Dr. Ruit - Eye doctor in Nepal
นายแพทย์ชาวเนปาล Dr. Sanduk Ruit
ได้ผ่าตัดใส่เลนส์แก้วตาแก้ไขต้อกระจก
ให้กับชาวบ้านมากกว่า 100,000 ราย
บางทีอาจจะมากที่สุดในโลกมากกว่า
นายแพทย์รายอื่น ๆ ในประวัติศาสตร์
และในตอนนี้ยังมีคนไข้มาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง
คนไข้ต่างเดินข้ามเทือกเขามาตามหุบเขา
จากหมู่บ้านที่กันดารและห่างไกล
ด้วยความหวังว่าการได้รับการผ่าตัดต้อกระจก
จะทำให้ได้เห็นใบหน้าคนที่รักอีกครั้ง
หนึ่งวันหลังการผ่าตัดต้อกระจก
หลังจากท่านดึงผ้าพันแผลออก
ต้องขอบคุณท่านเป็นอย่างมาก
พวกเขาสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน
ด้วยความปิติยินดีอย่างยิ่ง
ในตอนแรกต่างจ้องมองด้วยความฉงน
แล้วด้วยความสุขที่เอ่อล้นขึ้นมาในใจ
พวกเขาต่างเดินทางกลับบ้านอย่างมีความสุข
ในการทำสงครามกับโลกมืดของมนุษย์
มีประชากรโลกราว 39 ล้านคนที่พิการทางสายตา
จำนวนนี้ครึ่งหนึ่งสาเหตุมาจากต้อกระจก
ส่วนอีก 246 ล้านคน มีอาการบกพร่องทางสายตา
ข้อมูลประมาณการจาก World Health Organization
http://goo.gl/DzbnMQ
ถ้าคุณเป็นคนพิการทางสายตาในประเทศที่ยากจน
ตามประเพณีท้องถิ่นแล้วไม่มีความหวังอย่างใดแล้ว
แต่ Dr. Sanduk Ruit ได้พัฒนาเครื่องมือผ่าตัดต้อกระจกขนาดย่อม
ที่มีต้นทุนค่าใช้จ่ายเพียง 25 เหรียญสหรัฐต่อดวงตาคนไข้แต่ละข้าง
และประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
เป็นวิธีการแบบเนปาล Nepal method
ที่ตอนนี้มีการเรียนการสอนใน
โรงเรียนแพทย์หลายแห่งในสหรัฐอเมริกา
Thuli Maya Thing มีดวงตามืดบอดจากต้อกระจก
ในตอนที่ Dr. Sanduk Ruit ได้ตรวจเบื้องต้น
หลังการผ่าตัดเธอมีความสามารถในการมองเห็นระดับ 20/20
Credit Nicholas Kristof/The New York Times
" ผมถือว่าผมมีชัยชนะอย่างหนึ่งกับการเดินทางประจำปี
และผมได้พานักศึกษาคนหนึ่งร่วมเดินทางมายังประเทศด้อยพัฒนา
เพื่อเปิดเผยประเด็นข่าวที่ยังไม่มีรายงานในสื่อมวลชน
ผมได้เดินทางไปยัง Hetauda ทางตอนใต้ของเนปาล
เพื่อดู Dr. Sanduk Ruit ทำเรื่องราวมหัศจรรย์
ให้กับคนไข้ชายหญิงจำนวน 102 ราย "
Austin Meyer นักศึกษา Stanford University
Nicholas Kristof กับ Austin Meyer ในหมู่บ้านทุรกันดาร ใกล้เมือง Lucknow ในอินเดีย
ที่มา
http://goo.gl/auDGRU
Thuli Maya Thing คนไข้หญิงวัย 50 ปี
เล่าว่าเธอต้องต่อสู้กับตนเองเป็นอย่างมาก
ในการดูแลบรรดาลูก ๆ หลังจากที่
สูญเสียการมองเห็นเมื่อหลายปีก่อน
เพราะความพิการทางสายตาและไม่สามารถทำงานได้
คือสาเหตุที่ทำให้ครอบครัวของเธอต่างไม่พอใจ
และโกรธเธอเป็นอย่างมาก
“ ฉันไม่สามารถตักน้ำหรือหาฟืนได้
ฉันไม่สามารถหุงหาอาหาร
ฉันหกล้มหลายครั้ง
และฉันถูกไฟลวกหลายครั้งด้วยเช่นกัน
ฉันคงจะเห็นบรรดาลูก ๆ และสามี
ของฉันได้อีกครั้ง นั่นคือเรื่องสำคัญมากที่สุด "
Thuli Maya Thing กล่าวขณะกำลังรอเข้ารับการรักษา
อย่างกระวนกระวายใจ แต่เต็มเปี่ยมด้วยความหวัง
จากสถานพยาบาลชั่วคราวของ Dr.Sanduk Ruit
ที่ Hetauda Community Eye Hospital
Purni Maya คนไข้อีกราย นั่งรอที่ Hetauda Community Eye Hospital
รอการผ่าตัดต้อกระจก Credit Austin Meyer ที่มา
http://goo.gl/auDGRU
" เธอถูกนำขึ้นบนเตียงผ่าตัดในห้องผ่าตัดชั่วคราว
และรอบดวงตาของเธอถูกใช้ยาชา
หลังจากถ่างเปลือกตาข้างซ้าย
ให้เบิ่งกว้างด้วยเครื่องมือแพทย์
Dr. Sanduk Ruit ได้ลงมือผ่าตัดต้อกระจก
ผ่านทางกล้องจุลทรรศน์ขนาดเล็ก
ด้วยการผ่าตัดแผลขนาดเล็กในดวงตา
พร้อมกับดึงต้อกระจกออกมาวางในมือของผม
มันค่อนข้างหนาและมีสีเหลืองขุ่นมัว
บางทีมีขนาดความยาวราวหนึ่งในสามนิ้ว
แผ่นกลมขนาดเล็กที่ทำลายชีวิตของ Thuli Maya Thing
Dr.Sanduk Ruit ได้ใส่เลนส์แก้วตาขนาดเล็กเข้าไปในดวงตา
ด้วยกระบวนการผ่าตัดที่กินเวลาเพียง 5 นาที
แล้วเริ่มลงมือทำอีกครั้งกับดวงตาข้างขวาของ Thuli Maya Thing
ด้วยความมั่นใจว่าเธอจะสามารถมองเห็นได้อีกครั้ง "
Austin Meyer บอกเล่าเรื่องราวทั้งหมด
“ แน่นอน เธอจะกลับมามองเห็นอีกครั้ง
ถ้าไม่มีโรคแทรกซ้อนหลังการผ่าตัด ”
Dr.Sanduk Ruit กล่าวหลังจาก
ปิดผ้าพันแผลบนดวงตาของเธอ
ในสหรัฐอเมริกา การผ่าตัดต้อกระจก
มีเครื่องมือที่ค่อนข้างสลับซับซ้อนมาก
และเป็นไปไม่ได้เลยที่จะนำไปใช้
ในประเทศด้อยพัฒนาที่ยากจน
ดังนั้น Dr.Sanduk Ruit จึงสร้างเครื่องมือขึ้นมา
โดยร่วมมือกับ Aravind Eye Care System ในอินเดีย
http://goo.gl/lI8T0b
สถาบันชั้นนำที่บุกเบิกการผ่าตัดต้อกระจก
กับคนไข้ถึง 280,000 รายเมื่อปีก่อน
ด้วยการใช้เครื่องมือผ่าตัดขนาดเล็ก
โดยไม่ต้องเย็บแผลคนไข้หลังผ่าตัดต้อกระจก
ในตอนแรกมีผู้คนสงสัย
และล้อเลียนนวัตกรรมของ Dr. Sanduk Ruit
แต่เมื่อ American Journal of Ophthalmology
http://goo.gl/pzBChO
ได้ตีพิมพ์เผยแพร่ผลการศึกษาจากการสุ่มสำรวจ
พบว่าเทคนิคการผ่าตัดของ Dr. Sanduk Ruit
หลังจากติดตามผล 6 เดือนให้หลัง
มีผลสำเร็จในการผ่าตัดถึงร้อยละ 98
พอ ๆ กับเครื่องมือผ่าตัดของทางตะวันตก
แต่สิ่งเดียวที่แตกต่างกันอย่างมากคือ
วิธีการของ Dr.Sanduk Ruit รวดเร็วและถูกกว่ามาก
“ ผลลัพธ์ช่างมหัศจรรย์อย่างมาก
สำหรับเขตทุรกันดารในเนปาล
การใช้เทคนิคผ่าตัดแบบนี้ดีพอ ๆ กับ
การผ่าตัดต้อกระจกคนไข้ใน Salt Lake City
ที่ต้องดูแลรักษาแบบคนไข้พิเศษ
ต้องใช้จ่ายร่วม 1 ล้านเหรียญสหรัฐ
กับอุปกรณ์และเครื่องมือที่ทันสมัยสุด ”
Dr. Geoffrey Tabin ผู้เชี่ยวชาญด้านสายตา
จาก University of Utah’s Moran Eye Center
http://goo.gl/7GQeaj
Dr. Geoffrey Tabin ได้เรียนรู้เทคนิค
การผ่าตัดจาก Dr.Sanduk Ruit
ขณะที่ตั้งศูนย์ผ่าตัดชั่วคราวที่ Hetauda
และร่วมลงมือผ่าตัดเคียงข้างกับ Dr.Sanduk Ruit
Dr. Geoffrey Tabin ยังกล่าวว่าเครื่องมือผ่าตัดแบบนี้
ไม่สามารถใช้ผ่าตัดต้อกระจกในสหรัฐอเมริกาได้
เช่น ถ้ามีขนาดต้อกระจกที่ใหญ่เกินไป
ตามมาตรฐานและคู่มือการผ่าตัดของอเมริกา
ยังเป็นรองจากวิธีการผ่าตัดของ Dr.Sanduk Ruit
Dr.Geoffrey Tabin คือ ผู้ชื่นชอบในการปีนเขาในเนปาล
โดยเฉพาะอย่างยิ่งประกายที่งดงามของเทือกเขา Everest
ได้นำพาท่านมาร่วมงาน Himalayan Cataract Project
http://cureblindness.org/
โดรงการบริจาคของ United States charity
ทีสนับสนุนผลงานของ Dr. Sanduk Ruit
และเผยแพร่เทคนิคดังกล่าวไปยังประเทศอื่น ๆ
เช่น Ethiopia และ Ghana
การทำสงครามกับโลกมืดในตอนนี้
คือการร่วมมือกับโครงการ Ruit/Tabin project
และการมองโลกในแง่ดีด้วยการตั้งชือว่า
http://cureblindness.org.
“Dr.Sanduk Ruit คือ หมอคนแรกที่ใส่เลนส์แก้วตาให้กับคนไข้ที่ยากจน
ในประเทศกำลังพัฒนา ยังไม่มีใครทำได้ขนาดนี้กับคนไข้จำนวนมาก "
Dr. Geoffrey Tabin
จากการประมาณการของ Dr. Sanduk Ruit
และพบว่ามีความน่าเชื่อถือเป็นอย่างมาก
ท่านได้ผ่าตัดต้อกระจกคนไข้ถึง 120,000 ราย
ส่วนมากมักจะเป็นคนไข้ที่เป็นต้อกระจกเพียงข้างเดียว
แต่ทั้งนี้ Dr. Sanduk Ruit ไม่ได้เพียงแต่พัฒนาเทคนิคการผ่าตัด
แต่เพียงอย่างเดียว ท่านยังพัฒนาระบบการดูแลสายตาทั้งหมด
ด้วยการก่อตั้ง Tilganga Institute of Ophthalmology
http://www.tilganga.org/
ที่มีทั้งโรงพยาบาล คลีนิคเคลื่อนที่
โครงการฝึกอบรม และคลังดวงตา
ด้วยการเก็บค่ารักษาพยาบาลจากคนไข้ที่มีฐานะดีกว่า
มาสนับสนุนคนไข้ที่ยากไร้ เช่น Thuli Maya Thing
สถาบัน Tilganga ได้ผ่าตัดตาคนไข้ปีละ 30,000 ราย
ครึ่งหนึ่งมีค่าใช้จ่าย แต่อีกครึ่งหนึ่งฟรี
Dr.Geoffrey Tabin กับคนไข้ต้อกระจก
Tilganga ยังผลิตเลนส์แก้วตาขนาดเล็ก 450,000 ชิ้นต่อปี
ที่ใช้ในการผ่าตัดต้อกระจกในราคาเพียง 3 เหรียญสหรัฐ
เมื่อเทียบกับราคา 200 เหรียญสหรัฐของฝั่งตะวันตก
คุณภาพก็ยังดีเยี่ยมและมีการส่งออก
ไปยังกว่า 50 ประเทศรวมทั้งบางประเทศในยุโรป
และสำหรับผู้ที่สูญเสียดวงตาไปแล้ว
Tilganga ยังได้ประดิษฐ์ดวงตาเทียม
ที่มีต้นทุนเพียง 3 เหรียญเมื่อเทียบกับ
ดวงตาเทียมที่นำเข้า 150 เหรียญสหรัฐ
ระบบดังกล่าวนี้เป็นที่ประทับใจผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก
Dr. David F. Chang อดีตประธานของ
American Society of Cataract and Refractive Surgery
http://ascrs.org/
ได้อธิบายว่า Dr.Sanduk Ruit คือ
“ หนึ่งในจักษุแพทย์ที่สำคัญที่สุดในโลก ”
Dr. Sanduk Ruit วัย 61 ปี
เติบโตในหมู่บ้านที่ทุรกันดาร
ในภาคอีสานของเนปาล
และเรียนการแพทย์ที่อินเดีย
ในตอนนี้กำลังมีการใช้วิธีการแบบนี้
ในประเทศที่มีรายได้ต่ำหลายประเทศ
“ ถ้าเราสามารถทำได้ในเนปาล
ก็สามารถทำได้ทุกหนทุกแห่งในโลก ”
Dr. Sanduk Ruit กล่าว
หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่เป็นพันธกิจหลัก
ในการต่อสู้กับโลกมืดของมนุษย์
ที่เป็นสาเหตุของสุขภาพทรุดโทรม
แต่สามารถเอาชนะหรือป้องกันได้โดยง่าย
Vitamin A ที่ราคาเม็ดละ 2 เซ็นต์สหรัฐ
ข้อมูลเพิ่มเติม
http://goo.gl/gfV5Tj
สามารถป้องกันคนไข้ได้ถึง 250,000 รายหรือมากกว่า
สำหรับบรรดาเด็ก ๆ ที่มีอาการพิการทางสายตา
และส่วนมากครึ่งหนึ่งของเด็กเหล่านี้
มักจะเสียชีวิตภายในหนึ่งปีหลังจากพิการทางสายตา
ข้อมูลเพิ่มเติม
http://goo.gl/TN2egl
Blinding trachoma โรคริดสีดวงตา
สามารถป้องกันด้วยสุขอนามัย
และยาปฎิชีวนะที่ได้รับการบริจาค
River Blindness โรคพยาธิตาบอด
http://goo.gl/q2QgmU
ตอนนี้เริ่มลดน้อยลงไปมากแล้ว
เพราะผลงานที่กล้าหาญของ Jimmy Carter
อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ลำดับที่ 39
และการได้รับบริจาคยาจากผู้ผลิตยา Merck
ตอนนี้มาดู Thuli Maya Thing
หนึ่งวันหลังการผ่าตัด เธอกับคนไข้ 101 ราย
กำลังรอการเปิดผ้าพันแผลที่ปิดบนใบหน้าออกมา
Dr.Sanduk Ruit ค่อย ๆ ดึงผ้าพันแผลของ Thuli Maya Thing
เธอกระพริบตาทั้งสองข้างหลายต่อหลายครั้ง
แล้วห้นไปมองรอบ ๆ ตัวเธอเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี
เธอผ่านการตรวจวัดสภาพการมองเห็นที่ 20/20
“ ฉันเคยไปรอบ ๆ บ้านด้วยการคลาน
แต่ตอนนี้ฉันสามารถยืนขึ้นและเดินไปมาได้ ”
Thuli Maya Thing กล่าวพร้อมกับรอยยิ้ม
" ผู้คนโดยทั่วไปมักจะบอกกับผมว่า
พวกเขาสงสัยเกี่ยวกับการช่วยเหลือทางมนุษยธรรม
แต่เรื่องจริงก็คือ การช่วยเหลือผู้คน
ดูเหมือนว่ายากกว่าที่ควรจะเป็น
แต่บางเรื่องดูเหมือนว่ามหัศจรรย์อย่างมากที่สุดเลย
ด้วยค่าผ่าตัดเพียง 25 เหรียญสหรัฐต่อดวงตาหนึ่งข้าง
หรือ 50 เหรียญสหรัฐต่อดวงตาสองข้าง
ในการทำให้ผู้คนได้มองเห็นอีกครั้ง
เรื่องนี้สร้างผลลัพธ์ที่สูงส่ง ด้วยเงินจำนวนน้อยนิด “
Dr. Sanduk Ruit กล่าวขณะที่มองคนไข้ของท่าน
ที่พยายามเริ่มต้นการมองเห็นได้อีกครั้ง
ขณะที่ตอนนี้ Thuli Maya Thing กำลังร่ายรำ
Thuli Maya Thing กับชาวบ้าน Nepal
หลังจากผ้าพันแผลถูกเปิดออกแล้ว
Credit Nicholas Kristof/The New York Times
เรียบเรียง/ที่มา
http://goo.gl/XVW6PI
หมอที่ผ่าตัดต้อกระจกมากที่สุดในโลก
Dr. Ruit - Eye doctor in Nepal
นายแพทย์ชาวเนปาล Dr. Sanduk Ruit
ได้ผ่าตัดใส่เลนส์แก้วตาแก้ไขต้อกระจก
ให้กับชาวบ้านมากกว่า 100,000 ราย
บางทีอาจจะมากที่สุดในโลกมากกว่า
นายแพทย์รายอื่น ๆ ในประวัติศาสตร์
และในตอนนี้ยังมีคนไข้มาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง
คนไข้ต่างเดินข้ามเทือกเขามาตามหุบเขา
จากหมู่บ้านที่กันดารและห่างไกล
ด้วยความหวังว่าการได้รับการผ่าตัดต้อกระจก
จะทำให้ได้เห็นใบหน้าคนที่รักอีกครั้ง
หนึ่งวันหลังการผ่าตัดต้อกระจก
หลังจากท่านดึงผ้าพันแผลออก
ต้องขอบคุณท่านเป็นอย่างมาก
พวกเขาสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน
ด้วยความปิติยินดีอย่างยิ่ง
ในตอนแรกต่างจ้องมองด้วยความฉงน
แล้วด้วยความสุขที่เอ่อล้นขึ้นมาในใจ
พวกเขาต่างเดินทางกลับบ้านอย่างมีความสุข
ที่มา http://goo.gl/62YShP
ในการทำสงครามกับโลกมืดของมนุษย์
มีประชากรโลกราว 39 ล้านคนที่พิการทางสายตา
จำนวนนี้ครึ่งหนึ่งสาเหตุมาจากต้อกระจก
ส่วนอีก 246 ล้านคน มีอาการบกพร่องทางสายตา
ข้อมูลประมาณการจาก World Health Organization
http://goo.gl/DzbnMQ
ถ้าคุณเป็นคนพิการทางสายตาในประเทศที่ยากจน
ตามประเพณีท้องถิ่นแล้วไม่มีความหวังอย่างใดแล้ว
แต่ Dr. Sanduk Ruit ได้พัฒนาเครื่องมือผ่าตัดต้อกระจกขนาดย่อม
ที่มีต้นทุนค่าใช้จ่ายเพียง 25 เหรียญสหรัฐต่อดวงตาคนไข้แต่ละข้าง
และประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
เป็นวิธีการแบบเนปาล Nepal method
ที่ตอนนี้มีการเรียนการสอนใน
โรงเรียนแพทย์หลายแห่งในสหรัฐอเมริกา
Thuli Maya Thing มีดวงตามืดบอดจากต้อกระจก
ในตอนที่ Dr. Sanduk Ruit ได้ตรวจเบื้องต้น
หลังการผ่าตัดเธอมีความสามารถในการมองเห็นระดับ 20/20
Credit Nicholas Kristof/The New York Times
" ผมถือว่าผมมีชัยชนะอย่างหนึ่งกับการเดินทางประจำปี
และผมได้พานักศึกษาคนหนึ่งร่วมเดินทางมายังประเทศด้อยพัฒนา
เพื่อเปิดเผยประเด็นข่าวที่ยังไม่มีรายงานในสื่อมวลชน
ผมได้เดินทางไปยัง Hetauda ทางตอนใต้ของเนปาล
เพื่อดู Dr. Sanduk Ruit ทำเรื่องราวมหัศจรรย์
ให้กับคนไข้ชายหญิงจำนวน 102 ราย "
Austin Meyer นักศึกษา Stanford University
Nicholas Kristof กับ Austin Meyer ในหมู่บ้านทุรกันดาร ใกล้เมือง Lucknow ในอินเดีย
ที่มา http://goo.gl/auDGRU
Thuli Maya Thing คนไข้หญิงวัย 50 ปี
เล่าว่าเธอต้องต่อสู้กับตนเองเป็นอย่างมาก
ในการดูแลบรรดาลูก ๆ หลังจากที่
สูญเสียการมองเห็นเมื่อหลายปีก่อน
เพราะความพิการทางสายตาและไม่สามารถทำงานได้
คือสาเหตุที่ทำให้ครอบครัวของเธอต่างไม่พอใจ
และโกรธเธอเป็นอย่างมาก
“ ฉันไม่สามารถตักน้ำหรือหาฟืนได้
ฉันไม่สามารถหุงหาอาหาร
ฉันหกล้มหลายครั้ง
และฉันถูกไฟลวกหลายครั้งด้วยเช่นกัน
ฉันคงจะเห็นบรรดาลูก ๆ และสามี
ของฉันได้อีกครั้ง นั่นคือเรื่องสำคัญมากที่สุด "
Thuli Maya Thing กล่าวขณะกำลังรอเข้ารับการรักษา
อย่างกระวนกระวายใจ แต่เต็มเปี่ยมด้วยความหวัง
จากสถานพยาบาลชั่วคราวของ Dr.Sanduk Ruit
ที่ Hetauda Community Eye Hospital
Purni Maya คนไข้อีกราย นั่งรอที่ Hetauda Community Eye Hospital
รอการผ่าตัดต้อกระจก Credit Austin Meyer ที่มา http://goo.gl/auDGRU
" เธอถูกนำขึ้นบนเตียงผ่าตัดในห้องผ่าตัดชั่วคราว
และรอบดวงตาของเธอถูกใช้ยาชา
หลังจากถ่างเปลือกตาข้างซ้าย
ให้เบิ่งกว้างด้วยเครื่องมือแพทย์
Dr. Sanduk Ruit ได้ลงมือผ่าตัดต้อกระจก
ผ่านทางกล้องจุลทรรศน์ขนาดเล็ก
ด้วยการผ่าตัดแผลขนาดเล็กในดวงตา
พร้อมกับดึงต้อกระจกออกมาวางในมือของผม
มันค่อนข้างหนาและมีสีเหลืองขุ่นมัว
บางทีมีขนาดความยาวราวหนึ่งในสามนิ้ว
แผ่นกลมขนาดเล็กที่ทำลายชีวิตของ Thuli Maya Thing
Dr.Sanduk Ruit ได้ใส่เลนส์แก้วตาขนาดเล็กเข้าไปในดวงตา
ด้วยกระบวนการผ่าตัดที่กินเวลาเพียง 5 นาที
แล้วเริ่มลงมือทำอีกครั้งกับดวงตาข้างขวาของ Thuli Maya Thing
ด้วยความมั่นใจว่าเธอจะสามารถมองเห็นได้อีกครั้ง "
Austin Meyer บอกเล่าเรื่องราวทั้งหมด
“ แน่นอน เธอจะกลับมามองเห็นอีกครั้ง
ถ้าไม่มีโรคแทรกซ้อนหลังการผ่าตัด ”
Dr.Sanduk Ruit กล่าวหลังจาก
ปิดผ้าพันแผลบนดวงตาของเธอ
ในสหรัฐอเมริกา การผ่าตัดต้อกระจก
มีเครื่องมือที่ค่อนข้างสลับซับซ้อนมาก
และเป็นไปไม่ได้เลยที่จะนำไปใช้
ในประเทศด้อยพัฒนาที่ยากจน
ดังนั้น Dr.Sanduk Ruit จึงสร้างเครื่องมือขึ้นมา
โดยร่วมมือกับ Aravind Eye Care System ในอินเดีย
http://goo.gl/lI8T0b
สถาบันชั้นนำที่บุกเบิกการผ่าตัดต้อกระจก
กับคนไข้ถึง 280,000 รายเมื่อปีก่อน
ด้วยการใช้เครื่องมือผ่าตัดขนาดเล็ก
โดยไม่ต้องเย็บแผลคนไข้หลังผ่าตัดต้อกระจก
ในตอนแรกมีผู้คนสงสัย
และล้อเลียนนวัตกรรมของ Dr. Sanduk Ruit
แต่เมื่อ American Journal of Ophthalmology
http://goo.gl/pzBChO
ได้ตีพิมพ์เผยแพร่ผลการศึกษาจากการสุ่มสำรวจ
พบว่าเทคนิคการผ่าตัดของ Dr. Sanduk Ruit
หลังจากติดตามผล 6 เดือนให้หลัง
มีผลสำเร็จในการผ่าตัดถึงร้อยละ 98
พอ ๆ กับเครื่องมือผ่าตัดของทางตะวันตก
แต่สิ่งเดียวที่แตกต่างกันอย่างมากคือ
วิธีการของ Dr.Sanduk Ruit รวดเร็วและถูกกว่ามาก
“ ผลลัพธ์ช่างมหัศจรรย์อย่างมาก
สำหรับเขตทุรกันดารในเนปาล
การใช้เทคนิคผ่าตัดแบบนี้ดีพอ ๆ กับ
การผ่าตัดต้อกระจกคนไข้ใน Salt Lake City
ที่ต้องดูแลรักษาแบบคนไข้พิเศษ
ต้องใช้จ่ายร่วม 1 ล้านเหรียญสหรัฐ
กับอุปกรณ์และเครื่องมือที่ทันสมัยสุด ”
Dr. Geoffrey Tabin ผู้เชี่ยวชาญด้านสายตา
จาก University of Utah’s Moran Eye Center
http://goo.gl/7GQeaj
Dr. Geoffrey Tabin ได้เรียนรู้เทคนิค
การผ่าตัดจาก Dr.Sanduk Ruit
ขณะที่ตั้งศูนย์ผ่าตัดชั่วคราวที่ Hetauda
และร่วมลงมือผ่าตัดเคียงข้างกับ Dr.Sanduk Ruit
Dr. Geoffrey Tabin ยังกล่าวว่าเครื่องมือผ่าตัดแบบนี้
ไม่สามารถใช้ผ่าตัดต้อกระจกในสหรัฐอเมริกาได้
เช่น ถ้ามีขนาดต้อกระจกที่ใหญ่เกินไป
ตามมาตรฐานและคู่มือการผ่าตัดของอเมริกา
ยังเป็นรองจากวิธีการผ่าตัดของ Dr.Sanduk Ruit
Dr. Sanduk Ruit กับหนังสือที่มีประวัติของท่าน ที่มา http://goo.gl/62YShP
Dr.Geoffrey Tabin คือ ผู้ชื่นชอบในการปีนเขาในเนปาล
โดยเฉพาะอย่างยิ่งประกายที่งดงามของเทือกเขา Everest
ได้นำพาท่านมาร่วมงาน Himalayan Cataract Project
http://cureblindness.org/
โดรงการบริจาคของ United States charity
ทีสนับสนุนผลงานของ Dr. Sanduk Ruit
และเผยแพร่เทคนิคดังกล่าวไปยังประเทศอื่น ๆ
เช่น Ethiopia และ Ghana
การทำสงครามกับโลกมืดในตอนนี้
คือการร่วมมือกับโครงการ Ruit/Tabin project
และการมองโลกในแง่ดีด้วยการตั้งชือว่า http://cureblindness.org.
“Dr.Sanduk Ruit คือ หมอคนแรกที่ใส่เลนส์แก้วตาให้กับคนไข้ที่ยากจน
ในประเทศกำลังพัฒนา ยังไม่มีใครทำได้ขนาดนี้กับคนไข้จำนวนมาก "
Dr. Geoffrey Tabin
จากการประมาณการของ Dr. Sanduk Ruit
และพบว่ามีความน่าเชื่อถือเป็นอย่างมาก
ท่านได้ผ่าตัดต้อกระจกคนไข้ถึง 120,000 ราย
ส่วนมากมักจะเป็นคนไข้ที่เป็นต้อกระจกเพียงข้างเดียว
แต่ทั้งนี้ Dr. Sanduk Ruit ไม่ได้เพียงแต่พัฒนาเทคนิคการผ่าตัด
แต่เพียงอย่างเดียว ท่านยังพัฒนาระบบการดูแลสายตาทั้งหมด
ด้วยการก่อตั้ง Tilganga Institute of Ophthalmology
http://www.tilganga.org/
ที่มีทั้งโรงพยาบาล คลีนิคเคลื่อนที่
โครงการฝึกอบรม และคลังดวงตา
ด้วยการเก็บค่ารักษาพยาบาลจากคนไข้ที่มีฐานะดีกว่า
มาสนับสนุนคนไข้ที่ยากไร้ เช่น Thuli Maya Thing
สถาบัน Tilganga ได้ผ่าตัดตาคนไข้ปีละ 30,000 ราย
ครึ่งหนึ่งมีค่าใช้จ่าย แต่อีกครึ่งหนึ่งฟรี
Dr.Geoffrey Tabin กับคนไข้ต้อกระจก
Tilganga ยังผลิตเลนส์แก้วตาขนาดเล็ก 450,000 ชิ้นต่อปี
ที่ใช้ในการผ่าตัดต้อกระจกในราคาเพียง 3 เหรียญสหรัฐ
เมื่อเทียบกับราคา 200 เหรียญสหรัฐของฝั่งตะวันตก
คุณภาพก็ยังดีเยี่ยมและมีการส่งออก
ไปยังกว่า 50 ประเทศรวมทั้งบางประเทศในยุโรป
และสำหรับผู้ที่สูญเสียดวงตาไปแล้ว
Tilganga ยังได้ประดิษฐ์ดวงตาเทียม
ที่มีต้นทุนเพียง 3 เหรียญเมื่อเทียบกับ
ดวงตาเทียมที่นำเข้า 150 เหรียญสหรัฐ
ระบบดังกล่าวนี้เป็นที่ประทับใจผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก
Dr. David F. Chang อดีตประธานของ
American Society of Cataract and Refractive Surgery
http://ascrs.org/
ได้อธิบายว่า Dr.Sanduk Ruit คือ
“ หนึ่งในจักษุแพทย์ที่สำคัญที่สุดในโลก ”
Dr. Sanduk Ruit วัย 61 ปี
เติบโตในหมู่บ้านที่ทุรกันดาร
ในภาคอีสานของเนปาล
และเรียนการแพทย์ที่อินเดีย
ในตอนนี้กำลังมีการใช้วิธีการแบบนี้
ในประเทศที่มีรายได้ต่ำหลายประเทศ
“ ถ้าเราสามารถทำได้ในเนปาล
ก็สามารถทำได้ทุกหนทุกแห่งในโลก ”
Dr. Sanduk Ruit กล่าว
หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่เป็นพันธกิจหลัก
ในการต่อสู้กับโลกมืดของมนุษย์
ที่เป็นสาเหตุของสุขภาพทรุดโทรม
แต่สามารถเอาชนะหรือป้องกันได้โดยง่าย
Vitamin A ที่ราคาเม็ดละ 2 เซ็นต์สหรัฐ
ข้อมูลเพิ่มเติม http://goo.gl/gfV5Tj
สามารถป้องกันคนไข้ได้ถึง 250,000 รายหรือมากกว่า
สำหรับบรรดาเด็ก ๆ ที่มีอาการพิการทางสายตา
และส่วนมากครึ่งหนึ่งของเด็กเหล่านี้
มักจะเสียชีวิตภายในหนึ่งปีหลังจากพิการทางสายตา
ข้อมูลเพิ่มเติม http://goo.gl/TN2egl
Blinding trachoma โรคริดสีดวงตา
สามารถป้องกันด้วยสุขอนามัย
และยาปฎิชีวนะที่ได้รับการบริจาค
River Blindness โรคพยาธิตาบอด
http://goo.gl/q2QgmU
ตอนนี้เริ่มลดน้อยลงไปมากแล้ว
เพราะผลงานที่กล้าหาญของ Jimmy Carter
อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ลำดับที่ 39
และการได้รับบริจาคยาจากผู้ผลิตยา Merck
ตอนนี้มาดู Thuli Maya Thing
หนึ่งวันหลังการผ่าตัด เธอกับคนไข้ 101 ราย
กำลังรอการเปิดผ้าพันแผลที่ปิดบนใบหน้าออกมา
Dr.Sanduk Ruit ค่อย ๆ ดึงผ้าพันแผลของ Thuli Maya Thing
เธอกระพริบตาทั้งสองข้างหลายต่อหลายครั้ง
แล้วห้นไปมองรอบ ๆ ตัวเธอเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี
เธอผ่านการตรวจวัดสภาพการมองเห็นที่ 20/20
“ ฉันเคยไปรอบ ๆ บ้านด้วยการคลาน
แต่ตอนนี้ฉันสามารถยืนขึ้นและเดินไปมาได้ ”
Thuli Maya Thing กล่าวพร้อมกับรอยยิ้ม
" ผู้คนโดยทั่วไปมักจะบอกกับผมว่า
พวกเขาสงสัยเกี่ยวกับการช่วยเหลือทางมนุษยธรรม
แต่เรื่องจริงก็คือ การช่วยเหลือผู้คน
ดูเหมือนว่ายากกว่าที่ควรจะเป็น
แต่บางเรื่องดูเหมือนว่ามหัศจรรย์อย่างมากที่สุดเลย
ด้วยค่าผ่าตัดเพียง 25 เหรียญสหรัฐต่อดวงตาหนึ่งข้าง
หรือ 50 เหรียญสหรัฐต่อดวงตาสองข้าง
ในการทำให้ผู้คนได้มองเห็นอีกครั้ง
เรื่องนี้สร้างผลลัพธ์ที่สูงส่ง ด้วยเงินจำนวนน้อยนิด “
Dr. Sanduk Ruit กล่าวขณะที่มองคนไข้ของท่าน
ที่พยายามเริ่มต้นการมองเห็นได้อีกครั้ง
ขณะที่ตอนนี้ Thuli Maya Thing กำลังร่ายรำ
Thuli Maya Thing กับชาวบ้าน Nepal
หลังจากผ้าพันแผลถูกเปิดออกแล้ว
Credit Nicholas Kristof/The New York Times
เรียบเรียง/ที่มา
http://goo.gl/XVW6PI