พอพูดถึงประเทศพม่า คุณคิดถึงอะไรกันบ้างคะ?
เราเห็นคนไทยหลายคนพูดเสมอว่า พม่าเป็นประเทศที่ประชากรเก่ง อดทน และภาษาอังกฤษคล่อง ...
เราก็เป็น 1 ในนั้นค่ะ 555
แล้วเดี๋ยวเรามาดูนะคะว่า ที่ทุกคนคิดจะเป็นอย่างที่เราคิด และถูกต้องรึเปล่า
ไปกันเลย!!!
เราชื่อวัชรานะคะเป็นเจ้าของกระทู้ที่ชอบท่องเที่ยวต่างแดน ตลุย กิน เที่ยว แบบฉบับสบายกระเป๋า ทริปนี้วัชราเลยเอาความสนุกกับการไปเที่ยวประเทศเพื่อนบ้านของเรานั่นก็คือ พม่านั่นเองค่ะ!!!!
ความจริงทริปนี้เราไม่ได้เดินทางคนเดียว แต่มีพี่ๆที่มาร่วมเดินทางด้วยอีก 5 คน (ที่พามาลำบากด้วย
)
ทริปพม่าเราไปเดือน 24-25-26 กันยายน ที่ผ่านมา
แต่เราจองตั๋วเครื่องบินตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ราคาตั๋วเครื่องบินที่ได้ไป-กลับรวมๆ 4,200 บาท
(คนที่ร่วมทริปกับเรา เค้าจองทีหลัง จองช้าแต่ได้ราคา 3,000+ เอง
)
เราขึ้นเครื่องที่สนามบินดอนเมือง โดยสายการบิน นกแอร์ ตั้งแต่เช้าตรู่!!
ก่อนเข้า Gate ก็มีการเขียนเอกสารออกนอกประเทศ และเขียนเข้าประเทศในส่วนที่เราต้องผ่าน ตม.บ้านเค้า ระหว่างรอประชาสัมพันธ์ก็แจ้งว่าเครื่อง delay 30 นาที จากเดิม 19.00 เป็น 19.30 เพราะฝนตกพายุเข้า
“แม่จ้าว!! ทำไมคุณพี่พายุต้องมาวันนี้ละค้า วัชราจะได้ไปไหมนิ” แต่ก็ต้องรอต่อไป ระหว่างรอก็เอากล้องมาถ่าย Selfie กับพี่ๆเค้าไว้เอาลง IG เกร๋ๆ
พอขึ้นเครื่องก็อย่างที่ประกาศเลยค่ะ ไอ้ที่ว่า ตกหลุมอากาศ
เครื่องสั่น น้องสัมผัสได้อย่างแรงส์!!ว่าเป็นยังไง
ทนเครื่องสั่น ตกหลุม ฮวบๆสักพัก นั่งสัก 2 ชั่วโมงเราก็ถึงสนามบินย่างกุ้ง ที่พม่าแล้วคร้า
(รอดตาย สบายชีวี)
เครื่องปุ๊บ ก็หยิบกระเป๋ายืนเอกสารผ่านด่าน ตม.
สุมหัวรอเพื่อนๆ พอดีอยากแลกตังค์เงินที่แลกไป 100 US
(สำหรับคนที่แลกเงินไปพม่าต้องแลกเป็น US dollarเท่านั้นนะคะ และห้ามทำธนบัตรยับเด็ดขาดเพราะว่าที่นั่นเค้าจะไม่ให้แลกค่ะ ที่สำคัญอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างเงินไทยกับ US แลก US ดีกว่าค่ะ)
กับการเดินทางครั้งนี้พวกเราแลกเงินเพื่อใช้มาเที่ยวคนละประมาณ 5,000 บาท พอแลกเป็น US dollar เหลือ 142 US ค่ะ พวกเราตัดสินใจเอาเงิน US คนละ 42 US มารวมกันได้ทั้งหมด 252 US ค่ะ เพื่อเก็บไว้เป็นเงินกองกลางในการเดินทาง
จริงๆอยากแลกเงินเพิ่มคิดว่าถ้าเป็นเงินไทยก็ยังดีกว่าไม่มีเงิน แต่ก่อนขึ้นเครื่องตอนที่อยู่ดอนเมือง พอเข้า Gate ดันไม่มีตู้ ATM ก็เลยเหลือเงินแค่ 142 US
แลกเสร็จไม่รีรอรีบตรงไปที่แท็กซี่เพราะว่าตาจะปิดแล้วหลาวววว !!!
พี่แท็กซี่ที่นี่พูดภาษาอังกฤษได้ เราก็ตรงดิ่งไปที่พักอันดับแรกเลยคะ
ระหว่างเดินทางก็ถามพี่แท็กซี่เพื่อเป็นความรู้ว่า มาที่นี่ต้องไปที่ไหน กินอะไร และอะไรที่ควรทำ อะไรที่ไม่ควรทำ เข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง (ความจริงอ่านหนังสือมาบ้าง เปิดเว็บมาบ้าง แต่ลืม!!! 555)
ถนนที่นี่เค้าแปลกๆสักนิดคือ รถเร็ววิ่งขวาเหมือนบ้านเรา แต่เลนขาไปคือทางขวาเหมือนกัน พวงมาลัยคนขับก็อยู่ฝั่งขวาเหมือนบ้านเรา พูดง่ายๆ ขับเหมือนบ้านเรา แต่เลนเหมือนยุโรป 5555 งงไหมคะ?
การขับรถที่นี่เค้าครึกครื้นสักนิดนะ พี่เค้าจะบีบแตรกันตลอดทั้งวันทั้งคืน กลายเป็นเรื่องธรรมดาของคนที่นี่ไปแล้ว
พูดง่ายๆคือ บีบแตรแทนการเปิดไฟเลี้ยวนะค่ะ ซ้ายก็ปริ๊น! ขวาก็ปริ๊น! วัชรามึนนนนน
การมาตะลุยแดนพม่าในครั้งนี้ พวกเราเลือกโรงแรม Clover City Center Hotel เราจองผ่าน Agoda เพราะได้ส่วนลด 40% เลยค่า
โชคดีชะมัด!!!
สิ่งแรกหลังจาก Check in เสร็จคือการขอ Wifi 5555 เพราะเราอยากอัพเดต สเตตัสว่ามาถึงแล้ววววววว
ถึงห้องนอนเราก็อยากเดินเล่นเดินชิวหาของกินข้างทาง หาบาร์นั่งบ้าง (ไปคืนแรกก็เที่ยวซะแระ 555)
เดินออกมาตอนนั้นช่วงเวลาเกือบเที่ยงคืน ....
ปรากฏว่าตามถนนปิดไฟเกือบหมด เงียบมากกกก
.............
แถมท้องตอนนั้นก็ร้องหิวๆ และที่พม่าไม่มี 7-11 ข้าวกล่อง Easy เหมือนบ้านเรา
เราก็เดินต่อไป เดินต่อไป จนคิดว่ากลับดีกว่าเปลี่ยวมากน่ากลัว สุดท้ายร้าน super market ฝั่งขวามือของโรงแรมผ่านช่วงตึกไปแค่ 3 ช่วงตึกแถมเมื่อกี้ยังเดินผ่านไปอีก!! คิดในใจ “ทำมายตูม่ายเจอออออ”
เดินเข้าไปในร้านหาของกินเลยคะ ที่ Easy และอาหารที่เป็นธรรมเนียมของเหล่านักเดินทางคงหนีไม่พ้น ... >>มาม่า<< Yes! พี่สะกดถูกละ ไปพม่าเพื่อไปกินมาม่า 5555
เราก็ซื้อของหิ้วตุเลงตุเลงเข้าโรงแรมไป กินไปนั่งนับเงินไป และดูแผนที่ว่าไปเที่ยวที่ไหนยังไงบ้าง
หมดไปแล้วกับคืนแรกที่เรามาถึงย่างกุ้ง เตรียมพบกับวันที่ 2 ที่เราจะพาไปนั่งรถบัส ตะลุยอีกเมืองนะค่ะ
แบกเป้เที่ยวพม่า ด้วยราคา 5,000บาท!!! 3 วัน 3 คืน (ไม่รวมตั๋วเครื่องบินและที่พัก)
เราเห็นคนไทยหลายคนพูดเสมอว่า พม่าเป็นประเทศที่ประชากรเก่ง อดทน และภาษาอังกฤษคล่อง ...
เราก็เป็น 1 ในนั้นค่ะ 555
แล้วเดี๋ยวเรามาดูนะคะว่า ที่ทุกคนคิดจะเป็นอย่างที่เราคิด และถูกต้องรึเปล่า
ไปกันเลย!!!
เราชื่อวัชรานะคะเป็นเจ้าของกระทู้ที่ชอบท่องเที่ยวต่างแดน ตลุย กิน เที่ยว แบบฉบับสบายกระเป๋า ทริปนี้วัชราเลยเอาความสนุกกับการไปเที่ยวประเทศเพื่อนบ้านของเรานั่นก็คือ พม่านั่นเองค่ะ!!!!
ความจริงทริปนี้เราไม่ได้เดินทางคนเดียว แต่มีพี่ๆที่มาร่วมเดินทางด้วยอีก 5 คน (ที่พามาลำบากด้วย )
ทริปพม่าเราไปเดือน 24-25-26 กันยายน ที่ผ่านมา
แต่เราจองตั๋วเครื่องบินตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ราคาตั๋วเครื่องบินที่ได้ไป-กลับรวมๆ 4,200 บาท
(คนที่ร่วมทริปกับเรา เค้าจองทีหลัง จองช้าแต่ได้ราคา 3,000+ เอง )
เราขึ้นเครื่องที่สนามบินดอนเมือง โดยสายการบิน นกแอร์ ตั้งแต่เช้าตรู่!!
ก่อนเข้า Gate ก็มีการเขียนเอกสารออกนอกประเทศ และเขียนเข้าประเทศในส่วนที่เราต้องผ่าน ตม.บ้านเค้า ระหว่างรอประชาสัมพันธ์ก็แจ้งว่าเครื่อง delay 30 นาที จากเดิม 19.00 เป็น 19.30 เพราะฝนตกพายุเข้า
“แม่จ้าว!! ทำไมคุณพี่พายุต้องมาวันนี้ละค้า วัชราจะได้ไปไหมนิ” แต่ก็ต้องรอต่อไป ระหว่างรอก็เอากล้องมาถ่าย Selfie กับพี่ๆเค้าไว้เอาลง IG เกร๋ๆ
พอขึ้นเครื่องก็อย่างที่ประกาศเลยค่ะ ไอ้ที่ว่า ตกหลุมอากาศ เครื่องสั่น น้องสัมผัสได้อย่างแรงส์!!ว่าเป็นยังไง
ทนเครื่องสั่น ตกหลุม ฮวบๆสักพัก นั่งสัก 2 ชั่วโมงเราก็ถึงสนามบินย่างกุ้ง ที่พม่าแล้วคร้า (รอดตาย สบายชีวี)
เครื่องปุ๊บ ก็หยิบกระเป๋ายืนเอกสารผ่านด่าน ตม.
สุมหัวรอเพื่อนๆ พอดีอยากแลกตังค์เงินที่แลกไป 100 US
(สำหรับคนที่แลกเงินไปพม่าต้องแลกเป็น US dollarเท่านั้นนะคะ และห้ามทำธนบัตรยับเด็ดขาดเพราะว่าที่นั่นเค้าจะไม่ให้แลกค่ะ ที่สำคัญอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างเงินไทยกับ US แลก US ดีกว่าค่ะ)
กับการเดินทางครั้งนี้พวกเราแลกเงินเพื่อใช้มาเที่ยวคนละประมาณ 5,000 บาท พอแลกเป็น US dollar เหลือ 142 US ค่ะ พวกเราตัดสินใจเอาเงิน US คนละ 42 US มารวมกันได้ทั้งหมด 252 US ค่ะ เพื่อเก็บไว้เป็นเงินกองกลางในการเดินทาง
จริงๆอยากแลกเงินเพิ่มคิดว่าถ้าเป็นเงินไทยก็ยังดีกว่าไม่มีเงิน แต่ก่อนขึ้นเครื่องตอนที่อยู่ดอนเมือง พอเข้า Gate ดันไม่มีตู้ ATM ก็เลยเหลือเงินแค่ 142 US
แลกเสร็จไม่รีรอรีบตรงไปที่แท็กซี่เพราะว่าตาจะปิดแล้วหลาวววว !!!
พี่แท็กซี่ที่นี่พูดภาษาอังกฤษได้ เราก็ตรงดิ่งไปที่พักอันดับแรกเลยคะ
ระหว่างเดินทางก็ถามพี่แท็กซี่เพื่อเป็นความรู้ว่า มาที่นี่ต้องไปที่ไหน กินอะไร และอะไรที่ควรทำ อะไรที่ไม่ควรทำ เข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง (ความจริงอ่านหนังสือมาบ้าง เปิดเว็บมาบ้าง แต่ลืม!!! 555)
ถนนที่นี่เค้าแปลกๆสักนิดคือ รถเร็ววิ่งขวาเหมือนบ้านเรา แต่เลนขาไปคือทางขวาเหมือนกัน พวงมาลัยคนขับก็อยู่ฝั่งขวาเหมือนบ้านเรา พูดง่ายๆ ขับเหมือนบ้านเรา แต่เลนเหมือนยุโรป 5555 งงไหมคะ?
การขับรถที่นี่เค้าครึกครื้นสักนิดนะ พี่เค้าจะบีบแตรกันตลอดทั้งวันทั้งคืน กลายเป็นเรื่องธรรมดาของคนที่นี่ไปแล้ว
พูดง่ายๆคือ บีบแตรแทนการเปิดไฟเลี้ยวนะค่ะ ซ้ายก็ปริ๊น! ขวาก็ปริ๊น! วัชรามึนนนนน
การมาตะลุยแดนพม่าในครั้งนี้ พวกเราเลือกโรงแรม Clover City Center Hotel เราจองผ่าน Agoda เพราะได้ส่วนลด 40% เลยค่า โชคดีชะมัด!!!
สิ่งแรกหลังจาก Check in เสร็จคือการขอ Wifi 5555 เพราะเราอยากอัพเดต สเตตัสว่ามาถึงแล้ววววววว
ถึงห้องนอนเราก็อยากเดินเล่นเดินชิวหาของกินข้างทาง หาบาร์นั่งบ้าง (ไปคืนแรกก็เที่ยวซะแระ 555)
เดินออกมาตอนนั้นช่วงเวลาเกือบเที่ยงคืน ....
ปรากฏว่าตามถนนปิดไฟเกือบหมด เงียบมากกกก
.............
แถมท้องตอนนั้นก็ร้องหิวๆ และที่พม่าไม่มี 7-11 ข้าวกล่อง Easy เหมือนบ้านเรา
เราก็เดินต่อไป เดินต่อไป จนคิดว่ากลับดีกว่าเปลี่ยวมากน่ากลัว สุดท้ายร้าน super market ฝั่งขวามือของโรงแรมผ่านช่วงตึกไปแค่ 3 ช่วงตึกแถมเมื่อกี้ยังเดินผ่านไปอีก!! คิดในใจ “ทำมายตูม่ายเจอออออ”
เดินเข้าไปในร้านหาของกินเลยคะ ที่ Easy และอาหารที่เป็นธรรมเนียมของเหล่านักเดินทางคงหนีไม่พ้น ... >>มาม่า<< Yes! พี่สะกดถูกละ ไปพม่าเพื่อไปกินมาม่า 5555
เราก็ซื้อของหิ้วตุเลงตุเลงเข้าโรงแรมไป กินไปนั่งนับเงินไป และดูแผนที่ว่าไปเที่ยวที่ไหนยังไงบ้าง
หมดไปแล้วกับคืนแรกที่เรามาถึงย่างกุ้ง เตรียมพบกับวันที่ 2 ที่เราจะพาไปนั่งรถบัส ตะลุยอีกเมืองนะค่ะ