อลังการงานสร้างแล้วกับการประมูลคลื่น900
ล่าสุดราคาทะลุ 1 แสนล้าน แถมสงครามยังไม่จบ
จึงยังไม่รู้ว่าใครจะคว้าคลื่นไป
ที่ลุ้นไม่น้อยกว่าคนเข้าประมูลคือ
ผู้ถือหุ้นรายย่อยของทั้ง4บริษัท
เนื่องจากมีคำถามว่า
หากคลื่น900 แพงหูดับขนาดนี้
ถ้าบริษัทที่ตัวเองถือหุ้นชนะ
จะมีเงินจ่ายค่าคลื่นหรือ....ต้องเพิ่มทุนหรือไม่
คำตอบของคำถามข้างต้น
ต้องพิจารณาเงื่อนไขการจ่ายเงินและฐานะการเงินของบริษัทฯ
ก็คงบอกได้ลางๆ
(1) เงื่อนไขการจ่ายเงิน
ผู้ชนะต้องจ่ายเงินงวดแรก 8,040 ล้านบาท
งวด2-3 ก็เป็นจำนวนเงินคงที่
ซึ่งแตกต่างกับเงื่อนไขคลื่น1800 ที่ชำระ50%ของราคาประมูล
จึงเห็นว่าแม้ราคาคลื่นพุ่งทะลุฟ้า
แต่เงินงวดแรกก็ไม่เพิ่มขึ้นตามราคา
ทำให้ผู้ชนะไม่ต้องมีภาระการเงินใน 3 ปีแรกสูงเกินไป
อ่านเงื่อนไขการจ่ายเงินคลื่น900ตามลิงค์
http://goo.gl/DXfxOs
(2) ฐานะการเงินของบริษัทฯ
หากบริษัทมี EBITDA สูง , D/E ต่ำ และเงินสดเยอะ
โอกาสเพิ่มทุนจะน้อยลง เพราะมีเงินทุนมากเพียงพอ
เมื่อดูงบการเงิน 9M/2558 ของทั้ง4 บริษัทมีดังนี้
Advanc
- EBITDA : 54,026 ล้านบาท
- D/E : 2.43 เท่า
- เงินสด : 7,736.82 ล้านบาท
DTAC
- EBITDA : 20,825 ล้านบาท
- D/E : 3.28 เท่า
- เงินสด : 21,463 ล้านบาท
JAS
- EBITDA : 5,654 ล้านบาท
- D/E : 2.27 เท่า
- เงินสด : 8,747 ล้านบาท
**หมายเหตุ** EBITDA ของJAS ผมขอใช้ค่าเฉลี่ยของ 3 ปีย้อนหลัง (2557-2555) เนื่องจาก 9M/2558JASมีกำไรพิเศษจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนทำให้ EBITDA ณ ปัจจุบัน ไม่สะท้อนความเป็นจริง
True
- EBITDA : 20,719 ล้านบาท
- D/E : 2.22 เท่า
- เงินสด : 11,175.85 ล้านบาท
จากข้อมูลทั้งข้างต้น ผมมีความเห็นส่วนตัวดังนี้
ADVANC และ DTAC สตรองพอกัน
เพราะ ADVANCธุรกิจสร้างเงินสดมากที่สุด และเพียงพอต่อการจ่ายค่าใบอนุญาตงวดแรกทั้ง 1800และ900
ส่วน DTAC มีเงินสดมากและไม่มีภาระจ่ายค่าใบอนุญาตคลื่น1800
ทำให้ 2 บริษัทนี้มีความเสี่ยงน้อยที่ต้องเพิ่มทุนหากชนะประมูล
True ลุ้นนิดๆ เพราะต้องจ่ายค่าใบอนุญาต1800 ด้วย
JAS เสียวสุดครับ เพราะ ธุรกิจสร้างเงินสดได้น้อยกว่าเพิ่อน
แถมการเป็นน้องใหม่ในธุรกิจมือ
JAS ต้องลงทุนค่าอุปกรณ์และดำเนินการอีกมาก เพื่อไล่กวด 3 เจ้าเดิมให้ทัน
อีกทั้งเงื่อนไขของผู้ชนะคลื่น 900 คลื่น มีว่า
ราคาค่าบริการต้องถูกกว่า 3Gในปัจจุบัน
ดังนั้นการหวังว่าจะเข้ามาโกยรายได้เป็นกอบเป็นกำนั้น เลิกคิดได้เลย
JASจึงต้องคิดหนักว่า หากชนะประมูลคลื่น 900 จริงๆ
จะหาเงินสดจากไหน มาใช้ในการทำธุรกิจ
สรุป เงื่อนไขการชำระเงินของคลื่น 900 ที่เป็นจำนวนคงที่
ทำให้ผู้ชนะไม่ต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายงวดแรกมากเกินไป
โดย ADVANC และ DTAC มีโอกาสเพิ่มทุนน้อย เพราะมีฐานะการเงินดี
ส่วนอีก 2 บริษัท ก็ต้องลุ้นกันต่อไปครับ
อย่างไรก็ตาม บทความข้างต้น เป็นความเห็นส่วนตัวของผมเท่านั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง นักลงทุนโปรดพิจารณารอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน
พูดคุยกับผมได้ที่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/stockforlife/
ขอบคุณครับ
ท็อป
บทความ : คลื่น900 แพงขนาดนี้ ต้องเพิ่มทุนไหม ??
อลังการงานสร้างแล้วกับการประมูลคลื่น900
ล่าสุดราคาทะลุ 1 แสนล้าน แถมสงครามยังไม่จบ
จึงยังไม่รู้ว่าใครจะคว้าคลื่นไป
ที่ลุ้นไม่น้อยกว่าคนเข้าประมูลคือ
ผู้ถือหุ้นรายย่อยของทั้ง4บริษัท
เนื่องจากมีคำถามว่า
หากคลื่น900 แพงหูดับขนาดนี้
ถ้าบริษัทที่ตัวเองถือหุ้นชนะ
จะมีเงินจ่ายค่าคลื่นหรือ....ต้องเพิ่มทุนหรือไม่
คำตอบของคำถามข้างต้น
ต้องพิจารณาเงื่อนไขการจ่ายเงินและฐานะการเงินของบริษัทฯ
ก็คงบอกได้ลางๆ
(1) เงื่อนไขการจ่ายเงิน
ผู้ชนะต้องจ่ายเงินงวดแรก 8,040 ล้านบาท
งวด2-3 ก็เป็นจำนวนเงินคงที่
ซึ่งแตกต่างกับเงื่อนไขคลื่น1800 ที่ชำระ50%ของราคาประมูล
จึงเห็นว่าแม้ราคาคลื่นพุ่งทะลุฟ้า
แต่เงินงวดแรกก็ไม่เพิ่มขึ้นตามราคา
ทำให้ผู้ชนะไม่ต้องมีภาระการเงินใน 3 ปีแรกสูงเกินไป
อ่านเงื่อนไขการจ่ายเงินคลื่น900ตามลิงค์ http://goo.gl/DXfxOs
(2) ฐานะการเงินของบริษัทฯ
หากบริษัทมี EBITDA สูง , D/E ต่ำ และเงินสดเยอะ
โอกาสเพิ่มทุนจะน้อยลง เพราะมีเงินทุนมากเพียงพอ
เมื่อดูงบการเงิน 9M/2558 ของทั้ง4 บริษัทมีดังนี้
Advanc
- EBITDA : 54,026 ล้านบาท
- D/E : 2.43 เท่า
- เงินสด : 7,736.82 ล้านบาท
DTAC
- EBITDA : 20,825 ล้านบาท
- D/E : 3.28 เท่า
- เงินสด : 21,463 ล้านบาท
JAS
- EBITDA : 5,654 ล้านบาท
- D/E : 2.27 เท่า
- เงินสด : 8,747 ล้านบาท
**หมายเหตุ** EBITDA ของJAS ผมขอใช้ค่าเฉลี่ยของ 3 ปีย้อนหลัง (2557-2555) เนื่องจาก 9M/2558JASมีกำไรพิเศษจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนทำให้ EBITDA ณ ปัจจุบัน ไม่สะท้อนความเป็นจริง
True
- EBITDA : 20,719 ล้านบาท
- D/E : 2.22 เท่า
- เงินสด : 11,175.85 ล้านบาท
จากข้อมูลทั้งข้างต้น ผมมีความเห็นส่วนตัวดังนี้
ADVANC และ DTAC สตรองพอกัน
เพราะ ADVANCธุรกิจสร้างเงินสดมากที่สุด และเพียงพอต่อการจ่ายค่าใบอนุญาตงวดแรกทั้ง 1800และ900
ส่วน DTAC มีเงินสดมากและไม่มีภาระจ่ายค่าใบอนุญาตคลื่น1800
ทำให้ 2 บริษัทนี้มีความเสี่ยงน้อยที่ต้องเพิ่มทุนหากชนะประมูล
True ลุ้นนิดๆ เพราะต้องจ่ายค่าใบอนุญาต1800 ด้วย
JAS เสียวสุดครับ เพราะ ธุรกิจสร้างเงินสดได้น้อยกว่าเพิ่อน
แถมการเป็นน้องใหม่ในธุรกิจมือ
JAS ต้องลงทุนค่าอุปกรณ์และดำเนินการอีกมาก เพื่อไล่กวด 3 เจ้าเดิมให้ทัน
อีกทั้งเงื่อนไขของผู้ชนะคลื่น 900 คลื่น มีว่า
ราคาค่าบริการต้องถูกกว่า 3Gในปัจจุบัน
ดังนั้นการหวังว่าจะเข้ามาโกยรายได้เป็นกอบเป็นกำนั้น เลิกคิดได้เลย
JASจึงต้องคิดหนักว่า หากชนะประมูลคลื่น 900 จริงๆ
จะหาเงินสดจากไหน มาใช้ในการทำธุรกิจ
สรุป เงื่อนไขการชำระเงินของคลื่น 900 ที่เป็นจำนวนคงที่
ทำให้ผู้ชนะไม่ต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายงวดแรกมากเกินไป
โดย ADVANC และ DTAC มีโอกาสเพิ่มทุนน้อย เพราะมีฐานะการเงินดี
ส่วนอีก 2 บริษัท ก็ต้องลุ้นกันต่อไปครับ
อย่างไรก็ตาม บทความข้างต้น เป็นความเห็นส่วนตัวของผมเท่านั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง นักลงทุนโปรดพิจารณารอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน
พูดคุยกับผมได้ที่ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ขอบคุณครับ
ท็อป