจากหินขาวที่มีลักษณะมันวาว สีขาวสะอาดและไม่มีตำหนิ สูง 37 ฟุต กว้าง 24 ฟุต หนัก 600 ตัน เป็นพระพุทธรูปประทับนั่ง พระหัตถ์ขวาบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากสิงคโปร์ และศรีลังกายกขึ้นหันฝ่าพระหัตถ์ออกจากองค์ หมายถึงการไล่ศัตรูและประทานความเจริญรุ่งเรือง นอกจากนี้ยังมีการนำหินที่เหลือมาสลักเป็นพระพุทธบาทซ้าย-ขวา ประดิษฐานอยู่ บริเวณด้านหลังพระพุทธรูปด้วย ( cr.
http://www.lib.ru.ac.th/journal2/10-%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%95/)
ออกจากวัดเราก็ไปดูช้างเผือกเมืองพม่า ซึ่งอยู่ใกล้กันกับวัดหินขาว
......มาต่อกันที่วัดชเวตอเมียตหรือวัดพระเขี้ยวแก้วจุฬามณี เป็นที่ประดิษฐานพระเขี้ยวแก้วจำลอง
เสียค่าเข้าคนละ $2
ออกจากวัดพระเขี้ยวแก้ว ไปต่อกันที่วัดงาทัตจี Nga Htat Gyi เป็นวัดที่ประดิษฐานพระพุทธรูปทรงเครื่ององค์ใหญ่ที่สุดในโลก เอาแบบมาจากพระพุทธรูปทรงเครื่องศิลปปะมัณฑเลย์
เที่ยวกันต่อที่วัดเจ๊าทัตจีหรือพระตาหวาน หวานจริงๆ ทา eyes shadow สีฟ้า ขนตางอนเป็นแพ เลยค่ะ ^_^
ระหว่างทาง เห็นแล้วท้องเริ่มร้องเนื่องจากลงเครื่องมาก็เที่ยวเลย ข้าวกลางวันนี่ลืมไปเลยกลัวเสียเวลาเที่ยว ดีที่พกขนมมาด้วยนั่งขบเคี้ยวไปตลอดทางพอรองท้องได้บ้าง
ร้านข้างทาง จะมีร้านนั่งกินกาแฟหรือน้ำชา คนพม่านั่งกันได้ทั้งวัน สโลว์ไลฟ์กันน่าดู
เหนื่อมาทั้งวันได้เวลาเข้าที่พัก เราพักโรงแรม 30th Corner เป็นโฮสเทลห้องน้ำรวมที่ค่อนข้างใหม่ อยู่ในย่านเมืองเพราะใกล้เจดีย์สุเล ของกินหาไม่ยากเดินทางสะดวก เห็นทางขึ้นอาจจะดูไม่น่าพักแต่ในห้องถือว่าสะอาด แอร์เย็น น้ำดื่มสามารถหยิบได้ตลอดมีแช่ไว้ให้ที่ล็อบบี้ ส่วนน้ำร้อนจะมีกาเสียบปลั๊กไว้บริการตลอดคืน ข้อเสียอย่างเดียวของที่นี่คือ ผนังบางและอยู่ใกล้ถนน ติดตลาด ทำให้แทบทั้งคืนจะได้ยินเสียงแตรรถ เสียงคนข้างห้องกลับดึก เสียงคนคุยกันตามทางเดิน (รู้ว่ามีคนไทยพักก็เพราะเสียงจากด้านนอกนี่แล) สำหรับคนหลับยากอาจจะเพลียสักหน่อย ราคาห้องพักอยู่ที่ 36ดอลลาร์
ฝั่งตรงข้ามโรงแรมจะเป็นร้านอาหาร ท่าทางจะอร่อยดูคนเยอะดี แต่ไม่ได้ไปกินนะคะ
พอเข้ามาเจอ reception ยิ้มแฉ่งหน้าบานอยู่ค่ะ
ห้องพักเดินขึ้นจากที่ต้อนรับก็จะเจอเคาท์เตอร์มีน้ำร้อนไว้บริการ ไดร์เป่าผมก็มีให้ยืม ดึกๆก็จะมีพนักงานนอนอยู่ด้านในเผื่อมีอะไรสามารถเรียกได้ทันที
ห้องน้ำจะแบ่งชาย หญิง มีห้องอาบน้ำ 2ห้องกับห้องสุขา 2ห้อง อ่างล้างหน้าอยู่ข้างนอกพร้อมกระจกบานใหญ่ ห้องน้ำสะอาด ไม่ต้องรอนาน
เปิดประตูเข้ามาจะเจอเตียง มีทีวีติดผนังเพียงแต่ไม่มีเวลาจะเปิดดู มีตู้ให้วางเสื้อผ้าอยู่ปลายเตียง ผ้าเช็ดตัวคนละผืนเป็นอันจบ
ปลั๊กไฟไม่ใช่ปัญหาสำหรับเราคนไทย เราพกปลั๊ก 3ตาไปด้วยตกกลางคืนชาร์จทุกอย่างที่มี เช้ามาออกเที่ยวอย่างสบายใจ
[CR] ++Review++Backpack "Myanmar nice to meet you" เที่ยวพม่า 3 วัน 2 คืน (ย่างกุ้ง พะโค พระธาตุอินทร์แขวน ) Part 1
ทำไมต้องพม่า....
เริ่มจากความอยากจะเปรี้ยวด้วยการ back pack เที่ยวต่างประเทศกับเค้าบ้าง หลังจากศึกษาหลากหลายประเทศที่เป็นจุดหมายในฝันของใครหลายคน แต่สุดท้ายสรุปลงที่พม่าเนื่องด้วยหลากหลายสาเหตุ อันดับแรกเลยคืออยากไปไหว้พระตามรอยศรัทธาของเราๆชาวพุทธ ต่อมาก็เรื่องภาษาเอาแบบงูๆ ปลาๆ แต่ยังมีชีวิตรอดและอิ่มท้องแบบไม่ต้องเมื่อยมือสื่อสารกันมากมาย สุดท้ายก็เงินทุนในกระเป๋าเนื่องด้วยเป็นทริปแบกกระเป๋าออกนอกประเทศครั้งแรกเลยอยากซ้อมแบบเบาๆ ลองคำนวณทั้งค่าตั๋ว ที่พักและการเดินทางรับรองทริปนี้กินอิ่มนอนหลับแน่นอนในงบ 10,000บาทสำหรับ 2คน
Day 1 : ตัวเมืองย่างกุ้ง วัดพระหินขาว ช้างเผือกเมืองพม่า วัดชเวตอเมียต วัดงาทัตจี วัดเจ๊าทัตจี เจดีย์โบตะตาว เทพทันใจ เจดีย์ชเวดากอง
Day 2 : เมืองหงสา(พะโค) พระธาตุมุเตา พระนอนชเวตาเลียง เจดีย์ไจ๊ก์ปุ่น(พระสี่ทิศ) พระมหาเจดีย์ พระนอนนองดาวจี มย่ะตาเลียง เดินทางสู่พระธาตุอินทร์แขวน << http://ppantip.com/topic/34574444 >>
Day 3 : พระธาตุอินทร์แขวน เดินทางกลับประเทศไทย และรวมค่าใช้จ่าย << http://ppantip.com/topic/34576969 >>
และฝากติดตามรีวิวได้ที่ https://wearetreat.wordpress.com/ ขอบคุณค่ะ
เตรียมตัวเดินทางกันดีกว่า…….
เริ่มต้นจากตั๋วเครื่องบิน ได้โปรหางแดงแบบไปกลับเบ็ดเสร็จคนละ 1,430บาทถ้วน จองกันไม่ถึงกับข้ามปีแต่ก็ข้ามอยู่หลายเดือนเนื่องจากจองต้นปีบินจริงเกือบสิ้นปีแต่มิใช่ปัญหา แถมพอใกล้เดินทางก็ได้ยินข่าวดีว่าฟรีวีซ่า (ทุ่นเงินไปอีก 800กว่าบาทสบายกระเป๋า)
ต่อมาก็ได้เวลาหาข้อมูล เรื่องการเดินทางเพราะทริปนี้เราตั้งใจจะไปให้ถึงพระธาตุอินทร์แขวน เรื่องต่อรถจึงเป็นเรื่องที่ขอมั่นใจไว้ก่อนเนื่องจากเวลาและที่พักที่ตั้งใจจะจองกันไว้ตั้งแต่ที่นี่ โรงแรมนี่ไม่ยากรีวิวช่วยให้เห็นสภาพจริงได้มาก ลงมือจองให้เสร็จเรียบร้อยเพื่อความสบายใจว่ามีที่นอนแน่
แลกเงิน พม่าใช้เงินสกุลจ๊าด( Kyats) แต่ไปแลกที่สนามบินย่างกุ้ง เราแลกเอาเงินดอลลาร์เผื่อเหลือเผื่อขาดสักนิด เราแลกไป 250ดอลลาร์ (แปลงกลับเป็นเงินไทยได้ 8,xxx) อันนี้คิดเผื่อเหลือเผื่อขาดไว้พอควรเนื่องจากยังไม่แน่ใจเรื่องการเดินทาง แรกเริ่มตั้งใจจะเดินมากๆนั่งรถน้อยๆ แต่ก็ไม่แน่อาจจะเปลี่ยนใจโบกแท็กซี่ก็เป็นได้
วันเดินทาง
ตอนลงมือจองเลือกเวลาบินตอน 11:10 ไปถึงประมาณเที่ยง มีผิดแผนนิดหน่อยเมื่อหางแดงเมลมาเลื่อนไฟร์ท วันจริงเลยได้บินบินหางแดง FD255 เวลา 12:05 จากจะถึงตอนเที่ยงเลยเลื่อนออกไปเป็นบ่าย คนจัดตารางเลยเริ่มสับสนนิดหน่อยเพราะกลัวไม่ทันเวลาที่จะเก็บเกี่ยวย่างกุ้งให้ครบทุกที่ เดี๋ยวลองดูกันว่าจะทันไม่ทัน
...........สนามบินย่างกุ้ง ลงเครื่องแล้วอย่าลืมปรับเวลา ที่นี่ช้ากว่าบ้านเรา 30นาที ผ่านด่านตม.เข้ามาก็เตรียมแลกเงิน เตรียมเป็นเศรษฐีเงินแสนกันได้เลย สามารถแลกเงินที่สนามบินได้เลย จากด้านในเดินเลยที่รับกระเป๋ามานิดเดียวได้เรท 1,275 จ๊าด/ดอลลาร์ เราแลกที่ Myanma foreign trade bank ข้อกำหนดคือ 1passsport แลกได้ 100 ดอลลาร์ สรุปแลกไป 120 ดอลลาร์ได้มา 153,000จ๊าด เสร็จสิ้นการแลกเงิน แนะนำให้ถือเงินดอลลาร์ไว้บ้างเวลาสะดวกเสียค่าเข้าสถานที่ต่างๆ ค่ารถ ค่าโรงแรมใช้ได้หมดจะได้ไม่ต้องถือเงินแสนให้ปวดหัว คิดจากเรทแล้วใช้เงินดอลลาร์จะถูกกว่าจ่ายเงินจ๊าดเล็กน้อย ภารกิจต่อไปคือ ซิมโทรศัพท์
หลังจากเลือกอยู่นาน อ่านอยู่เยอะจากหลากหลายรีวิว แต่หาข้อมูลไม่ได้เลยตกลงใจที่ ooredoo ราคา 8,000 จ๊าด ได้เนต 1.35Gb ใช้ได้ 30วัน ซุ้มนี้เดินออกมาจากประตูผู้โดยสารขาเข้าก็จะเจอ ตกลงใจได้ก็ยื่นโทรศัพท์ให้เค้าจัดการเปลี่ยนซิมและตั้งค่าโทรศัพท์ โทรยืนยันการเปิดใช้งานให้เรียบร้อยจนใช้ได้แล้วจึงกล่าวอำลา สบายใจไม่ขาดการสื่อสารกับทางบ้านแน่นอน
ราคา sim card+package
550 Mb + sim card = 4,300 kyats
1.35 Gb + sim card = 8,000 kyats
2.5 Gb + sim card = 13,000 kyats
5.5 Gb + sim card = 26,500 kyats
..........พอพ้นประตูออกมาเราก็จะเจอกับพี่แท็กซี่ที่จะเข้ามามะรุมมะตุ้มแต่แทนที่จะถามว่าจะไปไหนกลับถามว่ามาจากไหน ตอบไปว่า Thailand เท่านั้นเราจะได้ยินตอบกลับมาว่าสวัสดีกันใหญ่ เชื่อละว่าคนไทยมาเยอะจริงๆ เนื่องจากวางแผนมาว่าจะเข้าเมืองโดยแท๊กซี่หลังจากต่อราคาและเอาชื่อโรงแรมให้ดูก็ได้เจ้านี้ที่เสนอว่ารู้จักโรงแรมนี้ เริ่มด้วยราคา 8,000จ๊าด แต่เท่าที่อ่านมาหลายคนบอกว่าเค้าบอกมาเท่าไหร่ให้ต่อไว้ก่อน หลังจากต่อกันไปมาสรุปที่ราคา 7,000จ๊าด ไอ้เราก็โอเคไปก็ไปบ่ายมากแล้ว พอขึ้นรถปั๊บเปิดแอร์เรียบร้อย ปฎิบัติการเกลี้ยกล่อมก็เริ่มขึ้น เริ่มจากทริปนี้มากี่วัน ไปไหนบ้าง จะไปยังไง พักที่ไหน บลา บลา บลา..... หลังจากลงมือกล่อมอยู่นานสรุปเลยตกลงที่ one day trip สำหรับย่างกุ้ง ในราคา 45ดอลลาร์ ไปทุกที่ที่อยากไปสุดท้ายส่งลงโรงแรมเป็นอันจบพิธี......
..........เนื่องจากใกล้สนามบิน เราจึงไปวัดพระหินขาวเป็นที่แรก ค่าเข้า $3 ข้อแนะนำเพื่อความสะดวกรวดเร็วนะคะ ควรเตรียมรองเท้าแตะมาด้วยจะดีมากเพราะเราต้องถอดรองเท้าตั้งแต่ประตูวัด ทุกวัดเลยจ้า
วัดพระหินขาวหรือที่มีชื่อเรียกอย่างทางการว่า “ Lawka Chantha AbayaLabamuni Buddha Image ” พระหินขาวนี้สร้างจากหินขาวที่มีลักษณะมันวาว สีขาวสะอาดและไม่มีตำหนิ สูง 37 ฟุต กว้าง 24 ฟุต หนัก 600 ตัน เป็นพระพุทธรูปประทับนั่ง พระหัตถ์ขวาบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากสิงคโปร์ และศรีลังกายกขึ้นหันฝ่าพระหัตถ์ออกจากองค์ หมายถึงการไล่ศัตรูและประทานความเจริญรุ่งเรือง นอกจากนี้ยังมีการนำหินที่เหลือมาสลักเป็นพระพุทธบาทซ้าย-ขวา ประดิษฐานอยู่ บริเวณด้านหลังพระพุทธรูปด้วย ( cr.http://www.lib.ru.ac.th/journal2/10-%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%95/)
ออกจากวัดเราก็ไปดูช้างเผือกเมืองพม่า ซึ่งอยู่ใกล้กันกับวัดหินขาว
......มาต่อกันที่วัดชเวตอเมียตหรือวัดพระเขี้ยวแก้วจุฬามณี เป็นที่ประดิษฐานพระเขี้ยวแก้วจำลอง
เสียค่าเข้าคนละ $2
ออกจากวัดพระเขี้ยวแก้ว ไปต่อกันที่วัดงาทัตจี Nga Htat Gyi เป็นวัดที่ประดิษฐานพระพุทธรูปทรงเครื่ององค์ใหญ่ที่สุดในโลก เอาแบบมาจากพระพุทธรูปทรงเครื่องศิลปปะมัณฑเลย์
เที่ยวกันต่อที่วัดเจ๊าทัตจีหรือพระตาหวาน หวานจริงๆ ทา eyes shadow สีฟ้า ขนตางอนเป็นแพ เลยค่ะ ^_^
ระหว่างทาง เห็นแล้วท้องเริ่มร้องเนื่องจากลงเครื่องมาก็เที่ยวเลย ข้าวกลางวันนี่ลืมไปเลยกลัวเสียเวลาเที่ยว ดีที่พกขนมมาด้วยนั่งขบเคี้ยวไปตลอดทางพอรองท้องได้บ้าง
ร้านข้างทาง จะมีร้านนั่งกินกาแฟหรือน้ำชา คนพม่านั่งกันได้ทั้งวัน สโลว์ไลฟ์กันน่าดู
เหนื่อมาทั้งวันได้เวลาเข้าที่พัก เราพักโรงแรม 30th Corner เป็นโฮสเทลห้องน้ำรวมที่ค่อนข้างใหม่ อยู่ในย่านเมืองเพราะใกล้เจดีย์สุเล ของกินหาไม่ยากเดินทางสะดวก เห็นทางขึ้นอาจจะดูไม่น่าพักแต่ในห้องถือว่าสะอาด แอร์เย็น น้ำดื่มสามารถหยิบได้ตลอดมีแช่ไว้ให้ที่ล็อบบี้ ส่วนน้ำร้อนจะมีกาเสียบปลั๊กไว้บริการตลอดคืน ข้อเสียอย่างเดียวของที่นี่คือ ผนังบางและอยู่ใกล้ถนน ติดตลาด ทำให้แทบทั้งคืนจะได้ยินเสียงแตรรถ เสียงคนข้างห้องกลับดึก เสียงคนคุยกันตามทางเดิน (รู้ว่ามีคนไทยพักก็เพราะเสียงจากด้านนอกนี่แล) สำหรับคนหลับยากอาจจะเพลียสักหน่อย ราคาห้องพักอยู่ที่ 36ดอลลาร์
ฝั่งตรงข้ามโรงแรมจะเป็นร้านอาหาร ท่าทางจะอร่อยดูคนเยอะดี แต่ไม่ได้ไปกินนะคะ
พอเข้ามาเจอ reception ยิ้มแฉ่งหน้าบานอยู่ค่ะ
ห้องพักเดินขึ้นจากที่ต้อนรับก็จะเจอเคาท์เตอร์มีน้ำร้อนไว้บริการ ไดร์เป่าผมก็มีให้ยืม ดึกๆก็จะมีพนักงานนอนอยู่ด้านในเผื่อมีอะไรสามารถเรียกได้ทันที
ห้องน้ำจะแบ่งชาย หญิง มีห้องอาบน้ำ 2ห้องกับห้องสุขา 2ห้อง อ่างล้างหน้าอยู่ข้างนอกพร้อมกระจกบานใหญ่ ห้องน้ำสะอาด ไม่ต้องรอนาน
เปิดประตูเข้ามาจะเจอเตียง มีทีวีติดผนังเพียงแต่ไม่มีเวลาจะเปิดดู มีตู้ให้วางเสื้อผ้าอยู่ปลายเตียง ผ้าเช็ดตัวคนละผืนเป็นอันจบ
ปลั๊กไฟไม่ใช่ปัญหาสำหรับเราคนไทย เราพกปลั๊ก 3ตาไปด้วยตกกลางคืนชาร์จทุกอย่างที่มี เช้ามาออกเที่ยวอย่างสบายใจ