[CR] มาเป็นเอเลี่ยนที่ 'เม็กซิโก'


สวัสดีค่าาา หลายๆคนอาจจะเข้ามาแล้วงงๆกับชื่อกระทู้
กระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิวชีวิตนักเรียนแลกเปลี่ยนที่เม็กซิโกค่ะ
คือเรามาแลกเปลี่ยนที่เม็กซิโก1ปี แล้วตอนนี้ก็อยู่มาได้เกือบ4เดือนแล้วค่ะ
เลยตัดสินใจมาเขียนเล่าเรื่องแลกเปลี่ยนที่นี่ของตัวเอง
แล้วก็เผื่อรีวิวโซนที่เราอยู่แล้วก็เมืองอื่นๆที่เราได้ไปด้วยค่ะ



เราหวังว่ามุมมองที่คนไทยมองเม็กซิโกเปลี่ยนไปบ้าง
อยากให้รู้ว่าเม็กซิโกไม่อันตรายแบบหลายปีก่อน
แล้วก็เป็นประเทศที่น่าสนใจอีกประเทศนึง
อีกเหตุผลก็เพราะ
ก่อนเรามาข้อมูลประเทศเม็กซิโกหายากมากกกกกกกกกกกก
แล้วก็มีคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับเม็กซิโกเยอะมากกกกกกกกกกกกกกกกก
ก็เผื่อใครที่จะมาแลกเปลี่ยน มาทำงาน หรือมาเที่ยวที่เม็กซิโก
แต่ยังอยู่ในระหว่างการตัดสินใจนะคะ


ปล. ผิดพลาดประการใดหรือเวิ่นเว้อเกินไป ขออภัยมา ณ ที่นี้ค่ะ


อันดับแรกเรามารู้จักข้อมูลทั่วไปของประเทศเม็กซิโกที่เรามักเข้าใจผิดกันก่อนดีกว่าค่ะ
     - ประเทศเม็กซิโกอยู่ในทวีปอเมริกาเหนือไม่ใช่ทวีปอเมริกาใต้อย่างที่หลายคนเข้าใจนะคะ แต่ว่าอยู่ติดทางใต้ของอเมริกา
     - ประเทศเม็กซิโกมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่5ของทวีปอเมริกา อันดับที่15ของโลก (ใหญ่กว่าประเทศไทยเกือบ4เท่า) มีประชากรประมาณ111ล้านคน
     - การปกครองเป็นแบบสหพันธ์สาธารณรัฐระแบบประธานาธิบดีค่ะ คือปกครองกันเป็นรัฐๆไป
     - ภาษาที่ใช้ในเม็กซิโก คือ ภาษาสเปน
     - หน่วยเงินที่ใช้ คือ เปโซเม็กซิโกค่ะ (MXN)

ส่วนเมืองที่เรามาอยู่ชื่อเมืองชิวาวา เป็นเมืองหลวงของรัฐชิวาวา งงมั้ยคะ55555
คือเมืองชื่อชิวาวา รัฐก็ชื่อรัฐชิวาวาค่ะ ตอนแรกหาข้อมูลในกูเกิ้ลเราเจอแต่รูปหมาชิวาวาเต็มเลย5555
สรุปคือเมืองนี้เป็นเมืองต้นกำเนิดของหมาพันธุ์ชิวาวาค่ะ แต่หมาดันดังกว่าเมือง บู่ววว



โอเค เราจะเริ่มเล่าเรื่องอย่างเวิ่นเว้อละนะ
เริ่ม!


เรามาแลกเปลี่ยนในนามของโรตารี เป็นโครงการ Rotary Youth Exchange
สโมสรที่ส่งเรามาที่นี่คือ สโมสรโรตารีนครหริภัญชัย ภาค3360ค่ะ


คือโรตารีเป็นองค์กรสากลของนักธุรกิจและผู้นำด้านวิชาชีพจากทั่วโลก ที่ให้บริการเพื่อมนุษยชาติ สนับสนุนมาตรฐานจริยธรรมในทุกวิชาชีพ และช่วยส่งเสริมไมตรีจิตและสันติภาพในโลก แล้วก็เป็นสโมสรบริการแห่งแรกของโลกค่ะ (ยิ่งใหญ่มาก ฮาา) พูดง่ายๆก็คือ โรตารีเป็นองค์กรสากลที่นักธุรกิจและผู้นำด้านวิชาชีพต่างๆ มารวมกันเพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ต่างๆ แล้วก็ช่วยเหลือผู้อื่นค่ะ ดังนั้นเมื่อโรตารีสากลเป็นองค์กรที่ใหญ่ และมีอยู่ทั่วโลก เลยต้องมีการแบ่งการบริหารจัดการเป็นภาคๆไป โดยมีตัวเลข4หลัก แล้วRotary Youth Exchange ก็เป็นโครงการโครงการนึงที่อยู่ในความดูแลของโรตารีสากลค่ะ
ถ้าใครสงสัยอะไร หรืออยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมก็หลังไมค์มาได้นะคะ หรือถ้ามีเวลาจะลองเขียนกระทู้แยกเกี่ยวกับการมแลกเปลี่ยนในนามของโรตารีให้นะคะ แต่เอาอันนี้ให้รอดก่อน 5555555555
อ้อ สำหรับเด็กแลกเปลี่ยนของโรตารี ทุกคนจะมีเบรเซอร์ด้วยนะคะ  เป็นสูทที่เอาไว้ติดพินติดเข็มที่ระลึกค่ะ เป็นแบบนี้


เอาล่ะ เริ่มจริงๆละนะ555555555




ย้อนกลับไปวันเดินทาง เมื่อประมาณ4เดือนที่แล้ว
เรายังจำความรู้สึกตอนนั้นได้ดีอยู่เลยค่ะ เพราะเราเดินทางคนเดียว โอ้โห มันเป็นอะไรที่ตื่นเต้น มึน อึน หน่วง เศร้า ดีใจ ไม่รู้จะรู้สึกอะไรก่อนดี ครั้งแรกในชีวิตที่เราจะไม่อยู่บ้านนานขนาดนี้ ครั้งแรกที่บินไปต่างประเทศคนเดียวแล้วก็ต้องเปลี่ยนเครื่องมากมายมหาศาล5555 คือไฟล์ทบินของเราเป็น เชียงใหม่-อินชอน(เกาหลีใต้) แล้วก็จาก อินชอน(เกาหลีใต้)-ฮุสตัน(เท็กซัส, อเมริกา) แล้วก็ ฮุสตัน(เท็กซัส, อเมริกา)-ชิวาวา(ชิวาวา, เม็กซิโก)ค่ะ

แต่เราโชคดีอย่างนึงคือพี่แอร์กราวน์ที่สนามบินเชียงใหม่ฟาสต์แทร็คกระเป๋าเราให้ไปถึงชิวาวาเลยค่ะ เราเลยไม่มีภาระในการหอบหิ้วมาก แล้วพี่เค้าให้เรานั่งตรงท้ายสุดเลยค่ะ ที่จะเป็น2ที่นั่งแต่ให้เรานั่งคนเดียว โห วีไอพีสุดๆมีที่วางของส่วนตัวค่ะ5555 ตอนช่วงจากเชียงใหม่ไปอินชอนแล้วจากอินชอนไปฮุสตันเราไม่มีปัญหาอะไรเลยค่ะ เพราะไม่ต้องทำอะไรเลย ไม่ต้องเช็คอินใหม่เพราะมีบอร์ดดิ้งพาสแล้ว

แต่พอถึงฮุสตันเท่านั้นแหละค่ะ โอ้โห เราก็ต้องผ่านตม.ต้องเขียนเอกสารที่เรามึนๆเพื่อทรานซิส แล้วก็ต้องเช็คอินใหม่เพื่อเอาบอร์ดดิ้งพาส ต้องตามหาเกต ซึ่งสนามบินที่นี่ค่อนข้างใหญ่ค่ะ ต้องเดินไปหาที่เปลี่ยนเทอมินอล ไปขึ้นที่เป็นคล้ายๆรถไฟฟ้าเพื่อไปอีกเทอมินอลนึง ตอนนั้นนี่อู้หูเลยค่ะ เราจะไปถูกมั้ย

โชคดีที่มีเวลาเยอะค่ะ เราได้รอเครื่องเป็นวันเลย ประมาณว่าถึง6โมงเช้า บินอีกที6โมงเย็น แล้วก็กร่อยรอในสนามบินค่ะ5555

แต่ในที่สุดก็ผ่านพ้น แต่ว่าเครื่องจากฮุสตันที่จะไปชิวาวานี่เล็กมากค่ะ เล็กจริงๆคือทั้งเครื่องมีแอร์คนเดียว มีที่นั่งแค่3แถว คือฝั่งนึง2แถว อีกฝั่งนึงแถวเดียว

พอไปถึงสนามบินชิวาวานี่ก็อึ้งไปอีกค่ะ สนามบินเล็กมาก55555 คือเดินลงจากเครื่องละเดินเท้าเข้าสนามบินเลยค่ะ

แล้วก็งงกับสนามบินอีกเพราะที่นี่เป็นสนามบินเล็ก พนักงานพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ตู้มมม ฟ้าผ่าลงกลางตัวเลยค่ะ ฮา คือเราต้องปั๊มวีซ่าบลาๆๆเพื่อเข้าเม็กซิโกตรงนี้ไงคะ พนักงานก็พูดอังกฤษไม่ได้ เราก็พูดสเปนไม่เป็น วินาทีนั้นช็อคมากค่ะ คือเริ่มคิดอย่างจริงจังว่า อ้าว แล้วต่อไปฉันจะใช้ชีวิตที่นี่ยังไง ขนาดพนักงานสนามบินยังพูดอังกฤษไม่ได้เลย จนสุดท้ายเค้าก็ชี้ๆถามเราประมาณว่าใครมารับค่ะ เค้าก็เลยไปเรียกโฮสต์พ่อเรามา สรุปคือเค้าขอตรวจกระเป๋าค่ะ คือตรวจแบบเปิดทุกใบเลยนะคะ ทั้งๆที่สแกนแล้ว และในที่สุดก็ผ่านพ้นค่ะ จนเราเดินออกมา เรานี่อึ้ง งง มึนมาก คนมารับเยอะค่ะ แล้วป้ายก็ใหญ่มาก

รู้สึกอบอุ่นแบบคิดถึงบ้านเลยค่ะ น้ำตาจะไหล ทำอะไรไม่ถูกค่ะได้แต่พูด hola(สวัสดี) แล้วก็ไหว้ แล้วก็ mucho gusto(ยินดีที่ได้รู้จัก) แล้วก็ยิ้มแค่นั้นเลยค่ะ คือมึนมากจริงๆ5555555



ยังไงก็ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ
ตอนนี้อาจจะยังแทบไม่เห็นอะไรเกี่ยวกับเม็กซิโกเพราะนี่พึ่งเริ่มต้น
แต่ถ้าใครสงสัยหรือสนใจข้อมูลอะไรเพิ่มเติมหลังไมค์มาถามได้นะคะ หรือคอมเม้นก็ได้
หรือใครอยากติดตามชีวิตที่เม็กซิโก
หรืออยากถามแต่ไม่มีไอดีพันทิป เข้ามาได้ช่องทางนี้เลยนะคะ
facebook: Poppy Munchukarn
ask.fm: @poppzMS
instagram: poppysrn_
snapchat: poppysrn


แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้เราจะมาเล่าเรื่องครอบครัวกับโรงเรียนแล้วก็ลงรูปเพิ่มเติมให้นะคะ
ผิดพลาดอะไรขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ -/\-
ชื่อสินค้า:   เม็กซิโก
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่