จังหวัดอุบลราชธานี จัดใหญ่สวดมนต์ข้ามปี อยู่ที่วัดปากน้ำ บุ่งสระพัง จ.อุบลฯ ซึ่งเป็นวัดประดิษฐานหลวงพ่อเงิน 700 ปี
อุบลฯ จัดใหญ่สวดมนต์ข้ามปี
๒๔๘๐ วัด จังหวัดอุบลราชธานี จัดใหญ่สวดมนต์ข้ามปี วิถีไทย วิถีพุทธ ในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ๒๕๕๘ โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่วัดปากน้ำ บุ่งสระพัง ตำบลกุดลาด อำเภอเมือง ซึ่งเป็นวัดประดิษฐานหลวงพ่อเงิน พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์สำคัญของชาวจังหวัดอุบลราชธานี
หลวงพ่อเงิน เป็นพระพุทธรูปเงินปางมารวิชัย ศิลปะเชียงแสนล้านช้าง พระบาทเบื้องขวามีรอยตราธรรมจักรประทับอยู่ คาดว่ามีอายุกว่า ๗๐๐ ปี เป็นพระพุทธรูปประจำทัพค่ายดอนมดแดง ยุคแรกก่อตั้งเมืองอุบลราชธานีศรีวนาลัย ถูกขุดพบที่วัดป่าพระพิฆเณศวร์ เมื่อปี ๒๕๑๕ โดยการนิมิตของท่านเจ้าคุณพระมงคลธรรมวัฒน์ (หลวงปู่บุญจันทร์ จตฺตสลฺโล) พระเกจิ นักการศึกษา นักพัฒนารูปสำคัญของเมืองอุบล ปัจจุบัน ประดิษฐานอยู่ภายในวิหารหลวงพ่อเงิน วัดปากน้ำ (บุ่งสระพัง) ภายในวิหารยังรวบรวมพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุ สีและสันฐานต่างๆ มากมายกว่า ๑,๐๐๐ องค์ จัดแสดงไว้ให้ประชาชนได้สักการะ ห่างจากวัดปากน้ำไปราว ๒ กิโลเมตร ยังมีหาดบุ่งสระพัง สถานที่ท่องเที่ยวที่ประชาชนนิยมไปพักผ่อนรับลมเย็นจากแม่น้ำมูล มีเจดีย์กลางน้ำ เชื่อมด้วยสะพานไม้พาดยาวข้ามไปยังเจดีย์ สำหรับให้ประชาชนข้ามไปก่อเจดีย์ทรายบูชารอยพระพุทธบาทศิลาดำ
เจดีย์บุ่งสระพัง สร้างครอบเจดีย์ทราย ตรงบริเวณหาดบุ่งสระพัง ริมฝั่งแม่น้ำมูล เป็นดั่งสถาปัตยกรรมแห่งศรัทธากลางสายน้ำ สร้างแบบช่างฝีมือชาวบ้านที่คลุกเคล้ากลิ่นไอความเป็นวัฒนธรรมแห่งสายน้ำ ซึ่งผูกพันกับแม่น้ำมูลของชาวอุบลราชธานี เจดีย์องค์เก่าสันนิษฐานว่า สร้างมาแต่ครั้งตั้งค่ายดอนมดแดง ตรงท่าน้ำที่นำช้างและม้าศึกลงกินน้ำ ชาวบ้านใช้เป็นที่ก่อเจดีย์ทรายน่าสงกรานต์ ต่อมา ถูกน้ำท่วมกัดกร่อนเหลือเพียงไม้แกนกลางลงอักขระเสาหลักบ้าน ตั้งอยู่ริมน้ำมูล ปากบุ่งสระพัง ชาวบ้านปากน้ำร่วมกันสร้างขึ้นมาใหม่ ครอบเจดีย์องค์เดิมให้ถาวร โดยอาศัยเสาลงอักขระหลักบ้านเป็นแกนกลาง ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และรอยพระพุทธบาทศิลาดำ
พระศรีวิสุทธิมุนี (วิมาน กนฺตสีโล) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ บุ่งสระพัง รองเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า "ในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ของทุกๆ ปี ทางวัดปากน้ำ หลวงพ่อเงิน ๗๐๐ ปี จะจัดให้มีพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เป็นประจำทุกปี แบบประเพณีเมืองอุบล คือ จะสวดมนต์ไปจนสว่าง เรียกว่า "สมโภช" คนอีสานได้อะไรมาใหม่ ก็ต้องสมโภช มีสิ่งใหม่ๆ ก็ต้องสมโภช โดยพิธีสมโภชจะจัดบริเวณลานด้านหน้า หลวงพ่อเงินจำลอง ที่ประดิษฐานอยู่ข้างๆ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ซึ่งนำหน่อมาจากพุทธคยา ประเทศอินเดีย ทุกๆ ปี จะมีพุทธศาสนิกชนมาร่วมเป็นจำนวนมาก มีทั้ง เด็ก วัยรุ่น และคนแก่ เพราะมีพิธีบวชชีพราหมด้วย ซึ่งชาวอุบลเชื่อกันว่าปีหนึ่งต้องได้บวชชีพราหมณ์สักครั้ง เพราะเป็นการชำระบาปกรรมที่อาจเกิดขึ้นในรอบหนึ่งปีที่ผ่านมา แล้วก็เพิ่มบุญกุศลให้มากขึ้น
โดยจะเริ่มตั้งแต่ เวลา ๑๘.๐๐ น. เป็นต้นไป พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ แล้ววสวดบทพุทธาภิเษก สลับกับชีพราหมณ์ สวด อิติปิโส ๑๐๘ จบ ไปจนแสงเงินแสงทองจับขอบฟ้ารุ่งเช้าวันใหม่ของวันที่ ๑ มกราคม จากนั้นก็จะมีพิธีตักบาตร การที่พุทธศาสนิกชน ในจังหวัดอุบล และจังหวัดใกล้เคียง นิยมมาสวดมนต์ที่วัดปากน้ำ บุ่งสระพัง เนื่องจากจะได้ถือโอกาสมาสักการะขอพรหลวงพ่อเงิน และสักการะพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระธาตุของอัครสาวก เพื่อความเป็นสิริมงคลในปีใหม่"
จังหวัดอุบลราชธานี จัดใหญ่สวดมนต์ข้ามปี อยู่ที่วัดปากน้ำ บุ่งสระพัง จ.อุบลฯ ซึ่งเป็นวัดประดิษฐานหลวงพ่อเงิน 700 ปี
อุบลฯ จัดใหญ่สวดมนต์ข้ามปี
๒๔๘๐ วัด จังหวัดอุบลราชธานี จัดใหญ่สวดมนต์ข้ามปี วิถีไทย วิถีพุทธ ในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ๒๕๕๘ โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่วัดปากน้ำ บุ่งสระพัง ตำบลกุดลาด อำเภอเมือง ซึ่งเป็นวัดประดิษฐานหลวงพ่อเงิน พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์สำคัญของชาวจังหวัดอุบลราชธานี
หลวงพ่อเงิน เป็นพระพุทธรูปเงินปางมารวิชัย ศิลปะเชียงแสนล้านช้าง พระบาทเบื้องขวามีรอยตราธรรมจักรประทับอยู่ คาดว่ามีอายุกว่า ๗๐๐ ปี เป็นพระพุทธรูปประจำทัพค่ายดอนมดแดง ยุคแรกก่อตั้งเมืองอุบลราชธานีศรีวนาลัย ถูกขุดพบที่วัดป่าพระพิฆเณศวร์ เมื่อปี ๒๕๑๕ โดยการนิมิตของท่านเจ้าคุณพระมงคลธรรมวัฒน์ (หลวงปู่บุญจันทร์ จตฺตสลฺโล) พระเกจิ นักการศึกษา นักพัฒนารูปสำคัญของเมืองอุบล ปัจจุบัน ประดิษฐานอยู่ภายในวิหารหลวงพ่อเงิน วัดปากน้ำ (บุ่งสระพัง) ภายในวิหารยังรวบรวมพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุ สีและสันฐานต่างๆ มากมายกว่า ๑,๐๐๐ องค์ จัดแสดงไว้ให้ประชาชนได้สักการะ ห่างจากวัดปากน้ำไปราว ๒ กิโลเมตร ยังมีหาดบุ่งสระพัง สถานที่ท่องเที่ยวที่ประชาชนนิยมไปพักผ่อนรับลมเย็นจากแม่น้ำมูล มีเจดีย์กลางน้ำ เชื่อมด้วยสะพานไม้พาดยาวข้ามไปยังเจดีย์ สำหรับให้ประชาชนข้ามไปก่อเจดีย์ทรายบูชารอยพระพุทธบาทศิลาดำ
เจดีย์บุ่งสระพัง สร้างครอบเจดีย์ทราย ตรงบริเวณหาดบุ่งสระพัง ริมฝั่งแม่น้ำมูล เป็นดั่งสถาปัตยกรรมแห่งศรัทธากลางสายน้ำ สร้างแบบช่างฝีมือชาวบ้านที่คลุกเคล้ากลิ่นไอความเป็นวัฒนธรรมแห่งสายน้ำ ซึ่งผูกพันกับแม่น้ำมูลของชาวอุบลราชธานี เจดีย์องค์เก่าสันนิษฐานว่า สร้างมาแต่ครั้งตั้งค่ายดอนมดแดง ตรงท่าน้ำที่นำช้างและม้าศึกลงกินน้ำ ชาวบ้านใช้เป็นที่ก่อเจดีย์ทรายน่าสงกรานต์ ต่อมา ถูกน้ำท่วมกัดกร่อนเหลือเพียงไม้แกนกลางลงอักขระเสาหลักบ้าน ตั้งอยู่ริมน้ำมูล ปากบุ่งสระพัง ชาวบ้านปากน้ำร่วมกันสร้างขึ้นมาใหม่ ครอบเจดีย์องค์เดิมให้ถาวร โดยอาศัยเสาลงอักขระหลักบ้านเป็นแกนกลาง ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และรอยพระพุทธบาทศิลาดำ
พระศรีวิสุทธิมุนี (วิมาน กนฺตสีโล) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ บุ่งสระพัง รองเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า "ในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ของทุกๆ ปี ทางวัดปากน้ำ หลวงพ่อเงิน ๗๐๐ ปี จะจัดให้มีพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เป็นประจำทุกปี แบบประเพณีเมืองอุบล คือ จะสวดมนต์ไปจนสว่าง เรียกว่า "สมโภช" คนอีสานได้อะไรมาใหม่ ก็ต้องสมโภช มีสิ่งใหม่ๆ ก็ต้องสมโภช โดยพิธีสมโภชจะจัดบริเวณลานด้านหน้า หลวงพ่อเงินจำลอง ที่ประดิษฐานอยู่ข้างๆ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ซึ่งนำหน่อมาจากพุทธคยา ประเทศอินเดีย ทุกๆ ปี จะมีพุทธศาสนิกชนมาร่วมเป็นจำนวนมาก มีทั้ง เด็ก วัยรุ่น และคนแก่ เพราะมีพิธีบวชชีพราหมด้วย ซึ่งชาวอุบลเชื่อกันว่าปีหนึ่งต้องได้บวชชีพราหมณ์สักครั้ง เพราะเป็นการชำระบาปกรรมที่อาจเกิดขึ้นในรอบหนึ่งปีที่ผ่านมา แล้วก็เพิ่มบุญกุศลให้มากขึ้น
โดยจะเริ่มตั้งแต่ เวลา ๑๘.๐๐ น. เป็นต้นไป พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ แล้ววสวดบทพุทธาภิเษก สลับกับชีพราหมณ์ สวด อิติปิโส ๑๐๘ จบ ไปจนแสงเงินแสงทองจับขอบฟ้ารุ่งเช้าวันใหม่ของวันที่ ๑ มกราคม จากนั้นก็จะมีพิธีตักบาตร การที่พุทธศาสนิกชน ในจังหวัดอุบล และจังหวัดใกล้เคียง นิยมมาสวดมนต์ที่วัดปากน้ำ บุ่งสระพัง เนื่องจากจะได้ถือโอกาสมาสักการะขอพรหลวงพ่อเงิน และสักการะพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระธาตุของอัครสาวก เพื่อความเป็นสิริมงคลในปีใหม่"