หมอที่ผ่าตัดต้อกระจกมากที่สุดในโลก

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
Dr. Ruit - Eye doctor in Nepal





นายแพทย์ชาวเนปาล Dr. Sanduk Ruit
ได้ผ่าตัดใส่เลนส์แก้วตาแก้ไขต้อกระจก
ให้กับชาวบ้านมากกว่า 100,000 ราย
บางทีอาจจะมากที่สุดในโลกมากกว่า
นายแพทย์รายอื่น ๆ ในประวัติศาสตร์
และในตอนนี้ยังมีคนไข้มาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง
คนไข้ต่างเดินข้ามเทือกเขามาตามหุบเขา
จากหมู่บ้านที่กันดารและห่างไกล
ด้วยความหวังว่าการได้รับการผ่าตัดต้อกระจก
จะทำให้ได้เห็นใบหน้าคนที่รักอีกครั้ง

หนึ่งวันหลังการผ่าตัดต้อกระจก
หลังจากท่านดึงผ้าพันแผลออก
ต้องขอบคุณท่านเป็นอย่างมาก
พวกเขาสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน
ด้วยความปิติยินดีอย่างยิ่ง
ในตอนแรกต่างจ้องมองด้วยความฉงน
แล้วด้วยความสุขที่เอ่อล้นขึ้นมาในใจ
พวกเขาต่างเดินทางกลับบ้านอย่างมีความสุข



ที่มา http://goo.gl/62YShP


ในการทำสงครามกับโลกมืดของมนุษย์
มีประชากรโลกราว 39 ล้านคนที่พิการทางสายตา
จำนวนนี้ครึ่งหนึ่งสาเหตุมาจากต้อกระจก
ส่วนอีก 246 ล้านคน มีอาการบกพร่องทางสายตา
ข้อมูลประมาณการจาก World Health Organization
http://goo.gl/DzbnMQ

ถ้าคุณเป็นคนพิการทางสายตาในประเทศที่ยากจน
ตามประเพณีท้องถิ่นแล้วไม่มีความหวังอย่างใดแล้ว
แต่ Dr. Sanduk Ruit ได้พัฒนาเครื่องมือผ่าตัดต้อกระจกขนาดย่อม
ที่มีต้นทุนค่าใช้จ่ายเพียง 25 เหรียญสหรัฐต่อดวงตาคนไข้แต่ละข้าง
และประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
เป็นวิธีการแบบเนปาล  Nepal method
ที่ตอนนี้มีการเรียนการสอนใน
โรงเรียนแพทย์หลายแห่งในสหรัฐอเมริกา



Thuli Maya Thing มีดวงตามืดบอดจากต้อกระจก
ในตอนที่  Dr. Sanduk Ruit ได้ตรวจเบื้องต้น
หลังการผ่าตัดเธอมีความสามารถในการมองเห็นระดับ 20/20
Credit Nicholas Kristof/The New York Times


" ผมถือว่าผมมีชัยชนะอย่างหนึ่งกับการเดินทางประจำปี
และผมได้พานักศึกษาคนหนึ่งร่วมเดินทางมายังประเทศด้อยพัฒนา
เพื่อเปิดเผยประเด็นข่าวที่ยังไม่มีรายงานในสื่อมวลชน
ผมได้เดินทางไปยัง Hetauda ทางตอนใต้ของเนปาล
เพื่อดู  Dr. Sanduk Ruit ทำเรื่องราวมหัศจรรย์
ให้กับคนไข้ชายหญิงจำนวน 102 ราย "
Austin Meyer นักศึกษา Stanford University



Nicholas Kristof กับ Austin Meyer ในหมู่บ้านทุรกันดาร ใกล้เมือง Lucknow ในอินเดีย
ที่มา http://goo.gl/auDGRU


Thuli Maya Thing คนไข้หญิงวัย 50 ปี
เล่าว่าเธอต้องต่อสู้กับตนเองเป็นอย่างมาก
ในการดูแลบรรดาลูก ๆ หลังจากที่
สูญเสียการมองเห็นเมื่อหลายปีก่อน
เพราะความพิการทางสายตาและไม่สามารถทำงานได้
คือสาเหตุที่ทำให้ครอบครัวของเธอต่างไม่พอใจ
และโกรธเธอเป็นอย่างมาก

“ ฉันไม่สามารถตักน้ำหรือหาฟืนได้
ฉันไม่สามารถหุงหาอาหาร
ฉันหกล้มหลายครั้ง
และฉันถูกไฟลวกหลายครั้งด้วยเช่นกัน

ฉันคงจะเห็นบรรดาลูก ๆ และสามี
ของฉันได้อีกครั้ง นั่นคือเรื่องสำคัญมากที่สุด "

Thuli Maya Thing กล่าวขณะกำลังรอเข้ารับการรักษา
อย่างกระวนกระวายใจ  แต่เต็มเปี่ยมด้วยความหวัง
จากสถานพยาบาลชั่วคราวของ Dr.Sanduk Ruit
ที่ Hetauda Community Eye Hospital



Purni Maya  คนไข้อีกราย นั่งรอที่ Hetauda Community Eye Hospital
รอการผ่าตัดต้อกระจก  Credit Austin Meyer ที่มา http://goo.gl/auDGRU


" เธอถูกนำขึ้นบนเตียงผ่าตัดในห้องผ่าตัดชั่วคราว
และรอบดวงตาของเธอถูกใช้ยาชา
หลังจากถ่างเปลือกตาข้างซ้าย
ให้เบิ่งกว้างด้วยเครื่องมือแพทย์
Dr. Sanduk Ruit ได้ลงมือผ่าตัดต้อกระจก
ผ่านทางกล้องจุลทรรศน์ขนาดเล็ก
ด้วยการผ่าตัดแผลขนาดเล็กในดวงตา
พร้อมกับดึงต้อกระจกออกมาวางในมือของผม
มันค่อนข้างหนาและมีสีเหลืองขุ่นมัว
บางทีมีขนาดความยาวราวหนึ่งในสามนิ้ว
แผ่นกลมขนาดเล็กที่ทำลายชีวิตของ Thuli Maya Thing

Dr.Sanduk Ruit ได้ใส่เลนส์แก้วตาขนาดเล็กเข้าไปในดวงตา
ด้วยกระบวนการผ่าตัดที่กินเวลาเพียง 5 นาที
แล้วเริ่มลงมือทำอีกครั้งกับดวงตาข้างขวาของ Thuli Maya Thing
ด้วยความมั่นใจว่าเธอจะสามารถมองเห็นได้อีกครั้ง "
Austin Meyer บอกเล่าเรื่องราวทั้งหมด



“ แน่นอน เธอจะกลับมามองเห็นอีกครั้ง
ถ้าไม่มีโรคแทรกซ้อนหลังการผ่าตัด ”
Dr.Sanduk Ruit กล่าวหลังจาก
ปิดผ้าพันแผลบนดวงตาของเธอ

ในสหรัฐอเมริกา การผ่าตัดต้อกระจก
มีเครื่องมือที่ค่อนข้างสลับซับซ้อนมาก
และเป็นไปไม่ได้เลยที่จะนำไปใช้
ในประเทศด้อยพัฒนาที่ยากจน
ดังนั้น Dr.Sanduk Ruit จึงสร้างเครื่องมือขึ้นมา
โดยร่วมมือกับ Aravind Eye Care System ในอินเดีย
http://goo.gl/lI8T0b

สถาบันชั้นนำที่บุกเบิกการผ่าตัดต้อกระจก
กับคนไข้ถึง 280,000 รายเมื่อปีก่อน
ด้วยการใช้เครื่องมือผ่าตัดขนาดเล็ก
โดยไม่ต้องเย็บแผลคนไข้หลังผ่าตัดต้อกระจก

ในตอนแรกมีผู้คนสงสัย
และล้อเลียนนวัตกรรมของ Dr. Sanduk Ruit
แต่เมื่อ American Journal of Ophthalmology
http://goo.gl/pzBChO
ได้ตีพิมพ์เผยแพร่ผลการศึกษาจากการสุ่มสำรวจ
พบว่าเทคนิคการผ่าตัดของ Dr. Sanduk Ruit
หลังจากติดตามผล 6 เดือนให้หลัง
มีผลสำเร็จในการผ่าตัดถึงร้อยละ 98
พอ ๆ กับเครื่องมือผ่าตัดของทางตะวันตก
แต่สิ่งเดียวที่แตกต่างกันอย่างมากคือ
วิธีการของ Dr.Sanduk Ruit รวดเร็วและถูกกว่ามาก



“ ผลลัพธ์ช่างมหัศจรรย์อย่างมาก
สำหรับเขตทุรกันดารในเนปาล
การใช้เทคนิคผ่าตัดแบบนี้ดีพอ ๆ กับ
การผ่าตัดต้อกระจกคนไข้ใน  Salt Lake City
ที่ต้องดูแลรักษาแบบคนไข้พิเศษ
ต้องใช้จ่ายร่วม 1 ล้านเหรียญสหรัฐ
กับอุปกรณ์และเครื่องมือที่ทันสมัยสุด ”

Dr. Geoffrey Tabin ผู้เชี่ยวชาญด้านสายตา
จาก University of Utah’s Moran Eye Center
http://goo.gl/7GQeaj

Dr. Geoffrey Tabin ได้เรียนรู้เทคนิค
การผ่าตัดจาก Dr.Sanduk Ruit
ขณะที่ตั้งศูนย์ผ่าตัดชั่วคราวที่ Hetauda
และร่วมลงมือผ่าตัดเคียงข้างกับ Dr.Sanduk Ruit

Dr. Geoffrey Tabin ยังกล่าวว่าเครื่องมือผ่าตัดแบบนี้
ไม่สามารถใช้ผ่าตัดต้อกระจกในสหรัฐอเมริกาได้
เช่น ถ้ามีขนาดต้อกระจกที่ใหญ่เกินไป
ตามมาตรฐานและคู่มือการผ่าตัดของอเมริกา
ยังเป็นรองจากวิธีการผ่าตัดของ Dr.Sanduk Ruit



Dr. Sanduk Ruit กับหนังสือที่มีประวัติของท่าน ที่มา http://goo.gl/62YShP  


Dr.Geoffrey Tabin คือ ผู้ชื่นชอบในการปีนเขาในเนปาล
โดยเฉพาะอย่างยิ่งประกายที่งดงามของเทือกเขา Everest
ได้นำพาท่านมาร่วมงาน Himalayan Cataract Project
http://cureblindness.org/
โดรงการบริจาคของ United States charity
ทีสนับสนุนผลงานของ Dr. Sanduk Ruit
และเผยแพร่เทคนิคดังกล่าวไปยังประเทศอื่น ๆ
เช่น Ethiopia และ Ghana
การทำสงครามกับโลกมืดในตอนนี้
คือการร่วมมือกับโครงการ Ruit/Tabin project
และการมองโลกในแง่ดีด้วยการตั้งชือว่า http://cureblindness.org.

“Dr.Sanduk Ruit คือ หมอคนแรกที่ใส่เลนส์แก้วตาให้กับคนไข้ที่ยากจน
ในประเทศกำลังพัฒนา  ยังไม่มีใครทำได้ขนาดนี้กับคนไข้จำนวนมาก "
Dr. Geoffrey Tabin

จากการประมาณการของ Dr. Sanduk Ruit
และพบว่ามีความน่าเชื่อถือเป็นอย่างมาก
ท่านได้ผ่าตัดต้อกระจกคนไข้ถึง 120,000 ราย
ส่วนมากมักจะเป็นคนไข้ที่เป็นต้อกระจกเพียงข้างเดียว
แต่ทั้งนี้ Dr. Sanduk Ruit  ไม่ได้เพียงแต่พัฒนาเทคนิคการผ่าตัด
แต่เพียงอย่างเดียว  ท่านยังพัฒนาระบบการดูแลสายตาทั้งหมด
ด้วยการก่อตั้ง Tilganga Institute of Ophthalmology
http://www.tilganga.org/

ที่มีทั้งโรงพยาบาล คลีนิคเคลื่อนที่
โครงการฝึกอบรม และคลังดวงตา
ด้วยการเก็บค่ารักษาพยาบาลจากคนไข้ที่มีฐานะดีกว่า
มาสนับสนุนคนไข้ที่ยากไร้ เช่น Thuli Maya Thing
สถาบัน Tilganga ได้ผ่าตัดตาคนไข้ปีละ 30,000 ราย
ครึ่งหนึ่งมีค่าใช้จ่าย แต่อีกครึ่งหนึ่งฟรี



Dr.Geoffrey Tabin กับคนไข้ต้อกระจก


Tilganga ยังผลิตเลนส์แก้วตาขนาดเล็ก 450,000 ชิ้นต่อปี
ที่ใช้ในการผ่าตัดต้อกระจกในราคาเพียง 3 เหรียญสหรัฐ
เมื่อเทียบกับราคา 200 เหรียญสหรัฐของฝั่งตะวันตก
คุณภาพก็ยังดีเยี่ยมและมีการส่งออก
ไปยังกว่า 50 ประเทศรวมทั้งบางประเทศในยุโรป
และสำหรับผู้ที่สูญเสียดวงตาไปแล้ว
Tilganga ยังได้ประดิษฐ์ดวงตาเทียม
ที่มีต้นทุนเพียง 3 เหรียญเมื่อเทียบกับ
ดวงตาเทียมที่นำเข้า 150 เหรียญสหรัฐ

ระบบดังกล่าวนี้เป็นที่ประทับใจผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก
Dr. David F. Chang อดีตประธานของ
American Society of Cataract and Refractive Surgery
http://ascrs.org/
ได้อธิบายว่า Dr.Sanduk  Ruit คือ
“ หนึ่งในจักษุแพทย์ที่สำคัญที่สุดในโลก ”

Dr. Sanduk  Ruit วัย 61 ปี
เติบโตในหมู่บ้านที่ทุรกันดาร
ในภาคอีสานของเนปาล
และเรียนการแพทย์ที่อินเดีย
ในตอนนี้กำลังมีการใช้วิธีการแบบนี้
ในประเทศที่มีรายได้ต่ำหลายประเทศ



“ ถ้าเราสามารถทำได้ในเนปาล
ก็สามารถทำได้ทุกหนทุกแห่งในโลก ”
Dr. Sanduk  Ruit กล่าว

หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่เป็นพันธกิจหลัก
ในการต่อสู้กับโลกมืดของมนุษย์
ที่เป็นสาเหตุของสุขภาพทรุดโทรม
แต่สามารถเอาชนะหรือป้องกันได้โดยง่าย

Vitamin A ที่ราคาเม็ดละ 2 เซ็นต์สหรัฐ
ข้อมูลเพิ่มเติม http://goo.gl/gfV5Tj
สามารถป้องกันคนไข้ได้ถึง 250,000 รายหรือมากกว่า
สำหรับบรรดาเด็ก ๆ ที่มีอาการพิการทางสายตา
และส่วนมากครึ่งหนึ่งของเด็กเหล่านี้
มักจะเสียชีวิตภายในหนึ่งปีหลังจากพิการทางสายตา
ข้อมูลเพิ่มเติม http://goo.gl/TN2egl

Blinding trachoma  โรคริดสีดวงตา
สามารถป้องกันด้วยสุขอนามัย
และยาปฎิชีวนะที่ได้รับการบริจาค

River Blindness โรคพยาธิตาบอด
http://goo.gl/q2QgmU
ตอนนี้เริ่มลดน้อยลงไปมากแล้ว
เพราะผลงานที่กล้าหาญของ Jimmy Carter
อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ลำดับที่ 39
และการได้รับบริจาคยาจากผู้ผลิตยา Merck



ตอนนี้มาดู Thuli Maya Thing
หนึ่งวันหลังการผ่าตัด เธอกับคนไข้ 101 ราย
กำลังรอการเปิดผ้าพันแผลที่ปิดบนใบหน้าออกมา
Dr.Sanduk Ruit ค่อย ๆ ดึงผ้าพันแผลของ Thuli Maya Thing
เธอกระพริบตาทั้งสองข้างหลายต่อหลายครั้ง
แล้วห้นไปมองรอบ ๆ ตัวเธอเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี
เธอผ่านการตรวจวัดสภาพการมองเห็นที่  20/20

“ ฉันเคยไปรอบ ๆ บ้านด้วยการคลาน
แต่ตอนนี้ฉันสามารถยืนขึ้นและเดินไปมาได้ ”
Thuli Maya Thing กล่าวพร้อมกับรอยยิ้ม

" ผู้คนโดยทั่วไปมักจะบอกกับผมว่า
พวกเขาสงสัยเกี่ยวกับการช่วยเหลือทางมนุษยธรรม
แต่เรื่องจริงก็คือ การช่วยเหลือผู้คน
ดูเหมือนว่ายากกว่าที่ควรจะเป็น
แต่บางเรื่องดูเหมือนว่ามหัศจรรย์อย่างมากที่สุดเลย
ด้วยค่าผ่าตัดเพียง 25 เหรียญสหรัฐต่อดวงตาหนึ่งข้าง
หรือ 50 เหรียญสหรัฐต่อดวงตาสองข้าง
ในการทำให้ผู้คนได้มองเห็นอีกครั้ง
เรื่องนี้สร้างผลลัพธ์ที่สูงส่ง ด้วยเงินจำนวนน้อยนิด “
Dr. Sanduk Ruit กล่าวขณะที่มองคนไข้ของท่าน
ที่พยายามเริ่มต้นการมองเห็นได้อีกครั้ง
ขณะที่ตอนนี้ Thuli Maya Thing กำลังร่ายรำ



Thuli Maya Thing กับชาวบ้าน Nepal
หลังจากผ้าพันแผลถูกเปิดออกแล้ว
Credit Nicholas Kristof/The New York Times



เรียบเรียง/ที่มา

http://goo.gl/XVW6PI
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่