Part 1 Why you going(come) to korea?
นี้เป็นคำถามที่ตอนไปเกาหลีเจอคนที่โน่นถามบ่อยอยู่นะ ว่าทำไมคุณถึงมาเที่ยวที่นี้?
อืม...นั่นสิ ทำไมคนไทยถึงนิยมไปเที่ยวทั้งๆที่คนไปมาบ้างคนก็บอกเล่าเก้าสิบว่าไม่ชอบ
ไม่โอเค ไม่มีอะไร แต่ก็ยังมีคนไทยอีกหลายคนไปเที่ยวเกาหลีเพิ่มมากขึ้น และมีแนวโน้มเพิ่มจำนวนมากขึ้นไปทุกปี
เกาหลีมีอะไรดีมากกว่าการไปติ่ง(ตามเฝ้าศลป.)อีกนะ
เอ๋...อย่าเพิ่งว่าเรานะ เราแค่เปรียบเปรย เราก็เป็นติ่งเกาหลีเหมือนกัน
แต่รู้สึกว่าถ้าให้ไปตามศลป.คงไม่ใช่งานถนัดแน่ๆ เลยขอเน้นไปที่กิน เที่ยวแบบเราดีกว่า
เกาหลีมีดีที่สภาพอากาศที่มีสี่ฤดูคือ ฤดูหนาว(ช่วงเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ อุณหภูมิโดยเฉลี่ยของเกาหลี -5 ถึง -20 องศา)
ฤดูใบ้ไม้ผลิ(ช่วงเดือนมีนาคม – พฤษภาคม อุณหภูมิเกาหลีโดยเฉลี่ยช่วงนี้ 6 ถึง 16 องศา)
ฤดูใบไม้ร่วงใบไม้เปลี่ยนสีของเกาหลี (ช่วงเดือนกันยายน – พฤศจิกายน อุณหภูมิโดยเฉลี่ย ของเกาหลี 5 ถึง 25 องศา)
และฤดูร้อน(ช่วงเดือนมิถุนายน – สิงหาคม อุณหภูมิเกาหลีโดยเฉลี่ย 22 ถึง 38 องศา) เหมือนๆกับประเทศญี่ปุ่น แต่รู้สึกว่าค่าใช้จ่ายจะถูกกว่า
การเดินทางภายในโซลและออกนอกเมืองก็ช่างเป็นเรื่องที่สะดวกสบายเพราะมีซับเวย์ครอบคลุมทั่วถึง
หรือใครจะเดินทางไปต่างจังหวัดไกล ๆก็มีรถไฟความเร็วสูง( KTX : Korea Train Express)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อ้างอิง : http://tamroyseries.blogspot.com/2014/07/ktx-korea-train-express.html
การเตรียมตัวไปเกาหลี
เป็นสภาพอากาศตอนเราไป มีทั้งฝน หมอก หิมะแรก ลม ไปมาช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน (22-27 พ.ย. 58)
เป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วงเข้าสู่ฤดูหนาว บอกเลยว่าหนาวสุดๆ ต้องไปซื้อเสื้อผ้าที่โน่นใส่เอา
ไปเจอหิมะแรกก่อนกลับมาไทยหนึ่งวัน(อุณหภูมิติดลบมากสูงของวันที่ไปอยู่ที่โน่น) ลบ 7 องศามีลมด้วยจ๊ะ
ต้องยอมรับเลยว่าคนเกาหลีทั้งผู้ชาย ผู้หญิง และคนแก่ๆหน่อยจะมีสไตล์การแต่งตัวที่เป็นเอกลักษณ์มากๆ
แล้วก็ไม่ค่อยเห็นใส่ชุดที่ดูหนาแล้วทำให้ตัวอ้วนเกินไป
เสื้อโค้ท เสื้อกันหนาวที่โน่นราคาถูกกว่าที่ไทยครึ่งๆ ย้ำถูกกว่ามากมาย เอาจากประสบการณ์จริง(ตรง)
ก่อนไปกะจะซื้อจากbrand uni...ไปสักตัวแต่เห็นราคาแล้ว5พันเลยไม่ได้ซื้อไป ไปได้ซื้อโค้ทBrand เกาหลีมาสองตัว
ของH:Connect ที่ยุนอาเป็นพรีเซนเตอร์1ตัว และของ SPAO อีกตัว
(กล่าวในPart3อีกทีนะ)
ที่พัก
ตอนที่ไปกะจะจองแถวๆ Seoul Station ตลอดทริปเลย แต่ไม่ได้มันไม่ว่างวันแรกกับวันที่สอง
เลยต้องแบ่งจองสองคืนแรกที่ทงแดมุน และสามคืนที่เหลือเลยได้ที่Seoul Station สะดวกสบายสุดๆเลย
สองคืนแรกจองผ่านเว็ป
www.kaligo.com เพื่อจะเอาROP (ไมล์สะสมของการบินไทย)
จองได้โรงแรม Ibis Budget Ambassador Seoul Dongdaemun จองไปแบบไม่มีอาหารเช้า
แต่พอไปเช็คอินที่โรงแรมพนง.จะถามเราอีกครั้งว่าจะรับอาหารเช้าด้วยรึป่าว (รู้สึกว่าจะ 1xxxx วอนต่อมื้อ)
เราไม่ได้รับกะว่าจะหากินแถวๆที่พักอ่ะ แถวนั่นมี7-11อยู่ใกล้ๆด้วย เดินไปอีกนิดก็เป็นDDP
ibis budget ambassador seoul dongdaemun ออกประตู3 , 4 เดินข้ามเดินมาก็จะถึงโรงแรมแล้ว
แต่ถ้ามีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ แนะนำออกประตู 9,10 ของDDP จะมีทางราดให้ลากกระเป๋าได้ง่ายขึ้น
แต่เดินไกลหน่อย แต่สบายกว่าการลากกระเป๋าใบใหญ่ขึ้นบันไดถ้าออกประตู4 หรือจะออกประตู3 มีบันไดเลื่อนเล็กๆให้ขึ้นอยู่
อีกสามคืนจองผ่านเว็ป
www.agoda.com ได้ที่พักแถวๆ โซลสเตชั่น 24 guesthouse seoul station premier
มีอาหารเช้าแบบง่ายๆให้รองท้องประหยัดไปหลายอยู่นะ
ที่เลือกที่นี้เพราะหนึ่งถูกราคาคืนละ1พันบาท แล้วก็เดินทางไปไหนมาไหนสะดวก สบายใกล้ Lotte Mart มากๆ
ใครสนใจก็ลองเข้าไปดูในเว็ปได้นะ ที่นี้คุณchoi ที่เป็นเจ้าหน้าที่ที่ดูแล เค้าใส่ใจคนที่ไปพักมากๆ คือเราแบบว่าตามหาร้านซีดีราคาถูกก
เค้าก็เข้า never (เว็ปgoogle ของเกาหลี) หาข้อมูลให้ หรืออย่างเช่นเราอยากได้กระเป๋าเดินทางก็นั่งหา แล้วก็บอกว่าควรจะไปซื้อที่นี้ๆนะ
คือแบบดูแลดีมากๆอ่ะ ตอนจะกลับยังแนะนำเราที่มีกระเป๋าใบใหญ่ให้เดินไปลงลิฟต์ที่ประตู12 แทนการลากกระเป๋าไปลงบันไดอ่ะ
รายละเอียดเรื่องราคาจะบอกอีกทีตอนท้ายนะ
เครื่องบิน
เราจองผ่านเว็ปของการบินไทยเลย หลังจองแล้วไปช็อปปิ้งที่King Power ถึงรู้ว่า...เครื่องบินที่ตัวเองจองทั้งขาไปและขากลับต้อง Via ที่ไทเปประมาณ1ชม. ตอนแรกก็กังวลสุดๆเลยว่าจะต้องขอวีซ่ารึป่าว หาข้อมูลก็ไม่มี เลยโทรถามcall center ไม่ต้องขอวีซ่าจ๊ะ
เราแค่ไปรอต่อเครื่องไปโซลอีกทีอ่ะ แต่ใครที่ไปไต้หวันต้องขอวีซ่านะ ไฟลท์ที่เราไป TG634 TG635 เป็นเครื่องที่บินจากไทยไปไต้หวัน แล้วก็ต่อไปโซล
เราว่ามันก็ดีนะ ได้ลงไปพักยืดเส้นยืดสายนิดนึง ได้ดูบ้านเรือนของไต้หวัน ได้ดูสนามบินของไต้หวันว่าดิวตี้ฟรีไต้หวันก็น่าช็อปนะ ได้กินข้าวสองมื้อนะ แบบว่าหาที่ไหนไม่ได้แล้วที่จะกินข้าวบนเครื่องบินสองมื้ออ่ะ ฮ่า
บินตรงนอนเมื่อยไปนะ ยิ่งนั่งแถวกลางๆยิ่งโครตเมื่อยตัวเลย แต่ไฟลท์Via ได้ลงไปรีเล็กซ์ก่อนขึ้นเครื่องอีกรอบอ่ะ
Pocket Wifi
เช่าจากไทย
เราเช่าของ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.easykoreawifi.com เป็นเครื่องแบบ Hybrid Egg ราคา350 บาท แต่ตอนนี้ทางบริษัทมีกิจกรรมให้ร่วมสนุก เป็นการคืนค่าเช่าให้กับคนที่เช่าไวไฟจากบริษัทไป1วัน เมื่อถ่ายรูปคู่กับไวไฟที่เช่าไปแล้วโพสลงIG ติดtag รายละเอียดเข้าไปดูในIGของบริษัทได้เลยนะ ลองใช้จริงแล้วแบตอึดใช้ได้อยู่นะอยู่ได้ 10 ชม.(แชร์กับมือถือ2เครื่อง) เอาชาร์ตกับPower Bankของเราเองอยู่ได้อีกหลายชม.ก่อนกลับโรงแรม (เรากลับเข้าโรงแรมดึกทุกคืนอ่ะ)
เช่าที่เกาหลี
เอาอ่านจากกระทู้นี้แล้วกัน
https://processic418.wordpress.com/2015/02/07/pocket-wifi-korea/
แต่ถ้าจะให้เราแนะนำ ใครที่มีบัตรเครติดก็ไปเช่าที่สนามบินอินชอนเอาเลยดีกว่า ถูกกว่าครึ่งๆ ยิ่งไปกับเพื่อนๆหารกันยิ่งถูกเข้าไปใหญ่เลย
การเดินทางเข้าเมือง(โซล)
ก่อนไปหาข้อมูลจากgoogle ไปเจอกระทู้นี้
http://seoulcafe2013.blogspot.com/2013/02/blog-post_7597.html
บอกมีสามวิธีอ่ะ เราเลือกรถไฟใต้ดิน Airport Railroad (AREX) (อยู่บริเวณชั้น B1) เพราะคำนวณแล้วมันถูกสุด สะดวกสุด
สนามบินอินชอน จุดขายตั๋วอยู่ตรง Travel Center เราเลือกนั่งแบบ Express Trian จะมีเลขที่นั่ง เลขขบวนระบุให้เรียบร้อยเหมือนกับรถไฟเข้าโตเกียว โอซาก้าเลย จอดสถานีโซลเท่านั่น
ค่าเสียหาย 8,000 วอน พนง.ที่เคานเตอร์พดภาษาอังกฤษได้ดี
พักที่นี่...ลงตรงไหน
หากพักแถว มยองดง นัมแดมุน ให้ลงสถานี Seoul Station (สุดสาย) แล้วต่อรถไฟใต้ดินสาย 4 (สีฟ้า) ไปมยองดงได้เลยค่ะ เพียง 2 สถานี
หากพักย่าน ทงแดมุน จงโน ก็ลงที่ Seoul Station เช่นกัน แต่ต่อรถไฟใต้ดินสาย 1 (สีน้ำเงิน) แทน นั่งไปไม่กี่สถานีก็ถึง
หากพักย่าน วังคยองบกกุง อันกุก ให้ลงที่สถานี Gongdeok แล้วต่อรถไฟใต้ดินสาย 5 (สีม่วง) ไปลงที่สถานี Jongno sam-ga
แล้วถึงต่อสาย 3 (สีส้ม) อีกทีก็จะถึงที่หมาย
หากพักย่าน อิแทวอน ให้ลงที่สถานี Gongdeok เช่นกัน แล้วต่อรถไฟใต้ดินสาย 6 (สีน้ำตาล) ไปลงที่สถานี Itaewon
หากพักย่าน ชินชน อีแด ลงสถานี Hongik แล้วต่อรถไฟใต้ดินสาย 2 (สีเขียว) ไปเพียง 1-2 สถานีเท่านั้น (ฮงแด>ชินชน>อีแด)
หากพักย่าน ฮงแด สะดวกสุด แค่ลงสถานี Hongik เท่านั้นก็จะถึงเลย
โซลสเตชั่น เราจะกลับแบบขามาแต่หาทางลงไปไม่เจอ แต่ได้คุณลุงจนท.สถานีช่วยพาไปซื้อตั๋วแบบLocal ที่ตู้ซื้อบัตร
พาเอาบัตรขามาไปคืนที่ตู้คืนแล้วได้เงินมา500วอนมั้ง ชื่อก็บอกว่า Local จอดทุกป้าย
แบบว่าได้บรรยากาศสุดๆอ่ะแต่ก็ยังเร็วและสะดวก ถูกกว่ารถบัสอยู่มากนะ
หมายเหตุ ถ้าเราตั๋วไปเครื่องที่เครื่องหรือจุดคืนบัตร จะได้เงินคืนมาประมาณ500-700 วอน โดยประมาณนะ เราก็จำไม่ได้อ่ะเพราะมันเป็นเหรียญ
แอพที่จำเป็น
เราโหลด Seoul Metro Subway Map by MXdata มีทั้งใน Play Store และ App Store
สะดวกในการใช้ซับเวย์มากๆ มีภาษาอังกฤษกำกับ
พิมพ์ Seoul Metro Subway ใน Play Store และ App Store หน้าต่างจะเป็นแบบนี้
[CR] บุกเดี่ยวตะลุยเที่ยวเกาหลีแบบ fin fun chill
นี้เป็นคำถามที่ตอนไปเกาหลีเจอคนที่โน่นถามบ่อยอยู่นะ ว่าทำไมคุณถึงมาเที่ยวที่นี้?
อืม...นั่นสิ ทำไมคนไทยถึงนิยมไปเที่ยวทั้งๆที่คนไปมาบ้างคนก็บอกเล่าเก้าสิบว่าไม่ชอบ
ไม่โอเค ไม่มีอะไร แต่ก็ยังมีคนไทยอีกหลายคนไปเที่ยวเกาหลีเพิ่มมากขึ้น และมีแนวโน้มเพิ่มจำนวนมากขึ้นไปทุกปี
เกาหลีมีอะไรดีมากกว่าการไปติ่ง(ตามเฝ้าศลป.)อีกนะ
เอ๋...อย่าเพิ่งว่าเรานะ เราแค่เปรียบเปรย เราก็เป็นติ่งเกาหลีเหมือนกัน
แต่รู้สึกว่าถ้าให้ไปตามศลป.คงไม่ใช่งานถนัดแน่ๆ เลยขอเน้นไปที่กิน เที่ยวแบบเราดีกว่า
เกาหลีมีดีที่สภาพอากาศที่มีสี่ฤดูคือ ฤดูหนาว(ช่วงเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ อุณหภูมิโดยเฉลี่ยของเกาหลี -5 ถึง -20 องศา)
ฤดูใบ้ไม้ผลิ(ช่วงเดือนมีนาคม – พฤษภาคม อุณหภูมิเกาหลีโดยเฉลี่ยช่วงนี้ 6 ถึง 16 องศา)
ฤดูใบไม้ร่วงใบไม้เปลี่ยนสีของเกาหลี (ช่วงเดือนกันยายน – พฤศจิกายน อุณหภูมิโดยเฉลี่ย ของเกาหลี 5 ถึง 25 องศา)
และฤดูร้อน(ช่วงเดือนมิถุนายน – สิงหาคม อุณหภูมิเกาหลีโดยเฉลี่ย 22 ถึง 38 องศา) เหมือนๆกับประเทศญี่ปุ่น แต่รู้สึกว่าค่าใช้จ่ายจะถูกกว่า
การเดินทางภายในโซลและออกนอกเมืองก็ช่างเป็นเรื่องที่สะดวกสบายเพราะมีซับเวย์ครอบคลุมทั่วถึง
หรือใครจะเดินทางไปต่างจังหวัดไกล ๆก็มีรถไฟความเร็วสูง( KTX : Korea Train Express)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
การเตรียมตัวไปเกาหลี
เป็นสภาพอากาศตอนเราไป มีทั้งฝน หมอก หิมะแรก ลม ไปมาช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน (22-27 พ.ย. 58)
เป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วงเข้าสู่ฤดูหนาว บอกเลยว่าหนาวสุดๆ ต้องไปซื้อเสื้อผ้าที่โน่นใส่เอา
ไปเจอหิมะแรกก่อนกลับมาไทยหนึ่งวัน(อุณหภูมิติดลบมากสูงของวันที่ไปอยู่ที่โน่น) ลบ 7 องศามีลมด้วยจ๊ะ
ต้องยอมรับเลยว่าคนเกาหลีทั้งผู้ชาย ผู้หญิง และคนแก่ๆหน่อยจะมีสไตล์การแต่งตัวที่เป็นเอกลักษณ์มากๆ
แล้วก็ไม่ค่อยเห็นใส่ชุดที่ดูหนาแล้วทำให้ตัวอ้วนเกินไป
เสื้อโค้ท เสื้อกันหนาวที่โน่นราคาถูกกว่าที่ไทยครึ่งๆ ย้ำถูกกว่ามากมาย เอาจากประสบการณ์จริง(ตรง)
ก่อนไปกะจะซื้อจากbrand uni...ไปสักตัวแต่เห็นราคาแล้ว5พันเลยไม่ได้ซื้อไป ไปได้ซื้อโค้ทBrand เกาหลีมาสองตัว
ของH:Connect ที่ยุนอาเป็นพรีเซนเตอร์1ตัว และของ SPAO อีกตัว (กล่าวในPart3อีกทีนะ)
ที่พัก
ตอนที่ไปกะจะจองแถวๆ Seoul Station ตลอดทริปเลย แต่ไม่ได้มันไม่ว่างวันแรกกับวันที่สอง
เลยต้องแบ่งจองสองคืนแรกที่ทงแดมุน และสามคืนที่เหลือเลยได้ที่Seoul Station สะดวกสบายสุดๆเลย
สองคืนแรกจองผ่านเว็ป www.kaligo.com เพื่อจะเอาROP (ไมล์สะสมของการบินไทย)
จองได้โรงแรม Ibis Budget Ambassador Seoul Dongdaemun จองไปแบบไม่มีอาหารเช้า
แต่พอไปเช็คอินที่โรงแรมพนง.จะถามเราอีกครั้งว่าจะรับอาหารเช้าด้วยรึป่าว (รู้สึกว่าจะ 1xxxx วอนต่อมื้อ)
เราไม่ได้รับกะว่าจะหากินแถวๆที่พักอ่ะ แถวนั่นมี7-11อยู่ใกล้ๆด้วย เดินไปอีกนิดก็เป็นDDP
ibis budget ambassador seoul dongdaemun ออกประตู3 , 4 เดินข้ามเดินมาก็จะถึงโรงแรมแล้ว
แต่ถ้ามีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ แนะนำออกประตู 9,10 ของDDP จะมีทางราดให้ลากกระเป๋าได้ง่ายขึ้น
แต่เดินไกลหน่อย แต่สบายกว่าการลากกระเป๋าใบใหญ่ขึ้นบันไดถ้าออกประตู4 หรือจะออกประตู3 มีบันไดเลื่อนเล็กๆให้ขึ้นอยู่
อีกสามคืนจองผ่านเว็ป www.agoda.com ได้ที่พักแถวๆ โซลสเตชั่น 24 guesthouse seoul station premier
มีอาหารเช้าแบบง่ายๆให้รองท้องประหยัดไปหลายอยู่นะ
ที่เลือกที่นี้เพราะหนึ่งถูกราคาคืนละ1พันบาท แล้วก็เดินทางไปไหนมาไหนสะดวก สบายใกล้ Lotte Mart มากๆ
ใครสนใจก็ลองเข้าไปดูในเว็ปได้นะ ที่นี้คุณchoi ที่เป็นเจ้าหน้าที่ที่ดูแล เค้าใส่ใจคนที่ไปพักมากๆ คือเราแบบว่าตามหาร้านซีดีราคาถูกก
เค้าก็เข้า never (เว็ปgoogle ของเกาหลี) หาข้อมูลให้ หรืออย่างเช่นเราอยากได้กระเป๋าเดินทางก็นั่งหา แล้วก็บอกว่าควรจะไปซื้อที่นี้ๆนะ
คือแบบดูแลดีมากๆอ่ะ ตอนจะกลับยังแนะนำเราที่มีกระเป๋าใบใหญ่ให้เดินไปลงลิฟต์ที่ประตู12 แทนการลากกระเป๋าไปลงบันไดอ่ะ
รายละเอียดเรื่องราคาจะบอกอีกทีตอนท้ายนะ
เครื่องบิน
เราจองผ่านเว็ปของการบินไทยเลย หลังจองแล้วไปช็อปปิ้งที่King Power ถึงรู้ว่า...เครื่องบินที่ตัวเองจองทั้งขาไปและขากลับต้อง Via ที่ไทเปประมาณ1ชม. ตอนแรกก็กังวลสุดๆเลยว่าจะต้องขอวีซ่ารึป่าว หาข้อมูลก็ไม่มี เลยโทรถามcall center ไม่ต้องขอวีซ่าจ๊ะ
เราแค่ไปรอต่อเครื่องไปโซลอีกทีอ่ะ แต่ใครที่ไปไต้หวันต้องขอวีซ่านะ ไฟลท์ที่เราไป TG634 TG635 เป็นเครื่องที่บินจากไทยไปไต้หวัน แล้วก็ต่อไปโซล
เราว่ามันก็ดีนะ ได้ลงไปพักยืดเส้นยืดสายนิดนึง ได้ดูบ้านเรือนของไต้หวัน ได้ดูสนามบินของไต้หวันว่าดิวตี้ฟรีไต้หวันก็น่าช็อปนะ ได้กินข้าวสองมื้อนะ แบบว่าหาที่ไหนไม่ได้แล้วที่จะกินข้าวบนเครื่องบินสองมื้ออ่ะ ฮ่า
บินตรงนอนเมื่อยไปนะ ยิ่งนั่งแถวกลางๆยิ่งโครตเมื่อยตัวเลย แต่ไฟลท์Via ได้ลงไปรีเล็กซ์ก่อนขึ้นเครื่องอีกรอบอ่ะ
Pocket Wifi
เช่าจากไทย
เราเช่าของ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ เป็นเครื่องแบบ Hybrid Egg ราคา350 บาท แต่ตอนนี้ทางบริษัทมีกิจกรรมให้ร่วมสนุก เป็นการคืนค่าเช่าให้กับคนที่เช่าไวไฟจากบริษัทไป1วัน เมื่อถ่ายรูปคู่กับไวไฟที่เช่าไปแล้วโพสลงIG ติดtag รายละเอียดเข้าไปดูในIGของบริษัทได้เลยนะ ลองใช้จริงแล้วแบตอึดใช้ได้อยู่นะอยู่ได้ 10 ชม.(แชร์กับมือถือ2เครื่อง) เอาชาร์ตกับPower Bankของเราเองอยู่ได้อีกหลายชม.ก่อนกลับโรงแรม (เรากลับเข้าโรงแรมดึกทุกคืนอ่ะ)
เช่าที่เกาหลี
เอาอ่านจากกระทู้นี้แล้วกัน https://processic418.wordpress.com/2015/02/07/pocket-wifi-korea/
แต่ถ้าจะให้เราแนะนำ ใครที่มีบัตรเครติดก็ไปเช่าที่สนามบินอินชอนเอาเลยดีกว่า ถูกกว่าครึ่งๆ ยิ่งไปกับเพื่อนๆหารกันยิ่งถูกเข้าไปใหญ่เลย
การเดินทางเข้าเมือง(โซล)
ก่อนไปหาข้อมูลจากgoogle ไปเจอกระทู้นี้ http://seoulcafe2013.blogspot.com/2013/02/blog-post_7597.html
บอกมีสามวิธีอ่ะ เราเลือกรถไฟใต้ดิน Airport Railroad (AREX) (อยู่บริเวณชั้น B1) เพราะคำนวณแล้วมันถูกสุด สะดวกสุด
สนามบินอินชอน จุดขายตั๋วอยู่ตรง Travel Center เราเลือกนั่งแบบ Express Trian จะมีเลขที่นั่ง เลขขบวนระบุให้เรียบร้อยเหมือนกับรถไฟเข้าโตเกียว โอซาก้าเลย จอดสถานีโซลเท่านั่น
ค่าเสียหาย 8,000 วอน พนง.ที่เคานเตอร์พดภาษาอังกฤษได้ดี
พักที่นี่...ลงตรงไหน
หากพักแถว มยองดง นัมแดมุน ให้ลงสถานี Seoul Station (สุดสาย) แล้วต่อรถไฟใต้ดินสาย 4 (สีฟ้า) ไปมยองดงได้เลยค่ะ เพียง 2 สถานี
หากพักย่าน ทงแดมุน จงโน ก็ลงที่ Seoul Station เช่นกัน แต่ต่อรถไฟใต้ดินสาย 1 (สีน้ำเงิน) แทน นั่งไปไม่กี่สถานีก็ถึง
หากพักย่าน วังคยองบกกุง อันกุก ให้ลงที่สถานี Gongdeok แล้วต่อรถไฟใต้ดินสาย 5 (สีม่วง) ไปลงที่สถานี Jongno sam-ga
แล้วถึงต่อสาย 3 (สีส้ม) อีกทีก็จะถึงที่หมาย
หากพักย่าน อิแทวอน ให้ลงที่สถานี Gongdeok เช่นกัน แล้วต่อรถไฟใต้ดินสาย 6 (สีน้ำตาล) ไปลงที่สถานี Itaewon
หากพักย่าน ชินชน อีแด ลงสถานี Hongik แล้วต่อรถไฟใต้ดินสาย 2 (สีเขียว) ไปเพียง 1-2 สถานีเท่านั้น (ฮงแด>ชินชน>อีแด)
หากพักย่าน ฮงแด สะดวกสุด แค่ลงสถานี Hongik เท่านั้นก็จะถึงเลย
โซลสเตชั่น เราจะกลับแบบขามาแต่หาทางลงไปไม่เจอ แต่ได้คุณลุงจนท.สถานีช่วยพาไปซื้อตั๋วแบบLocal ที่ตู้ซื้อบัตร
พาเอาบัตรขามาไปคืนที่ตู้คืนแล้วได้เงินมา500วอนมั้ง ชื่อก็บอกว่า Local จอดทุกป้าย
แบบว่าได้บรรยากาศสุดๆอ่ะแต่ก็ยังเร็วและสะดวก ถูกกว่ารถบัสอยู่มากนะ
หมายเหตุ ถ้าเราตั๋วไปเครื่องที่เครื่องหรือจุดคืนบัตร จะได้เงินคืนมาประมาณ500-700 วอน โดยประมาณนะ เราก็จำไม่ได้อ่ะเพราะมันเป็นเหรียญ
แอพที่จำเป็น
เราโหลด Seoul Metro Subway Map by MXdata มีทั้งใน Play Store และ App Store
สะดวกในการใช้ซับเวย์มากๆ มีภาษาอังกฤษกำกับ
พิมพ์ Seoul Metro Subway ใน Play Store และ App Store หน้าต่างจะเป็นแบบนี้