สวัสดีค่ะ ยืมไอดีเพื่อนมานะคะ ไปดูประวัติการตั้งแล้ว
ดูเหมือนเพื่อนเราจะตั้งไป 2 -3 กระทู้ นอกนั้นฝีมือเราหมด
เราเรียนจบมา 2 ปีแล้วค่ะ ทำงานสายบัญชีเหมือนตามที่เรียนมา
ตั้งใจตั้งแต่เริ่มทำงานว่า อยากสอบCPA เลยจำเป็นต้องไปเก็บชม.ที่สำนักงานบัญชี
ทำงานที่เเรก ได้เงินเดือน 9 พันค่ะ หักประกันสังคมก็เหลือ 8500 โดนประมาณ
เป็นอ๊อฟฟิตเล็ก อยู่ในหลืบ เดินทางด้วยรถเมล์เพียงสายเดียว มา ชม. ละคัน บ้างก็ 2 ชม.มาที
เราต้องนั่งรถเมล์ผ่านทางแยกเกษตร ซึ่งใช้เวลานานมากตอนขากลับ
คือถ้ามีมอไซด์สักคันก็คงจะพอช่วยให้ได้ถึงบ้านพักผ่อนเร็ว
แต่นี้เงินเดือน 9 พัน ต้องจ่ายทั้งค่าห้อง ดูแลแม่ มันก็ไม่พอแล้วค่ะ
ช่วงแรกๆที่ทำงาน มันก็ไม่มีปัญหาไม่เท่าไหร่ เพราะมีรุ่นพี่เขาทำเป็น
พี่เขามีประสบการณ์มา 10 กว่าปีแล้วค่ะ ค่อนข้างจะเก่ง แต่ขี้เหวี่ยง
เราจะถามอะไรต้องรออารมณ์ นึกอยากบอกก็บอก ไม่อยากบอกก็เงียบใส่
มีแอดมินเป็นพี่เขยของเจ้าของ คนนี้ก็นึกอยากทำอะไรก็ทำ ถามอะไรก็ไม่รู้เรื่องสักอย่าง
เอกสารในส่วนของพี่แกที่เก็บไว้ หาไม่เจอก็เหวี่ยงเรา คือยังไงล่ะ ก็ไม่ได้เก็บด้วย
โอ๊ยยย อยากจะให้เห็นสภาพเหลือเกินค่ะ จะเดินไปฉี่ทีต้องเอาเท้าเขี่ยๆลังเอกสารที่กองๆขวางทาง
ทำงานครบ 11 เดือน ปัญหามันเริ่มเกิดตอนที่ พี่คนทำบัญชีเขาลาออกค่ะ เรายังปิดงบไม่เป็นเลย
เรื่องภาษี เรื่องตรวจสอบนี้พอทำได้ค่ะ ( ตอนนั้นยังไม่มั่นใจในตัวเองเท่าไหร่ )
ก่อนหน้าพี่เขาจะลาออก 4 เดือน มีพนักงานใหม่เข้ามาอีกคนค่ะ เป็นผู้ชาย
และมันก็ดั้นป่วยเป็นโรคที่สามารถแพร่เชื้อได้ เจ้านายเลยให้หยุดพักรักษาตัว
ประจวบเหมาะกับพี่คนเก่าลาออก เราเลยต้องรับหน้าที่ทำทุกอย่าง ทั้งหมด 15 บริษัท
ถามว่าเงินเดือนขึ้นไหม ขึ้นค่ะ 2 พัน แต่ขึ้นเพราะครบปีแล้ว ไม่ใช่เพราะงานเยอะ
เราทำหน้าที่ทุกอย่างค่ะ 1 เดือนวิ่งหัวหมุน คอมเก่าๆที่เปิดติดบ้างไม่ติดบ้าง
คุณแอดมินเปิดไม่ติด ก็นั่งทุบคอมอยู่นั่ง เราก็สงสัยว่าทำไมไม่ซื้อใหม่รึตามช่าง
อ๊อฟฟิตสกปรกมาก! เราถึงขั้นเป็นภูมิแพ้ ตอนนั่นต้องรับหน้าที่ทำงานทุกตำแหน่งค่ะ
เหนื่อยมาก เพราะมันยุ่งจนไม่มีเวลาให้ตัวเอง แอดมินก็ไม่เคยช่วยเหลืออะไรได้
กลับห้องสองสามทุ่ม รถเมล์ก็ไม่มี นั่งรอไปเถอะค่ะ จะนั่งแท็กซี่ ก็กลัวเงินใช้ไม่พอ
เครียดมาก เครียด โมโห ว่าทำไมเขาปล่อยเราทำงานคนเดียว ทำไมไม่จ้างคนมาอีก
จะรอคนป่วยทำไม!!! จนคนป่วยมันเข้ามาเขียนใบลาออกไว้ และทิ้งงานในส่วนของมันไว้ให้เราทำ
ใจโกรธก็โกรธ ว่าทำไมเป็นผู้ชายไม่มีความรับผิดชอบแบบนี้!!! เจ้านายก็ขี้เหนียว
เราทำงานครบปี...เราไม่ได้โบนัสสักแดงค่ะ อย่างดีก็พาไปกินสเต็ค
ช่วยนั้นมีเด็กฝึกงานเข้ามาช่วยค่ะ 5 คน แต่... ช่วยสร้างปัญหามากกว่าแบ่งเบา
ให้คีย์ข้อมูลก็คีย์ข้าม ไม่ตั้งใจ วันๆนั่งฟังเพลง คุยกับผู้ชาย
อิแค่จะยกน้ำไปให้เจ้านาย ก็เกี่ยงกัน ยกไปให้แล้วก็ไม่ตามเก็บนะคะ
เป็นเราอีกแหละที่ต้องขึ้นไปตามมาล้าง เป็นแม่บ้านพ่วงอีก
ลงมาในครัว แอดมินก็กินกาแฟ เอาแก้ววางไว้ในซิงค์ล้างจาน
บางวันก็จานข้าว มันช้ำตรงครั้งนึงเราลาป่วยไป 2 วัน
กลับมาจานเต็มอ่าง นี่... เราเป็นผู้หญิงหรอเขาเลยเอาเปรียบ
มือเท้าไม่มีรึไง รู้จักกินแล้วทำไมไม่รู้จักล้างว่ะ!!!
อยู่บ้านนี้คงกลัวเมียกันจะตายล่ะ พออยู่กับลูกน้องเลยทำตัวข่มแบบนี้
ของเน่าเขรอะเต็มจาน ไม่นึกว่าเราจะรังเกียจรึไง บุหรี่ก็สูบ ปากก็เหม็น
ไม่รู้เป็นโรคประจำตัวอะไรไหม ทำงานเยอะแล้วต้องมาเป็นแม่บ้านด้วยหรอเนี๊ย
ได้เงินเดือน 2 ตำแหน่งไหม บางทีห้องน้ำสกปรก จนเราเข้าไม่ไหว
ก็ต้องล้างเองค่ะ ตกเย็นชวนไอ้เพื่อนเจ้าของไอดีนี้แหละ เข้าไปช่วยทำความสะอาด
มันไม่มีความรู้ด้านบัญชีเลยสักนิด มันก็อยากเข้าไปช่วยเราทำ
ไปคีย์ข้อมูล เรียงเอกสารช่วยทุกครั้งที่มันว่าง รึงานเราเยอะจนไม่มีเวลา
จนสุดท้ายทนไม่ไหวค่ะ เราเหนื่อยมาก นั่งมองไปดูคุณแอดมิน นั่งส่องพระ เล่นพันธิป
เจ้านายหนีไปเที่ยวเมืองนอก แล้วเรานั่งทำงานให้เขาไปสบาย
นี้เราทนทำอะไรอยู่ ที่อยู่ให้ครบปีก็เพราะอยากได้ชั่วโมงเก็บค่ะ
ผลสุดท้ายทนไม่ไหวแล้วค่ะ มันมีประโยคนึงที่เขาดถูกน้ำใจเรามาก
เราเลยตัดสินใจลาออก และแก้เผ็ดโดนการทิ้งงานปิดงบไว้ให้แก
ซึ่งตอนนั่นมีแต่เด็กฝึกงงานที่ทำอะไรไม่เป็นอยู่แล้ว เอ้า!!!!! ถ้าจะดูถูกกันขนาดนี้
พอกันที!! ตัดสินใจลาออก และเราก็โดนด่ากลับมา ว่า ไอ้เด็กเจนนี้มันไม่มีความอดทน!
ทวงบุญคุณไปตั้งแต่เลี้ยงสเต็คเลยค่ะ ทวงทุกอย่าง ซึ่งมีน้อยมาก!!!
...............................................................................................................
เราได้งานใหม่เป็นสำนักงานบัญชีขนาดใหญ่ที่อโศก
เงินเดือน 13000 ก็ลองดูค่ะ ไปอยู่องค์กรเล็ก แบบไม่มีวินัยในการทำงงานแล้ว
ลองไปอยู่องค์กรใหญ่ๆดู เข้าไปวันแรกก็เหมือนจะดูดีค่ะ
พอวันต่อๆมาเราเริ่มโดนเหวี่ยง วันๆให้เราเดินเอกสาร
พี่เลี้ยงไม่เคยสอนงาน ไม่มีการมอบหมายงาน
มีแต่บอกว่า " ไปเอาเอกสารที่ปริ้นมาให้หน่อย " " ไปถ่ายเอกสารให้หน่อย "
อย่างที่บอกค่ะว่าเรามีปัญหาการเงิน มัปัญหาครอบครัว ซึ่งหนักหน่วงมากพอตัว
เหนื่อยกว่านังบุญรอดก็เราล่ะค่ะ บางมุมก็คิดว่าตัวเองเป็นวันเฉลิม ผิดตรงแม่ไม่ติดเหล้า แต่ติดหรู
ปัญหาอะไรไม่รู้เยอะแยะ เหนื่อยค่ะเหนื่อย แต่ทำได้ดีที่สุดคือเงียบ แล้วก็รีบๆนอน นอนเยอะๆ
จะได้ไม่รับรู้อะไร
เราเลยจำเป็นต้องห่อข้าวมากิน เพราะต้องจ่ายค่า BTS เยอะ
ค่าอาหารแถวนั้นแพงมาก ซึ่งก็มีไอ้เพื่อนเจ้าของไอดีนี้แหละค่ะ
คอยช่วยทำกับข้าวให้เราตอนเช้า ต้องขอบคุณนางนะคะ นางน่ารัก
เราอยู่หอเดียวกันค่ะ แต่คนละห้องนะ มันเห็นเราลำบาก มันก็มาช่วยทุกทีที่ไม่ได้ร้องขอ
พูดได้ว่า สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตเราก็คือมันนี้แหละ อิอิ
พอเราห่อข้าวมากิน ทำให้เราไม่ค่อยได้ไปกินข้าวกับคนในสายงาน
เขามองว่าเรา ไม่เข้าหาคนค่ะ เอาจริงๆเราเป็นคนคุยเก่งนะ
แต่เห็นเขาทำงาน เราก็ไม่รู้จะเข้าไปคุยทำไม ก็มันเวลางาน
โดยนิสัยก็ไม่ใช่คนขี้เม้าท์ จะเรื่องดารา เรื่องแฟชั่น เราก็ไม่ค่อยจะสนใจ
อีกอย่สงคือเวลาคุยแล้วโดนเหวี่ยงมา เลยไม่อยากจะคุย
โปรแกรมสำหรับทำบัญชีมันไม่เหมือนที่เคยทำค่ะ
เลยจะงงๆนิดหน่อย เราไม่เข้าใจ สิ่งที่เราทำได้คือกูเกิ้ลหาค่ะ
เพราะถ้าถามเขา เขาจะตอบกลับมาว่า " ตอนฉันทำฉันไม่เห็นต้องถามใครเลย ไอ้เด็กเจนนี้มันไม่มีความอดทน ไม่เอาอ่าว!! "
นี้พี่เลี้ยงเขามีหน้าที่อะไร บางทีเราก็สงสัย
จนกระทั่งได้ไปงานกีฬาสีของบริษัทค่ะ เขาไม่ชวนเราเข้ากลุ่ม
ไม่ชวนนั่ง เราไปเช้านะ ยิ้ม ไหว้ทักทายตามมารยาทไทยแท้เลย
แต่เหมือนเขาไม่เอาเราอ่ะ รู้ตัวเลย ว่าสังคมไม่เปิดรับ
เหนื่อยค่ะ อึดอัด ปัญหาเยอะอยู่เเล้ว ยิ่งดิ่งลงกว่าเดิม
สุดท้ายเราก็ตัดสินใจลาออก อยู่แค่ 4 เดือนค่ะ
เข้าไปแจ้งลาออก หัวหน้าถามว่าทำไมอยากลาออก
พี่เลี้ยงเป็นไง พูดได้นะ แต่เราก็เลือกจะไม่พูดนะ
เราพึ่งเข้ามา เขาอยู่กันมาตั้งหลายปี
ก่อนที่หัวหน้าจะทิ้งท้ายไว้อย่างนิ่งๆว่า " เอาเถอะจะเหตุผลอะไรพี่ก็ไม่อยากรับรู้ "
นั่นมันหมายความว่า เขาจงใจบีบให้เราออกใช่ไหมคะ แต่ก็ช่างมันเถอะ
..........................................................................................
มาทำงานที่ใหม่ อยู่ไกลมาก ต้องมาอาศัยญาติอยู่ ตอนนี้เงินเดือนสูงมากค่ะ 18000 แล้ว
ญาติก็เป็นพี่สะใภ้ค่ะ ช่วยให้เรามาทำงานในนี้แหละ เอาจริงเราระลึกนึกถึงบุญคุณเขาทุกอย่างนะ
แต่เราเจ็บใจตรงเขาชอบทวงบุญคุณ นี่คนบนโลกมองเราเป็นคนยังไง
แกพึ่งเลิกกับแฟนค่ะ วันๆแกก็จะนั่งบ่นเรื่องผัวให้เมสเซนเจอร์ฟัง
อวดอยู่นั้นแหละว่าบ้านมีบ้านรวย นี้ก็ไม่ได้อิจฉาหรอกค่ะ แต่รำคาญ
เวลาถามงาน นางจะตอบกลับมาว่า " ที่มอไม่สอนหรอ " " อะไรอ่ะ แค่นี้ไม่รู้หรอ? "
แล้วก็ไม่บอกคำตอบนะ นั่งตัวพองทำหน้าเหวี่ยงไปเรื่อย
โอเค ไม่บอกก็ไม่บอก เราก็พยายามหาทางทำเองค่ะ ถูกผิดก็ลองด้วยตัวเองมาโดยตลอด
บางทีเราก็เหนื่อยนะ แอบสงสัยว่าทำไมเราต้องมาเจอแต่คนแบบนี้!!
พี่แกชอบโบ้ยงานค่ะ มาทำงานสาย กินจะกินข้าว กว่าจะนั่งเม้าท์ เช็คเฟสบุ๊ค
กว่าจะวีนเรื่องกิ๊ก กว่าจะเม้าท์กับเมสเซนเจอร์ ก็เที่ยงเเล้ว
เราจะลงไปกินข้าว นางเห็นแดดแรง ก็ฝากเราซื้อให้
เราลงไปธนาคาร ก็ฝากเราซื้อของ
เราถือของพะรุงพะรัง ก็ฝากเราถือของ ในมือมีอะไรคะ ในมือมีกระเป็าแบรนด์เนมค่ะ
อิแค่ข้าวกล่องเดียวก็ถือไม่ได้ค่ะ มันร้อนค่ะ
ไม่กล้าวางบนกระเป๋าราคาหลายพันค่ะ กลัวมันลอกค่ะ โอ๊ยยยย
ล่าสุด เราต้องดิวงานกับชาวต่างชาติ ซึ่งเราก็โง่ภาษาเหลือเกิน
เราต้องกูเกิ้ลทรานสเลทคุยกับลูกค้าค่ะ นางก็ไม่คิดจะช่วยเหลืออะไรเลยค่ะ
ทั้งๆที่ก็อวดมาตลอดว่า ตัวเองเหนือคน ก็นักเก่งหนา นี่ถ้าไม่มีบุญคุณนี่ด่าแล้ว
เราก็ไม่อยากจะมาทำด้วยหรอกนะคะ แต่มันตกงานพอดี
แม่เราอีกแหละ จัดการดำเนินการให้ทุกอย่าง ไปอยู่กับเขา ซึ่งไม่สนิทเลย
ไม่รู้เลยว่านิสัยใจคอเขาเป็นไง เราว่าเเล้วว่าวันนึงมันต้องเป็นแบบนี้
เราต้องอยู่ในสถานะน้ำเต็มปากแบบนี้ หลายคนอาจจะถามว่า เงินเดือนเยอะทำไมไม่เช่าห้องอยู่เอง
เราก็อยากออกมาใจจะขาดแล้วค่ะ แต่ต้องเก็บตังค์ใช้หนี้ให้แม่เดือนกุมพานี้
เราอึดอัดมากค่ะ ไม่มีเวลาเป็นส่วนตัวเลย
เอาจริงๆชีวิตนี้ก็ไม่เคยมีความเป็นส่วนตัวเลยนะ
อาศัยบ้านคนอื่นอยู่มาโดยตลอด
เราทนไม่ไหวนั่งบ่น ให้แม่ฟัง แต่แม่ไม่เข้าใจค่ะ
เข้าใจไปคนละเรื่อง เบื่อจะพูดแล้ว
เราต้องรองรับอารมณ์ และรับใช้นาง
เขาทะเลาะกับผัวเขามา ก็มาวีนหงุดหงิดใส่เรา วุฒิภาวะทางอารมณ์ต่ำแบบนี้ไง ผัวถึงมีเมียน้อย
โดนใช้ทุกอย่าง ไปเวฟข้าวให้หน่อย ตัวเองก็นั่งสไลด์มือถือรอ
วันๆพร่ำบอกแต่บ้านตัวเองรวย โธ่! รวยมากจ้างแม่บ้านมาเลยค่ะ
เอามานั่งคอยนวด คอยเวฟข้าว คอยไปซื้อของให้
ลำพังงานเราก็ยุ่งอยู่แล้วค่ะ ในส่วนที่รับผิดชอบมันยุ่งมาก
ลูกค้าก็เยอะเรื่อง เอาแต่ใจ จะเอาตอนนี้ ก็จะเอาตอนนี้ ไม่ฟังเหตุผลอะไร
เจ้านายน่ารักค่ะ แต่ใจร้อน รออะไรไม่ได้ ถ้าจะเอาต้องเดี๋ยวนี้
เราก็ต้องทำให้ทันใจ รับงานจากนายมาแล้ว พี่แกก็ยังมาใช้หยุ่มหยิ่ม
นี้ถ้าจะใช้ไปล้างตูดให้ได้คงใช้ไปแล้วค่ะ
ปริ้นงานมา ก็ใช้เราไปหยิบให้ นี้จะลากเครื่องปริ้นไปไว้ข้างโต๊ะนางแล้วจะได้ไม่ต้องใช้
อยู่ห้องเราซักผ้าอยู่ พี่แกก็ตะโกนบอกเรามาเปิดสวิทซ์ทีวีให้
ทีวีก็วางอยู่ไม่ถึงสามก้าวเนี๊ย ทำไมถึงลุกไปทำเองไม่ได้!!
เราไปทำงานเช้า ฝากเราเอาของไปก่อนค่ะ สักพักโทรมาแล้ว ซื้อกาแฟ หับสปาเก็ตตี้ให้ด้วยนะ ขอซอสเขาเพิ่มด้วย
ไอ้เราก็หอบของพะรุงพะรังขึ้นตึกทุกวัน โว้ยยยยยยยยย อึดอัด!!!!!
พอเมสเซนเจอร์มาก็นั่งเม้าส์เรื่องผัวค่ะ เล่าให้ฟังทุกคน เขาไม่เคยดี บ้านเขาทอแหล
ตอนรักนี้นะ!!!!!!!!! หึมมมมมมมมมม เราก็ไม่ได้โกรธหรอกนะคะ ที่เขาจะมาว่าบ้านเราไม่ดีรึยังไง
เพราะมันก็เป็นจริงๆ แต่มันน่าโมโหที่ชอบเหยียบคนอื่นให้ต่ำ เพื่อให้ตัวเองดูดีนี้แหละ
คนตระกูลสูงๆ มีเงิน รวยมีที่เป็นพันๆไร่ เราก็ไม่เห็นเขาเอามาอวดเอามาเหยียบย้ำคนอื่นแบบนี้
พอนายมาก็ค่อยทำค่ะงาน พอนายออกไปก็นอนค่ะ เล่นเฟสบุ๊คค่ะ
เราก็โดนโบ้ยงานทุกอย่าง เหนื่อยกับงานไม่เท่าไหร่ค่ะ
เหนื่อยกะยัยนี้นี้แหละ อยากโดดถีบมาก!!!!! แต่ก็นะ...
บางวันเรานั่งบ่นว่า เราอยากไปทำสวน พี่แกก็เอ่ยว่า โอ๊ย มีแต่คนขี้เกียจแหละคิดงั้น
จ้า จ๊ะ แม่คนขยัน ดีค่ะท่าน ใช่ค่ะคุณนาย
!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
บางทีเราเห็นข่าวเด็กพึ่งเกิด แล้วเห็นโลกวุ่นวายเราก็เลยบ่นลอยๆ ว่าสงสารเด็กในอนาคตเน๊าะ
พี่แกก็สวนมา เด็กที่ไหน ญาติเธอหรอ เหอะๆ พี่ไม่ต้องห่วงอะไร เพราะบ้านพี่มี
จ้าาาาาาาาาาาาาา จ๊ะ จ่ะ จ๊ะ ว๊อยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
เนี๊ยๆๆ เราโดนแบบนี้ทั้งวัน อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
...................................................................................
ได้ระบายสักหน่อยพอให้ผ่อนคลายลงบ้าง
เพื่อนๆมีปัญหาอะไรในที่ทำงาน อึดอัดมาก แต่ไม่มีที่ระบายไหมคะ
มาๆ มาแชร์กันหน่อย
ปล.ย้ายมาสามที่ ยังเก็บชั่วโมงไม่ได้ และไม่เก็บแล้วค่ะ ไม่ทำงานสายนี้แล้วค่ะ
รอเก็บเงินได้จะหนีกลับไปทำธุรกิจส่วนตัวแล้ว เบื่อค่ะ เบื่อเหลือเกินนนนนนนนนน
มาแชร์ประสบการณ์ การเป็น " ทาสชั้นสูง " กันค่ะ ( มนุษย์เงินเดือน )
ดูเหมือนเพื่อนเราจะตั้งไป 2 -3 กระทู้ นอกนั้นฝีมือเราหมด
เราเรียนจบมา 2 ปีแล้วค่ะ ทำงานสายบัญชีเหมือนตามที่เรียนมา
ตั้งใจตั้งแต่เริ่มทำงานว่า อยากสอบCPA เลยจำเป็นต้องไปเก็บชม.ที่สำนักงานบัญชี
ทำงานที่เเรก ได้เงินเดือน 9 พันค่ะ หักประกันสังคมก็เหลือ 8500 โดนประมาณ
เป็นอ๊อฟฟิตเล็ก อยู่ในหลืบ เดินทางด้วยรถเมล์เพียงสายเดียว มา ชม. ละคัน บ้างก็ 2 ชม.มาที
เราต้องนั่งรถเมล์ผ่านทางแยกเกษตร ซึ่งใช้เวลานานมากตอนขากลับ
คือถ้ามีมอไซด์สักคันก็คงจะพอช่วยให้ได้ถึงบ้านพักผ่อนเร็ว
แต่นี้เงินเดือน 9 พัน ต้องจ่ายทั้งค่าห้อง ดูแลแม่ มันก็ไม่พอแล้วค่ะ
ช่วงแรกๆที่ทำงาน มันก็ไม่มีปัญหาไม่เท่าไหร่ เพราะมีรุ่นพี่เขาทำเป็น
พี่เขามีประสบการณ์มา 10 กว่าปีแล้วค่ะ ค่อนข้างจะเก่ง แต่ขี้เหวี่ยง
เราจะถามอะไรต้องรออารมณ์ นึกอยากบอกก็บอก ไม่อยากบอกก็เงียบใส่
มีแอดมินเป็นพี่เขยของเจ้าของ คนนี้ก็นึกอยากทำอะไรก็ทำ ถามอะไรก็ไม่รู้เรื่องสักอย่าง
เอกสารในส่วนของพี่แกที่เก็บไว้ หาไม่เจอก็เหวี่ยงเรา คือยังไงล่ะ ก็ไม่ได้เก็บด้วย
โอ๊ยยย อยากจะให้เห็นสภาพเหลือเกินค่ะ จะเดินไปฉี่ทีต้องเอาเท้าเขี่ยๆลังเอกสารที่กองๆขวางทาง
ทำงานครบ 11 เดือน ปัญหามันเริ่มเกิดตอนที่ พี่คนทำบัญชีเขาลาออกค่ะ เรายังปิดงบไม่เป็นเลย
เรื่องภาษี เรื่องตรวจสอบนี้พอทำได้ค่ะ ( ตอนนั้นยังไม่มั่นใจในตัวเองเท่าไหร่ )
ก่อนหน้าพี่เขาจะลาออก 4 เดือน มีพนักงานใหม่เข้ามาอีกคนค่ะ เป็นผู้ชาย
และมันก็ดั้นป่วยเป็นโรคที่สามารถแพร่เชื้อได้ เจ้านายเลยให้หยุดพักรักษาตัว
ประจวบเหมาะกับพี่คนเก่าลาออก เราเลยต้องรับหน้าที่ทำทุกอย่าง ทั้งหมด 15 บริษัท
ถามว่าเงินเดือนขึ้นไหม ขึ้นค่ะ 2 พัน แต่ขึ้นเพราะครบปีแล้ว ไม่ใช่เพราะงานเยอะ
เราทำหน้าที่ทุกอย่างค่ะ 1 เดือนวิ่งหัวหมุน คอมเก่าๆที่เปิดติดบ้างไม่ติดบ้าง
คุณแอดมินเปิดไม่ติด ก็นั่งทุบคอมอยู่นั่ง เราก็สงสัยว่าทำไมไม่ซื้อใหม่รึตามช่าง
อ๊อฟฟิตสกปรกมาก! เราถึงขั้นเป็นภูมิแพ้ ตอนนั่นต้องรับหน้าที่ทำงานทุกตำแหน่งค่ะ
เหนื่อยมาก เพราะมันยุ่งจนไม่มีเวลาให้ตัวเอง แอดมินก็ไม่เคยช่วยเหลืออะไรได้
กลับห้องสองสามทุ่ม รถเมล์ก็ไม่มี นั่งรอไปเถอะค่ะ จะนั่งแท็กซี่ ก็กลัวเงินใช้ไม่พอ
เครียดมาก เครียด โมโห ว่าทำไมเขาปล่อยเราทำงานคนเดียว ทำไมไม่จ้างคนมาอีก
จะรอคนป่วยทำไม!!! จนคนป่วยมันเข้ามาเขียนใบลาออกไว้ และทิ้งงานในส่วนของมันไว้ให้เราทำ
ใจโกรธก็โกรธ ว่าทำไมเป็นผู้ชายไม่มีความรับผิดชอบแบบนี้!!! เจ้านายก็ขี้เหนียว
เราทำงานครบปี...เราไม่ได้โบนัสสักแดงค่ะ อย่างดีก็พาไปกินสเต็ค
ช่วยนั้นมีเด็กฝึกงานเข้ามาช่วยค่ะ 5 คน แต่... ช่วยสร้างปัญหามากกว่าแบ่งเบา
ให้คีย์ข้อมูลก็คีย์ข้าม ไม่ตั้งใจ วันๆนั่งฟังเพลง คุยกับผู้ชาย
อิแค่จะยกน้ำไปให้เจ้านาย ก็เกี่ยงกัน ยกไปให้แล้วก็ไม่ตามเก็บนะคะ
เป็นเราอีกแหละที่ต้องขึ้นไปตามมาล้าง เป็นแม่บ้านพ่วงอีก
ลงมาในครัว แอดมินก็กินกาแฟ เอาแก้ววางไว้ในซิงค์ล้างจาน
บางวันก็จานข้าว มันช้ำตรงครั้งนึงเราลาป่วยไป 2 วัน
กลับมาจานเต็มอ่าง นี่... เราเป็นผู้หญิงหรอเขาเลยเอาเปรียบ
มือเท้าไม่มีรึไง รู้จักกินแล้วทำไมไม่รู้จักล้างว่ะ!!!
อยู่บ้านนี้คงกลัวเมียกันจะตายล่ะ พออยู่กับลูกน้องเลยทำตัวข่มแบบนี้
ของเน่าเขรอะเต็มจาน ไม่นึกว่าเราจะรังเกียจรึไง บุหรี่ก็สูบ ปากก็เหม็น
ไม่รู้เป็นโรคประจำตัวอะไรไหม ทำงานเยอะแล้วต้องมาเป็นแม่บ้านด้วยหรอเนี๊ย
ได้เงินเดือน 2 ตำแหน่งไหม บางทีห้องน้ำสกปรก จนเราเข้าไม่ไหว
ก็ต้องล้างเองค่ะ ตกเย็นชวนไอ้เพื่อนเจ้าของไอดีนี้แหละ เข้าไปช่วยทำความสะอาด
มันไม่มีความรู้ด้านบัญชีเลยสักนิด มันก็อยากเข้าไปช่วยเราทำ
ไปคีย์ข้อมูล เรียงเอกสารช่วยทุกครั้งที่มันว่าง รึงานเราเยอะจนไม่มีเวลา
จนสุดท้ายทนไม่ไหวค่ะ เราเหนื่อยมาก นั่งมองไปดูคุณแอดมิน นั่งส่องพระ เล่นพันธิป
เจ้านายหนีไปเที่ยวเมืองนอก แล้วเรานั่งทำงานให้เขาไปสบาย
นี้เราทนทำอะไรอยู่ ที่อยู่ให้ครบปีก็เพราะอยากได้ชั่วโมงเก็บค่ะ
ผลสุดท้ายทนไม่ไหวแล้วค่ะ มันมีประโยคนึงที่เขาดถูกน้ำใจเรามาก
เราเลยตัดสินใจลาออก และแก้เผ็ดโดนการทิ้งงานปิดงบไว้ให้แก
ซึ่งตอนนั่นมีแต่เด็กฝึกงงานที่ทำอะไรไม่เป็นอยู่แล้ว เอ้า!!!!! ถ้าจะดูถูกกันขนาดนี้
พอกันที!! ตัดสินใจลาออก และเราก็โดนด่ากลับมา ว่า ไอ้เด็กเจนนี้มันไม่มีความอดทน!
ทวงบุญคุณไปตั้งแต่เลี้ยงสเต็คเลยค่ะ ทวงทุกอย่าง ซึ่งมีน้อยมาก!!!
...............................................................................................................
เราได้งานใหม่เป็นสำนักงานบัญชีขนาดใหญ่ที่อโศก
เงินเดือน 13000 ก็ลองดูค่ะ ไปอยู่องค์กรเล็ก แบบไม่มีวินัยในการทำงงานแล้ว
ลองไปอยู่องค์กรใหญ่ๆดู เข้าไปวันแรกก็เหมือนจะดูดีค่ะ
พอวันต่อๆมาเราเริ่มโดนเหวี่ยง วันๆให้เราเดินเอกสาร
พี่เลี้ยงไม่เคยสอนงาน ไม่มีการมอบหมายงาน
มีแต่บอกว่า " ไปเอาเอกสารที่ปริ้นมาให้หน่อย " " ไปถ่ายเอกสารให้หน่อย "
อย่างที่บอกค่ะว่าเรามีปัญหาการเงิน มัปัญหาครอบครัว ซึ่งหนักหน่วงมากพอตัว
เหนื่อยกว่านังบุญรอดก็เราล่ะค่ะ บางมุมก็คิดว่าตัวเองเป็นวันเฉลิม ผิดตรงแม่ไม่ติดเหล้า แต่ติดหรู
ปัญหาอะไรไม่รู้เยอะแยะ เหนื่อยค่ะเหนื่อย แต่ทำได้ดีที่สุดคือเงียบ แล้วก็รีบๆนอน นอนเยอะๆ
จะได้ไม่รับรู้อะไร
เราเลยจำเป็นต้องห่อข้าวมากิน เพราะต้องจ่ายค่า BTS เยอะ
ค่าอาหารแถวนั้นแพงมาก ซึ่งก็มีไอ้เพื่อนเจ้าของไอดีนี้แหละค่ะ
คอยช่วยทำกับข้าวให้เราตอนเช้า ต้องขอบคุณนางนะคะ นางน่ารัก
เราอยู่หอเดียวกันค่ะ แต่คนละห้องนะ มันเห็นเราลำบาก มันก็มาช่วยทุกทีที่ไม่ได้ร้องขอ
พูดได้ว่า สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตเราก็คือมันนี้แหละ อิอิ
พอเราห่อข้าวมากิน ทำให้เราไม่ค่อยได้ไปกินข้าวกับคนในสายงาน
เขามองว่าเรา ไม่เข้าหาคนค่ะ เอาจริงๆเราเป็นคนคุยเก่งนะ
แต่เห็นเขาทำงาน เราก็ไม่รู้จะเข้าไปคุยทำไม ก็มันเวลางาน
โดยนิสัยก็ไม่ใช่คนขี้เม้าท์ จะเรื่องดารา เรื่องแฟชั่น เราก็ไม่ค่อยจะสนใจ
อีกอย่สงคือเวลาคุยแล้วโดนเหวี่ยงมา เลยไม่อยากจะคุย
โปรแกรมสำหรับทำบัญชีมันไม่เหมือนที่เคยทำค่ะ
เลยจะงงๆนิดหน่อย เราไม่เข้าใจ สิ่งที่เราทำได้คือกูเกิ้ลหาค่ะ
เพราะถ้าถามเขา เขาจะตอบกลับมาว่า " ตอนฉันทำฉันไม่เห็นต้องถามใครเลย ไอ้เด็กเจนนี้มันไม่มีความอดทน ไม่เอาอ่าว!! "
นี้พี่เลี้ยงเขามีหน้าที่อะไร บางทีเราก็สงสัย
จนกระทั่งได้ไปงานกีฬาสีของบริษัทค่ะ เขาไม่ชวนเราเข้ากลุ่ม
ไม่ชวนนั่ง เราไปเช้านะ ยิ้ม ไหว้ทักทายตามมารยาทไทยแท้เลย
แต่เหมือนเขาไม่เอาเราอ่ะ รู้ตัวเลย ว่าสังคมไม่เปิดรับ
เหนื่อยค่ะ อึดอัด ปัญหาเยอะอยู่เเล้ว ยิ่งดิ่งลงกว่าเดิม
สุดท้ายเราก็ตัดสินใจลาออก อยู่แค่ 4 เดือนค่ะ
เข้าไปแจ้งลาออก หัวหน้าถามว่าทำไมอยากลาออก
พี่เลี้ยงเป็นไง พูดได้นะ แต่เราก็เลือกจะไม่พูดนะ
เราพึ่งเข้ามา เขาอยู่กันมาตั้งหลายปี
ก่อนที่หัวหน้าจะทิ้งท้ายไว้อย่างนิ่งๆว่า " เอาเถอะจะเหตุผลอะไรพี่ก็ไม่อยากรับรู้ "
นั่นมันหมายความว่า เขาจงใจบีบให้เราออกใช่ไหมคะ แต่ก็ช่างมันเถอะ
..........................................................................................
มาทำงานที่ใหม่ อยู่ไกลมาก ต้องมาอาศัยญาติอยู่ ตอนนี้เงินเดือนสูงมากค่ะ 18000 แล้ว
ญาติก็เป็นพี่สะใภ้ค่ะ ช่วยให้เรามาทำงานในนี้แหละ เอาจริงเราระลึกนึกถึงบุญคุณเขาทุกอย่างนะ
แต่เราเจ็บใจตรงเขาชอบทวงบุญคุณ นี่คนบนโลกมองเราเป็นคนยังไง
แกพึ่งเลิกกับแฟนค่ะ วันๆแกก็จะนั่งบ่นเรื่องผัวให้เมสเซนเจอร์ฟัง
อวดอยู่นั้นแหละว่าบ้านมีบ้านรวย นี้ก็ไม่ได้อิจฉาหรอกค่ะ แต่รำคาญ
เวลาถามงาน นางจะตอบกลับมาว่า " ที่มอไม่สอนหรอ " " อะไรอ่ะ แค่นี้ไม่รู้หรอ? "
แล้วก็ไม่บอกคำตอบนะ นั่งตัวพองทำหน้าเหวี่ยงไปเรื่อย
โอเค ไม่บอกก็ไม่บอก เราก็พยายามหาทางทำเองค่ะ ถูกผิดก็ลองด้วยตัวเองมาโดยตลอด
บางทีเราก็เหนื่อยนะ แอบสงสัยว่าทำไมเราต้องมาเจอแต่คนแบบนี้!!
พี่แกชอบโบ้ยงานค่ะ มาทำงานสาย กินจะกินข้าว กว่าจะนั่งเม้าท์ เช็คเฟสบุ๊ค
กว่าจะวีนเรื่องกิ๊ก กว่าจะเม้าท์กับเมสเซนเจอร์ ก็เที่ยงเเล้ว
เราจะลงไปกินข้าว นางเห็นแดดแรง ก็ฝากเราซื้อให้
เราลงไปธนาคาร ก็ฝากเราซื้อของ
เราถือของพะรุงพะรัง ก็ฝากเราถือของ ในมือมีอะไรคะ ในมือมีกระเป็าแบรนด์เนมค่ะ
อิแค่ข้าวกล่องเดียวก็ถือไม่ได้ค่ะ มันร้อนค่ะ
ไม่กล้าวางบนกระเป๋าราคาหลายพันค่ะ กลัวมันลอกค่ะ โอ๊ยยยย
ล่าสุด เราต้องดิวงานกับชาวต่างชาติ ซึ่งเราก็โง่ภาษาเหลือเกิน
เราต้องกูเกิ้ลทรานสเลทคุยกับลูกค้าค่ะ นางก็ไม่คิดจะช่วยเหลืออะไรเลยค่ะ
ทั้งๆที่ก็อวดมาตลอดว่า ตัวเองเหนือคน ก็นักเก่งหนา นี่ถ้าไม่มีบุญคุณนี่ด่าแล้ว
เราก็ไม่อยากจะมาทำด้วยหรอกนะคะ แต่มันตกงานพอดี
แม่เราอีกแหละ จัดการดำเนินการให้ทุกอย่าง ไปอยู่กับเขา ซึ่งไม่สนิทเลย
ไม่รู้เลยว่านิสัยใจคอเขาเป็นไง เราว่าเเล้วว่าวันนึงมันต้องเป็นแบบนี้
เราต้องอยู่ในสถานะน้ำเต็มปากแบบนี้ หลายคนอาจจะถามว่า เงินเดือนเยอะทำไมไม่เช่าห้องอยู่เอง
เราก็อยากออกมาใจจะขาดแล้วค่ะ แต่ต้องเก็บตังค์ใช้หนี้ให้แม่เดือนกุมพานี้
เราอึดอัดมากค่ะ ไม่มีเวลาเป็นส่วนตัวเลย
เอาจริงๆชีวิตนี้ก็ไม่เคยมีความเป็นส่วนตัวเลยนะ
อาศัยบ้านคนอื่นอยู่มาโดยตลอด
เราทนไม่ไหวนั่งบ่น ให้แม่ฟัง แต่แม่ไม่เข้าใจค่ะ
เข้าใจไปคนละเรื่อง เบื่อจะพูดแล้ว
เราต้องรองรับอารมณ์ และรับใช้นาง
เขาทะเลาะกับผัวเขามา ก็มาวีนหงุดหงิดใส่เรา วุฒิภาวะทางอารมณ์ต่ำแบบนี้ไง ผัวถึงมีเมียน้อย
โดนใช้ทุกอย่าง ไปเวฟข้าวให้หน่อย ตัวเองก็นั่งสไลด์มือถือรอ
วันๆพร่ำบอกแต่บ้านตัวเองรวย โธ่! รวยมากจ้างแม่บ้านมาเลยค่ะ
เอามานั่งคอยนวด คอยเวฟข้าว คอยไปซื้อของให้
ลำพังงานเราก็ยุ่งอยู่แล้วค่ะ ในส่วนที่รับผิดชอบมันยุ่งมาก
ลูกค้าก็เยอะเรื่อง เอาแต่ใจ จะเอาตอนนี้ ก็จะเอาตอนนี้ ไม่ฟังเหตุผลอะไร
เจ้านายน่ารักค่ะ แต่ใจร้อน รออะไรไม่ได้ ถ้าจะเอาต้องเดี๋ยวนี้
เราก็ต้องทำให้ทันใจ รับงานจากนายมาแล้ว พี่แกก็ยังมาใช้หยุ่มหยิ่ม
นี้ถ้าจะใช้ไปล้างตูดให้ได้คงใช้ไปแล้วค่ะ
ปริ้นงานมา ก็ใช้เราไปหยิบให้ นี้จะลากเครื่องปริ้นไปไว้ข้างโต๊ะนางแล้วจะได้ไม่ต้องใช้
อยู่ห้องเราซักผ้าอยู่ พี่แกก็ตะโกนบอกเรามาเปิดสวิทซ์ทีวีให้
ทีวีก็วางอยู่ไม่ถึงสามก้าวเนี๊ย ทำไมถึงลุกไปทำเองไม่ได้!!
เราไปทำงานเช้า ฝากเราเอาของไปก่อนค่ะ สักพักโทรมาแล้ว ซื้อกาแฟ หับสปาเก็ตตี้ให้ด้วยนะ ขอซอสเขาเพิ่มด้วย
ไอ้เราก็หอบของพะรุงพะรังขึ้นตึกทุกวัน โว้ยยยยยยยยย อึดอัด!!!!!
พอเมสเซนเจอร์มาก็นั่งเม้าส์เรื่องผัวค่ะ เล่าให้ฟังทุกคน เขาไม่เคยดี บ้านเขาทอแหล
ตอนรักนี้นะ!!!!!!!!! หึมมมมมมมมมม เราก็ไม่ได้โกรธหรอกนะคะ ที่เขาจะมาว่าบ้านเราไม่ดีรึยังไง
เพราะมันก็เป็นจริงๆ แต่มันน่าโมโหที่ชอบเหยียบคนอื่นให้ต่ำ เพื่อให้ตัวเองดูดีนี้แหละ
คนตระกูลสูงๆ มีเงิน รวยมีที่เป็นพันๆไร่ เราก็ไม่เห็นเขาเอามาอวดเอามาเหยียบย้ำคนอื่นแบบนี้
พอนายมาก็ค่อยทำค่ะงาน พอนายออกไปก็นอนค่ะ เล่นเฟสบุ๊คค่ะ
เราก็โดนโบ้ยงานทุกอย่าง เหนื่อยกับงานไม่เท่าไหร่ค่ะ
เหนื่อยกะยัยนี้นี้แหละ อยากโดดถีบมาก!!!!! แต่ก็นะ...
บางวันเรานั่งบ่นว่า เราอยากไปทำสวน พี่แกก็เอ่ยว่า โอ๊ย มีแต่คนขี้เกียจแหละคิดงั้น
จ้า จ๊ะ แม่คนขยัน ดีค่ะท่าน ใช่ค่ะคุณนาย !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
บางทีเราเห็นข่าวเด็กพึ่งเกิด แล้วเห็นโลกวุ่นวายเราก็เลยบ่นลอยๆ ว่าสงสารเด็กในอนาคตเน๊าะ
พี่แกก็สวนมา เด็กที่ไหน ญาติเธอหรอ เหอะๆ พี่ไม่ต้องห่วงอะไร เพราะบ้านพี่มี
จ้าาาาาาาาาาาาาา จ๊ะ จ่ะ จ๊ะ ว๊อยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
เนี๊ยๆๆ เราโดนแบบนี้ทั้งวัน อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
...................................................................................
ได้ระบายสักหน่อยพอให้ผ่อนคลายลงบ้าง
เพื่อนๆมีปัญหาอะไรในที่ทำงาน อึดอัดมาก แต่ไม่มีที่ระบายไหมคะ
มาๆ มาแชร์กันหน่อย
ปล.ย้ายมาสามที่ ยังเก็บชั่วโมงไม่ได้ และไม่เก็บแล้วค่ะ ไม่ทำงานสายนี้แล้วค่ะ
รอเก็บเงินได้จะหนีกลับไปทำธุรกิจส่วนตัวแล้ว เบื่อค่ะ เบื่อเหลือเกินนนนนนนนนน