สวัสดีวันสบายๆ อากาศหนาวๆ เวลาก่อนเที่ยงวัน วันที่ 9 นะคะ

      เมื่อวานไปขอวีซ่าจีนมา เพื่อนๆ ก็เลยขอให้แบ่งปัน ก็เลยเข้ามาพันทิป หลังจากที่ไม่ได้เข้ามานานมาก
      นานขนาดไหน ก็นานขนาดที่ว่าตั้งแต่มีโลกเฟซบุคนั่นแหล่ะค่ะ
      เพื่อนๆ หลายคนในห้องบลูพลาเน็ตนี่ก็ตามไปเป็นเพื่อนกันที่โน่น ก็เลยไม่ได้เข้ามาอีกเลยค่ะ
      เอ้ามาว่ากัน วีซ่าจีน ขออย่างไร ทำอย่างไร
    
      ป.ล. จีนแผ่นดินใหญ่ไม่ใช่ หม่าเก๊า หรือฮ่องกง เวลาเขาถามว่าเคยเข้าจีนไหม หมายถึงว่าเคยเข้าจีนแผ่นดินใหญ่ไหม
             ไม่เกี่ยวกับ 2 เกาะนั้นค่ะ อาจจะตอบว่า "ไม่เคยเข้าจีนแผ่นดินใหญ่ (China Mainland)" ก็ได้ค่ะ


                                   ¤ ขั้นตอนการขอวีซ่าจีน ¤

ก. ขั้นตอนการเตรียมเอกสาร

ก1. โหลดแบบฟอร์มในอินเตอร์เน็ต ล่าสุดเป็น formV.2013 มีสองภาษาในฟอร์ม จีนกับ อังกฤษ
      กรุณาเขียนด้วยตัวบรรจง เป็น ภาษาอังกฤษ ชนิดตัวพิมพ์ใหญ่

ก2. กรอกทุกข้อ ย้ำเลย! (กรอกง่ายค่ะ)
      ถ้าไม่มีก็ N/A หรือ NONE เช่น ไม่มีเพื่อนร่วมเดินทาง  หรือถ้าไม่เคยติดโรคร้ายก็ NONE

ก3. ข้อโรงแรมที่พัก
      มีช่องทั้งหมด 5 แถว
      แม้ว่าจะแนบเอกสารใบจองโรงแรม Hotel Voucher  พร้อมหน้าสรุปโรงแรมแล้ว ก็ต้องกรอก***
      เขาอยากรู้ว่าเราลงเครื่องแล้ว คืนแรกๆ เราพักที่ไหน เช่น ลงว่า
      วันที่ 9 FEBRUARY 2016 Hotel "Le Beijing Forbidden Palace" เป็นต้น
      กรอกทั้ง 5 แถวยกเว้นจะค้างไม่ถึง 5 คืน ก็กรอกตามที่ไปค้างทั้งหมด
      (ประเทศคอมมิวนิสต์นั้น ชาวต่างชาติไปอยู่ที่ไหนเขาจะต้องสามารถตามร่องรอยได้
       เพราะหากมีชาวต่างชาติไปค้างที่บ้านใคร ตามกฎหมายนั้นผู้ให้พักก็ต้องแจ้งตำรวจท้องที่ก่อนค่ะ)

ก4. รูป 33 x 48 ม.ม. ใช้เพียง 1 รูปเท่านั้น
     ให้ติดหน้าฟอร์มด้วยกาวไป อย่าไปหาเอาดาบหน้า
     ใช้รูปขนาด 33 × 48 มิลลิเมตร (ตามกฎ)  หรือ 35 × 48 ม.ม. มันคือรูป 2 นิ้ว
     ตามกฎคือพื้นสีอ่อน จัดสีขาวไปเลย
     หน้าตรง ชัด ใกล้ๆ หน้าตู้มๆ แบบวีซ่าญี่ปุ่น หรือ อเมริกา เอารูปหน้าคล้ายๆ พาสปอร์ตก็ดี
    
     ตอนที่ยื่นเอกสาร เขาเทียบ 2 รูป คือ รูปพาสปอร์ต รูปที่ติดฟอร์ม กับหน้าเรา เค้าบอกโอเคเหมือน
     ติดไป 1 รูป ใช้แค่รูปที่ติดฟอร์ม 1 รูปเท่านั้น ไม่ต้องพกไปเผื่อ

ก5. *เอกสาร*
     ในเว็บข้อมูลเวิ่นเว้อมาก ความจริงใช้แค่นี้เท่านั้น อย่าไปเสียเวลาเตรียมให้เหนื่อยยาก ไม่ต้องฟังใคร
     จะมีคนบางกลุ่ม ชอบมาเถียงในพันทิป ก็ไม่เป็นไร ไม่ต้องเตรียมไป เพราะความจริงนั้นไม่ได้ใช้
     ไม่ต้องเผื่อ ใช้แค่นี้จริงๆ ไม่ต้องเหนื่อยยาก

ก5.1 ฟอร์มที่กรอกแล้ว พร้อมติดรูป และลงลายมือชื่อตามที่ลงนามไว้ในพาสปอร์ต
     ทุกครั้งที่เดินทาง ควรเซ็นต์ให้เหมือนที่หน้าพาสปอร์ต เพราะตอนต่ออายุพาสปอร์ต เราเซ็นไป 10+ ครั้ง
     กว่าจะเหมือนกับเล่มเก่าๆ เลยรู้ว่าสำคัญ เจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศ เขาบอกว่าต้องเหมือนเดิม

ก5.2 พาสปอร์ตตัวจริง เล่มปัจจุบัน เล่มเดียว พร้อมสำเนา 1 แผ่น **** ห้ามลืม
      เล่มเก่าไม่ต้องขนไป เขาจะคืนตอนตรวจเอกสารรับคิว
      ดังนั้น ไม่ต้องขนไป เดี๋ยวน้องเขาจะเหนื่อยคัดออก
      เหมือนว่าทุกครั้งที่จะเดินทางควรมีหน้าว่างเหลืออย่างน้อย 2 หน้านะจ๊ะ ไม่งั้นเขาไม่มีพื้นที่ว่างให้ใช้งานนะคะ
      แล้วก็พาสปอร์ตต้อง ต้องเหลืออายุมากกว่า 6 เดือนนะคะ
      (เพราะว่าเดี๋ยวไปมีปัญหาที่โน่น ไปต่อพาสปอร์ตที่สถานฑูตไทยที่โน่นไม่สนุกหรอกค่ะขอบอก)

ก5.3 ตั๋วเดินทาง หรือใบจองตั๋วเดินทาง Traveling initiary หรือ ตั๋วเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ ที่มีข้อมูลครบถ้วนทุกอย่าง
     ถ้าเป็นตั๋วอิเล็กทรอนิกส์การบินไทย เขาจะส่ง emailมาให้เรา 2 แบบ
     คือยืนยันการจอง กับตั๋วเดินทางอิเล็กทรอนิกส์
     ใช้อันหลัง ก็อปปี้มาลง ms word แล้วพิมพ์ อันที่พิมพ์จากเว็บ ตัวมันเล็กไป เขาไม่เอา
     (หน้าหลังๆที่เป็นกฏของสายการบินตัวเล็กๆ ยาวๆ หลายหน้า ไม่ต้องพิมพ์ไปก็ได้
      เพราะน้องที่ตรวจเอกสาร เขาจะดึงทิ้งอยู่ดี เขาเอาหน้าที่สำคัญเกี่ยวกับเราเท่านั้น)

ก5.4 ใบจองโรงแรม Hotel Voucher
     ได้ข่าวว่าจอง 3-4 คืนแรกพอ
     แต่ของเราเอาไป 27 คืนเลย เพราะไปนาน
     อันนี้ตอนยี่นเอกสารวีซ่า เขาถามว่า นี่โรงแรมที่พักจริงหรือไม่ เราตอบว่าพักจริงทั้งหมดทุกโรงแรมค่ะ

                                               ***หมดแล้วมีแค่นี้ ที่เหลือไม่ต้องขนไป***

ก6. ♧สิ่งที่ ไม่ต้อง ขนไป♧

1. บัตรประชาชน และสำเนาบัตรประชาชน ทะเบียนบ้านพร้อมสำเนา *ก็ไม่ต้องใช้*

2. สมุดบัญชีธนาคารที่มีเงิน > 50,000 บาท
    อันนี้เขาไม่ได้สั่ง ไม่ต้องเอาสำเนาและตัวจริงไป สถานฑูตจีน ไม่ใช่สถานฑูตอเมริกา ไม่ต้องใช้จ้าาาาาาาาาาาาาาา
    (อย่ามาเถียงไปขอเมื่อวาน อย่าเสียเวลาไปธนาคารผิวไหม้ แดดร้อน)

3. ใบเปลี่ยนชื่อ ใบทะเบียนสมรส ใบหย่า พร้อมสำเนาของมัน ....  *ไม่ต้องเอาไป*
    เขามีแล้วในระบบ e-passport มีทุกอย่าง เหมือนกับประวัติการเดินทาง ไม่ต้องเอาไป

4. แผนการเดินทาง ไม่ต้องเอาไป
    เขาเอาใบจองโรงแรมอย่างเดียว

***น้องแคน สามารถ แจ้งวิทยา เคยบอกว่า ผ่านทุกคน ไม่ต้องกังวลไม่ต้องตื่นเต้น***
     ที่บอกเพราะตอนขอหลายคนตื่นเต้น เราก็ด้วย เครียดเล็กน้อย การได้ฟังคำพูดนี้มันช่วยได้ เลยปลอบใจเอาไว้ล่วงหน้า
     (กรณีที่ไม่แจ้งข้อความอันเป็นเท็จ ไม่มีคดี ไม่หนีคดี ฯลฯ นะคะ)



ข. ขั้นตอนการยื่นวีซ่า

ข1. ไปที่อาคารธนภูมิชั้น 5 ถนนเพชรบุรี วิธีการไปคือ
      เดินทางด้วยรถไฟใต้ดิน MRT
      ขึ้นที่สถานีเพชรบุรี ออกทางออกเบอร์ 2 มีวินมอไซค์ ที่มุมถนน
      บอกไปอาคารธนภูมิที่ขอวีซ่าจีน ลงรถแล้วจ่ายน้องเขาไป 20 บ.

      ขับรถไปทำอย่างไร ก็จอดรถแล้วขึ้นรถไฟฟ้าไปค่ะ รถติดเดี๋ยวจะไปไม่ทัน

ข2. ตรวจเอกสาร
     ออกจากลิฟต์ จะเห็นเลยไฟสว่างๆ เขาเปิดรับคิว 9.00 - 11.30 น. ควรไปก่อนเวลา 11.00 น.

ข3. จะมีน้องสวยๆ ยืนหน้าเคาน์เตอร์ราว 5 คน
      น้องๆ จะคอยตรวจเอกสาร และเขียนคิวให้
      เอาเอกสารที่เตรียมเอาไว้ ชักออกมารอเลย น้องจะตรวจด้วยดินสออย่างรวดเร็วปานกามนิตหนุ่ม
      จะถามย้ำด้วยว่าขอธรรมดานะคะ ไม่ได้ขอแบบเร่งด่วน
      (ตอนยื่นก็คนรับก็จะถามอีกที กันไม่ให้ทำเรื่องผิด ผู้ขอจะเสียผลประโยชน์ได้)
      เตรียมปากกา กับลิควิดเปเปอร์ไว้เลย แก้หรือ เพิ่มเติมตรงนั้นเลย
      ไม่ต้องเอามาแก้แล้วยื่นใหม่ ถ้าผิดก็แก้เลย
      ยกเว้นผิดมากๆ หรือไม่กรอกเยอะๆ เละๆ ถึงจะสมควรออกไปแก้ข้างนอก

ข4. จะมี รปภ. คอยบริการ รับถ่ายเอกสาร แต่คิวยาว เสียเวลา

ข5. น้องเขาจะเขียนคิวให้
     ต้องฟังดีๆ มี 3 โซน ซ้าย กลาง ขวา.......ฟัง/ถามน้องดีๆ โซนไหน
     เพราะเขาจะเรียกปากเปล่าไม่ใช้ไมโครโฟน ถ้าอยู่คนละโซนจะไม่ได้ยิน
     ไปนั่งหน้าคนรับยื่นเอกสารเลย อาจมีคิวหรือไม่มีคิวข้างหน้าก็ได้
     ตอนเราไปถึงคนก่อนหน้าเสร็จพอดี เลยเข้าไปยื่นได้ทันทีเลย
     เอกสารน้อยตรวจแป๊บเดียวก็เสร็จ

ข6. เขาดูอะไร (ประสบการณ์ส่วนตัว ไม่รู้ว่าคนอื่นจะเป็นแบบนี้ไหม)
     ดูหน้าว่าใช่คนขอมาเองใหม่ ถามนิดหน่อย
     โรงแรมนี่พักจริงไหม ถามง่ายๆ
     เข้าใจว่าเจ้าหน้าที่ทั้งหมดนี้ เป็นบริษัทเอกชน ที่สถานฑูตจ้างมา ไม่ใช่คนสถานฑูต

ข7. นับแต่ออกจากลิฟต์ ถ้าเอกสารถูกต้อง
      ไม่มีคิว ก็เร็วมาก ตรวจเอกสารไม่ถึง 1 นาที
      คนรับยื่นเอกสารก็ไม่ถึง 1 นาที
      รอเจ้าหน้าที่ที่รับยื่นเอกสาร กรอกแบบฟอร์มนัดรับ (4 วันทำการ) ใบเล็กๆ สีชมพูก็ไม่ถึง 1 นาที
      รวมเดินสั้นๆ แล้ว นับตั้งแต่ออกจากลิฟต์
      รวมไม่เกิน 5 นาที
    

               ออกมายืนรอลิฟต์ไป งงไป อ้าวนี่เสร็จแล้วเหรอ งงจัง เร็วมาก กรอกแบบฟอร์มยังนานกว่านี้เลย

ข้อมูลเพิ่มเติม ของสถานฑูตตามลิงค์ข้างล่าง
http://www.chinaembassy.or.th/th/lsfw/qzxk/t1043517.htm

ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับการเที่ยวประเทศจีนได้ที่ เพจชื่อว่า Chinese Study
ตามนี้เลยค่ะ
https://www.facebook.com/Introduce.Study.China/

ไปแล้วนะคะ สวัสดีปีใหม่ชาวบลูพลาเน็ตล่วงหน้าค่ะ ขอให้เที่ยววันหยุดยาวให้สนุกนะคะ ที่ไปขอวีซ่าก็ขอให้เรียบร้อยสมดั่งใจค่ะ สาธุ