ใกล้ช่วงสิ้นปี สำหรับมนุษย์เงินเดือนอย่างจขกท. ค่อนข้างหาเวลาไปเที่ยวยากมากกกกกก เพราะวันลาพักร้อนหมดแล้ว (แงๆ) อีกทั้งร่างกายตอนนี้ต้องการอ๊อกซิเจนอย่างแรง เนื่องจากความเครียดเรื่องงานสะสม ไม่ได้แล้วเราต้องหาที่ลง!!! เราต้องการความสดชื่นนนนน เลยลองเสิร์ชหาที่เที่ยวแบบ ไม่ต้องใช้เวลาเดินทางมาก ไปเช้าเย็นกลับได้ ด้วยงบ 1,000 และชิลอย่างที่ใจต้องการ ณ จุดๆ นี้คือได้หมดถ้าสดชื่น แฟนก็เลยพูดขึ้นมาว่า งั้นไปปั่นจักรยานชิลๆ ที่ “คุ้งบางกะเจ้า” กันไหม จขกท.ไม่รอช้าตกลงไปทันที
เนื่องจากเราทั้งคู่เป็นสายแว๊น การเดินทางโดยขนส่งมวลชนจึงไม่ค่อยชำนาญ ก็เลยตกลงกันว่าจะแว๊นน้องค่อนคันน้อย(ชื่อเล่นมอเตอร์ไซค์เราเอง) ข้ามฟากไปแล้วก็เอาไปจอดเพื่อเช่าจักรยาน เส้นทางที่เลือกข้ามคือท่าเรือคลองลัดโพธิ์-พระราม 3 เพราะเราใกล้ท่าเรือนี้มากที่สุด ทางเข้าท่าเรือก็จะอยู่ใต้สะพานภูมิพลค่ะ
ค่าเรือก็คนละ 3 บาท แต่ถ้าหากมีมอเตอร์ไซต์มาด้วยก็ 10 บาท เที่ยวนี้เรามา 2 คน 1 คัน เลยจ่ายไปทั้งหมด 13 บาทค่ะ
ตอนนั่งเรือข้ามฟากเห็นวิวคอนโดจากตรงนี้สวยมาก อยากมีไว้สักห้องจัง
พอหันมาอีกฝั่งก็เห็นวิวบ้านหลังนี้แล้วคุ้นๆ เหมือนเคยโผล่ในละครหลายๆ เรื่อง
อีกหนึ่งวิวที่สวยมากของการข้ามฟาก ประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ใต้สะพานภูมิพล
ก่อนจะไปถึงบางน้ำผึ้ง เราก็เลยแวะหาอะไรกินกันก่อน แล้วมาเจอร้านก๋วยเตี๋ยวกับข้าวหน้าเป็ดข้างทาง อยู่ตรงข้ามปั๊มน้ำมันซัสโก้ พอเห็นคนเยอะๆ ก็เลยลองเข้าไปค่ะ สั่งก๋วยเตี๋ยวเป็ดกับข้าวหน้าเป็ดมากิน ราคาอย่างละ 40 บาท รวมน้ำไปด้วย มื้อนี้เราหมดไปรวม 100 บาทค่ะ
พอเรามาถึงบางน้ำผึ้ง บังเอิญดันฝนตก แต่ผ่านร้านกาแฟร้านนี้ “coffeeWORKS” พอดี เลยแวะหลบฝนพร้อมจิบกาแฟรอฝนหยุด
พอเข้ามาถึงในร้านก็ส่องเมนูก่อนเลย มีให้เลือกเยอะแยะไปหมด
แท่น แทน แท๊นนนนนนน มาแล้วเครื่องดื่มกับเค้กที่สั่ง มีอเมริกาโน่ กับน้ำเสาวรสโซดา และเค้กส้มกับชาไทย พร้อมกับวันนี้พกกระบอกน้ำมินเนี่ยนมาเป็นเพื่อนร่วมทาง เลยเอามาเข้าฉากด้วย
อันนี้สั่งเพิ่มค่ะกับซิกเนเจอร์ของร้าน “เดอร์ตี้” ทางพนักงานบอกว่าด้านล่างจะเป็นนม แล้วยกทีเดียวให้หมด เสิร์ฟพร้อมน้ำดื่มและขนมค่ะ
ในร้านมีป้ายให้เช็คอินถ่ายรูปเก๋ๆ ด้วยแหละ
สรุปค่าเสียหายในร้านกาแฟ เนื่องจากเรากระหายแบบเกินเหตุ เลยเล่นใหญ่รัชดาลัยเธียร์เตอร์ไปหน่อย โดนไป 450 บาทค่ะ
ในร้านมีแผนที่ทั้งคุ้งบางกะเจ้า พร้อมจุดท่องเที่ยวต่างๆ บอกด้วย จะเห็นได้ว่าลักษณะของพื้นที่จะเหมือนรูปกระเพาะหมูเลยค่ะ เป็นเกาะที่มีแม่น้ำเจ้าพระยาล้อมรอบ เราก็เลยถ่ายรูปไว้เป็นแผนที่ในการเดินทาง
พอฝนหยุดแล้วเราก็เดินออกมา ร้านเช่าจักรยานอยู่ข้างๆ ร้านกาแฟเลยค่ะ ค่าเช่าก็วันละ 60 บาท เราจึงตัดสินใจสตาร์ทการปั่นจักรยานที่จุดเริ่มต้นนี้ พร้อมแล้วก็ไปเล๊ยยยยย
เราก็ปั่นตามทางมาเรื่อยๆ ค่ะ ซึ่งจุดเป้าหมายของเราในวันนี้คือ การสูดออกซิเจนแบบเต็มปอด เราจึงตัดสินใจไปปั่นจักรยานเล่นในสวนศรีนครเขื่อนขันธ์ และพื้นสะพานขึ้นหอชมนกตรงนี้เหมือนเป็นแลนด์มาร์คของสวนสาธารณะที่นี่เลย ใครไปใครมาก็ต้องถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก
จากนั้นเราก็มาเดินเล่นตรงสะพาน “เขื่อนขันธ์มคา” ซึ่งสมเด็จพระเทพฯ เสร็จเปิดสะพานแห่งนี้เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา และยังโชคดีมากๆ ที่พอเรามาแล้วแดดออกพอดี
จากนั้นเราก็ปั่นจักรยานในสวนเล่นๆ ไปสักพักนึง ก็ออกไปหาสถานที่ถ่ายรูปต่อ จึงตัดสินใจมุ่งหน้าไปยัง “ถนนดอกไม้” ซึ่งอยู่ข้างๆ ถนนเส้นสีเขียว ริมคลองตรงตลาดน้ำบางน้ำผึ้งค่ะ
คำแนะนำสำหรับการมาเที่ยวคุ้งบางกะเจ้าแบบ one day trip
ถ้ามีจักรยานก็ลุยเลย ถ้าไม่มีจักรยาน มีให้เช่าที่
1.ท่าเรือ
2.สวนศรีนครเขื่อนขันธ์
3.อื่นๆ
อาหารและน้ำดื่ม
มีร้านอาหารกับร้านกาแฟตลอดทาง ไม่ต้องกลัวหิวเลย ถูกใจกับร้านไหนก็ลุยเข้าไป
ควรมาวันเสาร์ – อาทิตย์ เพราะแหล่งท่องเที่ยวส่วนใหญ่ปิดวันธรรมดา แต่ถ้ารักความสงบ วันธรรมดาคือเงียบสงบมากค่ะ
*มาวันเสาร์ดีกว่าวันอาทิตย์ เพราะวันอาทิตย์คนจะเยอะมาก
การแต่งกาย
- หมวก พกมาด้วยเพราะปกติแล้วแดดร้อน
- ถ้ากลัวดำก็ใส่เสื้อคลุมกันแดดให้มิดชิด
- ถ้าใส่ขายาวมาควรจะเป็นผ้าร่ม หรือผ้าที่สบายๆ ถ้าใส่ยีนส์มาจะลำบากในการปั่นนิดนึง
- ถ้าใส่ขาสั้นแล้วไปเที่ยวสวนศรีนครเขื่อนขันธ์ ระวังเรื่องยุงป่านิดนึงนะคะ เพราะยิ่งอากาศชื้นๆ ยุงจะเยอะม๊วกกก
รวมค่าใช้จ่าย
อาหารมื้อแรก 100 บาท
ค่าเครื่องดื่ม+ ขนม 450 บาท
ค่าเรือไปกลับ 26 บาท
ค่าน้ำมันรถ 50 บาท
ค่าน้ำระหว่างทาง 20 บาท
รวม 646 บาท
ถ้าต้องการปั่นรอบคุ้งบางกะเจ้า ระยะทางจะประมาน 60 กิโลเมตร มีหลายเส้นทางให้เลือก ต้องการเที่ยวให้ครบทุกที่ ควรจะมาตั้งแต่เช้า และเที่ยวอย่างมีระบบระเบียบ วางแผนก่อนมาล่วงหน้า หรือถ้าไม่ชอบการวางแผน ชอบผจญภัย แบบไปตายเอาดาบหน้า ใส่รองเท้าคู่ใจแล้วลากเพื่อนมาปั่นจักรยานสูดอากาศบริสุทธิ์ที่คุ้งบางกะเจ้าได้เลย รับรองจะฟินมากกกกก
ทิ้งท้ายกับสะพานภูมิพลยามค่ำคืน เอาไว้ว่างๆ วันไหนจะมาอีกนะ “คุ้งบางกะเจ้า”
-Edit แก้ไขย่อหน้าค่ะ
[CR] ได้หมดถ้าสดชื่น ตอน One Day Trip ที่คุ้งบางกะเจ้า
เนื่องจากเราทั้งคู่เป็นสายแว๊น การเดินทางโดยขนส่งมวลชนจึงไม่ค่อยชำนาญ ก็เลยตกลงกันว่าจะแว๊นน้องค่อนคันน้อย(ชื่อเล่นมอเตอร์ไซค์เราเอง) ข้ามฟากไปแล้วก็เอาไปจอดเพื่อเช่าจักรยาน เส้นทางที่เลือกข้ามคือท่าเรือคลองลัดโพธิ์-พระราม 3 เพราะเราใกล้ท่าเรือนี้มากที่สุด ทางเข้าท่าเรือก็จะอยู่ใต้สะพานภูมิพลค่ะ
ค่าเรือก็คนละ 3 บาท แต่ถ้าหากมีมอเตอร์ไซต์มาด้วยก็ 10 บาท เที่ยวนี้เรามา 2 คน 1 คัน เลยจ่ายไปทั้งหมด 13 บาทค่ะ
ตอนนั่งเรือข้ามฟากเห็นวิวคอนโดจากตรงนี้สวยมาก อยากมีไว้สักห้องจัง
พอหันมาอีกฝั่งก็เห็นวิวบ้านหลังนี้แล้วคุ้นๆ เหมือนเคยโผล่ในละครหลายๆ เรื่อง
อีกหนึ่งวิวที่สวยมากของการข้ามฟาก ประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ใต้สะพานภูมิพล
ก่อนจะไปถึงบางน้ำผึ้ง เราก็เลยแวะหาอะไรกินกันก่อน แล้วมาเจอร้านก๋วยเตี๋ยวกับข้าวหน้าเป็ดข้างทาง อยู่ตรงข้ามปั๊มน้ำมันซัสโก้ พอเห็นคนเยอะๆ ก็เลยลองเข้าไปค่ะ สั่งก๋วยเตี๋ยวเป็ดกับข้าวหน้าเป็ดมากิน ราคาอย่างละ 40 บาท รวมน้ำไปด้วย มื้อนี้เราหมดไปรวม 100 บาทค่ะ
พอเรามาถึงบางน้ำผึ้ง บังเอิญดันฝนตก แต่ผ่านร้านกาแฟร้านนี้ “coffeeWORKS” พอดี เลยแวะหลบฝนพร้อมจิบกาแฟรอฝนหยุด
พอเข้ามาถึงในร้านก็ส่องเมนูก่อนเลย มีให้เลือกเยอะแยะไปหมด
แท่น แทน แท๊นนนนนนน มาแล้วเครื่องดื่มกับเค้กที่สั่ง มีอเมริกาโน่ กับน้ำเสาวรสโซดา และเค้กส้มกับชาไทย พร้อมกับวันนี้พกกระบอกน้ำมินเนี่ยนมาเป็นเพื่อนร่วมทาง เลยเอามาเข้าฉากด้วย
อันนี้สั่งเพิ่มค่ะกับซิกเนเจอร์ของร้าน “เดอร์ตี้” ทางพนักงานบอกว่าด้านล่างจะเป็นนม แล้วยกทีเดียวให้หมด เสิร์ฟพร้อมน้ำดื่มและขนมค่ะ
ในร้านมีป้ายให้เช็คอินถ่ายรูปเก๋ๆ ด้วยแหละ
สรุปค่าเสียหายในร้านกาแฟ เนื่องจากเรากระหายแบบเกินเหตุ เลยเล่นใหญ่รัชดาลัยเธียร์เตอร์ไปหน่อย โดนไป 450 บาทค่ะ
ในร้านมีแผนที่ทั้งคุ้งบางกะเจ้า พร้อมจุดท่องเที่ยวต่างๆ บอกด้วย จะเห็นได้ว่าลักษณะของพื้นที่จะเหมือนรูปกระเพาะหมูเลยค่ะ เป็นเกาะที่มีแม่น้ำเจ้าพระยาล้อมรอบ เราก็เลยถ่ายรูปไว้เป็นแผนที่ในการเดินทาง
พอฝนหยุดแล้วเราก็เดินออกมา ร้านเช่าจักรยานอยู่ข้างๆ ร้านกาแฟเลยค่ะ ค่าเช่าก็วันละ 60 บาท เราจึงตัดสินใจสตาร์ทการปั่นจักรยานที่จุดเริ่มต้นนี้ พร้อมแล้วก็ไปเล๊ยยยยย
เราก็ปั่นตามทางมาเรื่อยๆ ค่ะ ซึ่งจุดเป้าหมายของเราในวันนี้คือ การสูดออกซิเจนแบบเต็มปอด เราจึงตัดสินใจไปปั่นจักรยานเล่นในสวนศรีนครเขื่อนขันธ์ และพื้นสะพานขึ้นหอชมนกตรงนี้เหมือนเป็นแลนด์มาร์คของสวนสาธารณะที่นี่เลย ใครไปใครมาก็ต้องถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก
จากนั้นเราก็มาเดินเล่นตรงสะพาน “เขื่อนขันธ์มคา” ซึ่งสมเด็จพระเทพฯ เสร็จเปิดสะพานแห่งนี้เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา และยังโชคดีมากๆ ที่พอเรามาแล้วแดดออกพอดี
จากนั้นเราก็ปั่นจักรยานในสวนเล่นๆ ไปสักพักนึง ก็ออกไปหาสถานที่ถ่ายรูปต่อ จึงตัดสินใจมุ่งหน้าไปยัง “ถนนดอกไม้” ซึ่งอยู่ข้างๆ ถนนเส้นสีเขียว ริมคลองตรงตลาดน้ำบางน้ำผึ้งค่ะ
คำแนะนำสำหรับการมาเที่ยวคุ้งบางกะเจ้าแบบ one day trip
ถ้ามีจักรยานก็ลุยเลย ถ้าไม่มีจักรยาน มีให้เช่าที่
1.ท่าเรือ
2.สวนศรีนครเขื่อนขันธ์
3.อื่นๆ
อาหารและน้ำดื่ม
มีร้านอาหารกับร้านกาแฟตลอดทาง ไม่ต้องกลัวหิวเลย ถูกใจกับร้านไหนก็ลุยเข้าไป
ควรมาวันเสาร์ – อาทิตย์ เพราะแหล่งท่องเที่ยวส่วนใหญ่ปิดวันธรรมดา แต่ถ้ารักความสงบ วันธรรมดาคือเงียบสงบมากค่ะ
*มาวันเสาร์ดีกว่าวันอาทิตย์ เพราะวันอาทิตย์คนจะเยอะมาก
การแต่งกาย
- หมวก พกมาด้วยเพราะปกติแล้วแดดร้อน
- ถ้ากลัวดำก็ใส่เสื้อคลุมกันแดดให้มิดชิด
- ถ้าใส่ขายาวมาควรจะเป็นผ้าร่ม หรือผ้าที่สบายๆ ถ้าใส่ยีนส์มาจะลำบากในการปั่นนิดนึง
- ถ้าใส่ขาสั้นแล้วไปเที่ยวสวนศรีนครเขื่อนขันธ์ ระวังเรื่องยุงป่านิดนึงนะคะ เพราะยิ่งอากาศชื้นๆ ยุงจะเยอะม๊วกกก
รวมค่าใช้จ่าย
อาหารมื้อแรก 100 บาท
ค่าเครื่องดื่ม+ ขนม 450 บาท
ค่าเรือไปกลับ 26 บาท
ค่าน้ำมันรถ 50 บาท
ค่าน้ำระหว่างทาง 20 บาท
รวม 646 บาท
ถ้าต้องการปั่นรอบคุ้งบางกะเจ้า ระยะทางจะประมาน 60 กิโลเมตร มีหลายเส้นทางให้เลือก ต้องการเที่ยวให้ครบทุกที่ ควรจะมาตั้งแต่เช้า และเที่ยวอย่างมีระบบระเบียบ วางแผนก่อนมาล่วงหน้า หรือถ้าไม่ชอบการวางแผน ชอบผจญภัย แบบไปตายเอาดาบหน้า ใส่รองเท้าคู่ใจแล้วลากเพื่อนมาปั่นจักรยานสูดอากาศบริสุทธิ์ที่คุ้งบางกะเจ้าได้เลย รับรองจะฟินมากกกกก
ทิ้งท้ายกับสะพานภูมิพลยามค่ำคืน เอาไว้ว่างๆ วันไหนจะมาอีกนะ “คุ้งบางกะเจ้า”
-Edit แก้ไขย่อหน้าค่ะ