เคยมีโมสรไทยยืนเรื่องต่อศาลแล้วฟิฟ่าแจ้งเตือนมาให้ลงโทษแถมอาจจะลามถึงการแบนประเทศไทย

กระทู้ 30614878] คำแปลจดหมายตอบกลับของฟีฟ่าถึงสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย
ฟุตบอลไทย สโมสรฟุตบอลไทย ฟุตบอล
กระทู้สนทนา

โทรสาร
สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย
องอาจ ก่อสินค้า
เลขาธิการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย
ประเทศไทย

หมายเลขแฟกซ์ :
ซูริค, 17 มิถุนายน 2556
DSG/tre/jal

สถานการณ์ของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย

สวัสดี เลขาธิการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย
เราขออ้างถึงการที่จะมีประชุมสภาคณะกรรมการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ซึ่งตามกำหนดการจะจัดขึ้นในวันที่ 15 มิถุนายน 2013 ภายใต้การสังเกตการณ์ของฟีฟ่า และเอเอฟซี โดยเฉพาะเราจะอ้างถึงการนำเรื่องสู่กระบวนการทางศาลโดยสโมสรที่อยู่ในสังกัดสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยต่อศาลปกครอง ซึ่งส่งผลให้ประชุมสภาคณะกรรมการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยเกิดขึ้นไม่ได้

คุณต้องรู้ว่า ตามมาตรา 13 หัวข้อที่ 1 ข้อย่อย g และมาตรา 17 หัวข้อที่ 1 ของ “กฏข้อบังคับของฟีฟ่า” สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยต้องดำเนินกิจกรรมอย่างอิสระ และปราศการยุ่งเกี่ยวจากบุคคลที่ 3 ยิ่งไปกว่านี้ ตามมาตรา 68 หัวข้อที่ 2 และ 3 ของ “กฏข้อบังคับของฟีฟ่า” การไปพึ่งพา “ศาลปกครอง” เป็นข้อห้ามในกฏทั่วไป และสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยควรลงโทษกลุ่มที่ไม่เคารพกฏที่กล่าวมา โดยตามการกระทำของพวกเขาที่ส่งเรื่องไปศาลปกครอง สโมสรได้ขัดขวางไม่ให้สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยทำงานได้อย่างอิสระ และทำลายการตัดสินใจที่จะสร้างคณะผู้บริหารของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการตรงกันข้ามกับข้อมผูกมัดข้างบน ในข้อความส่วนนั้นได้ระบุไว้ว่าสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยมีพันธะที่จะทำให้สมาชิกปฏิบัตตาม “กฏข้อบังคับของฟีฟ่า” ( อ้างถึง มาตรา 13 หัวข้อที่ 1 ข้อย่อย d ) เราขอร้องคุณอย่างสุดซึ่งที่จะยืนยันว่าสโมสรที่นำเรื่องไปยื่นแก่ศาลปกครองจะถอนฟ้อง

นอกจากนี้ โปรดจำไว้ด้วยว่าถ้าสโมสรที่นำเรื่องไปยื่นแก่ศาลปกครองไม่ถอนฟ้องก่อนวันที่ 24 มิถุนายน 2013 สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป คือ เราจะส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการฉุกเฉินของฟีฟ่าที่จะพิจารณาบทลงโทษแก่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่ซึ่งอาจจะเป็นการลงโทษระงับสภาพสมาชิกโดยทันที แน่นอนกว่า “การระงับสภาพสมาชิก” จะสูญเสียสิทธิ์ของสมาชิกตามมาตรา 12 หัวข้อที่ 1 ของ “กฏข้อบังคับของฟีฟ่า” ซึ่งจะส่งผลให้ทีมของไทยทั้งหมด (ทั้งทีมชาติและสโมสร) หมดสิทธิ์ลงแข่งขันเกมระดับนานาชาติที่ทำสัญญา หรือเป็นส่วนหนึ่งของฟีฟ่า และเอเอฟซี อีกทั้งยังหมายความว่าทั้งสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย, บรรดาสมาชิก และเจ้าหน้าที่ จะได้รับประโยชน์จากโปรแกรม, หลักสูตร, การฝึกสอนเพื่อพัฒนาวงการฟุตบอลของทั้งฟีฟ่า และเอเอฟซี ระหว่างที่ทีมถูกระงับสภาพสมาชิก

ท้ายที่สุดนี้ ได้โปรดระลึกไว้ด้วยว่า ข้อตกลงเกี่ยวกับการตัดสินใจของฟีฟ่าในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2013 สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยต้องลงมติยอมรับการแก้ไข “กฏข้อบังคับ” ของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย และเมื่อนั้นก็จัดการเลือกตั้งโดยที่ไม่ช้ากว่า 30 กันยายน 2013 การไม่ยอมที่จะปฏิบัติตามการตัดสินใจนี้ยังหมายถึงว่า “ผู้บริหารของฟีฟ่า” จะสามารถพิจารณาโทษได้

ขอแสดงความนับถือ
สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ
มาร์คุส แคทท์เนอร์
รักษาการเลขาธิการทั่วไป
@sara

http://www.thailandsusu.com/webboard/index.php?PHPSESSID=5659t9r89qe1u1vj7qkd99ffj0&/topic,364640.0.html