วันสบายๆ วันสดใส วัน D's Day
อยู่ๆก็อยากไปเที่ยวชิลๆ แบบช็อป ชิม ชิล ไม่รู้จะไปที่ไหน อยากไปที่ๆไม่ไกลจาก กทม. นั่งหาข้อมูล หาไปหามา อ๋อ เจอแล้ว ต้องที่นี่เลยครับ บางกะเจ้า จ.สมุทรปราการครับ เริ่มต้นเช้าๆกับอากาศที่สดใส ไม่ร้อนมาก นั่งรถเมล์สาย ปอ. 129 กับเพื่อนจากเส้นวิภาวดีรังสิตซอย16 เพื่อที่จะไปลงตรงแยกบางนา นั่งไปประมาณ20นาที ก็ถึงแยกบางนา ลงตรงBTSบางนาครับ แล้วก็ต่อโดย MR.TAXI ไปลงที่ท่าเรือวัดบานานอก ค่ารถ49บาทครับ จะใช้บริการพี่วินก็ราคาพอๆกัน นั่งพี่แท็กดีกว่า พอไปถึงท่าเรือ เรือก็เข้าท่าพอดีครับ

และคนก็ต่อแถวขึ้นเรือ และมีมอเตอร์ไซค์ต่อแถวข้ามเรือด้วยครับ เพื่อนถามผมว่า โยค่าเรือเท่าไหร่ น่าจะ2บาทมั้งครับ ไม่มั่นใจ เดี๋ยวค่อยถามอีกที นี่ไงขึ้นเรือแล้วนะครับ หาที่นั่งเลย

มองไปอีกฝั่งหนึ่ง ก็จะเป็นภาพแบบนี้ครับ

พอขึ้นเรือเสร็จจะต้องข้ามฟากไปฝั่งวัดบางน้ำผึ้งนอก นั่งไปแป๊ปเดียวก็ถึงแล้ว พอจ่ายตังค์ ค่าเรือคนละ4บาท เพื่อนผมบอกว่าแพงเนาะแล้วก็หัวเราะ แพงกว่าที่โยบอกอีก จากนั้นก็เช่าจักรยานได้เลยครับ คิดเสียว่าซ้อมปั่นก่อน Bike for Dad ที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ อิอิ ถ้าเราเช่าเป็น ชม.ๆละ30บาท ถ้าทั้งวันคันละ80บาท ทั้งวันคุ้มกว่าครับ ก็เลือกคันที่เราชอบได้เลย ถ้าไปเป็นกลุ่มก็มัดจำเป็นบัตรประชาชนของใครคนใดคนหนึ่งก็ได้ครับ ได้แล้วครับ นี่ไงจักรยานของเรา อิอิ

งั้นไปเที่ยวด้วยกันเล้ยยยย อันดับแรกเราก็จะปั่นไปบ้านธูปหอมก่อน ซึ่งไปตามแผนที่ เวลาเช่าจักรยานเค้าจะมีกระดาษแผนที่ให้ด้วยครับ ปั่นไปสักพักรู้สึกสนุกมากๆ ไม่เสียแรงเลยที่อยากมาครับ ถึงแดดจะร้อน แต่ต้นไม้เยอะดูร่มรื่นดีครับ

อาจจะโดนแดดเป็นบางช่วงแนะนำให้ ใส่เสื้อแขนยาว แว่นกันแดด หมวกด้วยนะครับ จะได้ไม่ดำหุหุ พอปั่นไปตามทางก็ระวังด้วยนะครับ เดี๋ยวจะตกคลอง มีขึ้นสะพาน หลบรถที่สวนทางแบบว่าต้องจอดเลยทีเดียว

ปั่นไปก็จะเจอป้ายนี้ Oops! จะเป็นเหมือนอย่างที่ป้ายบอกไหมน๊าาา

สนุกมากๆเลย ปั่นไปตรงไหนก็เจอมุมสวยๆน่ารักๆก็หยุดซะเลย ขอแชะๆสักหลายๆรูป



แล้วค่อยปั่นต่อครับ ปั่นไปปั่นมาก็ถึงแล้วครับ ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง คนก็ไม่ค่อยเยอะมากครับ

เข้าไปในตลาดแล้ว เพื่อนผมบอกว่าหยุดก่อน นึกว่าเป็นอะไร เค้าอยากชิมน้ำผึ้งมะนาว แก้วละ25บาท รสชาติฟินนนอย่าบอกใคร ชื่นใจสุดๆครับ

คิดว่าตลาดคงไม่ใหญ่เท่าไหร่ พอเดินไปจริงๆแล้ว ตลาดใหญ่มากๆเลยครับ แล้วก็จะข้ามสะพานข้ามคลองก็เจอป้ายนี้ครับ

ข้ามไปอีกฝั่งก็จะเจอร้านต่างๆมากมายเลยครับ มีที่นั่งให้ด้วย สามารถสั่งอาหารที่อยากทาน มานั่งทานได้เลยครับ

เดินดูของไปเรื่อยๆ ผักผลไม้สดมากๆ บางอย่างราคาก็ไม่แพงด้วยครับ มีทั้งต้นไม้ประดับเล็กๆ กล้วยไม้สวยๆด้วยครับ


เดินไปก็ไปเจออันนี้ เพื่อนผมถามว่า อันนี้มันคืออะไรค่ะ อ่อไข่หมึกย่าง ขายยังไงค่ะ ไม้ละ 6 บาทค่ะ งั้นขอ2ไม้ค่ะ คือเพื่อนผมแค่อยากชิม แบบว่าเดินชิมไปเรื่อยๆแบบนี้ครับ หอมมากๆเลย ต้องแกะไบตองที่ห่อออกก่อนแล้วก็จะใส่ถุง ราดน้ำจิ้ม แล้วลองทานดูครับ เพื่อนผมบอกว่าก็ดีอ่ะ


มุมนี้ก็มี ไม่รู้ว่าชื่ออะไร ขนมครกหอยทอดหรือเปล่าก็ไม่รู้ หุหุ

เดินผ่านนี้ เพื่อนผมอยากชิมชีสบอล เค้าขาย3ชิ้น20บาท เจ้าของร้านบอกว่าปรุงหน้าได้เลย มีซอสให้ใส่ มายองเนสด้วย เพื่อนผมก็ละเลงเลย ให้ผมลองชิมดู ปรากฏว่าอร่อยมากๆเบย แค่ชิ้นเดียวผมอิ่มมากๆครับ




เดินไปอีกนิด ผมก็เห็นก๋วยเตี๋ยวเรือน่าทานดี ตลาดก็ใหญ่ ไม่ร้อน ไม่อึดอัดเลยครับ รสชาติอร่อยดี ชามละ25บาทครับ ผมทานแทบจะไม่หมดเพราะอิ่มชีสบอลครับ


พอทานเสร็จเดินกลับมา ก็เจอร้านขายแจงลอน เพื่อนผมอยากชิม ไม้ละ10บาท เค้าว่าอร่อยดีอะเธอออ..

ของขายเยอะแยะเต็มไปหมด ไม่รู้ว่าจะซื้ออะไรหุหุ

เดินดูนั่น โน้น นี่ นู้น ซื้อขนมฝาก Someone เสร็จก็ได้เวลาปั่นจักรยานเล่นๆไปสวนศรีนครเขื่อนขันธ์แล้ว ปั่นไปตามทาง รถก็ไม่เยอะมาก คนก็ปั่นเล่นกันเยอะแยะมากๆเลย ดูสนุกดีครับ แต่ระหว่างทางที่ปั่นไปไม่ได้ถ่ายรูปบ้างเลย แต่จะมีป้ายบอกตลอดทาง และแล้วก็มาถึงแล้วครับ ซิ่งขึ้นสะพานไปเลย

จอดรอเพื่อนสักแปป เพื่อนปั่นขึ้นสะพานไม่ไหว หุหุ

พอเพื่อนมาถึงก็ปั่นลงสะพานวิ้วววววว ลงไปเลย เย้ๆๆๆๆ ต้นไม้เยอะ สดชื่อนมากๆ และสวนก็ใหญ่มากๆ

แหมมม...มีปล่อยมือทั้ง2ข้างด้วย เพื่อนผมสุดยอด ส่วนผมนั้นไม่กล้าเสี่ยงปล่อยมือทั้ง2ข้าง กลัวหน้าอันไม่หล่อของผมจะเสียโฉมยิ่งไปอีก 555+


ปั่นไป มุมไหนสวยๆก็แวะ แต่มาถึงมุมนี้ขอแวะพักแปป เหนื่อยมากๆเลยครับ เดินไปดูนกด้วยกันไหมครับ



พักหายเหนื่อยเสร็จก็ปั่นต่อไปเลย ปั่นแรงๆ เร็วๆ ลมพัดสดชื่นดีครับ ขอจอดถ่ายรูปตรงสะพานข้ามคลองสักนิด อิอิ




พอถ่ายเสร็จก็ปั่นไปรอบๆสวน มีหอคอยสูงๆไว้สำหรับดูนกมั้ง เลยขึ้นไปดู ต้นไม้สูงมาก หอคอยก็สูง เอาซะขาสั่นเลยครับ

สักพักลงมาชั้น2 บอกเพื่อนว่าขอมุมสูงบ้าง เลยจัดไป มุมนี้ เอาซะเพื่อนผมฮา ไม่คิดว่าจะทุ่มเทสร้างภาพขนาดนี้ 555+





พอเสร็จจากตรงนี้ก็ปั่นไปต่อซะเต็มที่เลย จนลืมไปว่าในตะแกรงรถของเรามีขนมตะโก้อยู่ พอเห็นแล้วขำมากๆ ขนมเละหมดเลย แทบไม่น่าทาน จากนั้นก็นั่งพักแปป อากาศเย็นสบายขนาดบ่าย2กว่าๆแล้ว ผมพูดกับเพื่อนอยู่เลยว่าบรรยากาศเหมือน9โมงเช้า หุหุ จากนั้นก็พากันกลับ และมุ่งหน้าไปที่พิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย แต่พอไปถึงน่าเสียดายที่ พิพิธภัณฑ์หยุด เปิดเฉพาะเสาร์-อาทิตย์ เลยปั่นไปเล่นต่อ หุหุ มีหลงทางด้วย ขำมากๆๆ เหนื่อยก็เหนื่อยแต่ก็ต้องกลับมาทางเดิมคืน ขอแวะเหนื่อยทานน้ำปั่นก่อนดีกว่า

พอพักเสร็จมีแรกต่อ ก็ปั่นไปดูสุดทางก็จะเห็นภาพแบบนี้ครับ ทำให้รู้เลยว่าอยู่คนละฝั่งกัน แต่ช่างแตกต่างกันเหลือเกิน ลองจินตนาการดูซิครับว่า ถ้าเป็นตอนกลางคืนนะ คงสวยมากๆแน่เลยครับ อีกฝั่งหนึ่งดูเจริญ มีแสงไฟ แต่อีกฝั่งหนึ่งกลับมืด และเงียบสงบ

พอชมเสร็จก็แวะ ปั่นไปสักพักคงไม่หลงแล้ว และดีใจมากๆเลย เมื่อเจอป้ายวัดบางน้ำผึ้งนอก จอดแวะเข้าห้องน้ำ และคืนจักรยาน แล้วก็รอเรือข้ามฝั่ง เวลาที่ขึ้นเรือแล้วรถมอเตอร์ไซต์ก็จะขับมาจอดกันแบบนี้ครับ

พอถึงฝั่งวันบางนานอกก็มาต่อรถ MR.TAXI ไปลงที่ BTS บางนาแล้วก็ต่อด้วยรถเมล์สาย ปอ.129 กลับมาที่วิภาวดีรังสิตเหมือนเดิม นั่งรถมาประมาณ 15 นาทีก็ถึงแล้วเร็วมากๆเลยครับ พอถึงเสร็จก็แวะที่ทำงาน เอาขนมมาฝากใครบางคน อิอิ ตอนแรกก็บอกเค้าว่าไม่รู้จะบูดหรือยัง ให้ลองชิมดู แต่มันเละมากๆ เพราะใส่ตระแกรงจักรยาน และก็ปั่นขึ้นเนินด้วย พอเค้าชิมเค้าบอกว่าอร่อยมากๆเลย ชอบอะ หวาน กำลังดี แค่นี้ผมก็ดีใจมากๆแล้วละ ไม่เสียแรงที่ตั้งใจซื้อมาฝากครับ


ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านนะครับ และขอบคุณเพื่อนร่วมทางที่ออกไปเที่ยวด้วยกัน วันนี้ผมมีความสุขมากๆเลยครับ ที่ได้มาเที่ยวที่บางกะเจ้า ขอบคุณน้ำใจ รอยยิ้ม และมิตรภาพดีๆที่ชาวบางกะเจ้ามอบให้ด้วยนะครับ ขอบคุณจากใจครับ 10 ธ.ค 2558