คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
ควรแบ่งเป็น 3 ส่วนตามคุณเต่าบอกครับ
1.ความเสี่ยงสูง สภาพคล่องต่ำ อยู่นาน ไม่จำเป็นจริงๆไม่เอาออกมาใช้ ลงทุนเพื่อผลตอบแทนระยะยาว
ถ้าคุณไม่สนใจหุ้น ก็กองทุนหุ้น LTF/RMF ก็ได้ครับแต่ไม่ควรลงไปหมดเพราะมันขายก่อนกำหนดจะโดนภาษีย้อนหลัง
ลงพอหักภาษีได้เต็มปีพอครับ ถ้าอยากลงเพิ่มเป็นกองทุนหุ้นธรรมดา ถ้าไม่อยากเลือกกลุ่มไหนเฉพาะก็กอง SET50
ช่วงนี้ให้ลงแบบยังไม่ปันผลก่อนครับ เพราะปันผลมันเสียภาษี
พอใกล้ๆจะเลิกทำงานก็ค่อยๆย้ายไปกองปันผล
2.ความเสี่ยงปานกลาง อยู่ได้เกินปี เก็บไว้เผื่อฉุกเฉิน หรือเก็บไว้จ่ายอะไรที่มีกำหนดแน่นอน เช่น อีก3ปีอยากจะซื้อรถ
ก็เป็นกองทุนตราสารหนี้ระยะยาว
3.ความเสี่ยงต่ำ เงินใช้จ่ายใน 1 ปี หรือเอาไว้เผื่อใช้เฉยๆก็เงินฝาก หรือกองทุนรวมตลาดเงินครับ
ทำงานอีก 18 ปี ผมว่าลงกองทุนหุ้น 50-60% ก็ได้ครับ อีกซัก 10 ปีถ้าไม่อยากเสี่ยงมากค่อยมาลดสัดส่วน
ส่วนประกันก็ทำตามสมควรครับประกันสุขภาพหรืออุบัติเหตุ แต่อย่าไปทำประกันออมทรัพย์ล่ะ เอามาลงกองทุนดีกว่าเยอะ
1.ความเสี่ยงสูง สภาพคล่องต่ำ อยู่นาน ไม่จำเป็นจริงๆไม่เอาออกมาใช้ ลงทุนเพื่อผลตอบแทนระยะยาว
ถ้าคุณไม่สนใจหุ้น ก็กองทุนหุ้น LTF/RMF ก็ได้ครับแต่ไม่ควรลงไปหมดเพราะมันขายก่อนกำหนดจะโดนภาษีย้อนหลัง
ลงพอหักภาษีได้เต็มปีพอครับ ถ้าอยากลงเพิ่มเป็นกองทุนหุ้นธรรมดา ถ้าไม่อยากเลือกกลุ่มไหนเฉพาะก็กอง SET50
ช่วงนี้ให้ลงแบบยังไม่ปันผลก่อนครับ เพราะปันผลมันเสียภาษี
พอใกล้ๆจะเลิกทำงานก็ค่อยๆย้ายไปกองปันผล
2.ความเสี่ยงปานกลาง อยู่ได้เกินปี เก็บไว้เผื่อฉุกเฉิน หรือเก็บไว้จ่ายอะไรที่มีกำหนดแน่นอน เช่น อีก3ปีอยากจะซื้อรถ
ก็เป็นกองทุนตราสารหนี้ระยะยาว
3.ความเสี่ยงต่ำ เงินใช้จ่ายใน 1 ปี หรือเอาไว้เผื่อใช้เฉยๆก็เงินฝาก หรือกองทุนรวมตลาดเงินครับ
ทำงานอีก 18 ปี ผมว่าลงกองทุนหุ้น 50-60% ก็ได้ครับ อีกซัก 10 ปีถ้าไม่อยากเสี่ยงมากค่อยมาลดสัดส่วน
ส่วนประกันก็ทำตามสมควรครับประกันสุขภาพหรืออุบัติเหตุ แต่อย่าไปทำประกันออมทรัพย์ล่ะ เอามาลงกองทุนดีกว่าเยอะ
แสดงความคิดเห็น
บันไดขั้นต่อไปควรเป็นการลงทุนในอะไรครับ