ก่อนตายต้องไป ..ก๋วยเตี๋ยวหลักสิบ วิวหลักล้าน.. ก๋วยเตี๋ยวชมวิว + โฮมสเตย์บ้านจ่าโบ แม่ฮ่องสอน



เดือนพฤศจิกาที่ผ่านมา ตั้งใจว่าจะต้องออกไปตามล่าหาทะเลหมอกที่ไหนสักแห่งในเมืองไทย  ภูทับเบิกรึ อืมม์ ช่วงนี้คนก็แห่ไปกันเยอะนัก  จะขึ้นยอดดอยอินทนนท์ รึ ดอยอ่างขาง ที่พักอุทยานและละแวกใกล้เคียงก็เต็มแล้ว  ส่วนจะกางเต้นท์ก็มิไหว  ด้วยติดนิสัยรักสบาย และอะแฮ่ม อายุอานามก็เยอะประมาณนึงละ (เรื่องเยอะเนาะ)  บังเอิญว่านัดหมายกับรุ่นน้องที่เชียงใหม่ว่าจะไปรียูเนี่ยน ซ้ำรอยเมืองปายที่เคยไปกันตั้งแต่ปายยุคแรกรุ่น 10 กว่าปีที่แล้ว ยุคที่ยังไม่มีเซเว่น ไม่มีปาย อิน เลิฟ & นักท่องเที่ยวจีนยังไม่รู้จักเล้ยเมืองปาย (เดี๋ยวนี้เดินกันให้ยุ่บยั่บยั้วเยี้ย)  ดูดิ๊ว่าจะเปลี่ยนไปซักแค่ไหน ได้ข่าวว่าช้ำ ช้ำแค่ไหนกันอ่ะ ต้องไปพิสูจน์  ว่าแล้วก็ลองโฟกัสหาทะเลหมอกในละแวกใกล้เคียงปาย  มาตกหลุมรัก รักแรกพบกับภาพจากเฟซบุคของ ก๋วยเตี๋ยวชมวิว บ้านจ่าโบ ที่น้องส่งลิงค์มาให้ น่าไป๊ น่าไป นี่รูปนี้



น้องบอกรีบไปกันเถอะพี่  รออีกสักปี กลายเป็นที่ท่องเที่ยวฮิตแน่  ถึงเวลานั้นไม่รู้จะเปลี่ยนไปแค่ไหน และถึงเวลาอยากไปคิวจะเต็มเอี๊ยดจองได้อีกรึเปล่าก็ไม่รู้  ฟังแล้วรีบเก็บกระเป๋าเลยทันที  แหม่ ไซโคซะน่ากลัวเชีย

พวกเราสามสาวตั้งต้นขับรถเช่าไปจากเชียงใหม่  ผ่านไม่รู้กี่ร้อยโค้ง นับไม่ไหว ทั้งโค้งเล็ก โค้งใหญ่ โค้งหักศอก หักเข่า สารพัด ด้วยความรถเราเป็นรถเก๋งแรงน้อย เลยยึดหลัก Slow Life ค่อยๆไป  ใครรีบแซงไปเลยจ้า  ก็ไปได้สบายๆ มีที่รู้สึกว่าโหดก็คือเส้นทางจากเชียงใหม่ไปปาย ตอนช่วงที่ไปเค้าทำถนน  ขับๆไปจากสองเลนปุบปับเหลือเลนเดียวบ้าง(บ่อยมากถึงมากที่สุด) ขับหลบยางมะตอยที่เค้าเพิ่งราดกันสดๆบ้าง (สงสารรถ สภาพยับเยินสุดๆ)  แต่เส้นทางจากปายไปที่จุดมุ่งหมาย บ้านจ่าโบ  อำเภอปางมะผ้า ถือว่าราบรื่นใช้ได้  (เพราะผ่านจุดสาหัสแถวปายมาแล้วเรียบร้อย) ออกจากเชียงใหม่ประมาณบ่ายสอง แวะเข้าห้องน้ำบ้าง ถ่ายรูประหว่างทางบ้าง  มาถึงที่หมายก็พลบค่ำพอดี  ช่วงนี้หกโมงก็มืดตะลึดตึ๊ดตื๋อแว้ว  ร้านก๋วยเตี๋ยวก็ปิดแล้ว และ ณ เวลานี้ยังไม่มีวิวอะไรให้ชม  เข้าที่พักดีกว่า

เราพักที่โฮมสเตย์ของชุมชนบ้านจ่าโบ  (ได้เบอร์ติดต่อมาจากในเฟซบุคของก๋วยเตี๋ยวชมวิว https://www.facebook.com/profile.php?id=100008170240483&fref=ts ที่พักรวมอาหารมื้อเย็นหัวละ 300 เท่านั้น)  มาถึงเจ้าของบ้านก็ชวนกินข้าวเข้าห้องครัวก่อนเลย  ที่นี่ห้องครัวจะใหญ่มาก พอๆกับห้องนอนเลย  เพราะเค้าจะนิยมนั่งล้อมวงกินข้าวกันในห้องครัว  หน้าตาอาหารมื้อแรกของเราก็ประมาณนี้



นี่คืออาหารที่ดีที่สุดของชาวบ้านเค้าแล้ว ถามว่าอร่อยมั้ย  อร่อยมากมายเพราะเต็มไปด้วยน้ำใจ (เรื่องจริง ไม่เฟค ไม่สร้างภาพ)  อีกอย่างมาเหนื่อยๆหิวๆ กินร้อนๆ นะ กินไปคุยกับเจ้าของบ้านไป บรรยากาศแบบนี้หาไม่ได้ง่ายๆ นี่แหละคนเมือง (ผู้อยากมีบ้านนอกเป็นของตัวเอง) อย่างเราโหยหา  แต่ตอนนี้โหยหิว ขอกินก่อนนะ
โชคดีที่พวกเราเป็นขากิน เรื่องกินจึงไวไม่มีอ้อยอิ่ง  เพิ่งมารู้ทีหลังว่าเจ้าของบ้านเค้ารอให้เรากินเสร็จ  พอเราไปอาบน้ำหรือพักผ่อนแล้ว  จึงเรียกคนในบ้านคือ สามี และลูกๆ มากินต่อ  นี่ถ้าเถลไถลหรืออ้อยอิ่งขออาบน้ำก่อนนะ ต้องรู้สึกผิดแย่แน่
กินเสร็จก็เข้าไปสำรวจที่นอน ใหญ่โตโอ่โถง (เพราะเจ้าของบ้านเค้าสละห้องที่ใหญ่ที่สุดให้) และกางมุ้งไว้ให้ 3 หลัง 3 สีแบบนี้ อุปกรณ์เครื่องนอนพร้อม หลับสบายมาก  



แต่ก่อนนอน ออกไปนั่งเล่นนอกชานบ้าน และเดินออกไปตรงจุดชมวิวของหมู่บ้าน  แม่เจ้าโว้ยยย ทะเลดาวมาลอยอยู่ตรงหน้า สวยงามประทับใจ น้องเจ้าของบ้านบอกบางวันโชคดีมีดาวตกด้วย รอดึกๆหน่อยนะพี่   แต่เรา แฮ่ๆ ไม่ได้อยู่คอยดู เพราะต้องตื่นแต่เช้า  แค่ทะเลดาวก็ฟินไปถึงไหนๆ แระ
ตั้งนาฬิกาปลุกกันไว้ที่ตีห้าห้าสิบ ล้างหน้าแปรงฟันเสร็จก็ได้เวลาออกไปรอน้องหมอก หมอกจ๋า เค้ามาแล้ววววว



ปรากฏว่าหมอกเยอะม๊ากกกกก  แต่น้องหมอกรักเรา Hug เรามาก มากอดเต็มรอบตัวเลย  ไม่ได้มาแบบสงบเจี๋ยมเจี้ยม ค่อยๆเรี่ยๆมา เต็มภูเขา  เหมือนในรูปที่เคยเห็น  แต่จะว่าไปก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ  ถ่ายรูปมาก็จะเป็นซิลูเอท ฮิปสะเตอร์ๆแบบนี้



ตั้งแต่หกโมงถึงเก้าโมงเช้าหมอกและวิวจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ  มีความสุข ตื่นเต้น ฟินเฟร่อ หลายความรู้สึกประเดประดัง แต่รวมความแล้วแฮปปี้  นี่แหละที่รอคอยมานานแสนนาน  ทรมาณวิญญานหนักหนา.. (ใครเกิดไม่ทันละคร..แต่ปางก่อน..คงมิรู้จัก แค่นี้คงพอรู้อายุกันละนะ อิอิ)












บอกว่าพามาชม & ชิม ก๋วยเตี๋ยวชมวิว ถ้าไม่พูดถึงก๋วยเตี๋ยวก็กระไรอยู่  ตอนแรกไม่ได้คาดหวังอะไรเลยเกี่ยวกับก๋วยเตี๋ยว คิดว่าคงงั้นๆ เอาจุดชมวิวมาเป็นจุดขาย  แต่ ป๊าดดดด ที่ไหนได้ อร่อยใช้ได้เลยนะเจ้าคะ ของเราสั่งเส้นเล็ก ลวกเส้นหนึบนุ่มกำลังดี น้ำซุปรสกลมกล่อมพร้อมซดไม่ต้องปรุง ปกติถ้าไม่เช้าขนาดนี้จะสาดพริกเข้าไปหน่อย  แต่เช้าขนาดนี้กินแบบไม่ปรุงก็อร่อยไปอีกแบบ  




ถ้าอยากใส่ไข่ เค้ามีไข่ต้มๆเตรียมไว้ให้  ไปหยิบเอามาปอกใส่กันได้ตามใจชอบ  



กาแฟเป็นเนสกาแฟและเครื่องเครา น้ำตาล ครีมธรรมดา ตั้งไว้ให้ชงกันเอง ไม่มีกาแฟสด  แต่บอกเลยว่า เช้าๆแบบนี้ บรรยากาศสุดยอดแบบนี้..แค่นี้ก็ดีที่สุด  



อยากกินชารึก็มีชาอู่หลงบริการ  สั่งมาจิบร้อนๆ จิบชาไป ชมหมอกไป เข้ากั๊นเข้ากัน ได้บรรยากาศที่ซู้ด  เชิญมาซดกันได้  รับรองฟินเฟร่อแน่นอน


ที่ประทับใจนอกจากวิวที่สวยสะกด + รสก๋วยเตี๋ยว คือความมีน้ำใจและไว้เนื้อเชื่อใจของร้าน  ถ้าเราโกงแล้วไม่บอกว่ากินไข่ไปกี่ลูก กินกาแฟไปกี่แก้ว (เพราะเค้าให้บริการปอกเอง ชงเอง) เค้าก็ไม่มีทางรู้เลยอ่ะ  แต่ใครจะไปกล้าทำลงได้ล่ะ น้องๆเค้าออกจะน่ารัก เป็นเราร้านวิวดีขนาดนี้ เขกราคาคิดชามละ 50-60 ยังต้องกินเลอ  นี่ดีนะที่เราไม่ได้เป็นเจ้าของ  เพื่อนๆเลยโชคดีไป  ได้กินชามละ 30 เท่านั้น 55








ที่น่ารักอีกอย่าง เป็นกิมมิคที่เท่ไม่แพ้ที่ท่องเที่ยวสุดฮิตที่ไหนๆ  ที่นี่เค้ามีกระดิ่งน่ารักๆหลายแบบ ไว้ให้เราเขียนข้อความที่ระลึกลงไป  แล้วน้องเค้าจะเอาไปผูกไว้ให้ที่ระเบียง มองไปก็เพลินตา ฟังเสียงกรุ๊งกริ๊งๆก็เพลินใจดีเหมือนกันนะ






ใครแวะไปกินก๋วยเตี๋ยวชมวิว หรือพักโฮมสเตย์บ้านจ่าโบ  อย่าลืมแวะเข้าไปในหมู่บ้าน มีหมู่บ้านหัตถกรรม และวัดเก่าแก่แบบไทยใหญ่ที่หาชมได้ยากให้ชมกันด้วย  
ใครรักทะเลหมอก  ใครชอบพักโฮมสเตย์สัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้าน กินง่ายอยู่ง่าย  อยากสัมผัสธรรมชาติที่ยังสดใหม่ ไม่มีอะไรปรุงแต่งมากนัก  ไม่มีเซเว่น ไม่มีรีสอร์ทหรู มีเพียงทะเลหมอก ทะเลดาว วิถีชีวิตที่เรียบง่ายและน้ำใจของชาวบ้าน      ..บ้านจ่าโบ ปางมะผ้า แม่ฮ่องสอน  คือจุดหมายที่คุณไม่ควรพลาด  และบอกเลยว่าเราก็ไม่พลาดที่จะไปเยี่ยมเยือนอีกแน่นอน ต้องเห็นน้องหมอกตอนมาเต็มให้ได้ เร็วๆนี้เจอกันค่า  


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่