9:40 น. ของวันศุกร์ที่ 20 พ.ย. 2558
เริ่มเดินทางออกจากสนามบินดอนเมืองไปยังสนามบินเชียงใหม่ เรากับแฟนแย่งกันนั่งติดหน้าต่าง แต่เราชนะเสมอ ฮ่าๆ
ใช้เวลาประมาณ 45 นาทีก็มาถึงท่าอากาศยานเชียงใหม่แล้ววว ตื่นเต้นๆ
(แต่เหมือนจะมีคนตื่นเต้นกว่า เดินไม่รอกันเลย .\ /.")
จุดเริ่มต้นของเรา คือร้านเช่ามอเตอร์ไซค์ Bikky ตรงถนนห้วยแก้ว
พอเดินออกมาจากทางออกผู้โดยสารขาเข้า ก็จะมีรถแดง หรือ Taxi ให้บริการตลอดค่ะ
เราเดินเข้าไปถามพี่คนขับรถแดง ว่าไปถนนห้วยแก้วเท่าไร พี่เขาบอกคนละ 50 บาท ก็กระโดดขึ้นรถกันเลย
รถจอดรอผู้โดยสารไม่นานพอเต็มแล้ว พี่แกก็ขับไปส่งทีละจุด ของเราบอกพี่เขาว่าจะลงตรงร้านเช่ามอเตอร์ไซค์ Bikky
มาถึงร้านแล้วไม่ได้ถ่ายรูปไว้ค่ะ ก็ทำการคุยรายละเอียดเช่า เราเช่าทั้งหมด 3 วัน
พี่เขาบริการดี มีแนะนำที่เที่ยวด้วยเพราะเห็นว่ามาเชียงใหม่กันครั้งแรก ขอบคุณมากๆเลยค่ะ
ให้แผนที่เรามาด้วย แต่เราอยากบอกว่าเรามีแพลน และแผนที่ครบหมดแล้ว555
ใครที่จะเช่ารถร้านนี้ ลงทะเบียนไว้ในเว็บไซต์จะได้รับส่วนลดด้วยนะคะ
ได้รถแล้ว ไปเติมน้ำมันเสร็จก็ไปแม่ริมกันเลยยยย!!
ขับไปเรื่อยๆ จนถึงแยก แม่ริม-สะเมิง ให้เลี้ยวซ้ายเลยจ้า
ทางนี้จะล้อมไปด้วยธรรมชาติแล้วค่ะ อากาศสดชื่น ถึงแม้จะเป็นตอนเที่ยงๆก็เถอะ
ขับผ่านน้ำตกแม่สา เลยแวะพักเหนื่อยจากการเดินทางซะหน่อย
ที่นี่มีร้านส้มตำไก่ย่างให้เลือกซื้อไปนั่งกินเพียบเลยค่ะ
แต่เราแค่แวะพักสูดอากาศดูน้ำตกให้หายเหนื่อยก็ไปต่อ ไม่ได้ซื้ออะไรกิน
ขับชมวิวข้างทางชิลมากๆ อากาศดีมากค่ะ
จนมาเจอร้านก๋วยเตี๋ยวเล็กๆข้างทาง เลยแวะชิม มื้อเที่ยงของเรา
ขับมาอีกหน่อย เจอสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์
ที่นี่มีดอกไม้นานาพันธุ์ มีทั้งขับรถเที่ยวรอบๆและเดินดูในโซนที่เป็นห้องกระจกได้ค่ะ
โซนพืชเขตร้อน ต้นกระบองเพชร
เสียดายตอนที่ไป ทางเดินที่เป็นสะพานสูงยังสร้างไม่เสร็จ แต่ตอนนี้เพิ่งสร้างเสร็จสามารถเข้าไปเที่ยวชมได้แล้วนะคะ
เราใช้เวลาที่นี่ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง เพลินไปหน่อย ออกจากสวยพฤกษศาสตร์ เราก็มุ่งหน้าไปม่อนแจ่มกันเลย
เพราะจะได้เวลา Check-in ที่พักที่ม่อนแจ่มแล้ว
ซึ่งเราจองเต๊นท์เอาไว้ค่ะ
ถึงม่อนแจ่มแล้วววว ระหว่างรอ Check-in ก็นั่งดูวิวให้หายเหนื่อย
อากาศดีมากๆ มีคนมากินข้าวกันเยอะพอสมควร
ไม่นาน พี่ที่ดูแลก็พาเราไปที่พัก
เต๊นท์ที่นี่ต้องจองล่วงหน้านะคะ ไม่งั้นอาจจะเต็ม
มีการแบ่งที่ให้มีความเป็นส่วนตัว มีที่นั่งเล่นส่วนตัวหน้าเต๊นท์
แต่ห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวมกับเต๊นท์ข้างๆ
ข้างในเต๊นท์ ที่นอนแบ่งเป็น2ฝั่งค่ะ นี่ฝั่งของเรา
และนี่เป็นวิวหน้าเต๊นท์เราค่ะ
ที่นั่งเล่นส่วนตัว
นั่งพักชมวิว ปล่อยชีวิตให้ช้าๆ สบายใจสุดๆ
จากนั้นเราก็ลงมาที่โซนร้านอาหาร สั่งเค้กเลม่อนชีสกับน้ำส้มมานั่งกิน เค้กเย็นๆกับอากาศเย็นๆ มันฟินมากนะพูดเลย 555
ไปเดินเล่นรอบๆกัน
อ้าว เจ้านี่มาเกะกะอะไร อ๋อแฟนเราเอง 555
หน้าทางเข้าม่อนแจ่มมีร้านขายของที่ระลึกด้วยนะคะ
เราชวนกันขับรถไปบ้านม่อนม่วน ที่อยู่ใกล้ๆ ตั้งใจจะไปดูวิว เห็นรีวิวในเนตสวยมว๊าก
ระหว่างทางลง เจอเด็กดอย เหมือนจะเพิ่งกลับจากโรงเรียนนะคะ น่ารักๆๆอ่ะ
ถึงบ้านม่อนม่วนแล้ว จะเข้าไปดูวิวอย่างเดียวก็รู้สึกแปลกๆ 5555 เลยสั่งน้ำสตอเบอรี่ปั่นมาแก้วนึง
อยากบอกว่าอร่อยมากค่ะ เฟรชชชช อ่ะ >___<
ที่นี่มีไร่องุ่นด้วยนะคะ เข้าไปถ่ายรูปเล่นได้ (มั้ง) เพราะเห็นไม่มีคนเฝ้าไม่มีใครห้าม เราก็เลยเข้าไปถ่ายมา 555
เริ่มจะค่ำแล้ว เรากลับมาสั่งอาหารที่ม่อนแจ่ม
บอกว่าสั่งเป็นปิ่นโต พี่เขาจะให้มารับอาหารตามเวลาที่กำหนด เพื่อเอามานั่งทานหน้าเต๊นท์เราเองค่ะ
ระหว่างนี้ก็ถ่ายรูปเล่นรออาหาร อิอิ
นอนดูวิว ชิลๆในเต๊นท์
วิวยามเย็น ณ ม่อนแจ่ม
ดวงอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า
และแล้ว เวลาที่รอคอยก็มาถึง ปิ่นโตมาแล้ววววว
ไฟตรงที่นั่งเล่นหน้าเต๊นท์มีแต่ไฟตะเกียงนะคะ
ค่อนข้างมืดไปหน่อย ตักอะไรเข้าปากนี่ไม่ค่อยจะรู้หรอกว่าอะไร 5555
แต่ก็ได้บรรยากาศดีค่ะ
เช้าวันที่ 2 เรารีบลุกมาสูดอากาศเย็นๆแต่เช้าตรู่ บวกกับวันนั้นองค์ภาเสด็จ จึงต้องรีบ Check out ก่อน 7 โมงด้วยค่ะ
แต่เราไม่ซีเรียส เพราะพี่ที่ดูแลเขาคืนเงินให้ครึ่งนึงด้วย อิอิ
หนำใจแล้ว เราลงจากม่อนแจ่มตอน 7 โมงเช้า
ตอนแรกตั้งใจว่าลงจากม่อนตอนเที่ยงแล้วไปพราวภูฟ้าเลย
แต่นี่เพิ่ง 7 โมง เอาล่ะสิไปไหนต่อดี ก็เลยขับรถเล่นชมวิวกับไปเรื่อยๆค่ะ
ที่จริงไร่สตอเบอรี่จะมีตลอดทางที่ไปม่อนแจ่มนะ
แต่เช้านี้มันเช้าเกิน เลยยังไม่ค่อยเปิดกัน
เราเลยแวะไร่ที่เปิด จำชื่อไม่ได้จริงๆขอโทษด้วยค่ะ555
แต่เป็นไร่ใหญ่ๆ ให้เข้าไปเก็บสตอเบอรี่เองได้ด้วย
ได้สตอเบอรี่แล้วว หาที่ไปต่อ เลยคุยกันว่าไปปางช้างแม่สาแล้วกัน
ต้องขับย้อนไปทางที่มาจากเมืองเชียงใหม่ แต่ก็ไม่ไกลค่ะ ขับแปปเดียวก็ถึง
น้องช้างทั้งหลายน่ารักมากๆๆๆ ฉลาดด้วย วาดรูปก็เก่ง คนฝึกเก่งมากค่ะ
จะเที่ยงแล้ว ไปพราวภูฟ้ารีสอร์ทกันเถอะ
ขับมาจนถึงตรงทางแยกขึ้นไปม่อนแจ่ม ก็เจอร้านข้าวมันไก่+ก๋วยเตี๋ยว แวะเลยค่ะหิวมาก > <
ในที่สุด ก็ถึงแล้วค่ะ พราวภูฟ้า รีสอร์ท
ที่เราเห็นบนอินเตอร์เนตตามรีวิวเยอะมาก
และฝันว่าอยากจะมาพักที่นี่ซักครั้ง ^_^
ได้มาแล้วๆ เย้ๆๆ
แต่ส่วนใหญ่ในรีวิวจะเป็นห้องแบบครอบครัว (Tree top view pool zone)
แต่ที่เราเลือกพักคือ villa zone ค่ะ จองจาก agoda
ระหว่างรอ Check in ก็สั่งเค้กกับน้ำแคนตาลูป กินอีกแล้ว กินตลอดทาง > <
ไม่นานพี่ที่ต้อนรับก็มาพาเราไปห้องพัก
ปกติที่นี่ Check in บ่าย 2 แต่เรามาไว พี่เขาให้รอแปปนึงเพื่อเคลียร์ห้องแล้วก็เข้าได้เลย
ห้องที่เราพัก เป็นห้องเบอร์ 2 นะคะ (Villa zone) ลืมถ่ายข้างหน้าทางเข้าแหะๆ
มีความเป็นส่วนตัวมากๆ villa zone จะแบ่งเป็นหลังๆ แต่ละหลังจะมีน้ำตกเล็กๆไหลผ่าน ธรรมชาติสุดๆ
พอเปิดประตูข้างหน้าเข้ามา จะพบว่าทางขวาเป็นห้องนอน ซ้ายเป็นห้องน้ำค่ะ
ข้างในห้องสวยมาก เราชอบมาก ^^ ได้บรรยากาศธรรมชาติมากๆค่ะ
ผลไม้สามารถทานฟรีได้เลยนะคะ
มาดูระเบียงนั่งเล่นกันดีกว่า
กินสตอเบอรี่ที่เก็บมาจากไร่สดๆ ฟังเสียงธารน้ำตก เสียงนกร้อง ไปด้วย ^___^
ไปดูห้องน้ำกันต่อค่ะ ห้องน้ำที่นี่น่ารักมากๆ
สวนเล็กๆระหว่างห้องน้ำกับห้องนอน
มีเครื่องทำน้ำอุ่นนะคะ ไม่ต้องห่วง
จากห้องน้ำ เปิดประตูมองออกไปก็เป็นห้องนอนจ้า
รอบๆรีสอร์ท
ดินเนอร์วันนี้ที่นี่ อร่อยมากๆค่ะ เด็ดสุดคือแกงส้มชะอมกุ้ง อากาศหนาวๆซดน้ำแกงร้อนๆ ฟินๆๆอีกแล้ว
จบวันที่สองด้วยความอ้วนอีกตามเคย 55 เดี๋ยวมาต่อวันสุดท้ายนะคะพื้นที่ไม่พอ
[CR] แบกเป้ ขับมอเตอร์ไซค์ เที่ยวเชียงใหม่กับแฟน (ม่อนแจ่ม-พราวภูฟ้า-เมืองเชียงใหม่) 3วัน2คืน
สวัสดีค่ะ นี่เป็นการทำรีวิวครั้งแรก และเป็นการไปเที่ยวเชียงใหม่ครั้งแรกของเรา
ตื่นเต้นมาก เตรียมการล่วงหน้าตั้งหลายเดือน 555
โดยไปมาเมื่อวันที่ 20-21-22 พ.ย. 2558 ที่ผ่านมา
เพราะกลัวว่าธันวามกราคนจะเยอะไปถ้าไปเร็วกว่านี้ก็กลัวจะไม่หนาว
โดย plan ของเราเป็นดังนี้ค่ะ
วันแรก ม่อนแจ่ม และแวะเที่ยวตามทาง เจออะไรก็แวะไปเรื่อย 555
วันที่2 ลงจากม่อนแจ่ม แล้วไปนอนเล่นชิลๆที่พราวภูฟ้ารีสอร์ท มีแวะตามทางเช่นเคย
วันที่3 ออกจากอำเภอแม่ริม เที่ยวในเมืองเชียงใหม่ …กลับ..สนามบิน
การเดินทางจากกรุงเทพไปเชียงใหม่ โดยเครื่องบินนะคะทั้งขาไป-กลับ
รายละเอียดการเดินทาง และค่าใช้จ่าย จะสรุปไว้ตอนท้าย
เผื่อเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยไป จะได้นำไปปรับใช้ในทริปของเพื่อนๆ ที่สนใจ
ที่เลือกไปเที่ยวอำเภอแม่ริมเนื่องจากไม่ไกลมากจากตัวเมืองเชียงใหม่ เพราะเราจะขับมอเตอร์ไซค์เที่ยวกัน
และมีที่เที่ยวธรรมชาติหลากหลาย บวกกับมีเวลาแค่3วัน2คืนเท่านั้น
มาเริ่มกันเลยค่ะ^^
...........................
9:40 น. ของวันศุกร์ที่ 20 พ.ย. 2558
เริ่มเดินทางออกจากสนามบินดอนเมืองไปยังสนามบินเชียงใหม่ เรากับแฟนแย่งกันนั่งติดหน้าต่าง แต่เราชนะเสมอ ฮ่าๆ
ใช้เวลาประมาณ 45 นาทีก็มาถึงท่าอากาศยานเชียงใหม่แล้ววว ตื่นเต้นๆ
(แต่เหมือนจะมีคนตื่นเต้นกว่า เดินไม่รอกันเลย .\ /.")
จุดเริ่มต้นของเรา คือร้านเช่ามอเตอร์ไซค์ Bikky ตรงถนนห้วยแก้ว
พอเดินออกมาจากทางออกผู้โดยสารขาเข้า ก็จะมีรถแดง หรือ Taxi ให้บริการตลอดค่ะ
เราเดินเข้าไปถามพี่คนขับรถแดง ว่าไปถนนห้วยแก้วเท่าไร พี่เขาบอกคนละ 50 บาท ก็กระโดดขึ้นรถกันเลย
รถจอดรอผู้โดยสารไม่นานพอเต็มแล้ว พี่แกก็ขับไปส่งทีละจุด ของเราบอกพี่เขาว่าจะลงตรงร้านเช่ามอเตอร์ไซค์ Bikky
มาถึงร้านแล้วไม่ได้ถ่ายรูปไว้ค่ะ ก็ทำการคุยรายละเอียดเช่า เราเช่าทั้งหมด 3 วัน
พี่เขาบริการดี มีแนะนำที่เที่ยวด้วยเพราะเห็นว่ามาเชียงใหม่กันครั้งแรก ขอบคุณมากๆเลยค่ะ
ให้แผนที่เรามาด้วย แต่เราอยากบอกว่าเรามีแพลน และแผนที่ครบหมดแล้ว555
ใครที่จะเช่ารถร้านนี้ ลงทะเบียนไว้ในเว็บไซต์จะได้รับส่วนลดด้วยนะคะ
ได้รถแล้ว ไปเติมน้ำมันเสร็จก็ไปแม่ริมกันเลยยยย!!
ขับไปเรื่อยๆ จนถึงแยก แม่ริม-สะเมิง ให้เลี้ยวซ้ายเลยจ้า
ทางนี้จะล้อมไปด้วยธรรมชาติแล้วค่ะ อากาศสดชื่น ถึงแม้จะเป็นตอนเที่ยงๆก็เถอะ
ขับผ่านน้ำตกแม่สา เลยแวะพักเหนื่อยจากการเดินทางซะหน่อย
ที่นี่มีร้านส้มตำไก่ย่างให้เลือกซื้อไปนั่งกินเพียบเลยค่ะ
แต่เราแค่แวะพักสูดอากาศดูน้ำตกให้หายเหนื่อยก็ไปต่อ ไม่ได้ซื้ออะไรกิน
ขับชมวิวข้างทางชิลมากๆ อากาศดีมากค่ะ
จนมาเจอร้านก๋วยเตี๋ยวเล็กๆข้างทาง เลยแวะชิม มื้อเที่ยงของเรา
ขับมาอีกหน่อย เจอสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์
ที่นี่มีดอกไม้นานาพันธุ์ มีทั้งขับรถเที่ยวรอบๆและเดินดูในโซนที่เป็นห้องกระจกได้ค่ะ
โซนพืชเขตร้อน ต้นกระบองเพชร
เสียดายตอนที่ไป ทางเดินที่เป็นสะพานสูงยังสร้างไม่เสร็จ แต่ตอนนี้เพิ่งสร้างเสร็จสามารถเข้าไปเที่ยวชมได้แล้วนะคะ
เราใช้เวลาที่นี่ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง เพลินไปหน่อย ออกจากสวยพฤกษศาสตร์ เราก็มุ่งหน้าไปม่อนแจ่มกันเลย
เพราะจะได้เวลา Check-in ที่พักที่ม่อนแจ่มแล้ว
ซึ่งเราจองเต๊นท์เอาไว้ค่ะ
ถึงม่อนแจ่มแล้วววว ระหว่างรอ Check-in ก็นั่งดูวิวให้หายเหนื่อย
อากาศดีมากๆ มีคนมากินข้าวกันเยอะพอสมควร
ไม่นาน พี่ที่ดูแลก็พาเราไปที่พัก
เต๊นท์ที่นี่ต้องจองล่วงหน้านะคะ ไม่งั้นอาจจะเต็ม
มีการแบ่งที่ให้มีความเป็นส่วนตัว มีที่นั่งเล่นส่วนตัวหน้าเต๊นท์
แต่ห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวมกับเต๊นท์ข้างๆ
ข้างในเต๊นท์ ที่นอนแบ่งเป็น2ฝั่งค่ะ นี่ฝั่งของเรา
และนี่เป็นวิวหน้าเต๊นท์เราค่ะ
ที่นั่งเล่นส่วนตัว
นั่งพักชมวิว ปล่อยชีวิตให้ช้าๆ สบายใจสุดๆ
จากนั้นเราก็ลงมาที่โซนร้านอาหาร สั่งเค้กเลม่อนชีสกับน้ำส้มมานั่งกิน เค้กเย็นๆกับอากาศเย็นๆ มันฟินมากนะพูดเลย 555
ไปเดินเล่นรอบๆกัน
อ้าว เจ้านี่มาเกะกะอะไร อ๋อแฟนเราเอง 555
หน้าทางเข้าม่อนแจ่มมีร้านขายของที่ระลึกด้วยนะคะ
เราชวนกันขับรถไปบ้านม่อนม่วน ที่อยู่ใกล้ๆ ตั้งใจจะไปดูวิว เห็นรีวิวในเนตสวยมว๊าก
ระหว่างทางลง เจอเด็กดอย เหมือนจะเพิ่งกลับจากโรงเรียนนะคะ น่ารักๆๆอ่ะ
ถึงบ้านม่อนม่วนแล้ว จะเข้าไปดูวิวอย่างเดียวก็รู้สึกแปลกๆ 5555 เลยสั่งน้ำสตอเบอรี่ปั่นมาแก้วนึง
อยากบอกว่าอร่อยมากค่ะ เฟรชชชช อ่ะ >___<
ที่นี่มีไร่องุ่นด้วยนะคะ เข้าไปถ่ายรูปเล่นได้ (มั้ง) เพราะเห็นไม่มีคนเฝ้าไม่มีใครห้าม เราก็เลยเข้าไปถ่ายมา 555
เริ่มจะค่ำแล้ว เรากลับมาสั่งอาหารที่ม่อนแจ่ม
บอกว่าสั่งเป็นปิ่นโต พี่เขาจะให้มารับอาหารตามเวลาที่กำหนด เพื่อเอามานั่งทานหน้าเต๊นท์เราเองค่ะ
ระหว่างนี้ก็ถ่ายรูปเล่นรออาหาร อิอิ
นอนดูวิว ชิลๆในเต๊นท์
วิวยามเย็น ณ ม่อนแจ่ม
ดวงอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า
และแล้ว เวลาที่รอคอยก็มาถึง ปิ่นโตมาแล้ววววว
ไฟตรงที่นั่งเล่นหน้าเต๊นท์มีแต่ไฟตะเกียงนะคะ
ค่อนข้างมืดไปหน่อย ตักอะไรเข้าปากนี่ไม่ค่อยจะรู้หรอกว่าอะไร 5555
แต่ก็ได้บรรยากาศดีค่ะ
เช้าวันที่ 2 เรารีบลุกมาสูดอากาศเย็นๆแต่เช้าตรู่ บวกกับวันนั้นองค์ภาเสด็จ จึงต้องรีบ Check out ก่อน 7 โมงด้วยค่ะ
แต่เราไม่ซีเรียส เพราะพี่ที่ดูแลเขาคืนเงินให้ครึ่งนึงด้วย อิอิ
หนำใจแล้ว เราลงจากม่อนแจ่มตอน 7 โมงเช้า
ตอนแรกตั้งใจว่าลงจากม่อนตอนเที่ยงแล้วไปพราวภูฟ้าเลย
แต่นี่เพิ่ง 7 โมง เอาล่ะสิไปไหนต่อดี ก็เลยขับรถเล่นชมวิวกับไปเรื่อยๆค่ะ
ที่จริงไร่สตอเบอรี่จะมีตลอดทางที่ไปม่อนแจ่มนะ
แต่เช้านี้มันเช้าเกิน เลยยังไม่ค่อยเปิดกัน
เราเลยแวะไร่ที่เปิด จำชื่อไม่ได้จริงๆขอโทษด้วยค่ะ555
แต่เป็นไร่ใหญ่ๆ ให้เข้าไปเก็บสตอเบอรี่เองได้ด้วย
ได้สตอเบอรี่แล้วว หาที่ไปต่อ เลยคุยกันว่าไปปางช้างแม่สาแล้วกัน
ต้องขับย้อนไปทางที่มาจากเมืองเชียงใหม่ แต่ก็ไม่ไกลค่ะ ขับแปปเดียวก็ถึง
น้องช้างทั้งหลายน่ารักมากๆๆๆ ฉลาดด้วย วาดรูปก็เก่ง คนฝึกเก่งมากค่ะ
จะเที่ยงแล้ว ไปพราวภูฟ้ารีสอร์ทกันเถอะ
ขับมาจนถึงตรงทางแยกขึ้นไปม่อนแจ่ม ก็เจอร้านข้าวมันไก่+ก๋วยเตี๋ยว แวะเลยค่ะหิวมาก > <
ในที่สุด ก็ถึงแล้วค่ะ พราวภูฟ้า รีสอร์ท
ที่เราเห็นบนอินเตอร์เนตตามรีวิวเยอะมาก
และฝันว่าอยากจะมาพักที่นี่ซักครั้ง ^_^
ได้มาแล้วๆ เย้ๆๆ
แต่ส่วนใหญ่ในรีวิวจะเป็นห้องแบบครอบครัว (Tree top view pool zone)
แต่ที่เราเลือกพักคือ villa zone ค่ะ จองจาก agoda
ระหว่างรอ Check in ก็สั่งเค้กกับน้ำแคนตาลูป กินอีกแล้ว กินตลอดทาง > <
ไม่นานพี่ที่ต้อนรับก็มาพาเราไปห้องพัก
ปกติที่นี่ Check in บ่าย 2 แต่เรามาไว พี่เขาให้รอแปปนึงเพื่อเคลียร์ห้องแล้วก็เข้าได้เลย
ห้องที่เราพัก เป็นห้องเบอร์ 2 นะคะ (Villa zone) ลืมถ่ายข้างหน้าทางเข้าแหะๆ
มีความเป็นส่วนตัวมากๆ villa zone จะแบ่งเป็นหลังๆ แต่ละหลังจะมีน้ำตกเล็กๆไหลผ่าน ธรรมชาติสุดๆ
พอเปิดประตูข้างหน้าเข้ามา จะพบว่าทางขวาเป็นห้องนอน ซ้ายเป็นห้องน้ำค่ะ
ข้างในห้องสวยมาก เราชอบมาก ^^ ได้บรรยากาศธรรมชาติมากๆค่ะ
ผลไม้สามารถทานฟรีได้เลยนะคะ
มาดูระเบียงนั่งเล่นกันดีกว่า
กินสตอเบอรี่ที่เก็บมาจากไร่สดๆ ฟังเสียงธารน้ำตก เสียงนกร้อง ไปด้วย ^___^
ไปดูห้องน้ำกันต่อค่ะ ห้องน้ำที่นี่น่ารักมากๆ
สวนเล็กๆระหว่างห้องน้ำกับห้องนอน
มีเครื่องทำน้ำอุ่นนะคะ ไม่ต้องห่วง
จากห้องน้ำ เปิดประตูมองออกไปก็เป็นห้องนอนจ้า
รอบๆรีสอร์ท
ดินเนอร์วันนี้ที่นี่ อร่อยมากๆค่ะ เด็ดสุดคือแกงส้มชะอมกุ้ง อากาศหนาวๆซดน้ำแกงร้อนๆ ฟินๆๆอีกแล้ว
จบวันที่สองด้วยความอ้วนอีกตามเคย 55 เดี๋ยวมาต่อวันสุดท้ายนะคะพื้นที่ไม่พอ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น