26
ภัยคุกคาม
โดย ฮาร์โมนิก้า
อิสวานนั่งคอยอยู่ในร้านกาแฟเงียบๆ แห่งหนึ่งบนชายหาดที่ค่อนข้างร้างผู้คนทางแถบเลฟเคส
“สวัสดีครับสารวัตร” อิสวานลุกขึ้นยืนยื่นมือมาจับทักทายทันทีที่ดราโก้เดินเข้ามาถึงโต๊ะในมุมเงียบที่เขานั่งอยู่ มุมนั้น
ค่อนข้างลับตาคน ดราโก้ต้องกวาดตามองหาถึงสองครั้งจึงจะเห็นอิสวาน
“สวัดสีครับคุณเมนดรินอส” ดราโก้จับมือทักทาย เขาสั่งกาแฟแก้วหนึ่งก่อนจะหันมาสำรวจชายหนุ่มตรงหน้าผู้อ้างว่า
เป็นวิศวกรประจำบ้านของอนาสเตเซีย
“ผมเข้าใจว่าคุณมีข้อมูลบางอย่างที่อยากบอกให้ผมรู้อย่างนั้นหรือ” สารวัตรลาซารอสเริ่มก่อน
อิสวานพยักหน้ารับ “ผมซ่อมเรืออยู่ที่ท่าเรือด้านล่างในวันที่มาดามวาลลาซถูกยิงตกลงมาจากหน้าผา”
ดราโก้นิ่วหน้า ริ้วรอยจากประสบการณ์และวัยที่ย่างเข้าสี่สิบต้นทำให้ใบหน้าคมสันนั้นดูเฉลียวฉลาด และสุขุมมากทีเดียว
“คุณบอกว่าวันที่มาดามวาลลาซถูกยิงตกหน้าผา ทำไมคุณถึงพูดอย่างนั้นครับ”
“เพราะผมเห็นเธอถูกยิงตกหน้าผาลงมาน่ะสิครับ” อิสวานย้ำ
“คุณเห็นเธอถูกยิงด้วยตาตัวเอง หมายความว่ามองเห็นคนยิงด้วยอย่างนั้นหรือ” สารวัตรย้อนถามอีก
อิสวานนิ่งคิด ก่อนจะส่ายศีรษะ
“ผมเห็นแต่ตอนที่เธอถูกยิงตกลงมาครับ” อิสวานอธิบายซ้ำ ก่อนจะตัดสินใจเริ่มใหม่ “เอาอย่างนี้ครับ! ผมจะเล่าจาก
ตอนแรกเลย สารวัตรจะอัดเทปไหมครับ”
ดราโก้พยักหน้า ก่อนจะล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงหยิบเครื่องอัดเสียงออกมาทำการบันทึกคำสนทนา เขาบอกชื่อ
และตำแหน่งของตัวเอง ก่อนจะขอให้อิสวานบอกชื่อตัวเองลงในเทปด้วย
“วันนั้นผมซ่อมเรือเร็วให้มาดามวาลลาซอยู่ที่ท่าเรือด้านล่าง ทำเสร็จตอนสองทุ่มครึ่งก็เลยเดินขึ้นบันไดริมหน้าผาไปด้านบน
ยังขึ้นไปไม่ถึงผมก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น ผมตกใจยังไม่ทันคิดว่าจะทำอะไรต่อ ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอีกติดกัน…” อิสวานนึก
ก่อนจะพูดต่อ “อีกสองนัดครับ ตอนสิ้นนัดที่สาม ร่างมาดามวาลลาซก็ร่วงลงมาจากหน้าผา ตกลงไปในทะเลข้างล่าง
ผมเงยหน้ามองขึ้นไปข้างบนหน้าผา เห็นคุณวาลลาซเดินมาชะเง้อมอง พูดอะไรบางอย่าง”
อิสวานหยุดเล่าเพียงเท่านั้นพลางมองหน้าดราโก้
“คุณบอกว่าได้ยินเสียงปืนหนึ่งนัด แล้วก็ตามด้วยอีกสองนัดอย่างนั้นหรือครับ” ดราโก้ถามย้ำ
“ใช่ครับ”
“แล้วได้ยินไหมครับว่าคุณวาลลาซพูดว่าอะไร”
“ไม่ได้ยินครับ ผมอยู่ไม่ใกล้พอที่จะได้ยินเสียงพูดที่แข่งกับเสียงลมและทะเลด้านล่างหรอกครับ
“คุณเห็นอะไรอีกนอกเหนือจากที่เล่ามานี่ไหม อะไรที่ผิดปกติ รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่คุณอาจลืมนึกถึง”
อิสวานคิด ก่อนจะส่ายศีรษะ “ไม่มีนี่ครับสารวัตร ผมเล่าเท่าที่จำได้ไปหมดแล้ว”
“แล้วตอนที่คุณเห็นเหตุการณ์เนี่ยค่ำหรือสว่างครับ” สารวัตรลาซารอสพยายามถามต่อ
อิสวานนิ่วหน้าคิดอยู่นานก่อนจะพูดขึ้นอย่างนึกได้
“ใช่ครับสารวัตร ตอนนั้นหัวค่ำแล้ว ท้องฟ้ามืดยังไม่ถึงกับสนิทดี ก่อนผมจะได้ยินเสียงปืนนัดแรก เหมือนผมจะเห็นแสงไฟ
สว่างจ้าราวกับสป็อตไลท์ส่องสว่างอยู่ทางหน้าผาด้านบน ตรงบริเวณสนามหลังบ้านนั่นล่ะครับ แต่พอเสียงปืนเงียบลง
ไฟก็ดับลงตามด้วยครับ”
ดราโก้พยักหน้า คิดอะไรบางอย่างในใจเงียบๆ
“คุณเห็นภาพการยิงกันของสองสามีภรรยาหรือเปล่าครับ หรือได้ยินเพียงเสียงปืน และสรุปจากภาพที่เห็นคุณนายวาลลาซ
ตกหน้าผาลงมา”
อิสวานนิ่งอั้น จริงสิ เขาไม่เห็นฉากการยิง เขาเห็นแต่เพียงเหตุการณ์ต่อจากนั้นทันที ข้อสรุปของเขาเกิดจากการสันนิษฐาน
เอาจากภาพเท่าที่ตัวเองมองเห็นเท่านั้น ชายหนุ่มส่ายศีรษะช้าๆ
“ผมเพียงแต่เห็นแสงไฟ ได้ยินเสียงปืน แล้วก็เห็นมาดามวาลลาซร่วงลงมา และคุณวาลลาซมายืนมองเฉยๆ ไม่พยายามจะ
ลงไปช่วย ก็เท่านั้นเองครับ ผมไม่เห็นฉากการปะทะกันของพวกเขาหรอก”
วิศวกรหนุ่มยอมรับอย่างไม่เต็มใจนัก ก่อนจะเอ่ยปากถามต่อ “ทั้งหมดนี่ใช้ไม่ได้เลยใช่ไหมครับสารวัตร”
ดราโก้ส่ายศีรษะ ปิดเครื่องอัดเสียง ก่อนจะมองดูชายหนุ่มตรงหน้าอย่างหนักใจ
“มันพอใช้ประกอบได้ แต่ไม่อาจใช้ปรักปรำคุณวาลลาซได้โดยไม่มีหลักฐานอื่นสนับสนุน” ดราโก้ถอนใจ “อัยการอาจ
ไม่รับฟ้องหากผมส่งหลักฐานและพยานเพียงเท่านี้ โดยที่หลักฐานอื่นชี้ไปที่อนาสเตเซียไม่ใช่สามีของเธอ”
อิสวานหน้าซีด “สารวัตรหมายความว่าอย่างไรครับ”
ลาซารอสไม่ตอบ เขามองหน้าอิสวานอย่างจริงจัง
“ผมเชื่อว่ามาดามวาลลาซยังอยู่กับคุณ คุณต้องบอกให้ผมรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน ผมจำเป็นต้องคุยกับเธอ หากคุณต้องการ
ให้ผมช่วยเธอล่ะก็ ผมแนะนำให้เธอหาทนายความเก่งๆ มาช่วยเป็นที่ปรึกษาให้กับเธอในคดีนี้ แม้ว่า…”
ดราโก้หยุดเพื่อนึกหาคำพูด เขาสงสัยเหลือเกินว่าอนาสเตเซียจะสู้คดีชนะได้อย่างไรในเมื่อหลักฐานมัดเธอแน่นเสีย
ขนาดนั้น เธอมีทั้งหลักฐาน และเหตุจูงใจที่จะเป็นผู้กระทำผิด อัยการจะยินดีสั่งฟ้องใครระหว่างเธอหรือสามี ซึ่งไม่มี
หลักฐานอะไรชี้มาที่เขาเลย นอกจากคำให้การของเขาเรื่องกระสุนปืนและแสงไฟที่ไม่ตรงกับพยานอีกสองคน แต่
พยานสองคนนั้นก็ไม่ได้เห็นเหตุการณ์โดยตรง น้ำหนักมันไม่มากพอที่จะยื่นฟ้องนิโคลาโยส
“อนาสเตเซียมีโอกาสถูกจับมากแค่ไหนครับ สารวัตร” อิสวานถามน้ำเสียงร้อนรนเห็นชัด
ดราโก้อดสังเกตไม่ได้ว่าชายหนุ่มเรียกนายสาวของเขาอย่างสนิทสนมว่าอนาสเตเซีย หากทั้งคู่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง
เกินนายกับลูกจ้าง คำให้การของอิสวานจะยิ่งไร้น้ำหนักจนถึงขั้นขาดความน่าเชื่อถือในสายตาลูกขุนด้วยซ้ำ
“ยังบอกไม่ได้ครับ นี่นามบัตรผมฝากคุณเอาให้เธอและให้เธอโทรหาผมด่วน ทำได้ไหมครับคุณเมนดรินอส”
อิสวานพยักหน้าอย่างลังเล ขณะที่รับนามบัตรของสารวัตรลาซารอสมาอ่าน ก่อนจะเก็บเข้ากระเป๋าเสื้อ
ด้วยความกลัวว่าจะโดนลาซารอสตาม อิสวานตัดสินใจลงเรือโดยสารขึ้นที่ท่าพิราอุสในเอเธนส์ก่อน ไปเถลไถล
ตามที่ต่างๆ ในเอเธนส์จนแน่ใจว่าไม่มีใครตามแล้วจึงลงเรือโดยสารกลับไปที่มิลอส ซึ่งใช้เวลาทั้งหมดสองวันเต็ม
ปมรัก รอยอดีต Book II ปมรัก บทที่ 26 ภัยคุกคาม
26
ภัยคุกคาม
โดย ฮาร์โมนิก้า
อิสวานนั่งคอยอยู่ในร้านกาแฟเงียบๆ แห่งหนึ่งบนชายหาดที่ค่อนข้างร้างผู้คนทางแถบเลฟเคส
“สวัสดีครับสารวัตร” อิสวานลุกขึ้นยืนยื่นมือมาจับทักทายทันทีที่ดราโก้เดินเข้ามาถึงโต๊ะในมุมเงียบที่เขานั่งอยู่ มุมนั้น
ค่อนข้างลับตาคน ดราโก้ต้องกวาดตามองหาถึงสองครั้งจึงจะเห็นอิสวาน
“สวัดสีครับคุณเมนดรินอส” ดราโก้จับมือทักทาย เขาสั่งกาแฟแก้วหนึ่งก่อนจะหันมาสำรวจชายหนุ่มตรงหน้าผู้อ้างว่า
เป็นวิศวกรประจำบ้านของอนาสเตเซีย
“ผมเข้าใจว่าคุณมีข้อมูลบางอย่างที่อยากบอกให้ผมรู้อย่างนั้นหรือ” สารวัตรลาซารอสเริ่มก่อน
อิสวานพยักหน้ารับ “ผมซ่อมเรืออยู่ที่ท่าเรือด้านล่างในวันที่มาดามวาลลาซถูกยิงตกลงมาจากหน้าผา”
ดราโก้นิ่วหน้า ริ้วรอยจากประสบการณ์และวัยที่ย่างเข้าสี่สิบต้นทำให้ใบหน้าคมสันนั้นดูเฉลียวฉลาด และสุขุมมากทีเดียว
“คุณบอกว่าวันที่มาดามวาลลาซถูกยิงตกหน้าผา ทำไมคุณถึงพูดอย่างนั้นครับ”
“เพราะผมเห็นเธอถูกยิงตกหน้าผาลงมาน่ะสิครับ” อิสวานย้ำ
“คุณเห็นเธอถูกยิงด้วยตาตัวเอง หมายความว่ามองเห็นคนยิงด้วยอย่างนั้นหรือ” สารวัตรย้อนถามอีก
อิสวานนิ่งคิด ก่อนจะส่ายศีรษะ
“ผมเห็นแต่ตอนที่เธอถูกยิงตกลงมาครับ” อิสวานอธิบายซ้ำ ก่อนจะตัดสินใจเริ่มใหม่ “เอาอย่างนี้ครับ! ผมจะเล่าจาก
ตอนแรกเลย สารวัตรจะอัดเทปไหมครับ”
ดราโก้พยักหน้า ก่อนจะล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงหยิบเครื่องอัดเสียงออกมาทำการบันทึกคำสนทนา เขาบอกชื่อ
และตำแหน่งของตัวเอง ก่อนจะขอให้อิสวานบอกชื่อตัวเองลงในเทปด้วย
“วันนั้นผมซ่อมเรือเร็วให้มาดามวาลลาซอยู่ที่ท่าเรือด้านล่าง ทำเสร็จตอนสองทุ่มครึ่งก็เลยเดินขึ้นบันไดริมหน้าผาไปด้านบน
ยังขึ้นไปไม่ถึงผมก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น ผมตกใจยังไม่ทันคิดว่าจะทำอะไรต่อ ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอีกติดกัน…” อิสวานนึก
ก่อนจะพูดต่อ “อีกสองนัดครับ ตอนสิ้นนัดที่สาม ร่างมาดามวาลลาซก็ร่วงลงมาจากหน้าผา ตกลงไปในทะเลข้างล่าง
ผมเงยหน้ามองขึ้นไปข้างบนหน้าผา เห็นคุณวาลลาซเดินมาชะเง้อมอง พูดอะไรบางอย่าง”
อิสวานหยุดเล่าเพียงเท่านั้นพลางมองหน้าดราโก้
“คุณบอกว่าได้ยินเสียงปืนหนึ่งนัด แล้วก็ตามด้วยอีกสองนัดอย่างนั้นหรือครับ” ดราโก้ถามย้ำ
“ใช่ครับ”
“แล้วได้ยินไหมครับว่าคุณวาลลาซพูดว่าอะไร”
“ไม่ได้ยินครับ ผมอยู่ไม่ใกล้พอที่จะได้ยินเสียงพูดที่แข่งกับเสียงลมและทะเลด้านล่างหรอกครับ
“คุณเห็นอะไรอีกนอกเหนือจากที่เล่ามานี่ไหม อะไรที่ผิดปกติ รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่คุณอาจลืมนึกถึง”
อิสวานคิด ก่อนจะส่ายศีรษะ “ไม่มีนี่ครับสารวัตร ผมเล่าเท่าที่จำได้ไปหมดแล้ว”
“แล้วตอนที่คุณเห็นเหตุการณ์เนี่ยค่ำหรือสว่างครับ” สารวัตรลาซารอสพยายามถามต่อ
อิสวานนิ่วหน้าคิดอยู่นานก่อนจะพูดขึ้นอย่างนึกได้
“ใช่ครับสารวัตร ตอนนั้นหัวค่ำแล้ว ท้องฟ้ามืดยังไม่ถึงกับสนิทดี ก่อนผมจะได้ยินเสียงปืนนัดแรก เหมือนผมจะเห็นแสงไฟ
สว่างจ้าราวกับสป็อตไลท์ส่องสว่างอยู่ทางหน้าผาด้านบน ตรงบริเวณสนามหลังบ้านนั่นล่ะครับ แต่พอเสียงปืนเงียบลง
ไฟก็ดับลงตามด้วยครับ”
ดราโก้พยักหน้า คิดอะไรบางอย่างในใจเงียบๆ
“คุณเห็นภาพการยิงกันของสองสามีภรรยาหรือเปล่าครับ หรือได้ยินเพียงเสียงปืน และสรุปจากภาพที่เห็นคุณนายวาลลาซ
ตกหน้าผาลงมา”
อิสวานนิ่งอั้น จริงสิ เขาไม่เห็นฉากการยิง เขาเห็นแต่เพียงเหตุการณ์ต่อจากนั้นทันที ข้อสรุปของเขาเกิดจากการสันนิษฐาน
เอาจากภาพเท่าที่ตัวเองมองเห็นเท่านั้น ชายหนุ่มส่ายศีรษะช้าๆ
“ผมเพียงแต่เห็นแสงไฟ ได้ยินเสียงปืน แล้วก็เห็นมาดามวาลลาซร่วงลงมา และคุณวาลลาซมายืนมองเฉยๆ ไม่พยายามจะ
ลงไปช่วย ก็เท่านั้นเองครับ ผมไม่เห็นฉากการปะทะกันของพวกเขาหรอก”
วิศวกรหนุ่มยอมรับอย่างไม่เต็มใจนัก ก่อนจะเอ่ยปากถามต่อ “ทั้งหมดนี่ใช้ไม่ได้เลยใช่ไหมครับสารวัตร”
ดราโก้ส่ายศีรษะ ปิดเครื่องอัดเสียง ก่อนจะมองดูชายหนุ่มตรงหน้าอย่างหนักใจ
“มันพอใช้ประกอบได้ แต่ไม่อาจใช้ปรักปรำคุณวาลลาซได้โดยไม่มีหลักฐานอื่นสนับสนุน” ดราโก้ถอนใจ “อัยการอาจ
ไม่รับฟ้องหากผมส่งหลักฐานและพยานเพียงเท่านี้ โดยที่หลักฐานอื่นชี้ไปที่อนาสเตเซียไม่ใช่สามีของเธอ”
อิสวานหน้าซีด “สารวัตรหมายความว่าอย่างไรครับ”
ลาซารอสไม่ตอบ เขามองหน้าอิสวานอย่างจริงจัง
“ผมเชื่อว่ามาดามวาลลาซยังอยู่กับคุณ คุณต้องบอกให้ผมรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน ผมจำเป็นต้องคุยกับเธอ หากคุณต้องการ
ให้ผมช่วยเธอล่ะก็ ผมแนะนำให้เธอหาทนายความเก่งๆ มาช่วยเป็นที่ปรึกษาให้กับเธอในคดีนี้ แม้ว่า…”
ดราโก้หยุดเพื่อนึกหาคำพูด เขาสงสัยเหลือเกินว่าอนาสเตเซียจะสู้คดีชนะได้อย่างไรในเมื่อหลักฐานมัดเธอแน่นเสีย
ขนาดนั้น เธอมีทั้งหลักฐาน และเหตุจูงใจที่จะเป็นผู้กระทำผิด อัยการจะยินดีสั่งฟ้องใครระหว่างเธอหรือสามี ซึ่งไม่มี
หลักฐานอะไรชี้มาที่เขาเลย นอกจากคำให้การของเขาเรื่องกระสุนปืนและแสงไฟที่ไม่ตรงกับพยานอีกสองคน แต่
พยานสองคนนั้นก็ไม่ได้เห็นเหตุการณ์โดยตรง น้ำหนักมันไม่มากพอที่จะยื่นฟ้องนิโคลาโยส
“อนาสเตเซียมีโอกาสถูกจับมากแค่ไหนครับ สารวัตร” อิสวานถามน้ำเสียงร้อนรนเห็นชัด
ดราโก้อดสังเกตไม่ได้ว่าชายหนุ่มเรียกนายสาวของเขาอย่างสนิทสนมว่าอนาสเตเซีย หากทั้งคู่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง
เกินนายกับลูกจ้าง คำให้การของอิสวานจะยิ่งไร้น้ำหนักจนถึงขั้นขาดความน่าเชื่อถือในสายตาลูกขุนด้วยซ้ำ
“ยังบอกไม่ได้ครับ นี่นามบัตรผมฝากคุณเอาให้เธอและให้เธอโทรหาผมด่วน ทำได้ไหมครับคุณเมนดรินอส”
อิสวานพยักหน้าอย่างลังเล ขณะที่รับนามบัตรของสารวัตรลาซารอสมาอ่าน ก่อนจะเก็บเข้ากระเป๋าเสื้อ
ด้วยความกลัวว่าจะโดนลาซารอสตาม อิสวานตัดสินใจลงเรือโดยสารขึ้นที่ท่าพิราอุสในเอเธนส์ก่อน ไปเถลไถล
ตามที่ต่างๆ ในเอเธนส์จนแน่ใจว่าไม่มีใครตามแล้วจึงลงเรือโดยสารกลับไปที่มิลอส ซึ่งใช้เวลาทั้งหมดสองวันเต็ม