ก่อนอื่นผมขอท้าวความนิดนึงครับว่า ผมอายุ 33 จบปริญญาตรีวิดวะคอมจากสามพระจอม เกียรตินิยม
และได้ศึกษาต่อป.โทที่มหิดล สาขาวิดวะคอมเช่นกัน โดยส่วนตัวผมคิดว่าด้วยมันสมองที่จบเกียรตินิยมของผมแม้นไม่เก่งกาจทัดเทียมคนอื่น แต่คงไม่โง่อะไรมากมายนักถึงกับแยกแยะหรือให้คำแนะนำกับเด็ก18 และอาจารย์หน้าใหม่วัย 25 ปีไม่ได้
แต่ล่าสุดเมื่อลูกผมมาบอกว่า ปีหน้าต้องไปเที่ยวต่างประเทศ ขอเงินด้วยนะ
ผมงงว่า ต้องไปเที่ยวต่างประเทศ งงมาก ใครคือคนมากำหนดว่าต้องไป
ลูกได้บอกรายละเอียดว่า อาจารย์ที่รร.บอกมาเรียนท่องเที่ยวเรยให้ทำรายงานเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ซึ่งที่ผ่านมาคือให้ทำท่องเที่ยวในไทยแล้ว ดังนั้นปีสุดท้าย (ปวช.ปีสาม หลานผมอายุ18) ควรมีประสบการเที่ยวต่างประเทศ โดยอาจารย์จะทำการจับฉลากให้ไปว่าไปประเทศไหน(Euro Zoneทั้งหมด) โดยเดินทางกันเองเป็นกลุ่มกลุ่มละ 3 คน (ช่างฟังและดูดี) ให้ทำวีดีโอพรีเซนด้วย จะได้เอาไปพรีเซนใก้กับรร. อื่นในปีต่อๆไป ว่าสถาบันเรามีการสอนจิงปฏิบัติจริง บลาาาาาาามากมาย
สุดท้ายผมถามว่า
1 ที่สถาบันมีงบมาให้หรือป่าว? มีครับ งบทั้งหมดก็ขอเอาจากผู้ปกครองนักศึกษาเอง ทางสถาบันจะมีจดหมายไปบอกผู้ปกครองให้ว่านักศึกษาเดินทางไปทำรายงานที่ประเทศไหน ส่วนที่เหลือนักศึกษาจัดการเองหมดเพื่อใช้เป็นการเรียนรู้ ฝึกการเรียนรู้และการทำงาน และขั้นตอนต่างๆด้วยตนเอง
2 ใครเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย? ก็ตัวนักศึกษาเองครับ รายจ่ายส่วนนี้ไม่รวมกับค่าหน่วยกิจใดๆต้องหาออกเอง (ตัวมีรายได้ป่าว สุดท้ายก็ขอพ่อแม่ใช่ป่าว)
3 สถาบันอำนวยความสะดวกอะไรบ้างเช่น มีการติดต่อค่าที่พักในราคาพิเศษให้นักศึกษาบ้างไหม หรือมีการ Co กับมหาลัยต่างชาติเพื่อได้ที่พักในมหาลัยบ้างไหม? ไม่มีครับ ทางสถาบันไม่ได้ใหญ่โตอะไรจะไปมีการCoกับมหาลัยต่างชาติที่ไหนกัน (อันนี้เห็นด้วย เป็นแค่รร.พาณิชย์ย่านฝั่งธน แต่ทำอะไรเกินตัวไปนะ ที่สำคัญ
สอนและปลูกฝังค่านิยมที่เกินตัวให้นักเรียน อยากรู้นักไอ้ตัวอาจารย์ที่สอนวิชานี้อายุ 25 ปีมันเคยมีวีซาไปอเมกามั้ย ถามไปถามมา ตัวอาจารย์เองก็ยังไม่เคยไป ที่แย่กว่านั้นคือ พูดอังกิดยังไม่ได้เรยยย กระเดะให้นักเรียนไป ทั้งที่ตัวเองก็ไม่เคย)
4 สปอนเซอร์หละ? ไม่มีครับ สปอนเซอร์คืออะไร พอถึงจุดนี้ผมนี่ปรึดดดดดดดดมาก แต่ก็ไม่แสดงออกใดๆ นั่งคิดในใจว่า รร.พาณิชย่านฝั่งธนจ้างควายมาสอนควายกันหรือไง
5 เธอรู้ราคาตั๋วเครื่องบินราคาต่ำสุด ในช่วงเวลาที่ต่ำที่สุดหรือยัง? ไม่ทราบครับจะไปค่อยหาอีกที ตอนนี้อาจาย์ยังไม่บอกว่าใครไปไหน และผมจะรู้ได้ไง (อ่อ เอากะมันดิ ควายคุยกะควายรู้เรื่องมากกว่าจริงๆ)
ผมไม่เข้าใจจริงๆว่าอาจารย์เค้าพูดอะไรอย่างไรทำให้เด็กมีค่านิยมที่ผิดๆ (สอนให้เด็กมีรสนิยมสูงรายได้ต่ำ ใช่ครับส่วนหนึ่งเป็นที่สันดานเด็ก แต่ครูแบบนี้คือส่งเสริมค่านิยมผิดๆๆซ้ำไปอีกอย่างนั้นหรือ) ขั้นตอนการทำวีซ่า หรือพาสปอตยังไม่รู้ ขนาดนั้งเครื่องบินยังไม่เคย แต่ยังจะให้ทำเรืองแบบนี้
เพิ่มเติม (อันนี้ก็คิดในใจไม่ได้พูดให้หลานฟัง เพราะปกติผมเป็นคนที่คิดก่อนพูดเสมอ)
1 หลานผมมันเลือกเรียนที่นี่เอง พ่อแม่ยังไม่รู้ไรเรยว่าลูกเรียนอะไรบ้างวันๆ
2 หลานคนนี้เพิ่งมาอยู่กับผมไม่นาน ไม่ถึง 3 เดือน ผมนี่สงสัยมากตลอดระยะเวลาที่มันไปเรียน อาจารย์ได้พูดกล่อมเกล่าวัตถุนิยมและค่านิยมผิดๆ ไปถึงไหน หรือผ่านการเลี้ยงดูเช่นไร
3 ผมไม่ได้เลี้ยงเขามาด้วยตนเองและไม่ได้สนิทอะไรกับหลานมากมายนัก แต่คิดว่าการให้ที่พักอาศัย และค่าใช้จ่ายรายวันตามสมควรก็มีพระคุณมากแล้ว แต่นี่มายัดเยียดว่าผมต้องให้เงินไปทำกิจกรรมควายๆ รับไม่ได้
ส่วนตัวผมให้คำตอบกับหลานไปว่า
1 ไปได้ผมไม่ขัด จะรับจดหมายที่ทาางสถาบันส่งมา ว่ารับทราบ
2 ค่าใช้จ่ายทั้งหมดรวมถึงค่ากินค่าที่พัก pocket money หรืออื่นๆ ตามที่สถาบันเธอบอกไว้ว่า นักเรียนต้องหามาเอง ไม่ใช่ผู้ปกครอง นั่นคือไม่ใช่ผม เธอจะไปขอจากพ่อแม่เธอที่ทุกวันนี้หาเช้ากินค่ำ อาชีพแม่บ้านตามหมู่บ้าน หรือพ่อที่เปงเพียงกรรมกรก่อสร้างรายได้ต่อวันวันละ 300-400 บาทต่อวันค่อคนเพื่อให้เธอเอาไปพลานกับโครงการ4-5วันแต่ค่าใช้จ่าย 40000-50000 ก็ตามใจนะ (หลาน: 40000-50000บาทเรยหรือ ไม่ถึงหรอก / ผม(คิดในใจ):
มาโชว์โง่ว่าไม่ถึงอีกไป Euro zone นะไม่ใช่อัมพะวา)
3 อำนวยความสะดวกเรื่องการทำวีซ่า แน่นอนว่า น้าแค่รับทราบ แต่ไม่มีการเซ็นต์รับรองใดๆหรือประกันใดๆ ดังที่สถาบันบอกไว้ให้ทางนักเรียนเรียนรู้ด้วยตนเองจบมาจะได้มีความรู้และประสบการณ์หากน้าเข้าไปยุ่งเดียวหนูจะได้รับความรู้ไม่เต็มที่ หากทางอาจารย์ที่สั่งงานหนูเค้าเห็นว่าเหมาะสมและสมควร และด้วยอาจารย์จบใหม่อายุ 25 ปีมีความสามารถในการเซ็นรับรองให้นักเรียนร่วม 50 คนได้แล้วน้าจะไปล่วงล้ำหน้าที่เขาได้อย่างไร
4 หากเธอไม่ได้ไป และตกวิชานี้ มันคือเรื่องของเธอหรือป่าว เพราะน้าไม่ได้ไปเรียนกับเธอด้วย และเราต่างมีจุดยืนที่ต่างกันชัดเจนคือ เธออยากไป แต่น้าไม่สนับสนุน แต่ก็ไม่กีดกันน้าแค่เซ็นรับทราบว่าเธอไป แต่จะเขียนระบุไว้ด้วยนะรับทราบว่าไปแต่ไม่เห็นด้วยกับโครงการนี้และไม่อนุญาตแต่หากทางสถาบันคืดว่ารับผิดชอบไหวก็ให้ไป แต่จะไม่รับผิดชอบในทุกๆกรณี และหากเกิดอะไรทางสถาบันต้องเป็นผู้รับผิดชอบเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น ตอบกลับไปทางจดหมาย
5 หากเธอคิดว่าน้าไม่ช่วยเธอ ให้เข้าใจใหม่นะ คือน้าไม่สนับสนุนดีกว่า เพราะการที่เธอไปโดยมีค่าใช้จ่ายมากมายทั้งยังไม่มีการรับรองว่าไปและได้อะไรดีขึ้นมานอกจากคำว่าประสบการณ์ที่แลกมาด้วยเงินอันมากมาย ที่พ่อแม่เธอไม่มีปัญญาจ่ายให้แน่นอน แต่แม้นว่าน้าสามารถจ่ายให้ได้แต่ก็บอกจุดยืนแล้วว่าไม่สนับสนุนแม้นอยากจะขัด แต่คงขัดเธอไม่ได้ดังนั้นน้าแค่ขออยู่รับทราบเฉยๆไม่ทำอะไรทั้งสิ้น รวมไปถึงการสนับสนุนและขัดขวาง
ุ6 เธอไม่ต้องคิดมากนะว่าเธอจะตกวิชานี้ เพราะน้ามั่นใจว่า ผอ. สถาบันเธอคงไม่อนุมัติให้อาจารย์โง่ๆทำโครงการนี้แน่ หากตก ก็ตกกันครบทุกคน เพราะจากโปรไฟล์สถาบันเธอแล้ว เด็กพาณิชย์ทั่วๆ พ่อแม่ไม่มีปัญญาส่งไปกันหรอก หากมีก็จะสักกี่ % น้าทายเรยว่าไม่เกิน 10% นั่นคือหากชั้นเรียนน้องมี 100 คน รับรองได้ว่าคนที่สามารถไปได้มีไม่เกิน 10 คน แน่นอนว่ามีนักเรียนน้อยคนนักที่จะมีน้าหรือพ่อแม่ มาพูดแจกแจงแบบนี้ มีแต่พูดว่า ไม่มีเงินให้ไปเที่ยวหรอก เอาแค่เงินให้ไปเรียนแต่ละวันก็ลำบากละหลานเอ้ย ประสบการณ์เหล่านี้รอให้หลานหาเงินได้เองก่อนนะ บางคนทำงานมาตลอดชีวิตยังไม่เคยขึ้นเครื่องบินเรยแม้นแต่ในประเทศก็เหอะ หากอยากรู้ว่าใครลองไปถามพ่อแม่หลานสิว่าเคยหรือไม่
นกน้อยทำรังแต่พอตัวนะหากเกินตัว ตัวเองแหละจะลำบาก น้าไม่หวังให้เธอเข้าใจที่น้าพูดหรอกนะ ด้วยสติปัญญาความรู้ที่ต่างกันมากเกินไป ด้วยการเลี้ยงดู สังคม การศึกษา เธอพลาดเองที่เลือกมาเดินที่สถาบันที่เอาควายมาสอน น้าจนใจจิง หวังว่าปัญญาของเธอจะตื่นในเร็ววัน
เพิ่มเติมคับ
ขอโทษด้วยครับ
หลายคำในนี้ที่ผมเรียกหลานบ้าง ลูกบ้างจึงทำให้ผู้อ่านสับสัน
แต่เด็กคนนั้นเป็นหลานครับ แต่ตอนมาอยู่กับผม ผมเรียกเขาว่าลูกคับ
จึงทำให้สื่อสารสับสน ขอโทษด้วยครับ
เจอแล้วความพิบัติของการศึกษาไทย หลังทะเลาะกับหลานโง่ๆที่ผ่านการสอนจากครูโง่ๆ
และได้ศึกษาต่อป.โทที่มหิดล สาขาวิดวะคอมเช่นกัน โดยส่วนตัวผมคิดว่าด้วยมันสมองที่จบเกียรตินิยมของผมแม้นไม่เก่งกาจทัดเทียมคนอื่น แต่คงไม่โง่อะไรมากมายนักถึงกับแยกแยะหรือให้คำแนะนำกับเด็ก18 และอาจารย์หน้าใหม่วัย 25 ปีไม่ได้
แต่ล่าสุดเมื่อลูกผมมาบอกว่า ปีหน้าต้องไปเที่ยวต่างประเทศ ขอเงินด้วยนะ
ผมงงว่า ต้องไปเที่ยวต่างประเทศ งงมาก ใครคือคนมากำหนดว่าต้องไป
ลูกได้บอกรายละเอียดว่า อาจารย์ที่รร.บอกมาเรียนท่องเที่ยวเรยให้ทำรายงานเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ซึ่งที่ผ่านมาคือให้ทำท่องเที่ยวในไทยแล้ว ดังนั้นปีสุดท้าย (ปวช.ปีสาม หลานผมอายุ18) ควรมีประสบการเที่ยวต่างประเทศ โดยอาจารย์จะทำการจับฉลากให้ไปว่าไปประเทศไหน(Euro Zoneทั้งหมด) โดยเดินทางกันเองเป็นกลุ่มกลุ่มละ 3 คน (ช่างฟังและดูดี) ให้ทำวีดีโอพรีเซนด้วย จะได้เอาไปพรีเซนใก้กับรร. อื่นในปีต่อๆไป ว่าสถาบันเรามีการสอนจิงปฏิบัติจริง บลาาาาาาามากมาย
สุดท้ายผมถามว่า
1 ที่สถาบันมีงบมาให้หรือป่าว? มีครับ งบทั้งหมดก็ขอเอาจากผู้ปกครองนักศึกษาเอง ทางสถาบันจะมีจดหมายไปบอกผู้ปกครองให้ว่านักศึกษาเดินทางไปทำรายงานที่ประเทศไหน ส่วนที่เหลือนักศึกษาจัดการเองหมดเพื่อใช้เป็นการเรียนรู้ ฝึกการเรียนรู้และการทำงาน และขั้นตอนต่างๆด้วยตนเอง
2 ใครเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย? ก็ตัวนักศึกษาเองครับ รายจ่ายส่วนนี้ไม่รวมกับค่าหน่วยกิจใดๆต้องหาออกเอง (ตัวมีรายได้ป่าว สุดท้ายก็ขอพ่อแม่ใช่ป่าว)
3 สถาบันอำนวยความสะดวกอะไรบ้างเช่น มีการติดต่อค่าที่พักในราคาพิเศษให้นักศึกษาบ้างไหม หรือมีการ Co กับมหาลัยต่างชาติเพื่อได้ที่พักในมหาลัยบ้างไหม? ไม่มีครับ ทางสถาบันไม่ได้ใหญ่โตอะไรจะไปมีการCoกับมหาลัยต่างชาติที่ไหนกัน (อันนี้เห็นด้วย เป็นแค่รร.พาณิชย์ย่านฝั่งธน แต่ทำอะไรเกินตัวไปนะ ที่สำคัญสอนและปลูกฝังค่านิยมที่เกินตัวให้นักเรียน อยากรู้นักไอ้ตัวอาจารย์ที่สอนวิชานี้อายุ 25 ปีมันเคยมีวีซาไปอเมกามั้ย ถามไปถามมา ตัวอาจารย์เองก็ยังไม่เคยไป ที่แย่กว่านั้นคือ พูดอังกิดยังไม่ได้เรยยย กระเดะให้นักเรียนไป ทั้งที่ตัวเองก็ไม่เคย)
4 สปอนเซอร์หละ? ไม่มีครับ สปอนเซอร์คืออะไร พอถึงจุดนี้ผมนี่ปรึดดดดดดดดมาก แต่ก็ไม่แสดงออกใดๆ นั่งคิดในใจว่า รร.พาณิชย่านฝั่งธนจ้างควายมาสอนควายกันหรือไง
5 เธอรู้ราคาตั๋วเครื่องบินราคาต่ำสุด ในช่วงเวลาที่ต่ำที่สุดหรือยัง? ไม่ทราบครับจะไปค่อยหาอีกที ตอนนี้อาจาย์ยังไม่บอกว่าใครไปไหน และผมจะรู้ได้ไง (อ่อ เอากะมันดิ ควายคุยกะควายรู้เรื่องมากกว่าจริงๆ)
ผมไม่เข้าใจจริงๆว่าอาจารย์เค้าพูดอะไรอย่างไรทำให้เด็กมีค่านิยมที่ผิดๆ (สอนให้เด็กมีรสนิยมสูงรายได้ต่ำ ใช่ครับส่วนหนึ่งเป็นที่สันดานเด็ก แต่ครูแบบนี้คือส่งเสริมค่านิยมผิดๆๆซ้ำไปอีกอย่างนั้นหรือ) ขั้นตอนการทำวีซ่า หรือพาสปอตยังไม่รู้ ขนาดนั้งเครื่องบินยังไม่เคย แต่ยังจะให้ทำเรืองแบบนี้
เพิ่มเติม (อันนี้ก็คิดในใจไม่ได้พูดให้หลานฟัง เพราะปกติผมเป็นคนที่คิดก่อนพูดเสมอ)
1 หลานผมมันเลือกเรียนที่นี่เอง พ่อแม่ยังไม่รู้ไรเรยว่าลูกเรียนอะไรบ้างวันๆ
2 หลานคนนี้เพิ่งมาอยู่กับผมไม่นาน ไม่ถึง 3 เดือน ผมนี่สงสัยมากตลอดระยะเวลาที่มันไปเรียน อาจารย์ได้พูดกล่อมเกล่าวัตถุนิยมและค่านิยมผิดๆ ไปถึงไหน หรือผ่านการเลี้ยงดูเช่นไร
3 ผมไม่ได้เลี้ยงเขามาด้วยตนเองและไม่ได้สนิทอะไรกับหลานมากมายนัก แต่คิดว่าการให้ที่พักอาศัย และค่าใช้จ่ายรายวันตามสมควรก็มีพระคุณมากแล้ว แต่นี่มายัดเยียดว่าผมต้องให้เงินไปทำกิจกรรมควายๆ รับไม่ได้
ส่วนตัวผมให้คำตอบกับหลานไปว่า
1 ไปได้ผมไม่ขัด จะรับจดหมายที่ทาางสถาบันส่งมา ว่ารับทราบ
2 ค่าใช้จ่ายทั้งหมดรวมถึงค่ากินค่าที่พัก pocket money หรืออื่นๆ ตามที่สถาบันเธอบอกไว้ว่า นักเรียนต้องหามาเอง ไม่ใช่ผู้ปกครอง นั่นคือไม่ใช่ผม เธอจะไปขอจากพ่อแม่เธอที่ทุกวันนี้หาเช้ากินค่ำ อาชีพแม่บ้านตามหมู่บ้าน หรือพ่อที่เปงเพียงกรรมกรก่อสร้างรายได้ต่อวันวันละ 300-400 บาทต่อวันค่อคนเพื่อให้เธอเอาไปพลานกับโครงการ4-5วันแต่ค่าใช้จ่าย 40000-50000 ก็ตามใจนะ (หลาน: 40000-50000บาทเรยหรือ ไม่ถึงหรอก / ผม(คิดในใจ):มาโชว์โง่ว่าไม่ถึงอีกไป Euro zone นะไม่ใช่อัมพะวา)
3 อำนวยความสะดวกเรื่องการทำวีซ่า แน่นอนว่า น้าแค่รับทราบ แต่ไม่มีการเซ็นต์รับรองใดๆหรือประกันใดๆ ดังที่สถาบันบอกไว้ให้ทางนักเรียนเรียนรู้ด้วยตนเองจบมาจะได้มีความรู้และประสบการณ์หากน้าเข้าไปยุ่งเดียวหนูจะได้รับความรู้ไม่เต็มที่ หากทางอาจารย์ที่สั่งงานหนูเค้าเห็นว่าเหมาะสมและสมควร และด้วยอาจารย์จบใหม่อายุ 25 ปีมีความสามารถในการเซ็นรับรองให้นักเรียนร่วม 50 คนได้แล้วน้าจะไปล่วงล้ำหน้าที่เขาได้อย่างไร
4 หากเธอไม่ได้ไป และตกวิชานี้ มันคือเรื่องของเธอหรือป่าว เพราะน้าไม่ได้ไปเรียนกับเธอด้วย และเราต่างมีจุดยืนที่ต่างกันชัดเจนคือ เธออยากไป แต่น้าไม่สนับสนุน แต่ก็ไม่กีดกันน้าแค่เซ็นรับทราบว่าเธอไป แต่จะเขียนระบุไว้ด้วยนะรับทราบว่าไปแต่ไม่เห็นด้วยกับโครงการนี้และไม่อนุญาตแต่หากทางสถาบันคืดว่ารับผิดชอบไหวก็ให้ไป แต่จะไม่รับผิดชอบในทุกๆกรณี และหากเกิดอะไรทางสถาบันต้องเป็นผู้รับผิดชอบเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น ตอบกลับไปทางจดหมาย
5 หากเธอคิดว่าน้าไม่ช่วยเธอ ให้เข้าใจใหม่นะ คือน้าไม่สนับสนุนดีกว่า เพราะการที่เธอไปโดยมีค่าใช้จ่ายมากมายทั้งยังไม่มีการรับรองว่าไปและได้อะไรดีขึ้นมานอกจากคำว่าประสบการณ์ที่แลกมาด้วยเงินอันมากมาย ที่พ่อแม่เธอไม่มีปัญญาจ่ายให้แน่นอน แต่แม้นว่าน้าสามารถจ่ายให้ได้แต่ก็บอกจุดยืนแล้วว่าไม่สนับสนุนแม้นอยากจะขัด แต่คงขัดเธอไม่ได้ดังนั้นน้าแค่ขออยู่รับทราบเฉยๆไม่ทำอะไรทั้งสิ้น รวมไปถึงการสนับสนุนและขัดขวาง
ุ6 เธอไม่ต้องคิดมากนะว่าเธอจะตกวิชานี้ เพราะน้ามั่นใจว่า ผอ. สถาบันเธอคงไม่อนุมัติให้อาจารย์โง่ๆทำโครงการนี้แน่ หากตก ก็ตกกันครบทุกคน เพราะจากโปรไฟล์สถาบันเธอแล้ว เด็กพาณิชย์ทั่วๆ พ่อแม่ไม่มีปัญญาส่งไปกันหรอก หากมีก็จะสักกี่ % น้าทายเรยว่าไม่เกิน 10% นั่นคือหากชั้นเรียนน้องมี 100 คน รับรองได้ว่าคนที่สามารถไปได้มีไม่เกิน 10 คน แน่นอนว่ามีนักเรียนน้อยคนนักที่จะมีน้าหรือพ่อแม่ มาพูดแจกแจงแบบนี้ มีแต่พูดว่า ไม่มีเงินให้ไปเที่ยวหรอก เอาแค่เงินให้ไปเรียนแต่ละวันก็ลำบากละหลานเอ้ย ประสบการณ์เหล่านี้รอให้หลานหาเงินได้เองก่อนนะ บางคนทำงานมาตลอดชีวิตยังไม่เคยขึ้นเครื่องบินเรยแม้นแต่ในประเทศก็เหอะ หากอยากรู้ว่าใครลองไปถามพ่อแม่หลานสิว่าเคยหรือไม่
นกน้อยทำรังแต่พอตัวนะหากเกินตัว ตัวเองแหละจะลำบาก น้าไม่หวังให้เธอเข้าใจที่น้าพูดหรอกนะ ด้วยสติปัญญาความรู้ที่ต่างกันมากเกินไป ด้วยการเลี้ยงดู สังคม การศึกษา เธอพลาดเองที่เลือกมาเดินที่สถาบันที่เอาควายมาสอน น้าจนใจจิง หวังว่าปัญญาของเธอจะตื่นในเร็ววัน
เพิ่มเติมคับ
ขอโทษด้วยครับ
หลายคำในนี้ที่ผมเรียกหลานบ้าง ลูกบ้างจึงทำให้ผู้อ่านสับสัน
แต่เด็กคนนั้นเป็นหลานครับ แต่ตอนมาอยู่กับผม ผมเรียกเขาว่าลูกคับ
จึงทำให้สื่อสารสับสน ขอโทษด้วยครับ