เราบ้าไหม ที่ลาออกจากงาน โดยที่ยังไม่ได้งานใหม่

และเราก็คงบ้าที่มาตั้งกระทู้นี้ ทำอย่างกับว่าตัวเองไม่เคยลาออกโดยที่ไม่มีงานใหม่รองรับยังงั้นแหละ (จริงๆ เคยลาออกมา 3 ที่แล้ว โดยที่ยังไม่มีงานใหม่รองรับ คือออกก่อน แล้วค่อยหาใหม่ มันก็มีข้อเสียตรงที่เราจะไม่มีอำนาจต่อรองเงินเดือนกับที่ใหม่) แต่ตอนนี้เราอายุมากขึ้น เราก็เริ่มมีความกังวลมากขึ้น

เราตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะลาออกจากงานปัจจุบัน หลังจากที่ทำมาได้ 2 เดือน เพราะไม่ไหวจริงๆ(สภาพจิตใจ) งานไม่เหมาะกับนิสัยเรา เข้ากับเจ้านายไม่ได้ โดนบ่นโดนจู้จี้บ่อยๆ ทำอะไรก็ไม่ถูกใจเจ้านาย เพื่อนร่วมงานทุกคนก็อายุมากกว่าเราเยอะ เราปรับตัวไม่ค่อยได้ และกลัวว่าตัวเองจะไม่ผ่านโปรด้วย ฉะนั้นจึงตัดสินใจออกซะเลย พอทุกคนรู้ว่าเราจะลาออกเท่านั้นแหละ ก็พูดดีกับเรามากขึ้น จู้จี้กับเราน้อยลง แล้วก็แอบมาถามว่าเรามีปัญหาอะไรหรือเปล่า(แต่เราไม่ตอบ ขอจากกันด้วยดีเถอะ) เราชอบแบบนี้ ก็คิดในใจว่า ถ้าพวกเขาเป็นแบบนี้ซะตั้งแต่แรก เราอาจจะยังไม่ลาออกก็ได้

งานที่นี่เงินเดือนไม่เยอะนัก แต่ก็เยอะที่สุดตั้งแต่เราได้ในชีวิตการทำงาน(หมื่นต้นๆ) ค่าใช้จ่ายและภาระของเราก็ไม่ค่อยมี มีเงินเหลือเก็บและส่งให้พ่อแม่ได้ แต่การที่เราจะได้เงินเดือนขนาดนี้ ก็ต้องแลกกับการไปทำงานไกลบ้าน(ต่างจังหวัด) อยู่ไกลจากครอบครัวด้วย เพราะงานแถวบ้านเราเขาจ่ายค่าแรงถูกๆ (งานแถวบ้านเรา แม้วุฒิ ป.ตรี ก็ได้เงินเดือนไม่ถึงหมื่น)

ตอนนี้ยังไม่ได้งานใหม่ และเราก็ไม่ค่อยกระตือรือร้นจะหางานใหม่ด้วย เพราะเราคิดว่าพอลาออกแล้ว เราจะหยุดพักเพื่ออ่านหนังสือเตรียมสอบ ป.โท อย่างเต็มที่ จะไปสอบงานราชการ จะไปเรียนภาษาเพิ่ม จะไปลงคอร์สเรียนเพิ่มทักษะต่างๆ เพื่อพัฒนาตัวเอง จะขายของออนไลน์ไปพลางๆ (ขายไม่ค่อยได้หรอก) เพราะเราไม่สามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้หากเรายังทำงานประจำอยู่ (คนอื่นอาจทำได้ แต่เราทำไม่ได้) หลังจากนั้นค่อยหางานใหม่

แต่ถึงกระนั้น เราก็ยังทำตามค่านิยมของคนอื่นอยู่บ้าง คือลองหางานใหม่ตามเว็บไซต์ บางที่เราก็สมัครไปแบบไม่ทันคิด พอสมัครไปแล้วถึงมานึกได้ว่า "อ้าว แล้วบริษัทนี้มันตั้งอยู่ตรงไหนล่ะ", "อ้าว อยู่ไกลจากที่พักมาก ฉันไปไม่ได้นี่หว่า ไม่มีรถ", "บริษัทนี้อยู่ไกล ต้องออกจากบ้านก่อนเวลา 2 ชม. ฉันตื่นเช้าขนาดนั้นไม่ไหวหรอก ตอนทำงานแถวบ้าน ฉันออกจากบ้านก่อนเวลางานแค่ครึ่งชั่วโมง" ฯลฯ แต่ตอนลงประวัติไว้ในเว็บไซต์หางาน เราไม่ได้บอกว่าเราเคยทำงานในบริษัทที่ทำอยู่ปัจจุบัน เพราะเห็นว่ายังไม่ผ่านโปร ถ้าบอกไปคงเป็นผลเสียมากกว่าผลดี ก็คิดซะว่าไม่เคยทำละกัน

พอเราสมัครงานใหม่ตามเว็บไซต์ได้ไม่กี่วัน ก็มีบริษัทหนึ่งโทรมาบอกให้เราไปสัมภาษณ์งาน ในตำแหน่ง "ลูกค้าสัมพันธ์" ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เราไม่ได้สมัคร แต่เขาเห็นว่าเราเรียนจบในสายที่เกี่ยวข้องกับงานนี้ เขาบอกว่างานนี้ทำเกี่ยวกับ สรรหาคน และฝึกอบรมพนักงาน เราก็คิดในใจว่า 'ใช่เหรอ? หน้าที่สรรหาและฝึกอบรม ต้องเป็นของเจ้าหน้าที่ HR สิ จะเป็นหน้าที่ของลูกค้าสัมพันธ์ได้ยังไง' เราเคยทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลมาก่อน แต่เราไม่ได้ชอบสื่อสารกับคนมากๆ เราก็กลัวว่า ถ้าเป็นตำแหน่งลูกค้าสัมพันธ์ คงจะต้องมีหน้าที่คอยรับโทรศัพท์ กระดิกตัวไปไหนไม่ค่อยได้ ประสานงานกับคนในและคนนอก เรื่องโน้นเรื่องนี้ เอกสารเยอะแยะมากมาย เหมือนที่เราทำอยู่ในงานปัจจุบัน(เราเป็นแอดมิน)

เราอยากลองไปสัมภาษณ์ดู ก็ติดตรงที่ว่า เรายังทำงานที่ปัจจุบันอยู่ ถ้าจะไปก็ต้องลางาน แต่เราไม่กล้าลา เพราะอีกไม่กี่วันเราต้องลาไปสอบด้วย(อันนี้ต้องไป เพราะเสียค่าสมัครไปตั้งเยอะ) อีกอย่างเราไม่รู้ว่าบริษัทที่ว่านั้นตั้งอยู่ตรงไหน ไปเองไม่ถูก ไม่เคยไป และถ้าเกิดสมมติว่าเราไปสัมภาษณ์แล้วเกิดได้งานนี้ขึ้นมา เราก็ไม่มั่นใจว่าเราจะไปทำหรือเปล่า เพราะถ้ามันอยู่ไกลจากที่พักเรา จนถึงขนาดต้องเผื่อเวลาเดินทางไว้ล่วงหน้า 2 ชม. เราก็ไม่เอาเหมือนกัน เราตื่นเช้ามากๆ ไม่ไหว เพราะเป็นคนนอนดึก แต่จะห้ามไม่ให้เรานอนดึกก็ไม่ได้เหมือนกัน เราก็เลยคิดว่า สงสัยต้องยอมทิ้งงานนี้แล้วล่ะ อยากสมัครโดยไม่ดูตาม้าตาเรือเอง

สิ่งที่เราทำไปทั้งหมด คิดว่าเราบ้าหรือโง่ไหม

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่